คือเราทดลองใช้มาทุกยี่ห้อ แล้วศึกษาวิธีการทำงานของมัน (ในกรณีที่มันเป็น software) ก็เลยรู้ข้อมูลในเชิงลึก ซึ่งถ้าเขียน reviews หมดนี่หละยาวแน่ๆ แถมยังมีคนบางคนเข้ามาบ่นอีกด้วยว่า "เขียนมากไปน่ารำคาญ" แล้วเผอิญเราติดงานแปลเอกสารชิ้้นยาวหลายชิ้นจ่อคิวกันด้วยดิ ก็เลยไม่อยากเขียนยาวๆ
แนะนำสั้นๆว่า dictionary แต่ละยี่ห้อต่างก็มีจุดอ่อนจุดแข็งและมีประโยชน์ในการใช้งานที่แตกต่างกันด้วยกันทั้งนั้น ไม่มียี่ห้อไหนที่เหนือชั้นกว่ายี่ห้ออื่นในทุกกรณีอย่างขาดลอย
ดังนั้นควรใช้ให้มากยี่ห้อที่สุดเท่าที่จะสรรหามาได้ แต่ถ้ามันแพงเกินไปที่จะทำเช่นนั้นก็ให้ใช้ online dictionaries ของฟรีโลดเลย เพื่อนเราหลายๆคนที่เป็นนักแปลมืออาชีพไม่ซื้อ dictionary แต่ใช้ online dictionaries ของฟรีทำงานแปลเอกสารมาแล้วตั้งหลายปี ไม่เดือดร้อนอะไร (แล้วอีกอย่างหนึ่งศัพท์ยากๆที่นักแปลต้องเจอหาจาก dictionaries บางทีก็หาไม่เจอ ต้องพึ่ง google ลูกเดียว) เพราะทำงานในบ้านต่อเน็ตความเร็วสูงได้
คนที่จำเป็นต้องซื้อ dictionary ก็คือคนที่เรียนหนังสือหรือทำงานที่ต้องใช้ dictionary แล้วที่สถานศึกษาหรือที่ทำงานไม่มีสัญญาณเน็ตให้ หรือคนๆนั้นไม่อยากลงทุนอุปกรณ์พกพาที่ต่อเน็ตได้นั่นเอง
แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 09:41:34
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ส.ค. 55 09:39:33
|
|
|
|