[ภาษาญี่ปุ่น] เหตุที่คำช่วย wa, e, o ออกเสียงไม่ตรงกับตัวอักษร
|
 |
ทำไมคำช่วย は ในประโยค ここは... จึงออกเสียงว่า wa ทำไมคำช่วย へ ในประโยค ここへ... จึงออกเสียงว่า e และทำไมคำช่วย を ซึ่งอยู่ในแถว「わ」และเขียนโรมาจิว่า wo แต่ออกเสียงว่า o
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
ในอดีตก่อนสมัยนารา ภาษาญี่ปุ่นในแถว「は」ออกเสียงเป็น「p」คือ pa , pi , pu , pe , po
แต่เมื่อเข้าสู่สมัยนารา เสียงในแถว「は」เปลี่ยนไปเป็น「Φ : phi」คล้ายกับเสียง「fi」โดยในที่นี้ จะขอเขียนด้วยตัว f แทน คือ fa , fi , fu , fe , fo
และในปลายสมัยเฮอัน เสียงในแถว「は」ซึ่งอยู่ "ในคำหรือท้ายคำศัพท์" ได้เปลี่ยนจากเสียง「Φ」ให้ออกเสียงง่ายขึ้นเป็นเสียง「v」และกลายเป็นเสียง「w」เช่นเดียวกับเสียงในแถว「わ」คือ wa , wi , wu , we , wo
การเปลี่ยนการออกเสียงในแถว「は」นี้ เรียกว่า ハ行転呼 (hagyou tenko) เช่น
・ 腹は (はらは) อ่านว่า fa-ra-wa ・ 人へ (ひとへ) อ่านว่า fi-to-we ・ あはれ อ่านว่า a-wa-re ・ 思ひ出 (おもひで) อ่านว่า o-mo-wi-de ・ 買ふ (かふ) อ่านว่า ka-wu
ในสมัยคามาคุระ อักษรในแถว「わ」ได้เปลี่ยนเสียงจาก wa, wi, wu, we, wo เป็น wa , i , u , we , wo
เสียงในแถว「は」ซึ่งอยู่ในคำหรือท้ายคำศัพท์ จึงออกเสียงเปลี่ยนไปด้วย (ハ行転呼) เช่น
・ 思ひ出 (おもひで) อ่านว่า o-mo-i-de ・ 買ふ (かふ) อ่านว่า ka-u
ต่อมาในช่วงต้นของสมัยเอโดะ อักษรในแถว「は」ที่อยู่ "ต้นคำ" ได้เปลี่ยนเสียงจาก「Φ」มาเป็น「h」เช่นเดียวกับปัจจุบัน คือ ha , hi , hu (fu) , he , ho เช่น
・ 腹は (はらは) อ่านว่า ha-ra-wa ・ 人へ (ひとへ) อ่านว่า hi-to-we
และครั้งสุดท้ายในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 อักษรในแถว「わ」ได้เปลี่ยนเสียงจาก wa , i , u , we , wo เป็น wa , i , u , e , o
เสียงในแถว「は」ซึ่งอยู่ในคำหรือท้ายคำศัพท์ จึงออกเสียงเปลี่ยนไปด้วย (ハ行転呼) อีกครั้งหนึ่ง เช่น
・ 人へ (ひとへ) อ่านว่า hi-to-e
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้คำช่วย 3 คำ คือ は、へ、を ซึ่งถือเสมือนเป็นคำที่อยู่ท้ายคำศัพท์ ออกเสียงเป็น wa, e, o
■ สรุปภาพรวมการเปลี่ยนแปลงการออกเสียงในแถว「は」
คำศัพท์ 母(はは) ก่อนนารา อ่านว่า pa-pa นารา อ่านว่า fa-fa ปลายเฮอัน อ่านว่า fa-wa ต้นเอโดะ อ่านว่า ha-wa
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญเกี่ยวกับการออกเสียงอักษรในแถว「は」คือ การเล่นทายปัญหาที่มีการบันทึกไว้ในสมัยมุโรมาจิ (หลังสมัยเฮอันและคามาคุระ ก่อนสมัยเอโดะ)
การเล่นทายปัญหานี้ ถามไว้ว่า
ははには二たびあいたれども ちちには一度もあわず กับแม่ จะพบกันสองครั้ง แต่กับพ่อ จะไม่พบกันแม้แต่ครั้งเดียว
คำตอบคือ "ริมฝีปาก" ซึ่งหมายความว่า การออกเสียง はは ริมฝีปากจะสัมผัสกัน 2 ครั้ง แต่การออกเสียงว่า ちち ริมฝีปากจะไม่สัมผัสกันเลย
ซึ่งเป็นการพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า คำว่า はは ในสมัยนั้น ไม่ได้ออกเสียงว่า ha-ha เพราะริมฝีปากจะไม่ติดกันเลย แต่ออกเป็นเสียงอื่น คือ fa-wa ซึ่งริมฝีปากจะสัมผัสกัน 2 ครั้ง
จากทฤษฎีข้างต้น はは ในช่วงต้นสมัยเอโดะ จะออกเสียงเป็น ha-wa และหลังจากนั้นก็ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงอีก
การที่ はは ออกเสียงเป็น ha-ha เช่นในปัจจุบันนั้น มีข้อสมมุติฐานหลายอย่าง โดยหนึ่งในนั้นได้สันนิษฐานว่า เป็นการเปลี่ยนเสียงให้ซ้ำกัน เพื่อให้สอดคล้องกับคำอื่นๆ ที่มีความหมายถึงบุคคลในครอบครัว ซึ่งมักเป็นคำเสียงซ้ำกัน เช่น chi-chi, ba-ba, ji-ji
ดังนั้น ha-wa จึงมีการเปลี่ยนเสียงให้ซ้ำกันตามไปด้วยเป็น ha-ha
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นมีความคิดจะบูรณาการตัวอักษร (仮名 : kana) ให้เป็นมาตรฐาน โดยปรับปรุงการใช้คานะแบบในอดีต (歴史的仮名遣い : rekishiteki kanatzukai) เสียใหม่ เพื่อให้อักษร 1 ตัว มีเสียงอ่านเพียง 1 เสียง และยกเลิกอักษรที่มีเสียงซ้ำกับอักษรตัวอื่น
ซึ่งตามแนวทางในขณะนั้น จะเปลี่ยนคำช่วยที่ออกเสียงว่า「wa」「e」「o」มาใช้เป็นตัวอักษร「わ」「え」「お」แทน เช่น
・ 川わ (かわわ) อ่านว่า ka-wa-wa ・ 山え (やまえ) อ่านว่า ya-ma-e ・ 水お (みずお) อ่านว่า mi-zu-o
แนวทางนี้ถูกคัดค้านอย่างรุนแรง ดังนั้น ในปี พศ.2489 (ปรับปรุงแก้ไขในปี พศ. 2529) คณะรัฐมนตรีจึงประกาศการใช้คานะแบบปัจจุบัน (現代仮名遣い : gendai kanatzukai) โดยกำหนดมาตรฐานต่างๆ รวมถึงการยกเลิกอักษรที่มีเสียงซ้ำกับอักษรอื่น เช่น ゐ (อักษรตัวที่ 2 ในแถว「わ」ซึ่งออกเสียงเดียวกับ い) หรือ ゑ (อักษรตัวที่ 4 ในแถว「わ」ซึ่งออกเดียวกับ え)
แต่ยังคงให้ใช้ "คำช่วย" ที่ออกเสียงว่า wa , e , o ด้วยอักษร は、へ、を แม้จะออกเสียงซ้ำกับอักษร わ、え、お ก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาแต่เดิม
การบูรณาการตัวอักษรเพื่อให้มี 1 ตัว 1 เสียง ซึ่งไม่ซ้ำกัน จึงไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ คือ ยังคงมีข้อยกเว้นบางอย่างเหลืออยู่
ปัจจุบัน「は」จะออกเสียงว่า ha ในกรณีทั่วๆไป ยกเว้นกรณีที่เป็นคำช่วย หรือในคำที่มีต้นกำเนิดในลักษณะที่ใช้ は เป็นคำช่วย จึงจะออกเสียงว่า wa เช่น
こんにちは (konnichiwa) こんばんは (konbanwa) あるいは (aruiwa) または (matawa) いずれは (izurewa) もしくは (moshikuwa) さては (satewa) ส่วน「へ」จะออกเสียงว่า he ในกรณีทั่วๆไป เว้นแต่กรณีที่เป็นคำช่วย จึงจะออกเสียงว่า e
และ「を」ก็จะออกเสียงว่า o
ที่มา : http://www.j-campus.com/article/view.php?id=1026
จากคุณ |
:
J-Campus
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ส.ค. 55 23:52:22
A:180.214.215.168 X: TicketID:342383
|
|
|
|