ความคิดเห็นที่ 1 เป็นไปไม่ได้ครับ พระสุริโยไทสิ้นพระชนม์ตั้งแต่ศึกครั้งพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ครับ ครั้งนั้น พระมหาธรรมราชาก็ยกทัพจากพิษณุโลกลงมาช่วย จากคุณ : GamayTP เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 01:35:33

ความคิดเห็นที่ 2 เอาไปเทียบตรรกะเดียวกับท้าวศรีสุดาจันทร์หรือปล่าวครับ? จากคุณ : เพชรน้อย เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 09:33:25

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องนี้น่าจะอ้างมาจาก พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับวันวลิต .. ซึ่งวันวลิตเขียนขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง หลังสมัยพระศรีสุริโยทัยราว ๆ  70-80 ปี . . ความเชื่อนี้มาจากพื้นฐานที่ว่า พระศรีสุริโยทัยไม่ได้ตายในสนามรบ ... และบันทึกของวันวลิตมีดังนี้ (วันวลิต เรียกพระศรีสุริโยทัยว่า พระสุวัฒน์) "....การต่อต้านนี้ทำให้กองทัพพะโคต้องหยุดชะงักการบุกหลายครั้งหลายคราว ออกญาพิษณุโลกเป็นตัวตั้งตัวตีในสงครามครั้งนี้ ก็ไม่เป็นที่สบพระทัยของพระเจ้าแผ่นดินพะโค (บุเรงนอง) และไม่เป็นที่พอใจของทหารซึ่งอาจจะได้รับโทษถึงชีวิต ดังนัน้จึงหนีทัพไปซ่อนที่เพนียด จนกระทั่งพบคนสยามจึงฝากหนังสือไปถึง  "แม่ยายชื่อว่าพระสุวัฒน์ (Prae Souwat)"  ซึ่งยังอาศัยอยู่ในราชสำนัก . . . พระเจ้าแผ่นดินแห่งพะโค (ซึ่งขาดยุทธสัมภาระโดยเฉพาะดินปืนเนื่องจากการทำรบประปรายกับกองทัพสยามหลายครั้งหลายคราว) ก็ตัดสินใจที่จะเลิกทัพจากกรุงศรีอยุธยา . . . พระสุวัฒน์ ทราบความประสงค์ของพระเจ้าแผ่นดินพะโคและความคับแค้นของกองทัพจากหนังสือของออกญาพิษณุโลก จึงส่งหีบบรรจุ ดินปืน (ปลอมแปลงว่าเป็นหีบศพ) ไปยังกองทัพพะโคพร้อมทั้งมีหนังสือทูลพระเจ้าแผ่นดินพะโคขออย่าให้หย่าทัพ . . . นางได้สมรู้คบคิดกับออกญาจักรี (Sicrij) และชักจูงมาเป็นพวกเดียวกับนาง ออกญาจักรีกับพรรคพวกเพียงสองสามคนได้ออกตีข้าศึก เพื่อให้แน่ใจว่าพวกตนจะไม่สามารถต้านทางกองทัพพะโคได้" ก็ว่ากันไปครับ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 55 11:00:05 จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 10:28:36

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วพระองค์จะไสช้างเข้าไปขวางทางง้าวแทนพระสวามีทำไมหล่ะครับ จากคุณ : buta_king เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 11:47:11

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะว่าเรื่องที่ทุ่งมะขามหย่องอาจไม่ได้เกิดขึ้นไงครับ จากคุณ : Mr.Feynman เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 12:24:03

ความคิดเห็นที่ 6 คนส่งดินปืนเป็นพระวิสุทธิกษัตริย์หรือเปล่า ช่วยขุนพิเรน จากคุณ : ทาสเทวี เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 13:24:00

ความคิดเห็นที่ 7 หากพระสุริโยทัยไม่ได้สิ้นพระชนม์ในสนามรบ แล้ววัดสวนหลวงสบสวรรค์สร้างเพื่อ ? จากคุณ : Yeonsan เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 17:33:18

ความคิดเห็นที่ 8 Prae Souwat . . . พระสวัสดิราช ?    รึเปล่า แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 55 20:57:05 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 20:56:36

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ พระมหาธรรมราชา ผู้รั้งตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองพิษณุโลก เสกสมรสกับพระสวัสดิราชไม่ใช่หรือ หากเรียกว่าแม่ยาย ก็น่าจะเป็นพระศรีสุริโยทัยมากกว่านะครับ จากคุณ : EspressoFx เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 03:23:41

ความคิดเห็นที่ 10 เยเรเมียส ฟาน ฟลีตหรือวันวลิต เข้ามาเป็นผู้จัดการสถานีค้าขายของบริษัทอินเดียตะวันออก ในช่วงปลายรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม และพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ.2171-2190) เมื่อเทียบกับสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิ(พระเฑียรราชา พ.ศ.2091) ซึ่งเป็นปีที่เหตุการณ์เกิดขึ้น บันทึกที่วันวลิตเขียนไว้นั้น น่าจะเป็นการถามเอามากกว่า และความเข้าใจด้านภาษาไทยน่าจะไม่ถ่องแท้ถึงขนาดเขียนบันทึกได้น่าเชื่อถือมากนัก แต่เป็นประโยชน์ในด้านการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากกว่า และชัดเจนที่สุดในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งเท่าที่อ่านดูมันก็คล้ายๆเรื่องเล่า คือจริงบ้างไม่จริงบ้างนะ  อีกอย่างกว่าบันทึกก็หายไปกว่าสามร้อยปีก่อนที่จะมาหาเจอ และได้มีการาตีพิมพ์ขึ้น จึงทำให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือในสมัยต้นๆนั้นน้อยมาก ส่วนหลักฐานที่น่าจะอธิบายถึงเหตุการณ์เรื่องพระสุริโยทัยได้น่าเชื่อถือได้มากกว่า ผมว่าน่าจะเป็นบันทึกการเดินทางของ เมนเดส ปินโต เพราะนายเมนเดสคนนี้ได้เดินทางเข้ามาสยามในช่วงนี้พอดี ซึ่งตรงนี้ผมขอออกตัวก่อนว่า ไม่เคยได้อ่านหรือได้เห็นบันทึกฉบับนี้ เพียงเคยผ่านตาเรื่องข้อมูลการเดินทางเข้ามาในการอ้างถึงเท่านั้น จากคุณ : ตาแก่หลงกรุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:38:40

ความคิดเห็นที่ 11 #10 สำหรับปินโต นี้ผมเข้าใจว่าเข้ามาอยู่ในพื้นที่แถวนี้ในช่วงพระไชยราชาธิราชเท่านั้น นะครับส่วนเหตุการณ์พระสุริโยทัยนี้ผมไม่แน่ใจว่า ปินโตจะบันทึกไว้หรือเปล่า . . ทั้งหมดที่หลาย ๆ ท่านเสนอก็เป็นเหตุผลค้านในเรื่องพระสุริโยทัยร่วมมือกับพม่า รวมถึงหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือ พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐฯ ระบุว่า "ศักราช 910 วอกศก (พ.ศ. 2091) วันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 เสด็จออกสนามให้ชนช้าง .... พระยาหงสาปังเสวกี ยกพลมายังพระนครศรีอยุธยาในเดือน 4 นั้น เมื่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเจ้า เสด็จออกไปรบศึกหงสานั้นทัพหน้าแตกมารประทัพหลวงเป็นโกลาหลใหญ่ และสมเด็จพระองค์มเหสี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราชบุตรีนั้น ได้รบด้วยข้าเศึกเถิงสิ้นชนม์กับคอช้างนั้น" เรามาดูว่าเหตุผลของกลุ่มกระแสรองเป็นดังนี้ครับ 1. พงศาวดารพม่าไม่ได้พูดถึง เรื่องพระมเหสีของอยุธยาถูกฟันสิ้นพระชนม์ 2. พงศาวดารกรุงศรีอยุธยาใช้คำว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฝ่ายใน" ซึ่งหมายถึงพระมเหสีของกษัตริย์พระเจ้าช้างเผือกในที่นี้ก็คือ พระศรีสุริโยทัยนั่นเอง  ซึ่งเป็นเหตุการณ์แอบส่งหนังสือดังที่ผมได้เขียนไปแล้วใน #3 ดังนี้   "พระมหาธรรมราชาเห็นด้วย ก็แต่งนายก้อนทอง ข้าหลวงเดิมให้ถือหนังสือลอบเข้าไปถึงขุนสนม ข้าหลวงซึ่งสมเด็จพระเจ้า ช้างเผือก ไปเอาลงมาแต่เมืองพิษณุโลกกับด้วยพระวิสุทธิกษัตรีนั้น ขุนสนมก็ส่งหนังสือนั้นเข้าไปถวายแก่ พระเจ้าอยู่หัวฝ่ายใน" 3. วันวลิตไม่รู้จักชื่อ พระศรีสุริโยทัยและก็ไม่ได้บันทึกว่า พระศรีสุริโยทัย ตายในสนามรบ ดังนั้นในความเชื่อของวันวลิตจึงคิดว่า แม่ของพระวิสุทธิกษัตริย์ยังมีพระชนม์อยู่ และอาจจะจำสบสนว่าชื่อแม่ของพระวิสุทธิฯ ชื่อพระสุวัฒน์ 4. พื้นฐานพระศรีสุริโยทัยต้องแต่งงานทางการเมือง ดังนั้นนางย่อมเห็นแก่ประโยชน์บ้านเมืองของตนมากกว่าบ้านเมืองของสามี   ในปี 2106 บุเรงนองยกทัพไปตีพิษณุโลกแต่อยุธยาไม่ช่วย พอมาถึงปี 2112 นางจึงคบคิดกับพม่าให้มาตีอยุธยาบ้าง 5. เอกสารวันวลิตน่าเชื่อถือที่สุดเพราะบันทึกใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่เกิดที่สุด 6.อันนี้เป็นสูตรที่จะลดความน่าเชื่อถือของพงศาวดาร : การชำระเหตุการณ์ในพงศาวดารต่าง ๆ ล้วนถูกปรับปรุงหลังเสียกรุง 2310 ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นยุคที่เราต้องสร้างความชอบธรรม บางอย่าง . . . เรื่องนี้ก็ว่ากันไปล่ะครับ เอาไว้คุยกันในวงเหล้า สนุกดี แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 55 22:39:53 แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 55 08:19:01 จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 23:43:00

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนจะเคยได้ยินอีกสำนวนนึงเกี่ยวกับการเสียกรุงครั้งที่ 1 ว่า พระวิสุทธิส่งผ้าซับพระพักตรส่วนพระองค์ที่มีคราบพระโลหิต (แสดงถึงชีวิตคู่ส่วนพระองค์ที่ไม่ค่อยราบรื่้นนัก) กลับไปที่อยุธยา เป็นเหตุให้ทางอยุธยาโกรธและคิดจะมาเอาเรื่องกับพิษณุโลก และพิษณุโลกจึงไปเรียกหงสาวดีมาช่วย ไม่รู้เรื่องนี้ใครเคยได้ยินบ้างหรือเปล่าครับ จากคุณ : ไข่มุขราตรี เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:38:34

ความคิดเห็นที่ 13 จาก คคห ที่  ๑๑ ของคุณ วังเหนือ ครับ 2. พงศาวดารกรุงศรีอยุธยาใช้คำว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฝ่ายใน" ซึ่งหมายถึงพระมเหสีของกษัตริย์พระเจ้าช้างเผือกในที่นี้ก็คือ พระศรีสุริโยทัยนั่นเอง  ซึ่งเป็นเหตุการณ์แอบส่งหนังสือดังที่ผมได้เขียนไปแล้วใน #3 ดังนี้  "พระมหาธรรมราชาเห็นด้วย ก็แต่งนายก้อนทอง ข้าหลวงเดิมให้ถือหนังสือลอบเข้าไปถึงขุนสนม ข้าหลวงซึ่งสมเด็จพระเจ้า ช้างเผือก ไปเอาลงมาแต่เมืองพิษณุโลกกับด้วยพระวิสุทธิกษัตรีนั้น ขุนสนมก็ส่งหนังสือนั้นเข้าไปถวายแก่ พระเจ้าอยู่หัวฝ่ายใน" พระเจ้าอยู่หัวฝ่ายใน ในกรณีนี้ น่าจะหมายถึง พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระอัครมเหสีเมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็น พระราชธิดาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับสมเด็จพระสุริโยไทย  และเป็นพระเชษฐภคินี (พี่สาว) ของสมเด็จพระมหินทราธิราช พระเจ้าแผ่นดินในขณะนั้น มากกว่าครับ เหตุการณ์ตอนนี้เป็นคราวที่พระเจ้าบุเรงนองยกทัพใหญ่มาล้อมกรุง ก่อนการเสียกรุงครั้งแรก ซึ่งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ก็ทรงสวรรคตในระหว่างการศึกครั้งนี้ จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 19:09:21

ความคิดเห็นที่ 14 จาก คคห ที่ ๑๒ ของคุณไขมุกราตรี ผมคิดว่า คงจำมาจากพงศาวดารพม่า แต่จำมาผิด ครับ เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ก่อน สมเด็จพระนเรศวร ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ครับ เรื่องคือ พระเจ้าบุเรงนอง ทรงให้ มังสามเกียด(พระมหาอุปราชาที่ชนช้างกับพระนเรศวร) พระราชนัดดา (หลานปู่) ซึ่งเป็นโอรสของพระมหาอุปราชานันทบุเรง อภิเษกกับราชนัดดา (หลานตา) ราชธิดาของพระเจ้าอังวะ ต่อมา ในสมัยพระเจ้าหงสาวดี นันทบุเรง พระมหาอุปราชามังสามเกียด มีเหตุทะเลาะวิวาทหึงหวง กับพระชายาที่เป็นราชธิดาของพระเจ้าอังวะนั้น ในพงศาวดารพม่า ว่า นางล้มไปถูกขอบพระแท่นบรรทม จน ศีรษะแตก นางจึงเอาผ้าซับพระโลหิตนั้นส่งไปถวายพระเจ้าอังวะ ที่เป็นพระบิดา และอาจมีหนังสือกราบทูลไปในทำนองว่า ถูกพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง และ พระมหาอุปราชา ข่มเหง พระเจ้าอังวะทรงพิโรธ  จึงก่อการกระบถต่อพระเจ้าหงสาวดี และส่งทูตพร้อมหนังสือไปชักชวนหัวเมืองประเทศราชอื่น ๆ ให้แข็งเมืองด้วย เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงทรงทราบ จึงให้หากองทัพจากหัวเมืองประเทศราชต่าง ๆไปช่วยปราบกระบถ ทางอยุธยาได้ส่ง สมเด็จพระนเรศวร ไปในการสงครามครั้งนี้ และ สมเด็จพระนเรศวร ก็ได้ไปประกาศอิสภาพที่เมืองแครงในการยกทัพครั้งนี้ด้วย ครับ เรื่องราวน่าจะเป็นแบบนี้มากกว่าครับ จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 19:24:22

ความคิดเห็นที่ 15 #13  ตามสบายเลยครับ ผมคัดตามหนังสือที่เขาเขียนมาอีกทีเท่านั้นครับ จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 23:32:58