ความคิดเห็นที่ 1 รบกวนถามต่ออีกนิด คือไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติของที่ห้องสมุดของที่พันทิป (เพราะไม่เคยเข้ามาดูเลยน่ะค่ะ) ถ้าหากสมมุติว่าลองแปลออกมา แล้วเอามาแปะในกระทู้ถามความถูกต้องของการแปลนี่ได้รึเปล่าคะ? จากคุณ : Philomath เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 04:36:58

ความคิดเห็นที่ 2 ดีมากๆ เลยครับ เอามาแปะแบ่งปันกันดู แบ่งปันกันให้ความคิดเห็น งานแปลเหมือนศิลปะ หากรู้แต่วาดๆ ก็สีสันด้อยไป หากแต่งสีมากไป ลายเส้นอาจต้องปรับปรุง ทุกๆ อย่างต้องผสมผสานกันหลากหลาย ยากที่จะบอกได้ว่า งานแปลแบบไหนดีที่สุด ทำเถอะครับหากทำแล้วพัฒนาตนเองและสังคม สักวันคุณอาจเป็นบุคคลทรงคุณค่าก็ได้ ค้นพบตนเองแล้วเดินไปสู่ฝันนะครับ จากคุณ : Force8949 เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 06:58:19

ความคิดเห็นที่ 3 "..ทำยังไงให้แปลอังกฤษเก่งๆ.." >> หลักการไม่ยาวนักแต่ทำไม่ง่าย 1.ต้องมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับดีมาก ดีแค่ไหน? ดีขนาดอ่านต้นฉบับไม่ว่าจะสั้นๆแค่เป็นเพลงเป็นกลอนไปจนถึงหนังสือเป็นเล่มๆ จะสั้นหรือยาวก็ช่างแต่ก่อนจะเอาไปแปลต้องสามารถอ่านได้อย่างปรุโปร่ง อ่านได้ขาดลอย เข้าใจได้ไม่มีความผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ ไม่ผิด ไม่ขาด แล้วก็ไม่เกิน ทำได้อย่างนี้ก็แสดงว่าไม่เพี้ยนจากต้นฉบับและเจตนารมณ์ของคนเขียน 2.ค้องมีทักษะภาษาไทยในระดับดีมาก ดีแค่ไหน? ดีขนาดเขียนเป็นภาษาไทยแล้วถ่ายทอดเนื้อหาและความรู้สึกตลอดจนเจตนารมณ์ของต้นฉบับได้อย่างถูกต้อง เข้าใจตรงกัน สละสลวย  ถูกต้องกับต้นฉบับเขา วิจิตในที่ควรวิจิต ดุดันในที่ควรดุดัน งดงามในที่ควรงดงาม ง่ายในที่ควรง่าย พูดง่ายๆคือต้นแบับเขาต้องการอะไร คนจะแปลเป็นภาษาไทยต้องเขียนให้ตรง คนที่จะทำทั้งสองข้อได้นั้นผมขอกได้เลยว่าต้องอ่านหนังสือมาเยอะมากทั้งไทยทั้งอังกฤษ นักแปลที่ผมรู้จักในนี้ที่ผมยกย่องว่าเก่งนั้นแต่ละคนอ่านหนังสือกันคนละเป็นต้้งๆ คนเก่งแต่ภาษาอังกฤษแต่ไม่เก่งภาษาไทยก็แปลไม่ได้ อย่านึกว่าแค่อ่านหนังสือฝรั่งได้จะแปลได้ เห็นเพี้ยนมาเยอะแล้ว คุณแปลมาแล้ว อยากให้คนในนี้วิจารณ์ เงื่อนไขมีอย่างเดียวคือคุณได้ลงมือแปลมาเอิงแล้ว แคนั้นแหละ คนเขาอยากช่วยเยอะ ผมเองก็ช่วย เคยช่วยมาเยอะแล้ว แต่มีหลายคนเหลือเกินที่มาโยนภาษาอังกฟษให้เขาแปลให้ดื้อๆ ตัวเองไม่ได้ลงแรงอะไรเลย ไม่ได้เรียนรู้ เป็นการเอาเปรียบ สำหรับผมไม่ช่วย อยากแปลเป็นก็ต้องลงมือครับ ไม่แปลก็ไม่เป็น ไม่รู้ว่าบกพร่องตรงไหนมันก็ไม่ได้พัฒนา จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 08:28:16

ความคิดเห็นที่ 4 แปลเพลง อาจจะต้องใส่จินตนาการเยอะหน่อยครับ เนื้อเพลง โดยเฉพาะญี่ปุ่น ผมว่าประหลาดมาก จากคุณ : J-Renderer เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 09:00:10

ความคิดเห็นที่ 5 อยากแปลให้เก่ง ก็ต้องแปลบ่อย ๆ แปลผิดไ่ม่เป็นไร   แต่อย่าทิ้งไว้  ต้องแก้ไขให้ถูก ในห้องสมุด มีผู้ช่วย เยอะ อย่างที่ คุณ แอ๊ด ปากเกร็ด บอก จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 10:43:03

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านเยอะๆ เจอคำแปลกๆเยอะ แปลบ่อยๆ มีทักษะ ทำให้ประโยคสวย จากคุณ : ลมธรรม (ลมธรรม) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 10:56:52

ความคิดเห็นที่ 7 "แปลเพลง อาจจะต้อง ใส่ จินตนาการเยอะหน่อยครับ" ขออนุญาต หรือจะบังอาจแก้ไขข้อความข้างบนนิดหนึ่งนะครับ ขอเปลี่ยนจาก  "ใส่"  เป็น "ใช้" ก็แล้วกัน คือฟังเพลง หรืออ่านหนังสือมันต้องใช้จินตนาการของผู้อ่าน หรือผู้รับสารอยู่แล้ว แต่หาก จะ "ใส่" จิตนาการของผู้แปลเองลงไป อันนี้คงไม่ใช่ เพราะมันจะกลายเป็นการ แปร (เปลี่ยนความ) มิใช่การ แปล (ถ่ายความ) การแปลคือ การถ่ายทอดความหมายจากต้นฉบับเดิม มาสู่ข้อความเดียวกัน เพียงแค่เปลี่ยนภาษา ไม่ต่างจากการขนถ่านหิน  จากเรือ (ภาษาหนึ่ง) มาสู่ รถบรรทุก (อีกภาษาหนึ่ง) แต่ถ่านหินนั้น ยังต้องคงเป็นถ่านหินเสมอ มิใช่กลายเป็นถ่านไม้ จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 11:39:10

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับน้ำจิตน้ำใจของทุกๆท่าน (- // \\ - ) ตัวเองนี่ตั้งใจจะพัฒนาการแปลด้วยการเอาที่แปลแล้วมาน้อมรับคำแนะนำติชม ไม่ใช่เอามาโยนให้แปลแน่นอน (เพราะนี่ไม่ใช่งานส่งอาจารย์ แต่เป็นความต้องการส่วนตัวที่อยากจะพัฒนาตนเองด้านภาษา) เดี๋ยวจะค่อยๆพยายามแปล (แปลช้า) แล้วเอามาให้ดูค่ะ จากคุณ : Philomath เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 14:35:38

ความคิดเห็นที่ 9 โดยส่วนตัวแล้วเวลาเราจะเรียนอะไรสักอย่างหนึ่งเราคิดค้นหา algorithms หรือ processes ของมัน แล้วปรับปรุงมันไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่นตอนแรกเราเรียนภาษาอังกฤษแบบโง่ๆโดยหลงเข้าใจผิดคิดว่าเปิด dictionaries มันเข้าไป รู้ศัพท์มากๆอีกหน่อยก็เก่งเอง แต่ต่อมาก็คิดได้ว่าจริงๆแล้วมันต้องมีวิธีการดีๆอย่างอื่นอีกมากมาย ส่วนเรื่องแปลนี้ทีแรกเราก็คิดได้แค่เอาผลงานแปลคนอื่นทั้ง source text และ target text มาวางเทียบกัน แต่พอค่อยๆเรียนรู้ไปเราก็เริ่มมองเห็นอะไรใหม่ๆได้เรื่อยๆ ในขณะที่พยายามค้นหา algorithms หรือ processes ที่ดีที่สุดเพื่อมาสอนการแปลให้กับตัวเองนั้น สิ่งที่สะดุดตาที่สุดที่ค้นพบก็คือ การแปลซื่อส้ตย์ต่อต้นฉบับ target text มันออกมาแปลกๆ แต่พอปรับ target text ให้สวยๆ มันกลายเป็น unfaithful translation ไปซะแล้ว! การที่เราจะ strike a balance ได้นี้หละ เป็นศาสตร์และศิลป์ทั้งหมดแห่งการแปล ^ แนวคิดในการหาทาง strike a balance ช่วยเปิดประตูไปสู่การค้นพบ algorithms และ processes ที่ดีที่สุดในการเรียนการแปล และในการลงมือแปลจริงๆ ซึ่งแนวคิดนี้ก็มาจากที่ Yevgeny Yevtushenko  กล่าวไว้ว่า Translation is like a woman. If it is beautiful, it is not faithful. If it is faithful, it is most certainly not beautiful. จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 17:48:56

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ^ ^ "Translation is like a woman. If it is beautiful, it is not faithful. If it is faithful, it is most certainly not beautiful." โอววว... วาทะ ซือเฮีย  ผมโดนบาดเป็นแผลไปทั้งตัวแล้ว กร๊ากกกก คมมาก คม! จากคุณ : Ensign เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 07:52:04