 |
มีคนชื่นชมเช่นกัน
ฮิตเลอร์เมื่อจบสงครามก็ถูกต่อว่าอย่างหนักจากประเทศพันธมิตรหลายๆประเทศ บางคนถึงกับว่าฮิตเลอร์นั้นวิกลจริต แต่จริงๆแล้ว ฮิตเลอร์นั้นก็เป็นวีรบุรุษของเยอรมันช่วงตกต่ำคนหนึ่ง
เริ่มจากที่ฮิตเลอร์ได้ริเริ่ม โครงการต่างๆที่เป็นผลดีกับชาวเยอรมันมากมาย เช่น รถVolkswagen เพื่อให้ชาวเยอรมันมีรถยนต์ราคาถูกใช้ หรือ นโยบายทางทหารที่ตอนนั้นเป็นหนทางสุดท้ายของเยอรมันในขณะนั้น เมื่อจบสงครามโลกครั้งที่1 เยอรมันตกเป็นผู้แพ้สงครามและต้องเสียค่าปฏิกรณ์สงครามจำนวนมากตามสนธิสัญญาแวร์ซาย ทำให้เศรษฐกิจของเยอรมันในขณะนั้นตกต่ำถึงขีดสุดแม้ขนมปังก้อนเดียวก็ราคาถึง 400,000 ล้านมาร์ค
ฮิตเลอร์ซึ่งเป็นวีรบุรุษในสงครามโลกเก่า ก็ได้เข้าเล่นการเมืองและชูนโยบายที่จะยกความอยู่ดีกินดีของชาวเยอรมัน เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหลังจากที่มีการปฏิวัติพระเจ้าไกเซอร์ที่3 ก็สิ้นพระชนม์ ฮิตเลอร์ก็ได้รับเลือกขึ้นมาเป็นผู้นำ(Fuhrer')
ฮิตเลอร์ก็ริเริ่มนโยบายต่างๆเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่ฮิตเลอร์ก็มีอคติกับชาวยิวที่เป็นผู้ได้จากสงครามในเยอรมัน ฮิตเลอร์จึงกล่าวหา ชาวยิวว่าขายชาติและใช้เหตุผลนี้ในการ ล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ในที่สุดเมื่อฮิตเลอร์โดนชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาติสัมพันธมิตรซึ่งจับตามองอย่างมาก ฮิตเลอร์ก็ได้โจมตีไรน์แลนด์และซูเดเทนแลนด์ แต่ชาติพันธมิตรก็นิ่งเฉยและยื่นข้อแลกเปลี่ยนให้ฮิตเลอร์ว่าห้ามโจมตีอีก ฮิตเลอร์รีบปฏิเสธทันที
ในที่สุดฮิตเลอร์ก็โจมตีโปแลนด์ทำให้ชาติสัมพันธมิตรประกาศสงครามกับฮิตเลอร์ แต่ก็มิอาจหยุดฮิตเลอร์และกองทัพนาซี และสัมพันธมิตรก็พ่ายแพ้ในหลายๆสมรภูมิ จึงทำให้ฮิตเลอร์ในขณะนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะและเป็นวีรบุรุษของเยอรมัน แต่เมื่อแพ้สงคราม สัมพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ชนะก็พยายามทำให้ฮิตเลอร์เป็นปีศาจโดยสมบูรณ์ โดยการยกกรณีชาวยิวในค่ายกักกันขึ้นมา แต่สตาลินผู้นำรัสเซีย จากแฟ้มลับของKGB สตาลินได้สังหารคนในค่ายกักกันไปมากกว่านาซี และปรมาณูของอเมริกาก็คร่าชีวิตคนไปมากกว่าในเยอรมันเองซะอีก เมื่อถึงศตวรรษที่21 ความดีของฮิตเลอร์ก็ถูกยกขึ้นมาพูดบ้างทำให้เราได้ทราบถึงวีรกรรมของผู้นำเยอรมันคนนี้
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=493523
วีรบุรุษหรืออาชญากรสงคราม
ลักษณะนิสัยของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์
ตามข้อมูลฝั่งตะวันตก ฮิตเลอร์เป็นคนอารมณ์ร้าย และมักจะเกรี้ยวกราดอย่างไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาขั้นต้นนี้ แพทย์ประจำตัวของเขายืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยความจริงแล้ว ฮิตเลอร์ไม่ใช่คนโมโหร้าย แต่หากมีใครเถียงนอกเรื่องข้างๆ คูๆ เขาก็จะตะเบ็งเสียงดังจนกลบเสียงคู่สนทนาหมดทุกคน
ฮิตเลอร์ชอบจูบมือผู้หญิง ชอบเลขานุการหญิงมากชนิดที่ว่า ถ้าพวกเธอป่วย เขาก็จะไปเยี่ยมเลยทีเดียว และเขาเป็นคนรักสะอาดมาก ชอบอาบน้ำวันละหลายๆ ครั้ง เสื้อผ้าส่วนตัวก็รักษาให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ เครื่องแบบของเขาก็มีแค่ตรา "กางเขนเหล็ก" ที่ได้มาเมื่อครั้งเขาเป็นนายทหารเยอรมันเท่านั้น
เขาไม่ชอบลูบสุนัขด้วยมือเปล่า หากลูบแล้วเขาก็รีบไปล้างมือโดยไว ฮิตเลอร์ยังชอบทำอะไรซ้ำๆ เช่น เวลาออกไปเดินเล่นก็ชอบเดินทางเดิมที่เคยเดิน ฮิตเลอร์เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก เขามีหนังสือมากถึง 16,000 เล่มซึ่งถูกเก็บไว้ในห้องสมุดส่วนตัว ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเกี่ยวกับสงคราม อัตชีวประวัติของบุคคลต่างๆ ศิลปะ และประวัติศาสตร์
ด้วยความที่เขาชอบอ่านหนังสือ เขาจึงสามารถบอกรูปร่างและลักษณะของเรือรบแบบต่างๆ และรอบรู้ในเรื่องยุทโธปกรณ์ของกองทัพเยอรมันเป็นอย่างดี และเขามีความจำที่เยี่ยมมาก สามารถจำได้ว่า เรือรบของราชนาวีเยอรมันนี (Kreigsmarine) มีระวางขับน้ำกี่ตัน ปล่อยออกมาจากท่าเรือไหน วันที่ใด ติดอาวุธอะไรบ้าง ฯลฯ
ฮิตเลอร์ยังเป็นคนรอบรู้ด้านอาวุธและยุทธวิธี จนไคเทล และเดอนิทซ์ชื่นชมเขาเลยทีเดียว นอกจากนี้ ฮิตเลอร์ยังเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ เช่น เขาบอกว่าจะฉีกสนธิสัญญาแวร์ซายทันทีเมื่อเป็นผู้นำ และเขาก็ฉีกจริงๆ เมื่อเขาได้เป็นผู้นำเยอรมันนี ผิดกับนักการเมืองบางคนที่พูดไว้มากมายเวลาหาเสียง แต่พอชนะการเลือกตั้งแล้วก็ตระบัดสัตย์อย่างไม่ใยดี
ฮิตเลอร์เป็นคนชอบศึกษาเรื่องเครื่งยนต์กลไก แต่ไม่คิดที่จะขับรถเอง ชอบศิลปะ ชอบวาดรูป ชอบเล่นภาพสีน้ำมัน ไม่ชอบฟังวิทยุ แต่ชอบฟังเพลงในอุปรากรของริชาร์ด วากเนอร์ ชนิดที่เขายกวากเนอร์ให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาดนตรีเลยทีเดียว
ชีวิตทางส่วนตัวของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์
จะเรียกว่า "ผู้นำที่ใครๆต้องการ" ก็ได้ เพราะว่าถึงแม้ฮิตเลอร์จะเป็นถึงผู้นำแห่งเยอรมนีที่ มีอำนาจมาก แต่เขาก็ไม่ได้ใช้ชีวิตฟู่ฟ่าเลย ผิดกับผู้นำหลายๆ คน เช่น เขาดื่มชาชนิดที่สามัญชนดื่ม อาหารที่เขากินก็เป็นแบบที่สามัญขนกิน (อาหารจานโปรดของเขาคืออาหารกรรมกรแบบ "หม้อเดียว" ที่ประกอบด้วยถั่วเป็นส่วนมาก)
บ้านของเขาก็ไม่ใช่บ้านที่ใหญ่โตหรูหราเช่นกัน ยกเว้นบ้านที่แบร์กเชสการ์เทิน ที่ตั้งอยู่บนเขาสูง 2,600 เมตร มีขนาดใหญ่มาก มีลิฟต์หุ้มเกราะสำหรับขึ้นลงอุโมงค์ 16 ตัว ที่พักใต้ดิน 3,000 คน มีห้องนอนอย่างดี มีอาวุธ กระสุน แชมเปญ ที่เก็บเอกสารมากมาย ซึ่งเป็นทั้งที่ประชุมลับและป้อมปราการไปในตัว
แม้แต่ในสนามรบ ฮิตเลอร์ก็ชอบที่จะอยู่กับทหาร อย่างเช่นตอนบัญชาการสนามอยู่แถบปรัสเซียตะวันออก แม้จะต้องนอนบนเตียงไม้ฉาแข็งๆ ผ้าห่มบางๆ เขาก็จะทำ เพราะเขาคิดว่าเป็นวิธีที่ทำให้เขารู้ถึงกำลังใจของทหารได้ดี สิ่งนี้จึงทำให้ทหารเยอรมันมีขวัญกำลังใจที่ดี ถึงกระนั้น ฮิตเลอร์เองก็ไม่บังคับให้ทหารคนอื่นๆต้องอยู่ลำบากเช่นเดียวกับเขา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นายพลบางคน เช่น เฮอร์มานน์ เกอริง จึงอยู่อย่างสุขสบาย
จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ อาจสรุปได้ว่า ฮิตเลอร์เป็นคนพอเพียง และมีน้ำใจกับคนอื่นในทางอ้อมอีกด้วย
ผลงานของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์
1.สั่งให้สร้างทางหลวงเยอรมันนี หรือออโต้บาห์น (Autobahn) เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
2.ก่อตั้งแบรนด์รถยนต์โฟล์คสวาเก้น (แปลว่ารถยนต์ของประชาชน) และสั่งให้ออกแบบรถโฟล์คสวาเก้น บีทเทิล (หรือรถโฟล์คเต่า) ซึ่งฮิตเลอร์กำหนดว่าต้องมีสมรรถนะดีพอ ประโยชน์ใช้สอยมากพอ และราคาถูกเท่ารถจักรยานยนต์อีกด้วย โดยผู้ออกแบบรถ คือ เฟอร์ดินาน ปอร์เช่ ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ดังอีกแบรนด์คือ ปอร์เช่ (porche)
http://butterflyeffec.** ไม่ใช่ลิควิด **/2008/10/blog-post.html
ผู้แพ้ที่ไม่มีโอกาสจะแก้ตัวมากกว่าครับ ฮิตเลอร์อาจโหดอำมหิตต่อชนชาติอื่น โดยข้อเท็จจริงที่โต้แย้งไม่ได้ เขาเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของชาติเยอรมัน เขาสร้างเยอรมันจากชาติที่พ่ายแพ้ยับเยินถูกข่มเหงรังแก บีบคั้นทุกด้าน จนกลายเป็นชาติมหาอำนาจทียิงใหญ่เกรียงไกรที่สุดในโลกทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร
ฮิตเล่อร์ทำทุกอย่างเพื่อชาติเยอรมัน เขาไม่เคยทุจริตคิดคดเอาประโยชน์เข้าตัวเองเลย ทุกลมหายใจเขาทำเพื่อชาติเยอรมัน ในมุมมองที่เป็นผลประโยชน์ของชาติเยอรมันเขาผิดข้อเดียว (ต่อชาติเยอรมัน) คือ เขานำประเทศไปสู่การแพ้สงครามโลกอีกเป็นครั้งที่สอง
แต่ความพ่ายแพ้ของเยอรมันนั้น เป็นชัยชนะที่ไม่น่าภาคภูมิใจของผู้ชนะเลย เพราะเป็นการรุมกินโต๊ะเยอรมันประเทศเดียว แบบหมารุมหมู่ การมาดูหมิ่นเหยียดหยามซ้ำเติมด้วยการโมเมกล่าวร้ายป้ายโทษ ผู้นำของประเทศที่ซื่อสัตย์สุจริตและอุทิศชีวิตเพื่อชาติบ้านเมืองของเขาแบบนี้
ตอนนี้ฮิตเลอร์แกตายไปแล้วหนะนะ จะว่าอะไร แกก็คงลุกขึ้นมาแก้ตัวไม่ได้ นอกจากนี้ พอประเทศแกแพ้สงคราม แกเลยมีชื่อเสีย ไปซะแล้ว จะหาคนแก้ต่างให้ก็คงยาก เพราะเอกสารต่างที่เป็นทางบวกของแก (ถ้ามี) อาจจะไม่เหลือแล้ว หรือถ้ายังมีเหลือ สมมุติว่า มีใครที่มีเอกสารข้อมูลวีรกรรมของฮิตเลอร์อยู่ (สมมุติว่ามี) นายคนนี้ก็คงไม่กล้าเอาออกมาเผยแพร่ ในวันนี้หรอกครับ
ลองเปรียบเทียบกับ กรณี "ซัดดัม ฮุสเซน" แกถูกล่าวหาว่า "มีอาวุธทำลายล้างสูง" ตอนนี้ก็หาไม่เจอจนอเมริกาถอนทหารกลับ ก็ยังหาไม่เจอ บางเรื่อง ก็บอกว่าแกชั่วร้าย เพราะสังหารชาวเคิร์ต แต่หลังจากแกตาย กองทัพตุรกีก็ถล่มชาวเติร์คซะเล่นๆ โดยหาว่า พวกนี้เป็นพวกก่อการร้าย อ้าวทำไมทีนี้สามารถทำได้หละ ตกลงที่ซัดดัมทำ ใช้ได้หรือไม่ได้ ? ตรงนี้ไม่มีคำตอบ
แต่ที่แน่ๆ ซัดดัม ก็กลายเป็นคนมีชื่อเสียไปแล้ว (บางคนบอก แกคือ MABUS ตามคำทำนายของ นอสตราดามุส ไปโน่น) คุณงามความดี ที่แกสร้างชาติอิรัก ก็เลือนหายไป อิรักตอนมีซัดดัม กับตอนไม่มี แตกต่างกันอย่างมากมาย ในทางไม่ค่อยดีทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมให้แกได้
เรื่องการทำสงคราม ผมก็เชื่อว่า สำหรับเยอรมันตอนนี้ เป็นทางออกที่ดี ในการแก้ไขข้อเสียเปรียบ อันเนื่องมาจากสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่างๆ ที่สืบเนื่องมาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ปัญหาในความเห็นของผมก็คือ ฮิตเลอร์ไม่ยอมหยุด เมื่อสมควรจะหยุด คือเขาไม่ได้กำหนด "จุดจบของสงครามที่เป็นไปได้" เอาไว้
ถ้าสมมุติว่า ฮิตเลอร์ บุกฝรั่งเศส ไล่กองทัพอังกฤษตกทะเลที่ดังเคิร์ก จากนั้น ก็ให้ทหารทำกับประชาชนดีๆ แล้วขอเปิดโต๊ะเจรจา ประมาณว่า
"อาณาประชาราษฎร์อย่าได้ตกใจ ที่เรายกพหลพลไกรมานี้ แค่ประสงค์จะขอแก้ไขสัญญาอันเป็นอสัตย์อธรรม ที่ผู้นำของพวกท่านทั้งสิ้นเหล่านั้นได้ทำไว้แก่เรา จะมีเจตนาทำร้ายผู้ใดหาได้ไม่ หากผู้นำของพวกท่านยอมแก้ไขสัญญาแล้วไซร์ เราจักคืนกรุงปารีสให้ แลยกไพร่พลกลับไปแต่โดยดี"
ถึงเวลาเจรจาจริงๆ อาจจะขอสินสงครามติดปลายนวมเล็กน้อย เช่น "ช้างเผือกนี้ เอ๊ย เมืองอันเป็นขอบขัณฑสีมาในแคว้นปรัสเซีย 3 เมืองนี้ ขอพี่ท่านจงเวนคืนแก่เราเถิด" ฝรั่งเศสจะพูดอะไรได้
ผมว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ ฮิตเลอร์ เป็นโคตรวีรบุรุษเลย
แต่นี่ เขาเล่นไม่เลิก ตีเมืองนั้น แล้วก็จะตีเมืองนี้ รบประเทศนั้น พร้อมๆกันกับรบกะประเทศนี้ แถมทำเรื่องโหดร้ายมากๆ อีกต่างหาก พอทำไม่ดี ศัตรูก็มาก ก็เลยทำให้ลงท้ายอย่างที่เห็น
ใจผมนา ผมมองว่า ถ้าเขาได้กำหนดจุดสิ้นสุดของสงครามให้ชัดๆ แล้วไม่สร้างศัตรูรอบด้าน ผลลัพธ์อาจจะไม่ลงเอยอย่างที่เห็นนี้หรอกครับ
ในยามที่ประเทศกำลังดิ่งลงเหวถูกชาติต่างๆ เอาเปรียบและหมายหัวว่าเป็นประเทศผู้ก่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ทั้งที่จริงทุกประเทศก้อต่างสะสมอาวุธเพื่อเตรียมรบแค่ไม่มีใครกล้าเปิดก่อน พอเยอรมันเปิดก่อนเลยเหมาเอาว่าเยอรมันผิดฝ่ายเดียว
ในขณะนั้นประชาชนชาวเยอรมันกำลังขาดที่พึ่ง ไม่ว่าท่านฮิตเลอร์จะเคยเป็นวีรบุรุษจากสงครามจริงหรือไม่แต่จากคำสัญญาในการหาเสียงแบบดุดัน และเอาจริงเอาจัง ทำให้ชาวเยอรมันมีขวัญและกำลังใจดีขึ้นหร้อมที่จะเทคะแนนให้ มันก้อคงเหมือนกับที่เราเวลามีความทุกข์แล้วไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร พอมีใครซักคนหยิบยื่นกำลังใจให้เราก้อมองว่าเขาเป็นที่พึ่งระบายความในใจให้เขาฟัง ประมาณนั้น
เพียงแต่ว่าท่านฮิตเลอร์ก้อคงเหมือนกับผู้นำทั่วไป ที่พออยู่ในอำนาจนานๆ แล้วก้อเสพติดอำนาจไม่รู้จักพอก้อเลยต้องพบจุดจบอย่างนี้ แต่ก้อต้องยกยกชาวเยอรมันนะครับ เพราะเขาสร้างชาติจากที่สิ้นเนื้อประดาตัวถึงสองครั้ง ให้กลับมายิ่งใหญ่ได้ทุกครั้งไป
จริงค่ะที่ฮิตเลอร์และเยอรมันถูกบีบจากสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรม แกควรจะมีขอบเขตที่จะหยุดตัวเอง เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว แกไม่ควรจะเอาความอยุติธรรมที่แกได้รับไปลงกับผู้บริสุทธิ์อีกหลายล้านคน จริงอยู่ที่ว่า พอสงครามเกิดเลี่ยงไม่ได้ที่คนบริสุทธิ์จะตาย ไม่ว่าจะพันธมิตรหรืออักษะก็เคยหันปากกระบอกปืนใส่คนบริสุทธิ์เหมือนกัน แต่ว่าการไล่ต้อนคนไปฆ่า...ตั้งใจไล่ต้อนไปฆ่าขนาดนั้น พี่แกก็ดูจะโหดเกินไปสักนิด แม้แกจะทำประโยชน์เพื่อประเทศเยอรมัน แต่แกก็ทิ้งตราบาปไว้ให้กับคนเยอรมันเหมือนกันค่ะ
http://www.iseehistory.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=iseehistorycom&thispage=3&No=1292644
จากคุณ |
:
ต็กโกวคิ้วป้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.ย. 55 17:34:44
|
|
|
|
 |