ความคิดเห็นที่ 1 คนที่ผมรู้จัก ทั้งเพื่อนทั้งพี่ที่เรียนจบจากวิศวะที่นี่มา นิสัยก็ไม่ได้เกเรเชี่ยๆๆหรือเอาแต่กินเหล้าหัวราน้ำเลยนะคับ เรียบร้อยซะด้วยซ้ำไป มันอยู่ที่คนเรียนว่าจะไปคบกับคนแบบไหนมากกว่านะ สังคมแย่ๆมันก็มีทุกมหาวิทยาลัยแหละคับ เพียงแต่เราจะเจอและไปเข้ากับมันหรือเปล่าแค่นั้นเอง ไม่ใช่แค่ปี1ที่ไทร์คับ ปี3วิศวะที่นี่ก็โดนไทร์กันมาหลายคน อย่าคิดว่าเค้าเสียเวลา 1 ปีเพื่อไปสอบที่อื่น ไม่อยากเชื่อว่าจะมีผู้ปกครองที่คิดแบบนี้อยู่จริงๆๆ โลกแคบมากคับ - -" จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 17:29:51

ความคิดเห็นที่ 2 พูดจาหยาบคาย คงมีทุกมหาวิทยาลัยค่ะ แล้วแต่คนมากกว่า ต้องดูว่าหยาบแบบไหน คุยกันเล่นๆ ในหมู่เพื่อนๆ หรือว่า ด่าทอกันจริงๆจังๆ เรื่องเที่ยว ไปเที่ยวแบบไหนคะ เที่ยวกลางคืนเที่ยวผับไรงี้ หรือว่าแค่เดินห้างดูหนังกินข้าว หรือไปเที่ยว ต่างจังหวัดคะ เด็กๆ เพิ่งจะได้ออกไปดูโลกกว้าง ก็ให้เขาเรียนรู้ไปเถอะค่ะ แค่คุณเตือนว่าให้ระวังตัว ให้มีสติ อย่าทำร้ายใคร และอย่าให้ใครมาทำร้ายก็พอ เพื่อนเราบางคน ทำตัวแบบที่คุณว่า จบออกมาเกรด 3 กว่า ทำงานดีๆ ก็มีนะคะ จากคุณ : SCHIST เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 17:37:20

ความคิดเห็นที่ 3 คุณเห็นแต่ด้านไม่ดี อย่าเหมารวมสิครับว่าที่นี่ไม่ดี ลองมองกว้างๆครับ จากคุณ : idolking เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 17:38:01

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเริ่มเป็นผู้ใหญ่มีโลกของตัวเอง เรื่องไปเที่ยวเป็นของธรรมดา พ่อแม่หลายคนยังเห็นลูกเป็นเด็กตลอด วัยนี้แล้วไม่ควรไปยุ่งกับเขามาก แค่คอยตักเตือนอยู่ห่างๆก็พอ อีกไม่นาน(3ปีกว่า)ก็เรียนจบแล้ว ตอนนี้เขาต้องเริ่มรับผิดชอบจัดการชีวิตตัวเองให้ได้แล้วครับ จากคุณ : เสธแก่ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 18:03:17

ความคิดเห็นที่ 5 ผมจบมหาวิทยาลัยกลางเมือง ตอนปีหนึ่งพูดจาหยาบคายเหมือนกันครับ โดดเรียนเหมือนกันครับ สอบภาคแรกได้แค่ 1.52 เกือบรีไทร์ (ถ้า <1.5 โดน) อยู่ไหนก็เหมือนกันครับ เด็กออกจากรั้วโรงเรียนใหม่ๆ ก็เป๋บ้าง ตอนมัธยมเป็นเด็กเรียน เข้ามหาวิทยาลัยก็อยากลองอะไรแปลกใหม่ หวังว่าลูกคุณคงได้คิดและกลับเข้าที่เข้าทางเร็ว เพราะเด็กจบลาดกระบังเก่งนะครับ ที่ทำงานผมรับเด็กวิศวลาดกระบังมากเลย จากคุณ : I love Alpha เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 18:07:21

ความคิดเห็นที่ 6 ขอเล่าจากประสบการณ์เด็กต่างจังหวัด เข้ามาเรียนในเมืองกรุง และเพื่อน ๆ ที่รู้จักกัน ... คนเราส่วนใหญ่ชอบมองปัจจับภายนอก มากกว่าเรื่องของตัวเอง การพูดจา แบบนี้ผมว่ามันก็มีทุกสถาบันแหละครับ อาจจะมีตั้งแต่โรงเรียนมัธยมด้วยซ้ำ แต่ละภาควิชาก็จะมีจำนวนนักศึกษาประมาณ 100 คนอาจจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ภาควิชา ผมเชื่อว่านักศึกษาในจำนวนนี้มีไม่น้อยที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร ที่จะสามารถไปทางเดียวกันกับลูกคุณได้ พึ่งเข้ามาใหม่อาจจะยังไม่รู้จักกันมาก มนุษย์เราจะเชิดชู ยกย่อง นับถือ และพูดถึงกันเป็นส่วนใหญ่ คือ เรื่องดี กับ เรื่องไม่ดี ก็คิดดูแล้วกันว่าถ้าเป็นเรา ๆ อย่างให้คนอื่นนับถือเราในไหนมากกว่ากัน ถ้างั้นลองให้ลูกคุณอยู่หอในดีไหม เนื่องจากหอในมีเวลาเปิด-ปิด เป็นเวลา และยังต้องมีการทำกิจกรรมหอร่วมกับคนอื่น ๆ ด้วย เพื่อจะได้มีระเบียบวินัย และการเข้าร่วมสังคมกับผู้อื่น มากขึ้นด้วย ช่วงปี 1 เนี่ยแหละที่ต้องระวังมาก ๆ เพราะเราเข้าไปเรียนใหม่ ยังไม่รู้ว่าสังคมแบบใหม่เป็นอย่างไร เนื้อหาวิชาที่ต่างไปจากการเรียนมัธยม กิจกรรมอีก สิ่งที่อาจารย์เขาพูดนะถูกแล้ว และต้องระวังปีอื่น ๆ ด้วย อยากให้ใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่า เด็กสมัยนี้ถ้าไปอะไรมากก็จะเกิดการต่อต้านแหละ ให้เขาอยู่ในสายตาเรา เป็นเสมือนเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาดีกว่า ขอบคุณครับ จากคุณ : UntamanEi เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 19:55:34

ความคิดเห็นที่ 7 ที่ไหนก็มีเด็กพูดจาหยาบคายทั้งนั้นล่ะค่ะ หนูมีเพื่อนเรียนวิศวะลาดกระบังปี1 นิสัยดี อาจจะไม่ได้พูดเพราะมากตลอดเวลา อยู่ที่กาลเทศะ บางครั้งในหมู่เพื่อนก็มีบ้างที่พูดหยาบคาย แต่ก็ไม่ได้มากมาย เพื่อนหนูผู้หญิงนะคะ แต่ผู้ชายก็คงเหมือนกัน อย่าคาดหวังว่าถ้าให้ลูกย้ายมหาลัย แล้วจะเจอเพื่อนที่เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้เลยค่ะ ไม่มีทางแน่ๆ ปี1 เพิ่งหลุดจากกรอบของโรงเรียนมัธยมได้ไม่นาน เด็กมันก็ต้องอยากเที่ยวบ้างเป็นธรรมดา ถ้าเที่ยวแล้วไม่เสียการเรียนก็ปล่อยๆบ้างก็ได้ค่ะ หมายถึงเที่ยวธรรมดานะคะ :) จากคุณ : Soleindee เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 20:03:32

ความคิดเห็นที่ 8 สังคมที่นั่นมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะครับ จริงๆแล้วออกแนวแข่งกันเรียนด้วยซ้ำ ที่ว่าพูดไม่สุภาพนั้นกับใครเหรอครับ และไม่สุภาพขนาดไหน ส่วนเรื่องเที่ยวบ่อย บ่อยขนาดไหนเหรอครับ วันละครั้ง อาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง แล้วเที่ยวสถานที่แบบไหน ขอความกรุณาคุณผู้ปกครองมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ไหมครับ จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 20:13:08

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนที่โดนไทร์ ก็เป็นอย่างที่ท่านอ.ว่าจริงครับ คือเนื้อหาที่วิศวะเรียนนั้นหนักมาก และเด็กๆที่เพิ่งผ่านม.ปลายมาจะต้องปรับตัวเยอะมากให้เรียนไหว ถ้าปรับตัวไม่ทันก็จะเกรดน้อยมาก แล้วถ้าได้เกรดน้อยมากตั้งแต่ปี 1 โอกาสโดนไทร์ก็สูงครับ ยังไงรบกวนคุณผู้ปกครองมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นจะถือว่านี่เป็นกระทู้ล่อเป้านะครับ จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 20:18:10

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกผมพูดจาเหมือนเดิม ขยันเรียนมากขึ้น เกรดสูงกว่าตอนเรียนมัธยม มีความสุข ภูมิใจ ไม่เคยเสียใจที่ไม่ยื่นแอดมิชชั่นจุฬาแม้คะแนนจะถึง ลูกมีความสุขผมก็มีความสุขด้วย จากคุณ : vision เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 20:53:19

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนเราเรียนที่นั่นเพื่อนผู้ชายเราก็พูดจาหยาบคายบ้าง สังคมวิศวะนี่หน่า เวลาผู้ชายอยู่รวมกันเยอะๆ ก็พูดจากันแบบนี้แหล่ะ ผู้หญิงแบบเราก็มีบ้างที่พูดไม่เพราะ แบบว่าอยู่กับเพื่อนผู้ชายอ่ะทำตัวหน่อมแน้มมากก็ไม่ได้ บางทีก็มีทะลึ่งบ้างเหมือนกัน เวลาจบไปทำงานถ้าสายวิศวะจริงๆ บางทีเจอพูดจายิ่งกว่านี้อีกค่ะ คนในคณะมีหลายร้อยคนอยู่ที่ตัวเราว่าจะเลือกคบใคร เพื่อนในห้องมีทุกแบบ มีทั้งเด็กเรียน เด็กเนิร์ด เด็กเกเร เด็กเที่ยว มีหมดแหล่ะค่ะ แต่เราเลือกได้นี่ว่าจุเป็นยังงัย มีหลายคนหัวดีเรียนไม่เข้าเรียนเที่ยวตลอดสอบมาได้คะแนนเยอะกว่าคนเข้าเรียนก็มีค่ะ พวกโดนไทร์นั่นคือสุดๆแล้วเหมือนที่ อ. ท่านบอกแหล่ะค่ะ เหตุผลที่ จขกท. บอกมาไม่ใช่สิ่งที่เอามาตัดสินว่าสถาบันไม่ดีหรือเลวร้ายนะคะ จากคุณ : เดียร์คุง เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 21:40:59

ความคิดเห็นที่ 12 #8 ลูกเราเป็นผู้หญิงนะคะ ลูกมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ คะแนนลูกสามารถไปยื่นที่ไหนก็ได้ แต่ลูกเลือกที่จะอยู่ที่ลาดกระบัง เราเคารพการตัดสินใจของลูกถึงได้ยอมให้มาอยู่ที่นี่ แต่การพูดจาในกลุ่มเพื่อน ๆมีแต่ กู mng คำอุทานก็จะเป็น "พ่อmng" สิงสาราสัตว์ ขอบอกว่าลูกเราไม่เคยพูดจาอย่างนี้ พอเราท้วงว่าพูดไม่เพราะเลยลูก ลูกตอบว่าก็เพื่อนๆพูดอย่างนี้ ลูกภูมิใจแต่พ่อแม่เสียใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ส่วนเรื่องเที่ยวก็ไม่ได้สำมะเลเทเมาอะไร กินข้าว ดูหนัง เที่ยวห้างธรรมดา เพียงแต่ว่าเกือบทุกวันเท่านั้น ยังดีที่ลูกยังไม่โกหกจะไปไหนก็บอก แต่ไม่เข้าใจว่าถ้าเรียนยากเย็นอย่างที่บอก ทำไมไม่ชวนกันดูหนังสือ ติวหนังสือกัน เดือนหน้าก็จะสอบแล้ว อาจารย์ก็ไม่ยอมประกาศผลสอบซะที เด็กๆก็เลยยังไม่รู้ตัวคะแนนแย่ขนาดไหนต้องปรับปรุงยังไง เราเป็นแม่นะคะ ไม่อยากให้อะไรสายเกินไป ถ้าลูกมาอยู่ในเมืองอย่างน้อยก็ยังอยู่ในสายตาเราทุกวัน ทุกวันนี้ก็ได้แต่โทรศัพย์คุยกับลูกบ่อยๆ อยากจะทราบว่าลูกใครเป็นบ้าง ก็กลายมาเป็นล่อเป้าซะอีก #10 ดีใจด้วยค่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 22:08:00 A:58.11.43.20 X: TicketID:340380

ความคิดเห็นที่ 13 ทำไมไม่ให้เด็กจัดการชีวิตของเด้กด้วยตนเอง แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ลูกจะโต แล้วถ้าจบไปทำงานลูกจะมีวุฒิภาวะในการจัดการชีวิตของตนเองได้อย่างไร จากคุณ : Son of Library เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 22:23:04 A:118.173.80.25 X: TicketID:348945

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีฮะ นี่คุณนายจินดา แม่พี่ธีร์ใช่มั้ยฮะ จากคุณ : ร่อนเร่ ณ ถนน เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 22:43:05

ความคิดเห็นที่ 15 ฟังดูน่าจะเป็นที่ตัวเด็ก มากกว่าสถาบันนะคะ เด็กพูดจาหยาบคาย และวันๆเอาแต่ชวนกันไปเที่ยว มีทุกที่ค่ะ ลองเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนมั๊ยคะ ถ้ากลุ่มนี้ พูดจาหยาบคาย และวันๆเอาแต่ชวนกันไปเที่ยว น่ะค่ะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 01:47:26

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับคุณผู้ปกครอง คือตอนแรกเห็นที่หัวกระทู้ว่าไม่ใช่แค่ถามความเห็นผู้ปกครองท่านอื่น แต่ลามไปถึงว่าอ.ว่าหลอกตัวเองด้วยน่ะครับ เลยเข้าใจผิดว่าเป็นคนไม่ปรารถนาดีจะทำลายชื่อเสียงสถาบัน ต้องขออภัยด้วยครับ ผมเป็นผู้ชาย แต่คำที่คุณพูดมาผมไม่เคยได้ยินและไม่เคยพูดเลยครับ โดยเฉพาะจากผู้หญิง ยิิ่งพวกคำสิงสาราสัตว์นี่ ผมว่าลูกคุณอาจจะไปคบกับกลุ่มที่พูดจาไม่สุภาพมากกว่า ซึ่งตรงนี้มหาวิทยาลัยไหนๆก็มี หรือในที่ทำงานบางที่ก็ยังมีครับ แทนที่จะว่าเหมารวมทั้งสถาบันทั้งบริษัท ผมว่าคุณแม่จะต้องสอนลูกครับ ว่าพูดอย่างนี้ไม่เพราะเลย พูดไม่เพราะแล้วจะไม่มีคนรักนะ อะไรประมาณนี้อะครับ คือลาดกระบังไม่ได้สังคมแย่ขนาดที่พูดจาไม่ดีกันทั้งมหาวิทยาลัย พอมีคนพูดจาสุภาพคนนึงจะกลายเป็นแกะขาวในหมู่แกะดำที่เพื่อนๆไม่คบ ไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ ส่วนตัวแล้วผมเคยรู้จักผู้หญิงคนนึงหลังเรียนจบ เธอเรียนจบป.ตรีที่เกษตร ป.โทที่มหาลัย XXX (ในกรุงเทพแห่งหนึ่ง) รู้จักกันแค่ไม่กี่วัน เธอก็เรียกผมว่า เอ็ง mึง แบบกระชากน้ำเสียงด้วย ขนาดผมฟังแล้วสะดุ้งเลย คือหยาบคายมาก ขนาดที่ผมไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนในชีวิต แม้แต่จากเพื่อนผู้ชายในลาดกระบังคน ผมเลยถามเธอว่าทำไมพูดแบบนี้ เธอตอบว่าเธอชินเพราะที่มหาลัย XXX ที่เธอเรียนโท เพื่อนเธอพูดกับเธอแบบนี้ แต่ผมเองก็ไม่โทษมหาลัย XXX ทั้งมหาลัยนะครับ เพราะเพื่อนสมัยมัธยมผมหลายคนที่เข้าเรียนป.ตรีที่ม. XXX นี้ก็ไม่ได้พูดจาอย่างนี้เลย ออกจะสุภาพด้วย ผมเลยว่าเธอน่าจะไปคบกับกลุ่มเพื่อนเกเรมากกว่า ซึ่งตรงนี้ที่ไหนก็มีอะครับ ไม่ใช่แค่ลาดกระบังหรือม. XXX แต่ที่สำคัญคือการเลือกคบเพื่อนครับ ตอนผมอยู่ที่นั่นผมเลือกคบเพื่อนชนิดที่ทำให้ผมไม่เคยได้ยินคำแบบนั้นตลอด 4 ปีเลย ส่วนเรื่องเที่ยวถ้าเที่ยวเกือบทุกวันก็แปลกอยู่นะครับ เพราะแถวนั้นแทบจะไม่มีที่เที่ยวอะไรเลย ใกล้สุดก็ซีคอนซึ่งก็เป็นห้างออกแนวต่างจังหวัดไม่ได้น่าเที่ยวเท่าไร แต่กลุ่มเที่ยวกลางคืนก็มี (ก็มีทุกมหาลัย) ตรงนี้คุณแม่ต้องระวังไม่ให้ลูกไปคบกับพวกนี้ด้วยครับ พวกนี้ไม่เยอะเท่าไร อย่างภาควิชาผม 100 คนจะมีพวกเที่ยวกลางคืนประมาณ 3 คน เรื่องกลุ่มที่รวมกันติวก็มีนะครับ อยู่ที่ว่าลูกคุณแม่จะไปคบกับเค้าหรือเปล่า คือสังคมมหาวิทยาลัยมันก็เหมือนสังคมจริงๆขนาดย่อมอะครับ คือมีคนเกือบทุกแบบ อยู่ที่ว่าจะไปคบคนแบบไหน ส่วนเรื่องประกาศผลสอบช้านี่เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะเด็กเยอะ หรือไม่ก็ขั้นตอนล่าช้าครับ ถ้าคุณแม่อยากรู้ว่าลูกของท่านอื่นเป็นอย่างไรผมจะเล่าจากเพื่อนๆผมให้ฟังแล้วกันครับ หลังจากจบใหม่ๆ เพื่อนผมบางคนก็ได้ทุนไปเรียนต่อจนถึงป.เอกที่ต่างประเทศ บางคนก็เข้าบ.ระดับโลกได้เงินเดือนหลักแสน บางคนก็เข้าทำงานบ.ธรรมดาแต่ได้เงินเดือนสตาร์ทมากหน่อย ก็มีหลากหลายแบบแหละครับ แต่ละคนก็มีความสุขตามสถานะของตัวเอง และทุกคนภูมิใจที่จบที่นี่ครับ ส่วนที่จะเสียคนไปเลยผมไม่เคยเห็นครับ (ไม่นับพวกไทร์ เรียนไม่จบนะครับ) ทั้งหมดเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ยังไงก็ขอให้ลูกสาวคุณแม่ ซึ่งนับเป็นรุ่นน้องผมด้วยประสบความสำเร็จในชีวิตนะครับ จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 02:11:44

ความคิดเห็นที่ 17 ผมยังไม่มีลูก แต่ผมเรียนที่นี่มาตั้งแต่ ตรี โท เอก สังคมที่นี่ ไม่ได้เลวร้ายอะไรตรงไหนเลย คุณเลือกจะมองแต่ด้านลบ มันก็เจอแต่ด้านลบ ทั้งๆ ที่ด้านดีก็มี และความจริง ทุกที่ทุกแห่ง ก็จะมีด้านลบด้านบวกแบบนี้คล้ายๆ กัน (เพียงแต่ยังไม่ได้ไปเจอ เลยไม่เห็น) เรื่องพฤติกรรมลูกของคุณ แทนที่จะเหมาสังคม ผมว่าลองมองตัวเองก่อนดีกว่าไหมครับ ผมแปลกใจอย่างหนึ่งว่า ทำไมลูกคุณถึงแยกแยะสิ่งถูกสิ่งผิด สิ่งสมควรไม่สมควรไม่ได้ ช่วงหลังมานี้ ผมพบปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง คือเด็กมักจะมีสติน้อย มีกาลเทศะน้อย มีความคิดไม่มากพอ ซึ่งผมมองมันเป็นปัญหาฝังรากมาจากครอบครัวแต่ต้นเสียมากกว่า บอกตามตรง สมัยผมเรียน ป.ตรี ที่นี่ การพูดจาอะไรออกจะเถื่อนกว่าปัจจุบันเสียด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่เคยติดมาเป็นนิสัย (เรื่องพูดหยาบคายในวงเพื่อนอันนี้ผมถือว่าปกตินะครับ แต่เวลาอยู่ภายนอกต้องงดคำหยาบ) เหล้ายาผมก็ไม่ค่อยกิน เที่ยวก็ไม่เคยเที่ยว แม้แต่ปัจจุบัน เด็กเที่ยวหยำเป ไม่ค่อยเรียน ก็มี แต่เด็กรักเรียน ตั้งใจเรียน ไม่เกเร ก็มี ก็น่าแปลกที่ลูกคุณเลือกคบแต่พวกแรก ทำไมคิดไม่ได้ว่าเพื่อนแบบไหนสมควรคบ และอีกอย่าง เด็กดีกับเด็กเกเร มันก็มีพอๆ กันนั่นแหละครับ และส่วนใหญ่ มักจะเป็นแบบลุ่มๆ ดอนๆ คือเที่ยวบ้างเล่นบ้าง แต่ถึงเวลาต้องเรียนต้องสอบ ก็ยังเอาตัวรอดไปได้ (ไม่ถึงกับเกเรเหลวแหลก) ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่า การแก้ปัญหาด้วยการให้ไปเรียนที่ใหม่ เป็นเรื่องถูก ก็ทำไปเถอะครับ จะได้สบายใจ เอาไว้ถ้าเปลี่ยนไปหลายที่แล้วยังเหมือนเดิม ค่อยมาดูกันว่า จริงๆ แล้ว ปัญหามาจากสังคม หรือมาจากตัวบุคคลกันแน่ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 03:20:04

ความคิดเห็นที่ 18 แก้ปัญหาที่ตัวของเด็กเอง จากคุณ : วาหนิติ์นิกร เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 08:27:03

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องนี้แก้ไขได้ง่ายๆนะคะ ถ้าลูกยอมที่จะยื่นคะแนนแล้วไปเริ่มปี 1 ใหม่ที่วิศวจุฬา ก็ให้ลูกทำเลย เพราะเท่าที่อ่านดู รู้สึกว่า ผู้ปกครองไม่ค่อยภาคภูมิใจกับสถาบันนี้เท่าไหร่ ปัญหาเล็กน้อยประเภทเด็กพูดไม่เพราะก็ยังเป็นประเด็นได้ ที่จริงแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับลูกเราทั้งนั้น ไม่ว่า จะเป็นการเลือกคบเพื่อนหรือการเที่ยวเตร่  โดยส่วนตัว เป็นศิษย์เก่าวิศวลาดกระบัง ก็ภาคภูมิใจในสถาบัน รักเพื่อน รักอาจารย์ และบ้านก็อยู่ใกล้สถาบันมาก แต่ลูกสาวก็เลือกที่จะเรียนวิศวจุฬา ยอมเดินทางไกลเพราะเค้าต้องการอย่างนั้น แต่ละสถาบันจะมีนักศึกษาที่มีบุคลิกเฉพาะตัว เราก็เคารพการตัดสินใจของลูก เพราะเชื่อว่า ไม่ว่าจะเลือกอะไร ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและ ข้อเสีย แต่คนที่เลือกจะต้องพยายามแก้ไขถ้าเกิดปัญหาใดขึ้น เท่าที่ดู การเรียน การสอนไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่จุฬาแข่งกันเรียนมาก เหมาะกับเด็กขยัน ติดหรูหน่อย ส่วนลาดกระบังก็เน้นลุยๆกว่า วิชาการพอๆกัน ขี้เมาพอๆกัน เรียนจบก็มาวัดกันที่ความสามารถอีกที    ลูกชายคนเล็กอีกคนก็อยากเรียนวิศวะ คราวนี้เราพาทัวร์คณะเลย เพื่อโน้มน้าวจิตใจ และได้ผล ลูกชายตั้งเป้าจะเรียนที่ลาดกระบัง ดีใจสุดๆ จากคุณ : ภารนัย เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 08:40:57

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ใช่ลูกแต่เป็นหลานสาวคะ อยู่วิศวฯปี 3 เรื่องการพูด ขอบอกว่าเป็นพื้นฐานของเด็กๆ แต่ละคนคะ อันนี้เราไปกำหนดกฎเกณฑ์ไม่ได้ เรื่องการเรียนชวนกันเที่ยวไม่เห็นจริงคะ หลานสาวทั้งเรียนพิเศษ ทั้งทำงาน จนดึกจดื่น ยังบ่นว่าเกรดไม่ค่อยดีเลย อยู่หอนอกคะไม่ใช่หอใน รวมๆ ก็ขึ้นอยู่กับลูกคุณจะเลือกคบคนด้วยนะคะ ถ้าครอบครัวไม่ปลื้มเด็กไม่ปลื้ม ก็แล้วแต่ครอบครัวคะ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่ก็คงมีไม่แปลกอะไร จากคุณ : aomsining เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 09:26:13

ความคิดเห็นที่ 21 เรามีลูกสาวเรียนสตรีล้วน เพื่อนลูกก็พูดแทนตัวแบบสมัยพ่อขุนราม เราถามลูกว่ามีใครพูดกับลูกแบบนี้บ้าง ลูกตอบไม่มีเพราะลูกแทนตัวเองว่าเราและเรียกชื่อเพื่อน บางทีถ้าเพื่อนลูกเผลอพูด  ลูกเราจะมองแล้วเฉยๆเพื่อนก็จะรู้ตัวขอโทษลูกแล้วเรียกชื่อเล่นลูก เพราะเพื่อนรู้ว่าลูกไม่ชอบ แต่ยอมรับตัวตนของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ลูกเราก็คบกับเพื่อนกลุ่มนี้มา 6 ปี  พอปีนี้เข้ามหาวิทยาลัยถามลูกว่ามีเพื่อนผู้ชายพูดภาษาพ่อขุนกับลูกหรือเปล่าตอบไม่มี แต่มีพูดกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นซึ่งพูดกัน ก็คบกันได้ไม่มีปัญหาอะไร เรียนก็ดีอยู่ม.เกษตรบางเขน คะแนนลูกเราก็ถึงจุฬาและเป็นคะแนนเป็นเป็นที่หนึ่งของคณะ ลูกเราไม่สนใจค่ะ จากคุณ : เจ้ากัน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:21:13

ความคิดเห็นที่ 22 เราจบจากลาดกระบัง แค่เราเป็นเด็กต่อเนื่องน่ะ แรกๆ เพื่อนก็คุย มรึง กรู แต่เราก็แทนตัวด้วยชื่อเรา และเรียกชื่อเค้าตลอด หลังๆ ก็คุนกันด้วยชื่อ ถึงแม้จะมีบ้างที่คุยเหมือนเดิม แต่ก็ไม่มีใครว่าเราน่ะ มันอยู่ที่การวางตัวและการคบเพื่อนค่ะ ได้เพื่อนดี เพื่อนก็พาจบเหมือนเรา เราไม่ได้ขยันเรียนอะไรมากมาย แต่ถึงเวลาเรียนก็เข้าเรียน ถึงเวลาสอบก็อ่านหนังสือ อาจจะมีออกนอกลู่นอกทางบ้าง สุดท้ายต้องรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร สุดท้าย เราภูมิใจมากที่เราจบจากสถาบันนี้ เพื่อนๆเราก็มีงานดีๆ มีชีวิตที่ดีกันทุกคน จากคุณ : กาแฟโบราณไม่ใส่นม (กาแฟโบราณไม่ใส่นม) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:15:15

ความคิดเห็นที่ 23 #คุณผมรู้คะ เราไปรับและส่งลูกทุกสัปดาห์ ส่วนใหญ่จะพูดแบบนี้ค่ะ ผู้ชายไม่ให้เกียรติผู้หญิง ข้อนี้เราสังเกตจากการกระทำของรุ่นพี่ด้วยนะคะนะคะไม่ใช่เฉพาะปี1 แล้วเดี๋ยวนี้เด็กไปไกลถึงเมกะบางนานะคะ เราไม่ได้อคติกับสถาบันนะคะ เรามีเพื่อนจบจากลาดกระบังและเป็นผู้บริหารชลัมนะคะ แต่ศิษย์เก่าลาดกระบังควรจะยอมรับว่า เดี๋ยวนี้ลาดกระบังอยู่ในยุคกินบุญเก่าค่ะ ลองดูการจัดอันดับมหาวิทยาลัยดูก็ได้ค่ะ เด็กนะคะ เค้าเกิดมากี่วันคะ อายุเพิ่ง 17ปี ถ้าพ่อแม่ปล่อยปละละเลยมากก็จะเหมือนกับ เด็กช่างกลที่วันๆเอาแต่บ้าสถาบันจนไปทำร้ายใครก็ไม่รู้ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:46:31 A:110.168.187.119 X: TicketID:340380

ความคิดเห็นที่ 24 #21 คะ ตอนอยู่มัธยมปลายลูกเราก็เป็นอย่างนั้นคะ แต่พอมาอยู่ที่นี่ เค้าไม่เรียกชื่อเล่นค่ะ เค้าตั้งชื่อประหลาดๆให้คะ เราได้ยินกับหูเลยค่ะ ลูกเราแทนตัวเองด้วยชื่อเล่น แต่เพื่อนแทนตัวเองว่า กูค่ะ เวลาเราเจอนักเรียนหญิงพูดจาอย่างนี้ เรามักจะชี้ให้ลูกดูทุกครั้ง แต่มาอยู่ที่นี่ชี้ไม่ไหวค่ะ เยอะเกินไปค่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:52:01 A:110.168.187.119 X: TicketID:340380

ความคิดเห็นที่ 25 ในฐานะศิษย์เก่า สจล. แต่เป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งเข้าใจว่าสภาพสังคมไม่แตกต่างกัน เพราะเราก็มีเพื่อนผู้ชายและหญิงที่เรียนวิศวะด้วยเช่นกัน โดยส่วนตัวแล้วแม้เราจะเป็นผู้หญิง ในกลุ่มผู้หญิงด้วยกันเองก็พูดไม่สุภาพด้วยกันทั้งนั้น แต่ทั้งนี้เราก็รู้จักกาละเทศะ ถ้าอยู่ในห้องเรียน ต่อหน้าอาจารย์ พวกเราก็รู้ดีว่าควรใช้วาจาคำพูดอย่างไร ถ้าอยู่ในห้องแลบมีแต่เพื่อนกันเอง ก็เอะอะมาพาโวยกันเป็นเรื่องปกติ ส่วนเพื่อนวิศวะเวลาเค้าพูดจากันในกลุ่มไม่ว่าจะกับชาย-ชาย หรือชาย-หญิง ก็มีทั้งพูดสุภาพและไม่สุภาพกันทั้งนั้น และเค้าก็สามารถระงับอาการ เลือกใช้คำพูดที่เหมาะสมกับกาลเทศะได้เช่นกัน มันขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่าสถาบันนะคะ คุณ จขกท. อาจจะแนะนำหรือย้ำเตือนลูกถึงกิริยามารายาททางสังคมที่เหมาะสมในเรื่องการใช้คำพูด ถ้าลูกเป็นเด็กเชื่อฟังและคิดได้ เชื่อว่าน้องคงปรับปรุงตัวได้ดีขึ้นนะคะ ส่วนเรื่องเที่ยวเตร่นั้น เป็นธรรมดาของเด็กที่เพิ่งออกสู่โลกกว้าง เราก็เป็นเช่นกัน และเพื่อนในกลุ่มเองก็มีทั้งเด็กเรียนและไม่เที่ยว กับเด็กเที่ยวแต่เรียนได้เกียรตินิยม  แรกๆก็อาจจะไปกับเพื่อนบ้าง แต่ก็บอกพ่อแม่ทุกครั้ง แต่เนื่องจากที่บ้านไม่ชอบให้เที่ยวแบบนั้น และเราก็คิดเองได้ว่าที่เหล่านั้นคือที่อโคจร เราก็เลือกที่จะไม่ไปเอง สำหรับกรณีลูกคุณ จขกท. ลองปล่อยให้ลูกไปเผชิญโลกกว้างสักพัก คอยตบๆให้เข้ารูปเข้ารอย ถ้าน้องเค้าฉลาด น้องเค้าก็จะหาทางเดินชีวิตที่ดีให้กับตัวเองได้แน่นอนค่ะ จากคุณ : สุดสวาทขาดใจ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 17:31:46

ความคิดเห็นที่ 26 ย้ายมาเรียนวิดวะ จุฬา เอ้อ คณะนี้นี่ตัวพ่อเลยนะคะ ไม่ได้พูดเพราะนะคะ บางทีกินเหล้า ด้วย  เคยเรียนวิชาเลือกนอกคณะกับเด็กวิดวะ เค้าเล่าให้ฟัง ลองเรียนแผน วิดวะ อินเตอร์มั๊ยคะ ไม่ต้องพูดภาษาไทย แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 08:48:35 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 08:45:36

ความคิดเห็นที่ 27 ผมจบจากที่นี่.........ผมไม่รู้ว่าลูกคุณเป็นอย่างไร ผมว่านี่เป็นบทพิสูจน์หนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่าลูกคุณโตพอ และพร้อมที่จะออกไปเป็นวิศวกรแล้วหรือยัง บริษัทที่ผมทำงานพูดจาหยาบกว่าในสังคมเพื่อนฝูงเสียอีก กะลามันมีไว้ครอบกบ ไม่ได้มีไว้ครอบ(ว่าที่)วิศวกรนะครับ......ผมได้คำนี้มาจาก อ.ที่สาขาผม แล้วทุกวันนี้ที่ผมทำงานก็ยังนึกถึงคำนี้เสมอ จากคุณ : Project Eng (น้องปลวก_4Y) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 13:45:56

ความคิดเห็นที่ 28 จาก คห.ที่ 23 พารากราฟที่ 2 ไม่ได้มีอคติ แต่คำพูดแบบนี้ ก็ไม่ได้ต่างกันหรอกครับ คุณมั่นใจเรื่องการจัดอันดับ แต่ตอนเข้าทำงาน เข้าไม่ได้เอาการจัดอันดับมาพิจารณาการรับเข้าเลย แต่เค้าดูที่การปฏิบัติงานจริงๆ ก่อนหน้านี้ Ranking ของลาดกระบังแย่กว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความสามารถของบัณฑิต ที่แสดงให้เห็น หากคุณมีเวลาคุณควรจะเอาไปค้นหาการจัดอันดับคุณภาพบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยต่างๆ แล้วคุณจะค้นพบโลกของความเป็นจริง จากคุณ : Project Eng (น้องปลวก_4Y) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 13:53:08

ความคิดเห็นที่ 29 เรียนถาม จขกท. ฟังภาษาอังกฤษออกไหม ถ้าไม่ออกก็ส่งลูกไปนอกเลยครับ ถ้าฟังออกก็ส่ง ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส จะได้ฟังไม่ออกเวลาลูกพูดคำหยาบ แล้วไม่ต้องเก็บมาเครียด เพราะถึงยื่นแอดไหม่ ต่อให้ต่างมหาลัย ต่างคณะแบบสุดขั้ว อย่างอักษร หรือ ศึกษา ยังไงคุณก็ต้องเจออยู่ดี ไม่แน่อาจเครียดกว่าเดิมอีก - - จากคุณ : วุฒิสันติ์กุล เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 16:22:32

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไม่รุ้อะ แต่เข้ามาปี1 อาจารย์ก็จัดติวmathให้กันจนยันเช้าอะ แถมอัดลงแผ่นมาให้ นักศึกษากลับไปดูอีก อ่านtextเป้นกิจวัตรอะครับ ยิ่งตอนช่วงสอบอ่านหนังวสือ ติวกะเพื่อน ตรงโรงอาหาร ยันเช้าอะครับบ บอกตรงๆๆ ครับอยู่ที่นี่อ่านหนักยิ่งกว่าตอนสอบเข้าอีก power 47 จากคุณ : นายบ้าบอ (นายบ้าบอ) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 16:45:09

ความคิดเห็นที่ 31 แค่พูดไม่เพราะ เอง ทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต เด็กๆ เค้าก็รู้จักแยกแยะเอง หรอก ว่าคำใหนควรจะพูดกับใคร จากคุณ : empaza เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 17:31:34

ความคิดเห็นที่ 32 ลาดกระบังเองผมอยู่มาก็มีคนที่พูดจาดีๆไม่หยาบคายเหมือนที่คุณเจอมาตั้งเยอะแยะมันอยู่ที่การเลือกคบเพื่อนฝูงของลูกคุณมากกว่าครับ ถ้าคุณคิดว่าลูกคุณพึ่งจะอายุ 17 ไม่ควรปล่อยปะละเลย คุณน่าจะสอนลูกคุณให้รู้จักเลือกคบเพื่อนฝูงและดูแลตัวเองมากกว่าที่จะมาคิดย้ายมหาลัยนะครับ เพราะไม่ว่าคุณจะย้ายลูกคุณไปที่ไหนถ้าลูกคุณยังเลือกคบเพื่อนฝูงไม่เป็น คุณก็มีโอกาสที่จะพบกับปัญหาเดิมๆแหละครับ จากคุณ : CoNTROlMannER เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 18:41:53

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่องนี้รู้สึกว่าจะเป็นปัญหาเฉพาะบุคคลนะคะ ไม่ควรที่จะมาเหมารวมแล้วทำให้สถาบันเสื่อมเสีย เพราะถ้าคุณไม่รู้จริงๆก็ไม่น่าจะมาโพสต์แบบนี้นะคะ คุณก็ต้องยอมรับความจริงว่าสังคมปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว เด็กๆพูดจากสมัยพ่อขุนกันมากขึ้น มีทุกที่ทุกสถาบัน ต่อให้ย้ายที่เรียนแต่ถ้าลูกคุณเป็นคนแบบนั้นก้ไม่มีทางเปลี่ยนได้หรอกคะ อ.ในรั้วมหาวิทยาลัยท่านไม่ได้มานั่งคอยบ่นอบรมพฤติกรรมนิสัยการพูดการจาของทุกคนหรอกคะ (ใครกันล่ะคะที่ควรจะอบรม คุณ?) ส่วนเรื่องชวนกันไปเที่ยวทำไมไม่ชวนกันอ่านหนังสือ ทำไมคุณไม่ถามลูกคุณดูล่ะคะ ว่าเคยคิดที่จะชวนเพื่อนอ่านหนังสือรึป่าว หรือว่ารอแต่ให้เพื่อนชวนลูกคุณอ่านหนังสือ ถ้าลูกคุณทำดีที่สุดแล้วแต่สังคมกลุ่มเพื่อนเค้าเป็นแบบนั้น คุณก็น่าจะแนะนำให้เค้าไปหากลุ่มใหม่นะคะ คุณคิดว่าการย้ายที่เรียนคือวิธีที่ดีที่สุดแล้วหรือ(หนีปัญหา)คะ จากคุณ : เฟรชชี่ปีแก่ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 18:58:27 A:101.108.173.226 X: TicketID:374195

ความคิดเห็นที่ 34 ต้องขอชี้แจงคุณแม่ว่าเรื่องการจัดอันดับนั้นเค้าวัดจากองค์ประกอบรวมหลายอย่างของมหาวิทยาลัยครับ ไม่ใช่แค่คณะวิศวะนะครับ องค์ประกอบหนึ่งที่มีผลมากคือการเปิดวิทยาเขตใหม่ ซึ่งมหาวิทยาลัยที่เปิดวิทยาเขตใหม่ จะต้องทุ่มทุนลงไปตรงนั้นมาก ทำให้ผลการประเมินต่ำลง ลองสังเกตสิครับ ว่ามหาวิทยาลัยที่เปิดวิทยาเขตใหม่ ผลประเมินจะต่ำลงแทบทั้งหมด ยิ่งลาดกระบังเป็นสถาบันเทคโนโลยีที่เดิมก็มีคณะไม่เยอะอยู่แล้ว ทำให้ตรงนี้ฉุดเยอะครับ อีกประการคือลาดกระบังไม่มีคณะแพทย์ ที่เป็นคณะที่สร้างผลงานวิจัยได้มากที่สุดในมหาวิทยาลัยอื่นๆและเป็นคณะที่โดยปกติจะได้รับจัดสรรทุนวิจัยและทุนสนับสนุนเยอะที่สุด ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดเสียเปรียบ ประการสุดท้ายคือคณาจารย์ส่วนใหญ่ทางด้านสถาปัตยกรรมจะไม่นิยมเรียนถึงปริญญาเอกครับ (คือเป็นเรื่องปกติของวิชาชีพสถาปนิกโดยทั่วไป) และลาดกระบังมีอัตราส่วนอาจารย์คณะสถาปัตย์เยอะมากเพราะเป็นคณะใหญ่อันดับ 2 ของสถาบัน ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้เสียเปรียบเวลาถูกจัดอันดับครับ ถ้าคุณแม่อยากดูผลงานเฉพาะของคณะวิศวะ ลองอ่านกระทู้นี้ดูนะครับ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2012/06/K12284155/K12284155.html คุณ [-_-]][][][] รวบรวมมาได้เป็นระบบมากทีเดียว ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับคุณภารนัยครับ ว่าถ้าคุณแม่ไม่ภูมิใจในสถาบันนี้จริงๆ ให้ลูกเอนท์ใหม่เข้าจุฬาหรือไปเรียนต่อต่างประเทศก็ดีนะครับ เพราะชีวิตคนเราส่วนใหญ่ก็เรียนป.ตรีกันแค่ครั้งเดียว ถ้าได้ปริญญามาจากที่ๆไม่ภูมิใจ ก็อาจจะกลายเป็นปมไปตลอดชีวิตก็ได้ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 19:59:46 จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 19:58:11

ความคิดเห็นที่ 35 ผมก็เรียนวิศวะ ลาดกระบังนะ ปี 4 แล้วด้วย ผมคิดว่าเจ้าของกระทู้คงใช้มาตรฐานของเจ้าของกระทู้วัดซึ่งเป็นมาตรฐานของคนหัวโบราณใช้ไหม อย่างคำว่า "กู" สำหรับผมไม่หยายคาย แต่สำหรับเจ้าของกระทู้คือหยาบคายใช้ไหม อยากให้เจ้าของกระทู้นิยามคำว่าหยาบคายในความหมายของคุณนิดหนึ่ง ส่วนเรื่องเที่ยว ก็เป็นเรื่องปกติ เรียนมันเครียดก็ต้องเที่ยวบ้าง เออแต่ลาดกระบังมันมีที่เที่ยวด้วยหรอ ถ้าไม่อยากให้เที่ยวก็จำกัดค่าขนมลูกคุณซิ ส่วนที่บอกสังคมไม่ดีนี้คงเป็นในสายตาคุณใช่ไหม แต่สำหรับผมสังคมที่นี้ดีมาก ลองมาถามทุกคนที่ลาดกระบังได้ ว่าสังคมที่นี้ดีไหม รุ่นพี่ก็คอยดูแลรุ่นน้อง ส่วนที่อ.บอกโดนไทล์เยอะนั้น ผมว่าไม่จริง สถิติก็ไม่มีมายืนยัน แล้วคุณไปเชื่อได้อย่างไร แต่โดนไทล์อะมีจริงๆ จากคุณ : pb1302 (PB1302) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 19:58:25

ความคิดเห็นที่ 36 1. ในเรื่องสังคม ลาดกระบัง โดยเฉพาะวิศวะ ได้ชื่อว่าเป็นสังคมที่ช่วยเหลือกันค่อนข้างมากนะครับ อย่างน้อยเชื่อว่ามากกว่า ม. กลางเมือง เพื่อนจะสนิทกันมาก รุ่นพี่รุ่้นน้องจะสนิทกันดี แต่ก็อาจมีคนที่แยกตัว ซึ่งก็เป็นเรื่องของเขา ดังนั้นถ้ามองในด้านสังคม ผมคิดว่าสังคมที่นี่ไม่เลวร้าย ออกไปทางค่อนข้างดีด้วยซ้ำ 2. เรื่องพูดหยาบ ยอมรับว่า พูดหยาบ กู มริง เป็นเรื่องปกติครับ ถ้ามองว่าเป็นภาษาธรรมดาของเด็กวิศวะ ก็น่าจะยอมรับได้ ผมเองเห็นลูกศิษย์พูดแบบนี้ก็แปลก ๆ อยู่บ้าง แต่ก็คิดว่ามันเป็นสังคมของเขา มันแสดงถึงความสนิทกัน ก็ OK รับได้ 3. เรื่อง ชวนเที่ยว ลองดูว่าช่วงใกล้สอบ คือ เดือนนี้ นศ. ยังประพฤติแบบนั้นอีกหรือไม่ เพราะก็มีบ้างที่ นศ. ไปเที่ยวกัน แต่ปกติเมื่อใกล้สอบ ก็จะงดเที่ยว และหันกลับมาอ่านหนังสืออย่างจริงจังเพื่อเตรียมสอบ 4. ผมว่าดูเกรดเทอม 1 ก่อนดีมั้ย ถ้าลูกสาวประพฤติตัวยังไง แต่ถ้าผลการเรียนยังดี ก็น่าจะปล่อยเขา เพราะเขามีอิสระในการคบเพื่อน หรือไปเที่ยว แต่ที่สำคัญ คือ เขารับผิดชอบต่อหน้าที่หลัก คือ การเรียน หรือไม่ ต่างหาก จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 20:18:23

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าไม่พอใจในสถาบัน ก็บังคับลูกเลยค่ะ ซิ่วไปเลย พ่อแม่จะได้ภูมิใจค่า สังคมทุกที่ มีดีไม่ดี ต่างกันไปค่ะ ที่ลาดกระบัง เราจบมาอย่่างอบอุ่น ภูมิใจ และมีความสุขกับการเรียน การทำกิจกรรมมาก อาจจะพูดไม่เพราะกับเพื่อนบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้กับผู้ใหญ่ค่ะ จะให้พูดค้ะ กับเพื่อน หรือพูด mng ku กับผู้ใหญ่ ก็คงไม่ทำ จากคุณ : บัณฑิต คณะเยื้องๆกัน (ที่รักของพระอาทิตย์) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 20:19:44

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วถ้าน้องเขา เรียนจบมา จะออกไปทำงานได้ไหมคะ ถ้าได้ไปทำงานอยู่โรงงาน ไปคุมงานลูกน้อง ท่าทางคงจะไปไม่รอด ถ้าคุณผู้ปกครอง ยังจำกัดบังคับ ให้เขาอยู่ในโลกแคบๆ รวมทั้งคุณผู้ปกครองด้วย เปิดโลกกว้างได้แล้วคะ โดยส่วนตัวการพูดหยาบคายในกลุ่มเพื่อนที่สนิท เป็นเรื่องปกติ และเพื่อนคนไหนไม่สนิทก็ไม่เคยไปพูดหยาบคายกะเขาก่อนเลย ถ้าไม่สนิทกันจริงก้อไม่พูดหรอกคะ แล้วก็คิดว่าการที่พูดแบบนั้นมันทำให้เรากะเพื่อนสนิทกันมาก เราไม่ต้องมาใส่หน้ากากเข้าหากัน ความจริงใจมีเต็มเปี่ยม ไม่ได้รักสถาบันแล้วจะไปไล่ฟันไล่ยิงเหมือนเด็กอาชีวะหรอกนะคะ แต่ภูมิใจที่ได้เข้ามาเรียนที่สถาบันนี้ และรักในสถาบัน ถึงแม้จะเคยซิ่วจาก ม.ที่เขาเรียกนิสิตแทนนักศึกษา ถ้าน้องเขารู้ว่าแม่ของเขามาตั้งกระทู้แบบนี้ จะคิดยังไง แต่ถ้าเป็นแม่ของตัวเอง ก็คงจะไปอธิบายให้แม่เข้าใจ ว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเลย !! วิศวะลาดกระบังเราอยู่กันแบบ "เคารพพี่ รักเพื่อน ดูแลน้อง" จากคุณ : ศิษย์เก่ารุ่นน้ำหลาก เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 20:19:50 A:124.120.47.243 X: TicketID:374201

ความคิดเห็นที่ 39 จากที่ได้อ่านทั้งหมดรู้สึกว่าปัญหาทั้งหมดจากมาจากลูกสาวคุณเอง ไม่ได้มาจากสถาบันหรอกคะ เพราะผู้หญิงที่นี่ไม่ได้พูดไม่เพราะทุกคน ไม่ได้หยาบคายทุกคน ไม่ได้เที่ยวทุกวัน เหมือนลูกสาวคุณคะเรารับประกันได้ ดังนั้น หาก ลูกสาวคุณย้ายที่เรียน ก็คงไม่ได้แตกต่างจากเดิมหรอกคะ จากคุณ : มันเรื่องจริง (นู๋น้อยวุ่นวาย) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 20:46:21

ความคิดเห็นที่ 40 อยู่ที่คนครับ ผมปีสี่อยู่ลาดกระบัง ยังไม่เคยพูดหยาบกะเพื่อนในนี้ ผมตั้งเป้าไว้แล้ว จะพูดหยาบกะเพื่อนสมัยม.ปลายเท่านั้น จากคุณ : onspeed เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 21:10:52

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้วตลกดี  แต่ขำไม่ออก มีพ่อแม่จำนวนมาก  ที่เกิดปัญหาอะไรขึ้นก็ตาม  จะโทษสิ่งแวดล้อม  โทษลูกคนอื่นว่าเป็นตัวการทำให้ลูกของตนเป็นคนเลว คุณเคยเจอมั้ย  มีใครเคยพูดมั่งว่า "ลูกฉันนะหัวโจกเลย พาคนอื่นเที่ยวเตร่สำมะเลเทเมา"  มีแต่โทษว่าเพื่อนชักนำไป แล้วใครล่ะคะ  ที่เลี้ยงลูกจนหัวอ่อนเหลวไหลอย่างนั้น  เลี้ยงจนลูกไม่มีภูมิต้านทาน  เลี้ยงจนลูกไม่กล้าเป็นแกะดำ (ที่จริงต้องเรียกว่าเป็นแกะขาวนะคะ)  เลี้ยงจนลูกแบ่งเวลาไม่เป็น  รับผิดชอบตัวเองไม่ได้  ยิ่งเราอ่านที่คุณพูดว่า เห็นเด็กหญิงพูดคำหยาบ คุณก็ชี้ให้ลูกดู   เราทำอย่างนี้เหมือนกัน  ตอนลูก 4-5 ขวบค่ะ  ไม่ใช่ตอนลูก 17 ขวบ ฟังการเลี้ยงดูลูกของคุณก็รู้ละว่า  คุณเลี้ยงลูกให้มีวุฒิภาวะต่ำ  จึงเพริดเมื่ออยู่ห่างเชือกค่ะ อยากให้ข้อมูลว่า  ลูกเราก็เรียนวิศวะลาดกระบังปี 4 ผู้ชายค่ะ   พอจะสอบก็ยกโขยงมาที่บ้านเรามาติวกัน ต่อหน้าเรา เพื่อนๆ ทั้งหญิงและชายก็พูดจาสุภาพทุกคน  แต่ในห้องติวบางทีก็เอะอะกัน  เราได้ยิน ก็ได้แต่เฉย เพราะเรามองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก  ขอให้รู้กาละเทศะก็พอว่า ควรพูดหรือไม่ควรพูดต่อหน้าใครเวลาใด   ถ้าลูกคุณยังพูดต่อหน้าคุณ  ก็แสดงว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้  คุณต้องบอกเขาค่ะ  เลี้ยงลูกต้องมีเหตุผล มีหลักมีรอง  ไม่ใช่ จะเอาให้ได้ดังใจทุกอย่าง  ต้องเป๊ะ เป๊ะ เท่านั้นเด็กก็เครียด เมื่อมีโอกาสเขาก็แหกคอกค่ะ และตอนนี้ลูกคุณกำลัง ทำอย่างนั้นอยู่  แล้วอีกอย่างขนาดโตจนอายุ 17  อยู่เมืองไทยยังเลือกคบเพื่อนไม่ได้  แล้วไปเมืองนอกมิแย่หรือคะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 21:35:28

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้ากลัวลูกเกเรก้เกบไว้ที่บ้าน ไม่้ต้องออกมาเจอสังคมอุบาด เอาลูกไว้ติดกับตัวเลย ลูกจะได้ไม่ไปเที่ยว สำมะเลเทเมา วันที่แม่ตายก้ มันลูกเผาไปพร้อมๆ กันด้วยนะ จะได้ตายตาหลับ สบายใจลูกอยู่ใกล้ตาใกล้ตัว ไม่ไปเกเรที่ไหน จากคุณ : tatee เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:02:13 A:171.96.36.95 X: TicketID:374216

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ จขกท ผใขอแยกเป้นประเด็นตามความคิดเห็นของผมนะครับ 1. เรื่องพูดจาหยาบคายผมมองว่าเป็น พฤติกรรมส่วนตัวนะครับ ไม่ว่าที่ไหนก็มีทั้งนั้น เพื่อนผมรุ่นพี่ผม ที่พูดจาเพราะๆก็มีครับไม่พูดกูเมิงเลยก็มีครับ ถึงบางคนอาจจะพูดไม่เพราะแต่ก็ไม่ได้แสดงว่าคนเหล่านั้นเป็นคนไม่ดีนะครับ 2. เรื่องเที่ยวตอนผมปี 1 ก็เป็นครับ สำหรับผมปี 1 มันเป็นปีที่สนุกที่สุดครับ ได้เพื่อนใหม่ได้เป็นตัวของตัวเองเต็มที่ ไม่มีกรอบแบบในรั้ว มัธยม แต่ข้อดีของการไปเที่ยวและการใช้เวลากับเพื่อนมากๆ มันก็มีนะครับ เวลาเรียนชวยกันเรียน สอบก็ช่วยกันติว มันถึอเป็นกิจกรรมกระชับมิตรระหว่างเพื่อนฝูงครับ จริงๆแล้วลูกของคุณจขกท อาจจะปิดบังความเป็นตัวเองมาโดยตลอดก็ได้นะครับ อยู่แต่ในกรอบที่ คุณจขกท เห็น แต่พอเข้ามหาลัยแล้ว เค้ามีอิสระและได้เป็นตัวของตัวเองเต็มที่ ผมมองว่าคอยดูอยู่ห่างๆดีกว่าครับ ถ้าเหลวไหลมากไปก็เตือนบ้าง เท่านั้นเองครับ แต่ผมเชื่อว่าสิ่งต่างๆที่พูดมา ไม่น่าจะทำให้น้องเค้าเสีย เพราะตอนผมปี 1 ผมก็เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ก็มีหน้าที่การงานที่ดีไม่ด้อยกว่ามหาลัยในเมืองแน่นอนครับ จากคุณ : Champ ME G7 41 (ChampME) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:09:32

ความคิดเห็นที่ 44 "พอเราท้วงว่าพูดไม่เพราะเลยลูก ลูกตอบว่าก็เพื่อนๆพูดอย่างนี้" โตแล้วน่าจะแยกออกว่าอะไรสมควร หรือไม่สมควรเลียนแบบนะครับ เอาคำว่า"เพื่อน ๆ พูดอย่างนี้"มาใช้เป็นคำอธิบายคำตอบให้คุณแม่ฟัง ดูเหมือนเด็กยังไม่มีวุฒิภาวะแยกแยะสิ่งดีสิ่งไม่ดีเลยครับ เรื่องสอบ ติวก่อนสอบ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ สมัยผมเรียน เห็นเด็กวิศวะติวหนังสือกันยันดึกดื่น ผมว่าโอเคมากเลยครับ จากคุณ : simulate_sky เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:12:48

ความคิดเห็นที่ 45 คห. 23   ..ถ้าเด็กมันจะเที่ยว ต่อให้อยู่ต่างจังหวัดเค้าก็ไปจ้ะ ไม่ไปแค่เมกกะบางนาหรอกค้าา สถานที่เปิดใหม่ได้ไม่นาน ใครๆก็อยากรู้ อยากเห็น อยากไปเดินเที่ยวเล่น  ชีวิตในวันรุ่นมันก็แบบนี้แหละค่ะ หรือว่าจขกท.ไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ? สังคมที่นี่ เค้าอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยกัน ช่วยเหลือกัน และต้องช่วยเหลือตัวเองเป็น ไม่ใช่ทำตัวให้เป็นภาระกับคนอื่น หรือทำตัวเป็นคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นนะคะ .. และได้ขึ้นชื่อว่าวิศวะ ลูกคุณหนูแบบนั้นเรียนไปแล้วทำงานแบบนุ่มนิ่ม มันก็ไม่ใช่วิศวะสิคะ วิศวะต้องถึกค่ะ!  เพราะจบไปไม่ได้ทำงานเป็นคุณหนู คุณนาย คุณชายกันนะคะ ส่วนการพูดจา มันก็ขึ้นอยู่กับตัวลูกๆของคุณนะคะ ถ้าสังคมจะแย่ขนาดไหน ถ้าลูกคุณ คุณสอนมาดี เค้าก็ไม่พูดจาแบบนั้นหรอกค่ะ ส่วนชีวิตปกติที่นี่แล้วไม่ได้พูด กู มึx ..มันอยู่ที่คนจริงๆค่ะ หากรู้จักปรับตัวในการดำเนินชีวิตเป็นค่ะ .. แล้วอันดับมหาวิทยาลัย ...มันไม่ได้เป็นส่วนทั้งหมดของชีวิตนะคะ  ชีวิตจริงคือการทำงานนู่นน เรียนมหาลัยไหน จะได้ดีก็อยู่ที่ตัวคน  .. แล้วที่นี่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นคุณจะรู้เองว่าเด็กที่นี่ เป็นที่ต้องการของบริษัทใหญ่โตเช่นกัน เหมือนๆกับมหาลัยชื่อดัง ..หรือการเรียนได้เกรดสวยหรู เป็นคุณหนู เป็นคุณนาย ...ถ้าเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ไปที่ไหนเค้าก็ไม่รับหรอกจ้าา และที่สำคัญความจริงแล้ว ความชอบหรือไม่ชอบ ..ชีวิต ความสุขของลูกคุณ ..มันเป็นของลูกคุณ หรือ..มันเป็นที่ความคิดของคนเป็นพ่อแม่คะ ? แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 22:25:24 จากคุณ : เดินตามพระจันทร์ (BosSaGirl) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:18:01

ความคิดเห็นที่ 46 เอ่อ กรูงงมากกว่า ท่านเจ้าคุณแม่นี่หลุดมากจากโลกไหนครับ จากคุณ : nuboat (boatiso9002) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:49:45

ความคิดเห็นที่ 47 ผมขอให้ความเห็นว่า "สังคมก็ส่วนนึง" ..... "ลูกคุณก็ส่วนนึง" นะครับ การพูดจา แบบนั้น ผมเห็นเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ในสังคมที่เป็น "วิศวะ" ถ้าลูกสาวคุณชอบ งานทางวิศวกรรม ต้องพบปะผู้คน ต่างชนชั้น ไม่ว่าจะตั้งแต่คนงานตัวเล็ก ๆ ชาวบ้าน ไปจนถึงนายช่างใหญ่ยันผู้บริหาร ..... ผมบอกได้เลยคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกว่า คุณจะต้องเจอภาษาแบบนี้ คำพูดไม่ชวนฝันแบบนี้อีกมาก (เผลอ ๆ จะมากกว่านี้อีกนะครับ) ผมว่าถ้าคุณอยากให้ลูกคุณถอยออกวันนี้เพราะ เรื่องการพูดจา แค่นี้ ..... ผมว่าคุณคิดถูกครับ ถอยออกมาเถอะครับถ้าคุณไม่อยากเจอ แต่ ....... สำหรับผม เหตุผลแค่นี้ มันช่างไร้น้ำหนักจริง ๆ เมื่อเทียบกับความฝันของ คนหนึ่งคนที่อยากเป็นวิศวกรครับ โลกมันไม่ได้สวยงามแบบที่คิดนะครับ ..... ทุกที่ก็ไม่ต่างกันหรอก ผมมีเพื่อนจบมาก็หลายที่ชื่อดังทั้งนั้น ไม่ว่าจะ แถวสามย่าน แถวบางเขน  ฯลฯ เค้าก็พูดจาแบบนี้กันก็มี ไม่พูดก็มี ผมเจอมาก็ไม่น้อยครับ สรุป ..... มันอยู่ที่ตัวเราเองนะครับ "สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ" จากคุณ : Flip-Flop Prince เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:09:59

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่าเด็กจะดีหรือไม่ดีตอนโตขึ้น อยู่ที่ครอบครัวมากกว่าครับ ถึงแม้ในมหาวิทยาลัยเด็กๆ จะพูดจาหยาบคาย แต่ก็เป็นเพียงในหมู่เพื่อนๆ เด็กที่ดีเค้ารู้กาลเทศะครับ ถ้าไม่ ... ก็คงมาจากพื้นฐานครอบครัว จากคุณ : มือใหม่สุดๆ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:14:12

ความคิดเห็นที่ 49 อื้ม..แสดงว่าลูกคุณคิดไม่เป็น... คำตอบง่ายๆ จากคุณ : anonymous เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:18:32 A:171.7.33.59 X: TicketID:308530

ความคิดเห็นที่ 50 ปัญหามันอยู่ที่ลูกคุณแหละค่ะ เราก็เรียนลาดกระบัง เที่ยวบ้างแต่ไม่ได้ทุกวันเพราะไม่ได้ ได้ว่างมากขนาดนั้น มีโปรเจค มีเรียน มีแลป  ส่วนเรื่องพูดไม่เพราะ มันอยู่ที่ว่าเราพูดกับ ใคร เวลาไหน ไม่ได้หยาบคายตลอดเวลา ถ้าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนที่ตัวลูกคุณอ่ะค่ะ โลกสวยขนาดนี้ ก็น่าจะเก็บลูกไว้ที่บ้าน อ่านแล้วเพลีย... รุ่น48 จากคุณ : วิศวะรุ่น48 (RainyEE) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:21:42

ความคิดเห็นที่ 51 ผมมีเพื่อนอยู่จุฬา วิศวะนี่แหละ เรื่องนิสัยนี่อย่าให้พูดถึง กินเหล้าเมายาคำหยาบและอีกสารพัดที่เลวๆ ผมมีเพื่อนอีกคนนึง อยู่รามฯ คนนี้นิสัยค่อนข้างดี เหล้าไม่กิน แต่คำหยาบก็มีบ้าง เพื่อนอีกคนอยู่แม่ฟ้าหลวง คนนี้นิสัยดีมาก ผมแค่จะชี้ให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้บ่งชี้ว่านิสัยของแต่ละคนจะเป็นยังไง ผมรู้จักคนมากมายที่จบลาดกระบัง ก็มีดีมีเลวปะปนกันไป มันอยู่ที่ว่าคุณสอนลูกมายังไงมากกว่าครับ สอนมาไม่ดีเด็กมันก็ไปในทางไม่ดีได้ง่ายเองครับ แต่จริงๆผมว่าคำว่ากูเมิงไม่ได้หยาบคายอะไรขนาดนั้นนะ ถ้าพูดกันในหมู่เพื่อนฝูงอ่ะ จากคุณ : Sleeper MoNKeY 2nd เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:22:55

ความคิดเห็นที่ 52 แทนที่จะโทษลูกตัวเองกับไปโทษสังคม ทำไม่ดีโทษสิ่งแวดล้อม จากคุณ : vhdl (vhdl) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:23:21

ความคิดเห็นที่ 53 อืมม... อย่าว่าเราเลยนะคะ แต่เราว่าที่ลูกคุณออกจากอกแล้วเตลิดเปิดเปิง ก็เพราะการเลี้ยงดูเบื้องต้นมากกว่าค่ะ ขออภัยที่คิดแบบนี้ จะว่าเราปกป้องสถาบันก็ได้นะคะ เราจบจากที่นี่ มีเพื่อนทั้งดีและไม่ดี มีให้เห็น เพื่อนจากมัธยมคนไหนเรียบร้อย ก็ยังเรียบร้อยจนเรียนจบก็มี หรือคนไหนที่เพิ่งเคยได้ไปไหนกับเพื่อนก็ติดใจสำมะเลจนเกือบเรียนไม่จบก็มี และเราก็คิดว่าสังคม "มนุษย์" ก็มีทั้งดีและเลวทุกที่นั่นแหละ ปกตินะ การพูดจาหยาบคายไม่ได้แปลว่าเป็นคนเลว การไปเที่ยวไม่ได้แปลว่าไม่เรียนหรือเหลวแหลก สุดท้ายก็เรียนจบทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่ได้ทั้งนั้น ที่สำคัญ ไม่ได้ไปทำร้ายใครค่ะ จากคุณ : ยูหยู่ยู่ยู้หยูว์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:23:32

ความคิดเห็นที่ 54 อย่ามาว่าสถาบันของเราได้มั้ย... สถาบันใครๆก็รัก  .... ลูกคุณแม่เองหรือเปล่าที่พยายามทำตัวพูดจาไม่เพราะ ไม่รู้จักกาละเทศะ แยกแยะไม่ออกว่าคำพูดแบบไหนที่ควรจะพูดกับเพื่อน คำพูดแบบไหนที่ควรจะพูดกับพ่อแม่ หรืออาจารย์ หรือการพูดในสถานที่ๆต้องเคารพ  กลุ่มที่พูดไม่เพราะมีทุกสถาบัน ทุกมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ขอแนะนำให้คุณแม่สอนเกี่ยวกับการวางตัว  การพูดต่อผู้อื่นโดยให้ความเคารพ ให้รู้ว่าต้องพูดแบบไหน ให้ดีขึ้นมากกว่าการเปลี่ยนสถาบัน เพราะนั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะคุณแม่รู้ปัญหาแล้วว่าลูกพูดไม่เพราะ ดังนั้นต้องแก้ไขที่ลูกก่อน คุณแม่จะไปบอกเพื่อนลูกให้พูดเพราะนั่นก็จะยากกว่าการบอกลูกตัวเองให้พูดเพราะ การเรียนเป็นเรื่องแปลกใหม่และต้องปรับตัวสำหรับปี 1 เรื่องคะแนนนั้นหลังจากทำข้อสอบเสร็จ เชื่อว่านักศึกษาทุกคนประมาณตัวเองได้อยู่แล้วว่าถึงครึ่งหรือไม่ หรือทำไม่ค่อยได้ หรือที่อ่านมาทำได้ตรงกับข้อสอบ ในบางวิชานั้นก็ไม่บอกคะแนนมิดเทอม นักศึกษาต้องตัดสินใจเองว่าจะดรอปหรือไม่  การเรียนต้องเรียนรวมกันเยอะมาก ต้องมีสติกับการสอนของอาจารย์ให้มากๆ เพราะอาจารย์เค้าไม่จี้ ไม่โยนแปรงลบกระดานเหมือนสมัยมัธยมแล้ว จะคุยจะหลับเค้าก็ไม่ว่า จะไม่มาเค้าก็ไม่สน ต้องมีความรับผิดชอบในตัวเอง ในวันข้างหน้าต้องโตเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเองให้ได้ ต้องใฝ่รู้ ต้องติวหนังสือหรือหาแนวข้อสอบกับรุ่นพี่กับเพื่อน หลายๆคนก็ใกล้ๆวันสอบ คือประมาณ 4 สัปดาห์ก่อนสอบแล้วก็จะเริ่มจับกลุ่มอ่านกัน ซึ่งปกติมากสำหรับที่นี่ ประมาณ 4สัปดาห์จริงๆ ส่วนเพื่อนที่ขยันกว่านั้นเค้าก็จะอ่านกันไปก่อน   ปี1 ต้องปรับตัวให้อยู่รอด(ทุกปี ไทร์ปี 2 3 4 5 6 7 ก็มีไม่ใช่มีแค่ปี 1 ค่ะ)ถ้าปรับตัวได้เร็ว ปั๊มเกรดให้เยอะๆได้สบายๆ ในชั้นปีนี้ ปี2 ต้องเริ่มเข้าภาควิชา มีแลปต้องทำ ต้องสอบแลปก็มี วิชาที่เป็นเฉพาะของสาขาถ้าดรอปตัวต่อจะเยอะดังนั้นวิชาปี 2 ควรจะต้องเรียนให้ได้ผ่านแทบทุกตัว ไม่งั้นไม่จบ 4 ปี ปี3 เรียนหนักที่สุด ประมาณ 7-8 ตัว ในเทอม ตอนช่วงสอบลูกคุณแม่จะได้อ่านหนังสือถึงเช้า และเดินทางไปสอบในตอนบ่าย กลับมานอนพักนิดนึง แล้วอ่านต่อถึงเช้าอีก แล้วก็ไปสอบบ่ายอีก รับรองว่าไม่มีเวลาไปดูหนังแน่นอน ปี4 เรียนไม่เยอะ งานปีที่งานเยอะที่สุด มีโปรเจค บางภาคมีสัมมนาด้วย ซึ่งต้องทำรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ช่วยกันทำให้สำเร็จให้เสนอผลงานให้ได้ วิชาที่มีเรียนก็จะสั่งรายงานซะเยอะ ดังนั้นในปี 4 ลูกคุณแม่ก็จะไม่ค่อยได้มีเวลาไปดูหนังบ่อยๆอีกแน่นอน *ปล.เมื่อวานไปดูโรงงานที่บางปู คุณแม่ว่าไกลมั้ยคะ เมื่อตอนฝึกงานแถวบางพลี ช่วงเมกกะเปิดใหม่ๆ ไป2 3 รอบ รู้สึกว่ามันใกล้กว่าไปสยามเสียอีก   ไกลหรือไม่ไกลมันอยู่ที่ว่า ดูแลตัวเองได้หรือเปล่า แค่นั้นเองค่ะ *ปล2.ฝากสโลแกนวิศวลาดกระบังของคณบดีพี่เอ้  "วิศวลาดกระบังต้องเป็นที่หนึ่ง และเป็นที่พึ่งของสังคม" แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 00:27:32 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 00:26:54 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 00:22:50 จากคุณ : ice overslept เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:26:52

ความคิดเห็นที่ 55 อยู่เมืองดัดจริตชีวิตต้องป๊อป นี่คือนิยามของคุณแม่ใช่ไหมครับ ผมมาขอตอบนะในฐานะว่าที่บัณฑิตจบจากสถาบันแห่งนี้ เป็นรุ่นพี่ของลูกสาวคุณคนนึง (ผม วศบ. รหัส 51) จะบอกว่าสังคมแต่ละที่ไม่ว่าจะที่ลาดกระบังหรือมหาลัยกลางเมืองสีหวานที่คุณแม่อยากให้น้องเค้าซิ่วไปนั้น คุณแม่อย่าคิดว่ามหาลัยสีหวานไม่มี มีทุกทีครับ น้องเค้าอยู่มหาลัยแล้ว โตแล้วส่วนนึง ดังนั้นเนี่ยเค้าได้ก้าวมาเป็นผู้ใหญ่อีกขั้นแล้วเนี่ย ผมว่าบางเรื่องปล่อยให้เขาดูแลตัวเองครับ อย่าไปจ้ำจี้จ้ำไชอะไรกับลูกคุณเลย  เรื่องเพื่อนพูดคำหยายไม่หยาบแล้วแต่คนครับ บางคนเค้าก็ไม่พูด บางคนก็พูด แล้วแต่คนที่จะคบ แล้วแต่กลุ่มที่่จะเลือก เรื่องเที่ยว นี่ขนาดลูกคุณแม่ไปแค่เมกะบางนาคุณแม่ยังบ่นขนาดนี้ ตัวผมเเองปี1เที่ยวกระจายนะ ไปสยามแทบทุกอาทิตย์สมัยปี1 (ปล.ผมเด็กตจว.) งี้คุณแม่ไม่อกแตกตายหรอครับ   ยังอยากบอกนะใกล้มหาลัยน่ะมีที่เที่ยวเยอะเยอะทั้งผับเอย ร้านเหล้า บาร์เบียร์เอย ถ้าลูกคุณแม่ไปเที่ยวงั้นคุณแม่ไม่อกแตกตายฆ่าลูกตายเลยหรอครับ สังคมไม่ดี ผมว่าไม่จริง แล้วแต่ตัวบุคคล และการสั่งสอนของคุณแม่ด้วย ผมว่าคุณแม่คงมีปัญหาแล้วแหละครับในการเลี้่ยงดูลูก เรื่องการอ่านหนังสือติวหนังสือ สังคมที่นี่เค้าช่วยเหลือกันครับ ก่อนสอบเค้าจะมีติวกัน ตอนสอบไม่มีใครคิดถึงเรื่องเที่ยวกันหรอกครับ สอบก็ยาก เนื้อหาก็เยอะ ใครมีกะจิตใจเที่ยวก็บุญแล้ว ประกาศผลคะแนนสอบ ผมว่าธรรมดา โดยเฉพาะถ้าวิชาเขียน แล้วเรียนกันทั้งมหาลัยด้วยอย่างฟิสิกส์ กว่าจะออกก่อนหมดเวลาดรอปชั่วโมงนึง   ผมว่าควรดูผลการเรียนลูกคุณเทอมนี้ก่อนดีไหม เอาล่ะหมดเรื่องพูดแล้วแหละ ตามนี้ก็แล้วแต่คุณแม่จะคิดนะ แต่ว่างๆกรุณาออกจากกะลาที่คุณวางไว้ให้กับลูกด้วยนะครับ จากคุณ : เดอะหลอน เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:36:59

ความคิดเห็นที่ 56 ซ้ำครับ ขออำภัย แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 23:40:55 จากคุณ : เดอะหลอน เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:38:26

ความคิดเห็นที่ 57 คนดีๆ ก็มีเยอะนะครับ เพื่อนดี เพื่อนเลว ย่อมปะปนกันไป บางเรื่องมันก็อยู่ที่ตัวของเด็กเอง ผมก็จบวิศวะ ลาดกระบัง ยอมรับว่าดื่มกันหนัก เฉพาะแค่คนบางกลุ่ม แต่เพื่อนผมกลุ่มที่ดื่มหนักๆ ก็จะมีวิธีที่เอาตัวรอด สอบให้ผ่าน แบ่งเวลา เรียนเวลาเที่ยว ทำงานจนได้ดี ก็มีถมเมไป อย่าได้พาดพิงถึงชื่อเสียงสถาบัน แค่คุณดูแลลูกคุณให้ทำตัวเป็นคนดี อยู่ในสังคม ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือด ร้อนก็เป็นสิ่งที่ดี และดีพอ สำหรับสังคม ปัจจุบันแล้ว แล้วถ้าเด็ก เขาปรับตัวได้ รู้จักโลกกว้าง กว่านี้ ก็จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นเองเป็นลำดับขั้นตอน ... จากคุณ : Bi_จอมซน เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:39:55

ความคิดเห็นที่ 58 เพราะผมมาเรียนที่นี้แหละครับ ทำให้ผมได้โลกกว้างมากขึ้น เมื่อก่อนอยู่บ้านไม่เคยแต่งตัว ไม่เคยไปเที่ยว ไม่เคยกลับบ้านดึก เพราะ ที่บ้านเลี้ยงผมมาแบบนี้ แต่พอผมได้มาอยู่หอ เหมือนมีอิสระมากๆ ผมซื้อเสื้อผ้า แต่งตัวมากขึ้น ไปเที่ยวนู้น เที่ยวนี้ เที่ยวผับดึกดื่นเท่าไรก็ไม่มีใครว่า แต่ผมก็เรียนจนตอนนี้อยู่ปี 4 แล้ว เหลือวิชายากๆตัวหนึ่ง กับ โปรเจค ลูกคุณเจ้าของกระทู้ยังดี บอกพ่อแม่ตลอด แต่ผมนี้ซิต่อหน้าพ่อแม่ต้องทำเป็นเด็กไร้เดียงสา แต่ลับหลังก็อย่างที่บอก ขืนผมไปทำอะไรที่เป็นตัวเองต่อหน้าพ่อแม่นะ โดนด่าตายเลย แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 22:46:27 จากคุณ : pb1302 (PB1302) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:45:30

ความคิดเห็นที่ 59 ดีชั่ว อยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำ อยู่ที่ทำตัวค่ะ จากคุณ : นกกะเรียน (TiiaMoO) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:52:50

ความคิดเห็นที่ 60 เป็นผู้หญิงอีกคน ที่จบจาก วิศวะลาดกระบังคะ ไม่ใช่ว่าวิศวะลาดกระบังเท่านั้นที่ จะเป็นเด็กแบบนี้ เด็กวิศวะแทบทุกที่เลยนะคะที่มีการพูดจาหยาบคายบ้าง เที่ยวบ้าง แล้วก็ไม่ใช่แค่คณะวิศวะนะคะ แบบนี้เป็น แทบทุกคณะเลยคะ เราว่า มันอยู่ในช่วงวัยของเด็กมากกว่าคะ ไม่ได้เกี่ยวกับที่ตัวสถาบันหรือที่ไหน แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เขาจะสามารถรับผิดชอบชีวิตในรั้วมหาลัยของเขามากน้อยแค่ไหน และเมื่อจบไปแล้ว เขาจะมีความคิดรับผิดชอบตนเองและต่อสังคมได้อย่างไร บ้าง จากคุณ : A girl who follow you เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:55:03

ความคิดเห็นที่ 61 ด้วยความเคารพครับ ถ้าซิ่วไปแล้วยังเป็นอีก คุณแม่จะให้ลูกซิ่วไปไหนอีกดีครับ ดาวนาเม็กมั้ยครับ พวกพิกโกโร่จิตใจดีงามนะครับ ป.ล. เพื่อนผมที่มหาลัยกลางเมือง มีครบรสชาดเลยนะครับ พูดจาดีสุดๆจนถึงพูดจาชวนปากแตกเลยแหละ ป.ล. 2 ผมจบลาดกระบังมาแปดปีแล้วครับ จากคุณ : FamicomLover เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:01:56

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่รู้ว่าที่นี่ดีหรือไม่ดีนะ ส่วนตัวเรียนอยู่วิศวะลาดกระบังปี4แล้วคะ อยู่ที่นี่เห็นว่าเด็กเที่ยวเพราะสังคมที่นี่อยู่หอกันซะมาก แต่ก็นั่นละ อยู่ที่ลูกคุณเองถ้าเขาไม่เที่ยวใครก็ชวนเขาไม่ได้ น้องชายตอนแรก เรียนอยู่มหาลัยชื่อดังอื่นแต่ไม่ชอบไม่ใช่มหาลัยเขาไม่ดีเดินทางลำบากก็ซิ่วมาเรียนที่นี่ด้วยกัน หนูถามว่าเป็นไงบ้างเขาบอก ก็ดีเพื่อนที่นี่มีแต่เด็กแข่งกันเรียน บังเอิญน้องชายอาจโชคดีเจอกลุ่มเพื่อนที่แข่งกันเรียน สรุปนะคะ สังคมมีทั้งดีและไม่ดี อยู่ที่ตัวลูกคุณเองมากกว่าว่าจะเที่ยวหรือไม่เที่ยว ตัวหนูเองเคยผ่านช่วงปี1มา กำลังเด็กค่ะอยู่หอวัยคะนองค่ะเพื่อนหนูก็ชวนกันเที่ยวเกรดออกมาแย่ แย่แบบถ้าเรียนต่อไปอาจไทล์ติดโปรต่ำ ต่อมาเทอมสองเพื่อนที่ชวนกันเที่ยวเปลี่ยนเป็นช่วยกันดึงค่ะ หลุดโปรทุกคนค่ะ สุดท้ายอยากฝากนะคะว่า ก่อนจะว่าสิ่งรอบตัวว่าดีหรือไม่ดี ให้มองสิ่งใกล้ตัวให้ชัดก่อนนะคะ จากคุณ : VinKeiiz เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:06:11

ความคิดเห็นที่ 63 ที่มันโดนไทร์ไป เพราะที่ลาดกระบังมันต่ำกว่า 2.00 โดนไทร์นะครับ ณ ที่รุ่นผมเรียนอยู่นะ(49) ค่อนข้างสูงมาก ที่ได้คะแนนกันน้อยๆเพราะมันจะมีวิชาคัดเด็กออกอยู่ครับ ถ้าเด็กเรียนไม่ได้เรียนไม่ไหวจะได้รู้ตัวเร็ว อีกอย่างแถวลาดกระบังมันมีอะไรน่าเที่ยว... - -* เมื่อเทียบกะมหาลัยกลางเมือง จขกท.ค่อนข้างอคตินะ แม้มันจะออกแนวชายแดนกทม.ไปหน่อย แต่มันสอนให้คนทำงานเป็นมากกว่าที่คุณคิด จากคุณ : BlackTeaCat เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:12:23

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีครับ คุณผู้ปกครอง เนื่องจากผมอ่านแล้ว รู้สึกค้านๆ นิดหน่อย ผมจึงขอแยกประเด็น รบกวนพิจารณา หน่อยนะครับ เนื่องจากผมเอง ก็จบการศึกษาจาก วิศวลาดกระบัง ครับ ผมขอเข้าเรื่องเลยนะครับ เรื่องของพูดจาหยาบคาย อันนี้จริงๆ แล้ว หลายๆ คนก็ตอบไปแล้วครับ น่าจะเข้าใจดีนะครับ เรื่องของการรีไทร์ อันนี้ เป็นเรื่องจริง ว่ารีไทร์เยอะ เนื่องจาก ไม่พร้อมการเรียนในอุดมศึกษา เนื่องจากหลายๆ คนใช้ชีวิตช่วงมัธยมมา แล้วปรับตัวไม่ทัน บางที เป็นเพราะการเลี้ยงดู แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ก็เป็นได้ครับ ลูกของคุณ ก็ถูกเลี้ยงมาอีกอย่าง อีกคนก็อีกอย่าง ไม่เหมือนกันแน่นนอน การปรับตัวเข้าสังคมเนื่องจาก เมื่อก่อนอยู่ในกรอบ ปัจจุบัน อิสระ มีความรับผิดชอบมากขึ้น หลายๆ อย่างเข้ามาอีกมากมาย ทั้งเนื้อหาการเรียน กิจกรรมต่างๆ เรื่องของเด็กที่มองหาที่เรียนใหม่ มันก็มีบางส่วน แต่ผมคิดว่าไม่เยอะ คับ อาจารย์ไม่ได้หลอกตัวเองครับ เข้ามาแล้วเรียนไม่ได้ ไม่ไหว มันมีอยู่ทุกที่ ทุกสังคม เนื่องจากบางครั้งก็เกรงใจพ่อแม่ อยากให้เรียน คนนั้นอยากให้เรียน คนนี้อยากให้เรียน โดยไม่ได้เรียนตามที่ตัวเองต้องการเรียน หรือ ใฝ่ฝันมา มันเลยเป็นปัญหาคาราคาซัง ไม่จบไม่สิ้น ครับ เรื่องของสังคมวิศวลาดกระบัง บอกได้เลย อบอุ่นครับ ผมสัมผัสที่นี่มา 4 ปี ของการเรียน และ อีกปีกว่าๆ ที่เป็นศิษย์เก่า (ที่นี่จะเรียก ปีแก่) ผมกลับไปคณะ ยังรู้สึกอบอุ่น คิดถึงสมัยวัยเรียน ที่เคยได้ทำกิจกรรมต่างๆ มาหลายอย่างครับ และกิจกรรม กิจกรรมหนึ่งซึ่งเป็นกิจกรรมหล่อหลอม ละลายพฤติกรรมของทุกๆ คน หลายๆ มาจากต่างพ่อ ต่างแม่ แต่เรามารวมกัน เพื่อให้ทุกคน อยู่ในสังคมได้ นั่นคือ กิจกรรมเชียร์ ครับ เนื่องจากเชียร์เนี่ยแหละ สามารถตอบอะไรได้หลายอย่าง ครับ ไม่ทราบว่า ตอนเรียนของคุณผู้ปกครอง ได้เข้าร่วมกิจกรรมเชียร์หรือปล่าวครับ เนื่องจากเชียร์เนี่ยแหละ จะทำให้เปิดโลกจากแคบๆ ให้กว้างขึ้น ในวัยนี้ เป็นวัยหัวเลี้ยว หัวต่อ กำลังอยากรู้ อยากศึกษาอะไรที่ไม่เคยเจอ ผมว่า ปล่อยให้เค้าได้เรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ ดีกว่าครับ ในช่วงปี 1 เป็นช่วงกอบโกยครับ ที่นี่ดีอยู่อย่างนึง เมื่อเป็นปี 1 และไปกินข้าว ไปไหน กับปีอื่นๆ ต้องกินฟรี ครับ เพราะฉะนั้น สบายครับ เค้าอยู่ในสิ่งที่ดี ไม่ได้แย่ เค้าไปเที่ยวข้างนอก เค้าบอกคุณ ผมว่าก็ดีแล้วนะครับ แสดงให้เห็นเลยว่าเค้ายังเป็นห่วงคุณแม่ ยังรักคุณแม่ ไม่อยากให้คุณแม่เป็นห่วง เรื่องต่อมา ที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องของการดื่มสุรา ผมว่าการดื่มสุรา เป็นการฝึกตนเองอย่างหนึ่ง ซึ่งจบไปแล้ว ถ้าไม่เป็น ลำบากครับ เนื่องจากอนาคตการทำงาน การเข้าสังคมต่อไป เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการติดต่อลูกค้า สำหรับการขายงานเมกะโปรเจก การขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท หรืออื่นๆ สำหรับผู้หญิง ผมคิดว่า มันเป็นการป้องกันตัวได้อย่างนึง กรณีถ้าคุณรู้จักประมาณตนเองถูก ว่าดื่มประมาณไหน เรายังโอเค ดูแลตนเองได้ครับ ฉะนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณผู้ปกครอง โลกทุกวันนี้ไม่ได้สวย ไม่ได้งดงามเหมือนดั่งที่ใจคุณคิด ทุกสังคม ทุกสิ่งอย่าง เป็นดาบสองคม มีทั้งประโยชน์ แหละโทษ เราควรเรียนรู้ และปรับตัวอย่างไร ให้ทันกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกวันนี้ดีกว่าครับ และถ้าน้องคนนั้นยังได้เรียนวิศว จบวิศวลาดกระบังอยู่ ผมก็ขอให้เรียนจบ เรียนที่นี่อย่างมีความสุข จบไปเป็นเจ้าคน นายคน อนาคตสดใส ดั่งใจคุณผู้ปกครองนะครับ ขอยกประโยคนึงที่ผมชอบมาก มาฝากให้คิดไว้หน่อยนะครับ "การเปลี่ยนแปลงนั้นน่ากลัว แต่การกลัวการเปลี่ยนแปลงนั้นน่­ากลัวกว่า" พูนศักดิ์ จตุระบุล หรือ อ๊อฟ บิ๊กแอ๊ส มือกีต้าร์ แห่งวง Big Ass ได้กล่าวไว้ จากคุณ : LinkinTua เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:19:37

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าปกครองลูกไม่ได้ แสดงว่าพ่อแม่มีปัญหาแล้วล่ะครับ ... จากคุณ : Reduce เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:22:24

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วเจ้าของกระทู้ เคยได้รับการเลี้ยงจากเด็กที่เรียนในลาดกระบังพูดด้วยวาจาหยาบคายใส่ทันหรอ ถ้าเด็กมันจะพูดกันมันก็เป้นสิทธิ์เด็กนะ ถ้าคิดว่ารับฟังคำพูดนั้นไม่ได้ ก็บอกลูกท่านสิ สอนลูกท่านสิ ไม่ช้ามาวิจิารณ์มหาลัยอย่างนั้น การที่พูดคำหยาบหรือฟังไม่เสนาะหูใช่ว่าบุคคลนั้นจะไปทำอะไรไม่ดีไม่หลายที่ก็ผลเสียให้แก่ตนเองและสังคมนะ คิดว่าพ่อแม่น่าจะพิจารณาตัวเองนะ ^ ^ ว่าจะทำยังไงกะตัวเองดี จากคุณ : ลับแล (เจ้าชายอาริส) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:29:54

ความคิดเห็นที่ 67 ขอทราบ รร.มัธยม ของ ลูกจขกท ได้มั้ยครับ จากคุณ : LRZ (Larzel) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:31:18

ความคิดเห็นที่ 68 แน่ใจหรอว่า ม กลางเมืองจะทำให้ลูกคุณไม่เที่ยว ไม่พูดหยาบ ปล.ผู้หกครองโลกแคบมากครับ จากคุณ : EL_KMITL เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:36:19

ความคิดเห็นที่ 69 ผมขอพูดแบบเป็นกลางนะครับ เนื่องจากผมมีเพื่อนเรียนอยู่เยอะทั้ง 2 มหาลัยเลย ถ้าเป็นลาดกระบัง ทุกคนจะค่อนข้างเป็นกันเองครับ สนิทกันค่อนข้างง่าย ทำให้มีคำพูดคำจาหยาบคายออกมาบ้างเนื่องจากสนิทกันครับ ส่วนที่บอกเรื่องเที่ยวเยอะนั้นจริงไหมต้องบอกว่าจริงครับแต่เป็นตามช่วงเวลา ถ้าช่วงเวลาที่ว่างนักศึกษาที่เรียนมาหนักก็ต้องการพักผ่อนครับ ผ่อนคลายจากเนื้อหาวิชาที่ยากแสนยาก แต่เมื่อถึงเวลาใกล้สอบเด็กลาดกระบังจะอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำเลยครับ เรียกได้ว่าอ่านไปถึงเช้าอีกวันเป็นเรื่องปกติเลย ส่วนอีกสถาบันนึงต้องยอมรับครับว่าอ่านหนังสือเยอะกว่าจริงครับ เด็กที่นี่อ่านหนังสือเยอะมากครับขยันมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะครับ แล้วแต่เป็นตัวบุคคลมากกว่า คนที่อ่านเยอะมากๆก็เยอะ คนที่เที่ยวเยอะมากๆก็มีครับ ขึ้นอยู่กับได้เพื่อนกลุ่มไหนครับ แต่ผมขอยืนยันได้ว่าทุกอย่างขึ้นกับตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับตัวสถาบันครับ ถ้าเรารู้จักดูแลตัวเองดีใช้ชีวิตเป็น ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่แตกต่างกันครับ ผมเห็นเพื่อนที่จบลาดกระบังมาได้งานดีๆก็เยอะแยะครับ ส่วนตัวผมเองผมจบจากมหาลัยมาเพื่อนผมกินเหล้า สูบบุหรี่กัน แต่ผมก็ไม่ได้กินเหล้าสูบบุหรี่ตามครับ แต่ก็ยังคบกันคุยกันสนิทกันจนถึงทุกวันนี้ครับ ผมขอไม่บอกละกันนะครับว่าผมจบจากที่ไหน แต่ขึ้นชื่อว่ามหาวิทยาลัยแล้วผมว่าดีทุกที่แหละครับถ้าใช้ชีวิตเป็น ดูแลตัวเองได้ สามารถอยู่รอดในสังคมที่เลวร้ายขึ้นทุกวันได้ ผมว่านี่แหละครับคือการจบจากมหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง จากคุณ : TrIpLeX เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:41:10 A:58.136.17.34 X: TicketID:321255

ความคิดเห็นที่ 70 อ่ะ อ่ะ อย่าเพิ่งทะเลาะกันครับ มาช่วยกันปรับทัศนคติคุณแม่กันดีกว่าครับ ผมก็ศิษย์เก่าลาดกระบังครับ คณะครุศาสตร์อุตฯ เป็นพวกจบปวส. มาต่อตรี 2 ปี ที่นี่ เรียกง่ายๆ "พวกอาชีวะ เด็กช่าง" นั่นแหละครับ ผมไม่ปฏิเสธเรื่องความห่าม คึกคะนองของวัยรุ่นและเมื่อเราอยู่ในสังคมที่ไหลไปแรง ตัวเราก็อาจจะต้านทานไว้ไม่อยู่ ไม่ปฏิเสธว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริงๆ แต่ก็ไม่เชื่อครับว่าจะเป็นที่ลาดกระบังที่เดียว ในประเทศที่เจริญกว่าเรา คน ผู้ใหญ่ เด็ก ก็พูดหยาบ ดื่มเหล้ากัน ผมไม่ได้บอกว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่จะบอกว่าเป็นสิ่งที่มันมีอยู่ เราอยู่ในสังคม หากจะต้องไหลตามไปกับกระแสบ้างก็ขอให้รักษาจุดยืนที่ดีเอาไว้ ระดับพอดี รับสังคมภายนอกพอให้รับรู้ก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับสังคมที่เขามานั่นแหละครับ ปล. มีตัวอย่างเพียงเล็กน้อยให้ศึกษานะครับ คุณแม่รู้หรือไม่ครับ เจ้าของเว็บพันทิปก็จบ วิศวะ ลาดกระบังนะครับ อยากรู้จักเพิ่มเติมคลิกตรง นี้ ครับ จากคุณ : 27augustar เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:46:16

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าคิดว่าเป็นเพราะสถาบันและลูกคุณอยากย้ายด้วย ย้ายเลยค่ะ เราเองก็เรียนวิศวะลาดกระบัง ส่วนตัวพูด Gu Moung ศัพท์สมัยพ่อขุนราม เขาใหญ่เขาดินซาฟารีขนมาทั้งสวนสัตว์เลยค่ะ คนเราจะตัดสินกันด้วยเรื่องแค่เนี๊ยะ?? เหล้าก็กินบ้างประปราย ไม่ไปไหนไกลหรอกใกล้ๆนี่แหละ ก็เรียนมาถึงปี 3 ได้นะ(มันไวมากตกใจตัวเอง) ปี 1 เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการไทร์ที่สุดแล้วสำหรับเรา และพูดการประสบการณ์จะโดนไม่โดนมันอยู่ที่ตัวเราทั้งนั้น รู้จักกาลเทศะ รู้จักรับผิดชอบ รู้ชั่วดี รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รู้ตัวเอง อายุ 18-19 น่าจะรู้จักดูแลตัวเองได้แล้ว เห้อ  เพลียยยยยยย จากคุณ : SicSixSick เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:46:54

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ TrIpLeX พูดถูกทุกประการเลยครับ จากคุณ : EL_KMITL เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:47:38

ความคิดเห็นที่ 73 คุณค่าของคนเราตัดสินจากอะไรเหรอครับ? ผมไม่ได้บอกว่าการพูดหยาบคายเป็นสิ่งที่ดีน่าชื่นชม แต่ผมกำลังจะบอกว่าการที่พูดจาหยาบคายไม่ได้แปลว่าเค้าเป็นคนเลวหนิครับ ปล.ผมว่าถ้าลูกคุณแม่อยู่มหาลัยในเมือง คงเดินห้างทั้งวันอะครับ... เพราะขนาดจากลาดกระบังไปเมกาบางนาได้นี่ไม่ธรรมดาแล้วนะครับ ถ้าไม่มีรถส่วนตัว จากคุณ : A+ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:52:34 A:110.169.228.239 X: TicketID:374233

ความคิดเห็นที่ 74 มันมีทุกที่แหละน่า กินเหล้า หรือพูดจาหยาบคาย ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องพวกนี้กลายเป็นแลนมาร์คของ สจล. ไปซะงั้น จริงๆแล้วมันมีทุกที่นะ ถึงมุมมองที่โดนว่ากินบุญเก่าศิษย์เก่า .. มันก็ไม่ใช่ว่าเด็กสจล.ทุกคนจะไม่ได้ตั้งใจพยายามทำหน้าที่ของตัวให้ดี หลายคนหลายมุมมองแฮะ แต่เรื่องที่ว่าสังคมไม่ดี ขอเถียงให้คอเป็นเอ็นเลยได้ปะ จะดีหรือไม่ดี มันขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละคนน่านะ ^^ จากคุณ : TEN CUPs เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:52:41

ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อก่อนสังคมของที่นี่เป็นแบบพี่กับน้อง เวลามีปัญหาอะไรก็ปรึกษากัน อาจจะมีกินเที่ยวอะไรไปบ้างแต่เราก็สอนกันดูแลกัน เวลาใกล้สอบเวลาอะไร เราก็ช่วยกัน ติวหนังสือ ดูแลซึ่งกันและกัน เพราะต่อไปเราออกไปทำงานเราก็ต้องพึ่งพากัน เราเป็นวิศวกร เราต้องคุมคน เราควรที่จะเข้าสังคม เราไม่ได้ชอบกินเหล้า แต่เราสมควรที่จะกินให้เป็น เพราะตกเย็นถ้าเราไม่คุยกับคนอื่น เราจะรู้ได้ไงว่าลูกน้องเรามีปัญหาอะไร งานเรามีปัญหาอะไร เราเห็นน้องทำอะไรไม่ดีเราบอกเราเตือน ที่นี่ไม่มีคำว่า SOTUS ที่นี่มีแต่คำว่า รักเพื่อน เคารพพี่ ดูแลน้อง เราถือว่าเราต้องเป็นสุภาพบุรุษมาก่อน ให้เกียรติผู้หญิงก่อน แต่สองสามปีที่ผ่านมาสังคมนี้อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง เพราะผู้หญิงเข้ามาเรียนที่นี่กันเยอะ และเด็กบางคนนั้น รุ่นพี่บอกอะไรก็ไม่เคยฟัง เค้ารู้ดีของเค้า แต่สังคมที่นี่เราไม่เคยทำให้ใครเสียคน ผมไม่เคยเห็นใครที่จบที่นี่ไปแล้วไม่ได้ดี เข้ากับคนอื่นไม่ได้ เราไม่เคยถือตัว และที่สำคัญเรารักในตัวตนของเรา เราภูมิใจในเกียรติของเรา ถ้าน้องคนนั้นเค้าคิดว่าที่นี่ยังไม่ดีพอสำหรับเค้าละก็ เชิญเถอะครับที่จะไปสู่สังคมที่ดีกว่าสำหรับเค้า จากคุณ : โทรทรนง 44 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:53:28 A:161.246.254.166 X: TicketID:374234

ความคิดเห็นที่ 76 ผมอยากรู้มานานแล้วครับว่าการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยเนี่ยใช้อะไรวัดเหรอครับ? ค่าของคน?การศึกษา? ???? ลองคิดดูจริงๆนะครับต้องวัดจากคุณภาพของนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย.... ถ้าคุณแม่ใช้สิ่งนี้วัดจริงๆหละก็ ก็ให้ลูกคุณแม่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยที่ได้อันดับที่ดีที่สุดเลยครับ จากคุณ : A+ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:58:31 A:110.169.228.239 X: TicketID:374233

ความคิดเห็นที่ 77 ไม่คิดว่าจะมีกระทู้แบบนี้ (- -)? ... ไปทำโปรเจคต่อดีกว่า จากคุณ : hapzkhun เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:04:13

ความคิดเห็นที่ 78 คุณแม่ครับเลี้ยงลูกให้ดีก่อนแล้วค่อยมาโทษสถาบันครับ ถ้าอบรมสั่งสอนมาดีจริงทำไมลูกคุณแม่แยกแยะไม่ได้ล่ะครับ แล้วที่บอกว่า "ไอ้ที่ออกๆไปเยอะ ไม่ใช่โดนไทร์ แต่ว่าไปสอบ ที่ดีกว่ายอมเสียเวลา 1 ปี่" เนี่ยผมว่าคุณแม่หาข้ออ้างที่ลูกของ ท่านเรียนสู้เพื่อนไม่ได้เกรดน้อยจะโดนไทร์ รึเปล่าครับ ที่นี่คนมีคุณภาพครับคุณแม่สบายใจได้อาจจะมีพูดไม่สุภาพบ้าง แล้วลูกของคุณแม่พูดกับใครครับถ้าพูดกับเพื่อนก็ลองนึกถึง ตัวเองตอนคุยกับเพื่อนสิครับ คุณแม่คุยมีหางเสียง"คะ ขา" หรือไม่ หรือถ้าคุณแม่ผู้ดีมากจนขนาดนั้นผมก็ไม่ว่าครับ แต่ถ้ากรณีลูกคุณแม่คุยไม่สุภาพกับผู้ใหญ่หรือตัวคุณแม่เอง นั่นน่าจะเป็นที่การอบรมสั่งสอนของคุณแม่เอง เพราะสถาบันแห่งนี้ ไม่มีคนเช่นนั้น ผมขอต่อว่าคุณแม่หน่อยนะครับ>>>>> >>>หากคุณแม่มีจิตสำนึกสักนิดแล้วลองตรองดูว่าการอบรม บรมนิสัยมาตั้งแต่วัยเยาว์ถูกต้องไม๊ เลี้ยงมาแนวไหน ถ้าสอนมาดีลูกคุณก็ไม่ทำตัวแย่ ลูกคุณคบเพื่อนแย่ไอ้คำว่า เพื่อนแย่คุณดูเกรดเพื่อนลูกคุณหรือยังการเรียนเค้าเป็นไง ระดับ IQ เค้าคงสูงกว่ากบในกะลาที่มองโลกแง่ร้ายคนอื่นแย่ ตัวเองเลิศเลอ ที่สำคัญระดับ EQ คุณแม่ค่อนข้างแย่นะครับ ถึงกับมาโพสต์ต่อว่าสถาบัน โดยไม่ดูที่ตัวบุคคล ลูกคุณน่ะ อาจจะไม่ได้คิดอะไร ผมว่าตัวคุณนั่นแหละที่สร้างปัญหา ถ้าจิตสำนึกคุณมีมาขอโทษซะ สถาบันใคร ใครก็รัก แล้วนี่สถาบันระดับประเทศนะครับไม่ใช่ให้คุณมาดูถูก คุณเป็นใครระดับสมองของคุณมันสุดยอด หรือจิตใจคุณมันประเสริฐนักรึไง คนที่มันรักดี มันก็ดี คนที่มันแย่ก็เพราะตัวมันเอง ถ้าไม่พอใจก็สอนลูกตัวเองดีๆอย่าให้ไปเที่ยวสิครับไม่ใช่มาโพสต์สร้างชื่อเสีย (ผมไม่แน่ใจว่าถ่าเป็นทางกฏหมายเค้ารู้ ว่าคุณแม่เป็นใครจะเอาผิดได้หรือไม่ นี่มันเป็นการดูหมิ่น หยามเกียรติกันมากครับ) จากคุณ : วิศวลาดกระบัง 45 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:07:20 A:49.49.157.150 X: TicketID:374235

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิด จขกท. คับแคบมากครับ ผมชักสงสัยแล้วว่าสังคมที่คุณเลี้ยงดูเขามานั้นเป็นเช่นไร ทำไมถึงได้โลกสวยจนรับอะไรไม่ได้ซักนิดแม้กระทั่งความหยาบคาย ผมไม่ได้บอกว่าการหยาบคายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่มันก็ไม่ผิดถ้าใช้ถูกกาลเทศะ เพราะไม่ได้ไปใช้กับผู้หลักผู้ใหญ่หรือสังคมการทำงาน แต่ใช้กับกลุ่มเพื่อนฝูง ส่วนเรื่องกินเหล้า กินเบียร์ เที่ยวเตร่มันคงเป็นปัญหาที่ลูกคุณครับ ไม่ใช่สถาบัน หากลูกคุณไม่มีปัญญาที่จะควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบ ต่อให้ไปเรียนมหาลัยกลางเมืองหรือที่ไหนก็ตามก็ไม่มีปัญญาเรียนจบหรอกครับ ว่าแต่คนแบบคุณนี่เยอะนะครับ ดูแลลูกไม่ให้มีความคิด ไม่ให้โตเอง สุดท้ายคิดเองไม่ค่อยจะเป็น ตอนทำงานเจอคนแบบนี้บ่อยซะด้วยสิ อ่อ ลืมบอกไปเพื่อนผมวิศวะจุฬาก็มีครับ แต่ครบทุกรูปแบบ กินเหล้า เมา เที่ยวผับ อาบอบนวด ตีหรี่ แต่เรียนจบสบายๆ ต่อให้เป็นมหาลัยดีแค่ไหน ลูกคุณจะพบสังคมอีกหลายแบบ ถ้ามัวแต่ตีกรอบให้เขา ลูกคุณไม่มีวันโตบนโลกใบนี้ได้หรอก แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 01:20:39 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 01:19:36 จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:13:22

ความคิดเห็นที่ 80 กลายเป็นกระทู้รวมรุ่นไปซะแล้ว จากคุณ : ผมรู้ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:25:34

ความคิดเห็นที่ 81 ย้ายเถอะค่ะ อย่ามาอยู่ที่นี่เลยลูกคุณไม่เหมาะกับที่นี่หรอกค่ะ ไปอยู่ในกะลาที่แม่สร้างไว้ หรือมหาลัยกลางเมืองก็ไปเถอะค่ะ แต่ระวังนะคะ กลางเมืองที่เที่ยวเยอะกว่าลาดกระบังเยอะค่ะ เราจบวิศวะลาดกระบัง เกียรตินิยมอันดับ1ใม่ได้เอาแต่เรียนทำกิจกรรมด้วย แบ่งเวลาเป็น ไม่ได้โลกสวย และค่อนข้างสู้งานค่ะ สมัมครงานพร้อมวิศวะมหาลัยกลางเมือง ที่คุณแม่อยากให้ลูกอยู่ แปลกนะคะที่เค้าเลือกเรา มันอยู่ที่ตัวบุคคลค่ะ อย่าโทษคนอื่น อย่าโทษสถาบับ ถ้าให้เดาตอนเด็กๆถ้าลูกคุณล้ม คุณคงตีพื้นสินะคะที่ทำลูกคุณเจ็บ คิดว่าคงไม่ได้สอนให้ระวัง ว่าเดินยังไงไม่ให้ล้มเป็นครั้งที่ 2 สินะคะ จากคุณ : ร่มรั้วชงโค (อมยิ้มรสหวาน) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:32:11

ความคิดเห็นที่ 82 ถิ่นนี้เรารัก เราอยู่ ใครไม่รู้ไม่ซึ้ง ถึงความหมาย ถิ่นที่รัก รวมใจไว้ไม่คลาย ใครอย่าหมาย ดูหมิ่น ถิ่นเรา #ถิ่นชงโค จากคุณ : ถิ่นชงโค#49 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:44:27 A:124.120.169.47 X: TicketID:374239

ความคิดเห็นที่ 83 กระทู้รวม วิศวะลาดกระบัง จากคุณ : givenchypichy เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:45:30

ความคิดเห็นที่ 84 ย้ายไปเถอะ ตามใจแม่เลย พ่อแม่รังแกฉัน..หุหุ จากคุณ : ดังฮู เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:48:32

ความคิดเห็นที่ 85 ลูกคุณคงอึดอัดน่าดู แต่เค้าคงไม่กล้าพุดกับคุณตรงๆ เคสนี้น่าจะคล้ายๆกัน จะลองเล่าให้ฟังนะว่าเด็กที่พ่อแม่กดดันกับระเบียบเค้ามากมายขนาดนี้ เค้าคิดยังไง ... มีหลานรหัสคนนึง  เจอกันวันแรก พาน้องไปกินข้าวเลี้ยงสายปกติ ไปๆมาๆติดเพื่อน(เพื่อนจากโรงเรียนเก่าด้วยนะ) เราเป็นพี่ก็บอกเราก็เตือนแล้ว หลายครั้งหลายหน ทุกคนในสายเป็นห่วงหมด เพราะเค้าเรียนไม่ได้เรื่องเลย ตกมีนหลายวิชา ไม่เข้าเชียร์ด้วย เค้าบอกเหตุผลว่า ที่เค้าไม่เข้าเชียร์ไม่ใช่ไม่อยากเข้า แต่เพราะเค้าทนการใช้เสียงดังจากพี่ว๊ากไม่ได้เพราะที่บ้านน้องเค้าใช้เสียงด่ากับลูกแบบนี้ ซึ่งเค้ารับไม่ได้แล้วเค้าก็ไม่อยากเข้าไปเจอมันอีก ต่อมา เรื่องการขออนุญาตไปเที่ยวดูหนัง เนื่องจากครั้งแรกๆ ขอแล้วไม่ได้ไป พอหลังๆไปไม่บอกด้วย หลังๆมาอีก ไปบ่อยมาก จนพ่อมาควบคุมความประพฤติอยู่ที่หอด้วย  จนกระทั่งไม่รู้ไทร์หรือลาออก ตอนนี้น้องเค้าไปเรียนใจกลางกรุงคล้ายๆแบบที่คุณแม่อยากให้ไปเลยแหล่ะ   เรายังเชื่อว่าหลานรหัสเราเค้ารักที่นี่อยากอยุ่ที่นี่แต่ด้วยความกดดันหลายๆอย่างจากที่บ้านทำให้มันผิดพลาดแบบนี้ น้องเค้าเองก็ไม่ได้อยากจะไปเลย เคยถามน้องเค้า... ปล.ถ้าน้องหลานมาอ่านเจอ พี่ขออนุญาตยกน้องมาเป็นตัวอย่างให้แม่น้องคนนี้ดูนะ พี่ไม่มีเจตนาจะนินทาหรือใส่ร้ายหลาน แต่อยากจะเล่าให้เป็นตัวอย่างของการกดดันและบังคับตามกรอบความคิดของผู้ใหญ่ใจแคบว่าไม่มีอะไรดีเลย ผลออกมาเสียทั้งเวลา ทั้งความรู้สึก จากคุณ : ice overslept เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:53:03

ความคิดเห็นที่ 86 ถ้าถามว่า จะให้ลูกสาวย้ายไปเรียนที่อื่นดีไหม ตอบได้เลยว่าถ้าทำไปแล้วมีความสุขก็ทำเถอะครับ บางทีลูกสาวอาจจะไม่เหมาะกับคำว่าเทคโนโลยี อารมณ์จะออกประมาณนี้ครับ จริงๆแล้วคุณแม่ก็ยังศึกษาข้อมูลได้ไม่ดีพอหรอกครับ เอาการจัดอันดับหรืออะไรมาพูด พระจอมเกล้าลาดกระบัง เป็นสายเทคโนโลยี มีอยู่ 7 คณะ แล้วจากข้อมูลที่เปรียบเทียบ จะเปรียบเทียบ จากอันดับการตีเปเปอร์ บทความ หรือ จากจำนวนนักศึกษา ลองกลับไปหาข้อมูลดีๆนะครับ ว่าเค้าเคยกล้าเปรียบเทียบอาจารณ์ไหม ว่าเป็นด๊อกเตอร์กี่คน แล้วจบจากที่ไหน ผมว่าบางที วิศวะบางสาขาของลาดกระบัง ยังมีอาจารย์ที่จบด๊อกเตอร์มากกว่ามหาลัยกลางเมืองของคุณแม่ ทั้งคณะเลยก็มี...ผมว่าอาจารย์ไม่ได้หลอกตัวเอง โลกสมัยนี้เปลี่ยนไปครับ เด็กสมัยนี้เหลือแต่ม.ปลายมาเรียน ประสบการณ์ การใช้ชีวิต ต่างจากเด็กต่อเนื่อง อ่อนต่อโลก จากคุณ : ปรับตัวบ้าง เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:53:55 A:61.90.43.47 X: TicketID:360885

ความคิดเห็นที่ 87 ห จากคุณ : ห เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:58:13 A:124.120.169.47 X: TicketID:374239

ความคิดเห็นที่ 88 คุณเเม่จะอ่านมาถึงคอมเมนต์นี้มั๊ยเนี่ย แอบสงสารคุณเเม่นิดนึง เจอกระหนํ่าหลายคอมเมนต์มาก  เเต่ที่ทำพราะห่วงลูกใช่ไหมละ หนูเองก็เรียนที่นี่คะ จะจบปีนี้  เด็กที่นี่กันเองๆพี่น้อง มีอะไรช่วยกันติว รู้จักกันทั้งคณะ ไม่วิกตอง ไม่พารากอน  อยากให้ลองเปิดใจดูเนอะ ส่วนเรื่องจะย้ายดีไหม อนาคตของใครคนนั้นก็ต้องเลือกเอง ความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน ออกเเนว Generation gap วันนี้มันเเค่บทที่1เนอะ  จะไปต่อหรือจะเลือกหนังสือเล่มใหม่ ให้น้องเลือกนะคะ สู้ๆ จากคุณ : ปิ้งแต่พระรอง เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:02:10

ความคิดเห็นที่ 89 #รุ่น 51 รุ่นรวมใจ "พวกเราชาววิศวกรรม เราทำแต่สิ่งที่ดี เรามีสถาบันเด่น ดังเป็นจุดรวมน้องพี่ " จากเพลงรุ่น เพลงนี้ก็บ่งบอกถึงความอบอุ่นของเพื่อนๆพี่น้องลาดกระบัง คนพูดหยาบคายไม่ได้แปลว่าจิตใจหยาบตามคำพูด เราสนิทกัน เราเล่นกัน เราแกล้งกัน ไม่มีใครถือโทษโกรธใคร เราสนิทกัน การเรียนการสอนที่นี่ดี พี่ๆ อาจารย์ T.A. ต่างสอนมารยาทและความรู้ให้ทั้งนั้น จากที่ คุณแม่ จขกท ตั้งกระทู้มา พวกเราเป็นนักศึกษาชั้นปี1 ของkmitlคิดว่า คุณแม่ดูแค่เปลือกนอกหรือคะ ? จิตใจคับแคบเกินไปมั้ยคะ ? พวกเราไม่เคยก้าวร้าว เราเด็กรุ่นใหม่ พูดความจริง กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง และ จริงใจ ไม่เสแสร้งเข้าหากัน ไม่ใช่เด็กทั่วไปพูดจาดีดี เฟคเข้าหากันเป็นสังคมที่หลอกลวง คิดว่าอ่านแล้วคงเข้าใจลูกของคุณเพิ่มขี้นน่ะค้ะ เด็กคงจะอึดอัดที่คุณยังไม่เข้าใจในตัวเค้า ไม่เข้าใจในสังคม ในจุดที่เค้าอยู่ สังคมที่มีแต่ความจริงใจ คุณอาจจะมองว่ามันเถื่อนเกินไป แต่ สังคมภายนอกมันโหดร้ายกว่านี้เยอะค่ะ ด้วยเกียรติและรัก ของเราขอมอบให้เพื่อน เปรียบเราดั่งเหมือน ชงโคร่วมกิ่งและก้าน เราไม่หวั่นไหว แม้ใครจะมาขัดขวาง รักซึ้งดวงมาลย์ คำว่าเพื่อนนั้นมาจากใจ จะอยู่แห่งไหน น้ำใจขอมอบให้เจ้า ให้รู้ว่าเรารักเพื่อน พร้อมตายแทนได้ ข้าจะรักษาไมตรี นี้มั่นเอาไว้ แม้นทุกข์เพียงใด นานแค่ไหนเรามั่นใจกัน เพลงนี้เป็นเพลงรุ่น ที่รุ่น48ได้มาเป็นรุ่นล่าสุด หวังว่าเนื้อเพลงนี้คงจะทำให้คุณแม่เข้าใจมากขึ้นนะค้ะ อย่ากดดันลูกคุณเลยค่ะ เปิดใจยอมรับเขาบ้าง "คุณไม่ได้อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต" คนที่อยู่กับเขาไปตลอด คือตัวเขาเองและเพื่อนของเขา ถึงแม้เพื่อนของลูกคุณจะเรียกลูกคุณแปลกๆ จะพูดจาหยาบคาย แต่เขาก็ตั้งชื่อให้ลูกของคุณเพราะเขารักลูกคุณ เป็นเพื่อนรักของลูกคุณ ที่สามารถจะช่วยเหลือกันได้ทุกอย่าง จากคุณ : รวมใจรักเพื่อน เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:11:44 A:180.183.8.98 X: TicketID:374241

ความคิดเห็นที่ 90 มีแม่แบบนี้.. แล้วลูกจะโตได้ไง !!!! เอาออกไปเถอะค่ะ.. ไปอยู่ทีที่คิดว่าดีซะเถอะค่ะ อยู่สถาบันนี้.. พูดจาแบบนี้ ก้อไม่สมควรอยู่. ถ้าไม่อยากให้เข้าที่นี้ แล้วปล่อยให้เวลาผ่านมานานขนาดนี้ทำไมค่ะ ให้ลูกเสียเวลาไปปล่าวๆทำไมกัน. ในเมื่อสุดท้ายก็เอาตามใจผู้ปกครอง สอนเองที่บ้านเลยดีมั้ย.. ลูกออกมาจะได้เป็นตามใจต้องการ >>> แล้วตกลงว่านั้นอะ. ลูก หรือ ตุ๊กตา. กันค่ะ ?!? สอนลูกไม่ให้รู้จักแยกแยะ แล้วยังจะมีหน้ามาโทษสิ่งแลดล้อมอีกนะค่ะ.. วิศวะ ลาดกระบัง จากคุณ : เทคโนบันเทิง เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:21:33 A:171.7.193.248 X: TicketID:374240

ความคิดเห็นที่ 91 ผมเข้าใจนะครับความรู้สึกของคนเป็นแม่่ แต่นั้นเป็นสังคมในอุดมคติครับ ผมว่าลูกคุณไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ แต่จขกท.เอามาเป็นปัญหามากกว่า ผมมีเพื่อนคนนึงผู้หญิงเรียบร้อยมากทั้งพูดจา กิริยา เวลาทุกคนคุยกะคนนี้ก็พูดชื่อเล่นครับไมไ่ด้KU MUENGเหมือนพูดกับคนอื่น แสดงให้เห็นว่าลูกของจขกท.อาจไม่ได้เรียบร้อยพูดจาสุภาพเหมือนที่แม่แท้ๆคิดก็ได้หรือแสดงว่าสามารถปรับตัวได้ เพราะเป็นผมเจอคนแบบนี้จะไปเรียกศัพท์พ่อขุนรามใส่คงกระดากปากอะครับ เรื่องเที่ยวทุกวันนี้ธรรมดามากเลยครับ แค่ไปเดินห้าง กินข้าว ดูหนัง ห้างมันไมไ่ด้เปิด24ชม.นิครับ เวลาอ่านหนังสือมีอยู่แล้วถ้าแบ่งเวลาเป็น ปล.แม้ไม่ใช่เด็กKMITLแต่ก็เคยไปงานOPEN HOUSEตอนม.6 นะครับ ^^ จากคุณ : น้องอ๊อฟ บางแค เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:27:17

ความคิดเห็นที่ 92 ถึง จขกท จบ วิศว ที่นี่ บอกตามตรง ว่าภูมิใจในเกียรติ และปริญญานี้ อย่างสูง และคิดว่า เพื่อนๆและพี่น้องที่จบจากที่นี่ ไม่เพียงแต่วิศว รวมถึงทุกคณะก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน เพื่อนดิฉันสอบตรงติดแพทย์ คะแนน Admission เข้าเป็นที่1ของคณะ ซึ่งแน่นอน คะแนนระดับนี้ ไม่พลาดมหาวิทยาลัยไหนที่เค้าต้องการแน่ๆ เคยถามว่า ทำไมถึงไม่เลือกเรียนที่... ทั้งๆที่คะแนนก็สูงขนาดนั้น รู้ไหม เพื่อนดิฉันตอบว่าอย่างไร.. เขาอยู่กับสภาพเช่นนั้นไม่ได้ จึงเลือกที่นี่ เพราะฉะนั้น คุณถามลูกเถอะว่า อยากได้สังคมแบบไหน แล้วให้ลูกคุณเลือกเอง มหาวิทยาลัยเป็นเพียงสถานที่ให้ลูกคุณเข้าไปศึกษาหาความรู้ เพื่อประกอบวิชาชีพ สุดท้ายค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ดิฉันไม่เคยคิดดูถูกเพื่อนร่วมงานที่จบจากมหาวิทยาลัยเปิด หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานที่เรียนต่ำกว่า เด็กสมัยนี้เลี้ยงได้แค่ตัวเขาเท่านั้นล่ะค่ะ เด็กผู้หญิงที่อยู่บ้านเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ พอพ้นประตูบ้านก็เปลี่ยนเป็นเด็กก้าวร้าวได้ คุณมั่นใจได้ไหม ว่าที่เด็กที่เรียนในมหาวิทยาลัยกลางเมืองที่คุณอยากให้ลูกคุณซิ่วไป เขาพูดภาษาสุภาพกว่าเด็กที่นี่ คุณลองไปนั่งในโรงอาหารทุกคณะ ทุกมหาวิทยาลัย ที่เขาใช้ภาษาไทยพูดกัน ว่ามีที่ไหนที่เขาพูดจาไพเราะอย่างที่คุณคิดบ้าง มองให้รอบก่อนตัดสินว่าใคร เป็นอย่างไร ไม่ได้เข้ามาต่อว่าคุณ จขกท ที่โพสต์แบบนี้ แต่อยากเตือนสติ ให้คิดทบทวน อย่าด่วนสรุปเพียงเพราะได้เห็น ได้ยิน แล้วสรุปเอาเองโดยที่ยังไม่ผ่านการคิด วิเคราะห์ จากคุณ : Eng KMITL#45 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:30:16 A:58.11.248.96 X: TicketID:374242

ความคิดเห็นที่ 93 การไปห้างเมกะบางนา มีทั้งร้านกินข้าว เล่นไอซ์ ดูหนัง ร้านหนังสือ ซุปเปอร์มาเก็ต ของใช้ต่างๆ ร้านหนังสือต่าง ๆ คุณแม่คิดว่าถ้าลูกเรียนหนักโดยไม่คลายเครียดเลย จะเป็นยังไงคะ ? ให้ลูกไปพักผ่อนคลายเครียดบ้างเถอะคะ มันไม่ได้ไกลอะไรเลย เวลาพวกเราไปกัน ก็สนุกสนานกินข้าวซื้อของใช้เข้าหอ กลับมาก็นั่งอ่านหนังสือ ติวกันต่อ ไปห้างแล้วเสียหายอะไรตรงไหน จะไม่ให้ซื้อของกิน ของใช้ ให้พักผ่อนเลยใช่มั้ยคะ ต้องเปลี้ยนอคติและทัศนคติของคุณแม่เองด้วยนะคะ เป็นห่วงเรื่องความเครียดองเด็ก ยิ่งเด็กเป็นเด็กเรียนดีอยู่แล้ว ไม่ต้องบังคับอะไรเลยด้วยซ้ำ วิศวกร ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ เราทำกันเป็นทีมเวิร์คที่มีประสิทธิภาพสูง และไม่ได้คุมแค่งาน เราคุมทั้งฝ่ายการผลิต ฝ่ายบริหาร และฝ่ายคนงานต่างๆ ทั้ง ปวช ปวส ช่างต่างๆ ไม่ใช่แค่เรียนจบมาได้ แปลว่าจะอยู่และทำงานในอาชีพวิศวกรรอด การมีเพื่อน มีสังคมเป็นสิ่งที่ดี อาชีพนี้ ถ้าลูกคุณเลือกอยากจะทำแล้ว ปล่อยให้ลูกคุณทำตามความฝันดีกว่าไหมคะ ? จากคุณ : รวมใจรักเพื่อน เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:34:29 A:183.89.56.164 X: TicketID:374241

ความคิดเห็นที่ 94 เราเคยเรียนที่นั่นนะค่ะ เพื่อนกินเหล้า เราก็ไม่กิน ไปนั่งเฉยๆ เพื่อนพูด กรู เมิง เราก็ไม่พูด พูดปกติ เพื่อนเที่ยว เราก็ไม่เที่ยวอยู่หอ สุดท้ายมันอยู่ที่ตัวลูกคุณแม่ค่ะ มหา'ลัยทุกที่แหละค่ะ มีเด็กพูดไม่เพราะ เที่ยว ดื่มเหล้า แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ว่า ลูกคุณจะเลือกคนแบบไหน จากคุณ : Imagery เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:37:13

ความคิดเห็นที่ 95 หลังจากอ่านการตอบคำถามของจขกท.ก็ได้แต่หวังว่า ไม่ได้เป็นกระทู้ล่อเป้าเพื่อให้คนมาดราม่ากันนะคะ เราเป็นศิษย์เก่าลาดกระบัง คณะวิทยาศาสตร์ และมีเพื่อนอยู่คณะวิศวะหลายคนเลย ทุกคนมีหน้าที่การงานที่ดีทั้งนั้นล่ะค่ะ และมักเป็นตัวเลือกแรกๆที่บริษัทเค้าจะเลือกด้วย เราแอบเห็นด้วยกับหลายความเห็นที่จขกท.คงไม่ภูมิใจกับสถาบันที่ลูกเลือกสักเท่าไหร่ถึงได้มีความคิดแบบนั้นออกมา ลูกอยากเรียนอะไรก็ให้เค้าเลือกที่เค้าชอบน่ะดีแล้ว จากคุณ : Saturdayamp เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:40:39

ความคิดเห็นที่ 97 ตอนนี้ผมก็เป็นเด็กลาดกระบัง แต่เป็นเด็กคณะวิทยาศาสตร์ สำหรับเรื่องนี้ในความคิดผม ผมมองว่าเป็นเรื่องของ "ภูมิคุ้มกัน" ของตัวน้องเขามากว่านะครับ เพราะว่าต้องยอมรับว่าทุกๆ สังคมนั้นย่อมมีคนแตกต่างกันในหลายๆ ลักษณะ โดยเฉพาะสังคมในระดับมหาวิทยาลัยด้วยแล้ว ยิ่งมีความแตกต่างของบุคคลมากเข้าไปใหญ่ ซึ่งต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่า เรื่องของการพูดจาไม่สุภาพ การเที่ยวเตร่ ไม่ได้มีแต่ที่ลาดกระบังอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีในทุกมหาวิทยาลัย ขึ้นอยู่กับว่าลูกคุณจะเลือกคบคนแบบไหนมากกว่า แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ มันไม่ได้สำคัญหรอกว่าเขาจะเป็นคนอย่างไร แต่ถ้าหากเขารับผิดชอบตัวเองได้ กล่าวคือตอนเรียนเข้าเรียน ส่งงานครบ ช่วงสอบตั้งใจอ่านหนังสือ จุดๆ นี้มิใช่หรือที่จะเป็นสิ่งที่บอกความสำเร็จของเขา และจากประสบการณ์ผม เพือนบางคนที่ชอบเที่ยวเตร่ หรือทำกิจกรรมอย่่างหักโหม ปรากฎคะแนนสอบและเกรดที่ออกมากลับมากกว่าเพื่อนที่เรียบร้อยไปวันๆ เสียอีก เพราะต้องยอมรับว่าเขารับผิดชอบตัวเองได้จริงๆ จุดๆ นี้ ต้องถามแล้วล่ะว่า ลูกคุณแม่รับผิดชอบตัวเองได้มากพอหรือยัง ? เพราะหากยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ ผมว่าอยู่ที่ไหนก็มีปัญหาที่น่าเศร้าแบบนี้เหมือนกัน และนอกจากนี้ สังคมของ "ลาดกระบัง" สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นคือ "ความช่วยเหลือ" กัน เพราะเวลาที่ใกล้สอบกัน หากไม่เข้าใจ อาจารย์ก็จะช่วยติวและสรุปให้ รวมถึงมีพี่ๆ จัดโครงการติวมากมาย ซึ่งทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ก็มีการจัดการติว รวมถึงมีเพื่อนช่วยกันติวอีกต่างหาก แต่อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับตัวเด็กเองว่าจะขวนขวายรับโอกาสนี้ไหม อยู่ในระดับมหาวิทยาลัย..สำคัญคือเรื่องของ "การแบ่งเวลา" และ "ภูมิคุ้มกัน" เพราะสังคมในชีวิตจริงใหญ่กว่ามหาวิทยาลัยเยอะ และโหดร้ายกว่านั้นด้วย คุณแม่จะอยู่ดูแลเขาได้ตลอดทั้งชีวิตเลยหรือ ? ขอร้องว่าอย่าคิดแทนลูก แต่จงสอนให้ลูกอยู่ในสิ่งที่ตัวเองเลือกอย่างเข้มแข็งดีกว่า ทั้งนี้ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนั้นไม่ได้มีเจตนาจะสอนคุณแม่แต่ประการใด แต่อยากให้คุณแม่เข้าใจว่าสังคมสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนมาก เราจึงควรรับฟังเสียงของเด็กให้มากขึ้น ไม่ใช่คิดแทนเขาทั้งหมด จนเขาขาดความสุขในชีวิต และหนีห่างจากเราไปในที่สุด สุดท้ายนี้ ผมขอฝากข้อคิดไว้ว่า "เราเลือกอยู่ไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะดีได้" จากคุณ : Taichi_33813 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 02:45:38

ความคิดเห็นที่ 98 Edit ไม่รู้จะอธิบายยังไง แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 03:37:18 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 03:34:18 จากคุณ : KMITL #46 (May LYL) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 03:29:26

ความคิดเห็นที่ 99 ผมเรียนปี4ที่นี้บอกเลยว่าสังคมมที่นี้ดีมาก ถึงพูดหยาบแล้วไง คุณคงอยากให้ลูกคุณเจอสังคมจอมปลอมที่เจอหน้าแล้วพูดจาไพเราะแล้วลับหลังคอยนินทาว่าร้ายหรอ ผมอยู่ที่นี้มา4ปี ผมว่ามันดีมากสำหรับผม ผมเรียนๆ เที่ยวๆ แต่ผมก็จบ4ปี ทุกคนไม่ว่าพี่ๆน้องๆก็ช่วยกัน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษากัน ใช่ว่าเป็นลิงหลอกเจ้า คนที่นี้จริงใจต่อกัน ผมว่าคุณคิดมากไปเองแล้วแหละ คนเราเจริญเติบโตก็ต้องเจอวัฒนธรรมใหม่ๆ ผมเข้าใจว่าการพูดคำหยาบมันไม่ดี แล้วบรรพบุรุษเราอะ ก็พูดแบบนี้ คุณมองว่าไม่ดีหรือ?? แต่เค้าก็สร้างประวัติศาสตร์เราจนถึงบัดนี้ ผมว่าคุณลองมองอีกด้านนึงดีกว่า โลกเรามันไม่ได้เลวร้านไปซะหมดหรอกครับ จากคุณ : bankbobo เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 03:48:44 A:183.89.59.47 X: TicketID:374246

ความคิดเห็นที่ 100 โห คนดีเยอะนะ ลาดกระบังน่ะ มันเป็นธรรรมดาของมหาลัยมากกว่า เรื่องพวกนั้น ไม่อยากเรียน เชืญอยู่บ้าน จากคุณ : สะดวกอินดี้ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 04:36:15

ความคิดเห็นที่ 101 มหาลัยไม่เกี่ยวครับ เพื่อน ๆ ผมพูดคำหยาบกันเป็นว่าเล่น ผมไม่เห็นต้องพูดตามเลย และการไม่พูดคำหยาบไม่ได้หมายความว่าเป็นคนติ๋ม ๆ เสมอไปด้วย ถ้าคุณไม่พอใจหลานคุณมีกิริยามารยาทไม่เรียบร้อยก็ควรบอกไปตรง ๆ ว่าควรปรับปรุงตัว ถ้าหลานคุณมีลักษณะนิสัยที่ไม่ชอบคำหยาบคายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องฝืนใจทำ มันจะเป็นธรรมชาติของตัวเอง ถ้าไม่ใช่ คุณควรจะคิดได้แล้วล่ะว่า สิ่งที่หลานคุณอยากจะเป็นคืออะไร คุณไปบังคับฝืนใจเขาไว้ตั้งแต่เด็กหรือไม่ และคุณควรจะบังคับให้หลานเป็นอย่างที่คุณต้องการต่อไปหรือไม่ มันเป็นทางเลือกที่คุณต้องตัดสินใจ และอย่าลืมว่าหลานของคุณก็คงบรรลุนิติภาวะแล้ว เขาก็มีสิทธิที่จะตัดสินชะตาชีวิตของตัวเองเช่นกัน และเรื่องคำหยาบ มันไม่ได้เป็นสิ่งที่บอกว่าคนพูดเป็นคนดีหรือเลวครับ  โจรวิ่งราวใช้คำหยาบ ในขณะเดียวกันเจ้าสัวพันล้านก็มีหลุดคำหยาบกลางงานเลี้ยงก็มีบ่อยไป หรือคนพูดเพราะ ๆ เป็นคนดีมีคนนับหน้าถือตา แต่บางคนเป็นโจรฉ้อโกงก็มีเยอะแยะไป แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 05:27:15 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 05:25:33 จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 05:23:01

ความคิดเห็นที่ 102 ขออนุญาตแสดงความเห็นนะ การพูดจาหยาบคายไม่ได้เป็นวิชาในหลักสูตรที่มีสอนในระดับอุดมศึกษา คงไม่มีมหาวิทยาลัยหรือสถาบันไหนสอนนักศึกษาแบบนั้นแน่ เรื่องของพูดจาหยาบคายอาจจะเป็นเรื่องของเด็กๆที่เค้าแสดงออกกันในกลุ่มเพื่อนๆกันมาก เพื่อนๆสนิทกันพูดมรึงๆกรูๆ ทะลึ่งตึงตัง หรือแซวสาวๆที่เดินผ่านกลุ่มตนเองเป็นเรื่องปกติ เด็กๆเค้าสนิทกันน่ะ เรื่องเด็กๆกำลังคะนองเรื่องปกติมากนะครับ อีกเรื่องที่สงสัยคือ เรื่องการพูดการจา พื้นฐานเนี่ยมันมาจากการอบรมสั่งสอนการเลี้ยงดูใช่มั้ย เด็กพูดจาหยาบคายในกลุ่มเพื่อนๆมันปกติในวัยเค้า แต่เด็กๆที่พูดจาไม่ได้ใส่ผู้ใหญ่ด้วยเนี่ย เข้าใจเป็นเด็กที่ไม่รู้จักอะไรควรไม่ควร คงจะให้คุณผู้ปกครองทบทวนแล้วแหละว่าเลี้ยงกันมายังไงครับ ผมก็วิศวะลาดกระบัง ถ้าเด็กของคุณเพิ่งเข้าปีนี้ ผมก็ห่างจากน้องเค้า 14 ปี ตอนเรียนก็มีพูดจากันกรูๆมรึงๆ ทะเล้นทะลึ่ง แต่มันก็ทำได้เฉพาะกลุ่ม โตมาเดี๋ยวก็หายเพราะสังคมที่อยู่มันจะโตขึ้น ถ้ามัวพูดจาหยาบๆใส่คนอื่นมันทำไม่ได้หรอก อยากให้เค้าเป็นยังไงก็สอนเค้าสิ อาจารย์ที่ดูแล 1 คนแนะแนวเป็นเป็นสิบ เป็นร้อย น้องคนนี้มีคุณผู้ปกครอง ในครอบครัวคงมีผู้ใหญ่หลายคน ดูแลเด็กไม่มีคนคงไม่เหนือเกินความสามารถใช่มั้ยครับ จากคุณ : ยืม ID ภรรยามาโพส (Laikuiy) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 05:56:03

ความคิดเห็นที่ 103 ผมก็กำลังเรียน ปี4 วิศวะลาดกระบังนะครับ การใช้ชีวิตในสังคมมหาลัย ในห้องเรียนไม่ได้สอนหรอกนะครับว่าต้องทำอย่างไร ตัวนักศึกษาเองมากกว่าว่าจะเลือกไปแนวทางไหน การเลือกคบเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ ปัญหาเล็กน้อยเรื่องการพูดจาหยาบคาย ไม่ได้บ่งบอกว่าคนๆนั้นเป็นคนดี หรือคนไม่ดี ยังต้องดูอีกเยอะ ลาดกระบัง จากวันแรก จนวันนี้ ตอนนี้ก็ได้สร้างบุคลากรรเก่งๆออกไปรับใช้สังคมมากมาย อยากให้ผู้ปกครอง มองหลายๆด้านนะครับ จากคุณ : ปลาน้อยในคลองใหญ่ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 06:47:11

ความคิดเห็นที่ 104 เหลืออีกกี่เพลง จากคุณ : RichThoFeN เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 07:13:51

ความคิดเห็นที่ 105 โห..... ฮ่าๆ เห็นกระทู้แล้วอดไม่ได้จริงๆ นะคะ ในฐานะเด็กเก่าลาดกระบัง (แม้จะอยู่สถาปัตย์ก็ตาม แต่คณะเราติดกันนี่ ฮ่าๆ) เราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ เรียกว่ามาเรียนไกลมาก แล้วก็อยู่หอ.. เรื่องพูดหยาบมี แต่ว่ามันก็มีทุกมหาลัยนะคะ ส่วนเรื่องเมา มันก็มีทุกมหาลัยเหมือนกันค่ะ แต่เราไม่เคยเมานะคะ เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยว อันนี้มันขึ้นอยู่กับตัวคนจริงๆ ค่ะ (ฮ่าๆ เด็กสถาปัตย์ก็เมาหัวราน้ำเหมือนกันนะคะ) ส่วนเรื่องโดนไทร์ อ่านที่คุณจขกท.พูดแล้ว เราว่าคุณจขกท.อคติค่ะ คือเหมือนคุณอคติต่อสถาบัน พอเห็นอะไรในตัวลูกไม่ดีหน่อย ก็โทษใส่สถาับันค่ะ ลาดกระบังอาจจะไม่เหมือนสถาบันสวยหรูในฝันคุณ เข้าไปมีแต่ป่า คนตัวดำๆ ฯลฯ แต่เราว่าวิศวะ(และคณะอื่นๆ) คงไม่ได้จบไปเพื่อทำงานพูดจาภาษาดอกไม้นะคะ ถ้าคุณแม่อยากให้ลูกกิริยามารยาทเรียบร้อย ทำไมไม่ส่งเรียนโรงเรียนในวัง ไปทำขนมจัดดอกไม้ไปเลยล่ะค่ะ ไม่ก็ให้ไปเีรียนสายอาชีพที่ทำงานเป็นพวกเลขาฯอะไรแบบนั้น ฮา... อ่านไปแล้วเหมือนคุณแม่ติดนิสัยชอบบงการลูกนิดๆ ค่ะ อันนี้เราบอกประสบการณ์ตรงของเพื่อน ที่ย้ายคณะตามใจพ่อแม่ สุดท้ายเรียนจนแก่ กว่าจะจบป.ตรีได้ เพราะว่าทนเรียนไม่ไหว รีไทร์เรื่อยไปค่ะ (เพื่อนๆ ลุ้นกันมาก ว่าจะได้อุ้มลูกไปงานรับปริญญาเพื่อนคนนี้รึเปล่า?) อยากให้คุณคิดว่า คุณคงอยู่ชักใย หรือสั่งสอนลูกไปไม่ได้จนลูกตายหรอกค่ะ เด็กต้องโตสักวัน การที่เขายังเ่ล่าให้คุณฟัง ถือเป็นเรื่องดีนะคะ ถ้าเขาไม่เ่ล่านี่อาจจะแย่กว่านี้ค่ะ เท่าที่ฟัง ลูกคุณดูจะมีนิสัยเปิดเผยพอสมควรนะคะ คิดว่าปล่อยเขาเรียนไปเถอะค่ะ ถ้าพ้นปี1-2ไปได้ ลูกจะโตและมีความคิดกว่านี้ค่ะ อย่าไปขีดเขาในกรอบของคุณ เราว่าที่เขาเลือกเรียนที่นี่ เพราะเขาอยากเปิดเผยบุคลลิกค่ะ (เราว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมาพอสมควรเลยนะคะ) คุณแม่ไม่ควรคิดมาก แม้คุณแม้จะแย้งว่า ก็นี่ลูกฉัน แต่แม่เรานี่ส่งลูกมาเรียนไกลเป็นพันๆ กิโล เขาก็คิดมากค่ะ แต่เขาไม่เคยสั่งเราให้ย้ายไปเรียนที่อื่น มีปี2ที่เราเครียดจัด อยากลาออก เขาก็บอกว่าจะลาออกก็ได้ แต่คิดดีๆ นะ มันจะเสียเวลา สุดท้ายเราก็กัดฟันเรียนต่อจนจบ แล้วก็ไม่เสียใจที่เรียนที่นี่ค่ะ ที่นี่ดีมาก เป็นอะไรที่สอนให้เรารู้จักสังคม และรู้จักการทำงานจริงๆ ค่ะ เราว่าลูกคุณอาจจะไม่เสียเพราะสังคม แต่เสียเพราะคุณคิดจะกำหนดกะเกณฑ์ชีวิตเขานี่ล่ะค่ะ ปล. และอย่าอคติสถาบันค่ะ เราไม่ชอบเลย ที่คุณว่าอ.หลอกตัวเอง เราว่าคุณหลอกตัวเองมากกว่า วิศวะและทุกคณะที่นี่ มีคุณภาพค่ะ โปรดอย่าหลอกตัวเองแล้วโทษคนอื่นเลยนะคะ ไม่อย่างนั้นกระทู้คุณจะกลายเป็นล่อเป้าไปค่ะ ปล.2 ถ้าลูกคุณไม่พูดพ่อขุนใส่ผู้ใหญ่ เราว่าไม่เห็นจะต้องลำบากใจเลยค่ะ ถ้าพูดกับเพื่อนๆ กันเอง เป็นธรรมดามากค่ะ ฮา~ (เราเป็นคนพูดกับคนอื่นเพราะมาก เพราะที่บ้านสอนมาแบบนี้ แต่ถ้าเป็นเพื่อนฝูงกัน ก็แล้วแต่ว่าเพื่อนคนนั้นจะหยาบขนาดไหนค่ะ เราไปได้หมด แต่เรียนจบมาไม่มีเสียคนค่ะ) จากคุณ : 'ถาปัตย์50 (Jumem) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 07:32:38

ความคิดเห็นที่ 106 สั้นๆครับ ถ้าคิดว่าลาดกระบังที่ผมจบมามันไม่ดี ก็ให้ลูกคุณ จขกท. ลาออกไปเรียนที่ใหม่เลยครับ แล้วลองดูว่ามันมีเหมือนกันไหมบุคคลกลุ่มที่ลูก จขกท. เจอ หรือไม่ก็ อยากให้คุณ จขกท. ลงมาเรียนเองมั๊ยครับ จากคุณ : ศิษย์เก่า สจล. (Snowwine) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 07:39:57

ความคิดเห็นที่ 107 ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเด็กสมัยนี้ บางคนเด็กจริงๆ<div>เพราะความคิด<img src จากคุณ : #35 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 08:02:45 A:101.109.78.208 X: TicketID:374249

ความคิดเห็นที่ 108 คุณเคยเรียนหรอครับมาบอกที่นี่สังคมไม่ดี ผมเรียนอยู่วิศวะปี 1 เหมือนกัน ผมก็ว่ามันปกตินะครับ ถ้าไม่พอใจก็ซิ่วไปเถอะครับ มาถามขนาดนี้คิดจะซิ่วไปครึ่งขาแล้วครับ เหลือแค่ไปสอบ จากคุณ : golf เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 08:46:29 A:124.120.217.139 X: TicketID:374251

ความคิดเห็นที่ 109 จขกท. เผ่นไปพันลี้แล้ว  หยุดๆ เก็บเสื่อ เก็บถ้วยชามรามไห  หม้อมาม่า เตาไฟ  กลับเข้าหอ กลับมหาลัย กลับที่ทำงาน กันเถอะพี่น้องลาดกระบัง จากคุณ : คุณแม่ลูกเรียนลาดกระบัง (ต๊อตโตะจัง) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 08:56:51

ความคิดเห็นที่ 110 เห็นเขาตอบกันไปเยอะแล้ว ไม่รู้จะทันมั้ย การพูดคำหยาบแบบนั้นมีตั้งแต่โรงเรียนมัธยมแล้ว ซึ่งถ้าเพียงคบเพื่อน แล้วนำคำเหล่านั้นมาใช้ที่บ้านเองผมว่าลูกคุณน้าน่าจะควรตัดสินได้แล้วว่าเรื่องไหนมันควร ควรใช้ในเวลาไหน ถ้าตัดสินเรื่องแค่นี้ไม่ได้ ผมว่าก็แย่อยู่นะครับ ส่วนตัวผมเองก็เลือกใช้สรรพนามตามแต่กลุ่มคนที่พูดคุยด้วย แต่ก็ไม่ได้ใช้ กู เมิง ถึงแม้จะคุยกับเพื่อนที่ใช้คำพูดเหล่านี้ ซึ่งคำพูดเนี่ยผมได้ยินมาตั้งแต่ม.ต้นด้วยซ้ำไป การเที่ยว มันก็สภาพเหมือนเด็กรู้สึกเหมือนได้รับอิสรภาพ เลยเที่ยวเรื่อยทุกวี่ทุกวัน สำหรับเด็กวัยนี้ควรจะปล่อย ให้รับรู้ชะตากรรมของตัวเอง ถ้าเค้าเที่ยวทุกวันแต่รับผิดชอบตัวเอง อ่านหนังสือสอบ เข้าใจเนื้อหาทีเรียนได้ก็ดีไป แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องให้เค้ารู้ตัวเองว่าควรจะปรับปรุงตัวเองอย่างไร สำหรับผมคะแนนผมเลือกมหาลัยได้ทุกที่เหมือนกัน ส่วนตัวเลือกลาดกระบังเพราะ ต้องการเรียนรู้สังคมที่หลากหลาย ต้องยอมรับว่าเด็กเกเรก็มี แนวช่างกลก็มี ควรจะเรียนรู้การอยู่ในสังคมหลายๆแบบ สำหรับผมเข้ามาเรียนยังไม่เคยแตะเหล้าเลยด้วยซ้ำ ทำกิจกรรมก็จะเลือก ในการเป็นผู้จัดการดูแลกิจกรรมมาก ฝึกตัวเอง ถ้าหากเจอเพียงสังคมเล็กๆแล้วปรับตัวไม่ได้ ผมว่าก็อนาคตน่าห่วงอยู่ ควรฝึกให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ มีความคิด มีการตัดสินใจที่ดี คอยแนะนำอยู่ห่างๆ โดยใช้ลักษณะการเล่าประสบการณ์ จากตัวคุณน้าดูนะครับ จากคุณ : ซาลาเปาบัวหิมะ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 09:18:23

ความคิดเห็นที่ 111 แวะมาต่อค่ะ อันที่จริงเราเห็นใจน้องที่เป็นลูกคุณจขกท.นะคะ ถ้าจะต้องมาซิ่วเพราะความเห็นของคุณแม่ แค่ว่า "ลาดกระบังทำให้ลูกฉันพูดไม่เพราะ" มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดในชีวิตมนุษย์คนนึงเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะถ้าหากว่าน้องคนนั้นตั้งใจจะเข้าที่นี่จริงๆ อนึ่ง เนื่องจากคุณจขกท.มีบอกว่า เคยเตือนลูกเรื่องพูดหยาบไป แล้วลูกบอกกลับมาว่า เพื่อนๆ ก็พูด อันนี้เราแอบรู้สึกว่าเหมือนแม่เราค่ะ ฮ่าๆ แม่เราจบบัดนี้ที่เราอายุจะ30เข้าไปแล้ว ก็ยังมีเตือนแบบนี้นะคะ ซึ่งเราเ้ข้าใจค่ะ ว่าคนเป็นแม่ ยังไงก็เห็นว่าลูกเด็กอยู่วันยันค่ำ และที่เตือนก็เพราะหวังดี และก็เป็นสิ่งที่ดี เราเข้าใจค่ะ แต่ว่าคุณแม่เองก็ควรเปิดใจให้กว้างด้วยนะคะ เพราะเราเห็นว่า การที่คุณลูกตอบว่า "เพื่อนๆ ก็พูด" คุณลูกคงจะตั้งใจบอกว่า ที่หนูพูดมันไม่ได้ผิดปกตินะคะแม่ ไม่ได้เลวร้ายเลวทรามอย่างที่แม่เข้าใจ คุณควรอลุ่มอล่วย ถ้าลูกพูดกับเพื่อนสนิท หรือเพื่อนที่คบๆ กัน ก็ควรปล่อยผ่านไปบ้าง ตราบใดที่เขายังสุภาพกับคนที่ควรสุภาพ อย่างผู้ใหญ่ หรือครูบาอาจารย์ หรือคนที่เพิ่งรู้จักอยู่ เพราะการพูดสุภาพ มันเป็นมารยาทในการเข้าสังคมแค่นั้นเองค่ะ^^ (ฮา.. เพื่อนเราบางคนโทรมา ได้ยินเรารับโทรศัพท์พูดคะขา ยังแซวว่าโทรมาผิดเบอร์รึเปล่านี่ อันนี้มันเป็นมารยาทสังคมแค่นั้นเองค่ะ) ส่วนที่ว่า เพื่อนผู้ชายไม่ให้เกียรติ อันนี้เราไม่แน่ใจว่า ไม่ให้เกียรติของคุณ หมายถึงแบบไหน? ถ้าแค่ พูดคำหยาบคายด้วย หรือไม่ช่วยถือกระเป่า ไม่เปิดประตูรถ ฯลฯ อันเป็นมารยาทแบบผู้ดีในหนังทำกัน เราว่าปกติค่ะ สมัยเรียนเรามีเพื่อนผู้ชายเยอะมาก สนิทกันขนาดเรียกกันนำหน้าด้วยชื่อสัตว์ก็มี แต่ว่าก็ไม่ได้ลามปาม มาถึงเนื้อถึงตัวกันนะคะ เราว่าการไม่ให้เกียรติในสายตาเรา คือการถึงเนื้อถึงตัว แทะโลม ฯลฯ มากกว่าค่ะ แค่พูดไม่สุภาพ หรือไม่ช่วยหิ้วกระเป๋า (ซึ่งผู้หญิงบางคนติดนิสัย ชอบให้ผู้ชายที่รู้จักกันหิ้วกระเป๋า แม้จะไม่ได้เป็นอะไรกันเลยก็ตาม) เป็นปกติค่ะ ธรรมดาสังคมโลกมากค่ะ ส่วน ทำไมอ.ว่าเรียนหนัก แล้วน้องเอาแต่เที่ยว อืม... อันนี้เราว่าถ้าแค่เมกะบางนานี่..ธรรมดาสุดๆ เลยนะคะ ก็เหมือนไปเที่ยวmbkอะไรเทือกนี้ค่ะ (ไว้เขาไปRCAแล้วค่อยกังวลยังไม่สาย ฮา~) เราเองคิดว่าถ้ายังเรียนอยุ่ ก็คงต้องเหมาแท็กซี่ไปเที่ยวเมก้าบางนาสักครั้งค่ะ (แล้วอยู่ลาดกระบังแค่นั้น ทำไมจะไปไม่ได้หว่า) ส่วนเกรดจะดีหรือไม่ดี เราว่าพ้นเทอมนี้ก็น่าจะรู้ และถ้าน้องเค้าตั้งใจจะอยู่ที่นี่จริงๆ เห็นเกรดแล้วเขาคงต้องคิดแล้วว่าจะปรับตัวยังไงค่ะ คุณแม่ไม่ต้องซีเรียสนะคะ การที่น้องสามารถเรียนพ้นม.ปลายมาและสอบเข้าที่นี่ได้ แปลว่าเขามีความรับผิดชอบอยู่ส่วนหนึ่งแล้วค่ะ จุดที่เราเห็นใจน้องมากคือ หากน้องต้องย้ายมหาลัย แค่เพราะคุณแม่รับไม่ได้ที่น้องพูดหยาบ และถ้าน้องตั้งใจจะมาเข้าที่นี่ด้วยนี่ เราถือว่าเป็นการทำลายความตั้งใจของน้อง ด้วยเหตุผลส่วนตั๊วส่วนตัวที่ไร้สาระมากของคนเป็นแม่เลยล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าคุณจะเข้าใจไหม การที่เด็กคนหนึ่ง ตั้งใจทำอะไรสักอย่าง แล้วต้องมาทิ้งมันไป ทั้งๆ ที่ทำได้แล้ว แค่เพราะคนเป็นพ่อแม่ไม่เห็นด้วย ไม่เข้าใจ ไม่ชอบ มันเหมือนกับเขาูสูญเสียเป้าหมายในการมีชีวิตนะคะ มันจะทำให้เกิดความรู้สึกว่า ต่อไปฉันไม่ต้องตั้งใจทำอะไรหรอก เพราะเดี๋ยวพ่อแม่ไม่พอใจ ก็ต้องเปลี่ยนตามใจพ่อแม่อยู่ดี... มันจะทำให้เด็กเกิดสภาวะไร้จุดมุ่งหมาย เอาดีอะไรไม่ได้สักอย่าง เพราะเขาคิดว่า "ต้องตามใจพ่อแม่" ซึ่งไม่มีใครตามใจใครได้ทุกอย่างหรอกค่ะ คุณจำกัดตัวเองได้ทุกกระเบียดนิ้วเหรอคะ? ถึงจะไปกำหนดคนอื่นได้? เพราะงั้นค่ะ เราขอร้องจริงๆ ถ้าน้องจะต้องซิ่ว ก็ควรจะเป็นเหตุผลว่าน้องไม่สามารถเีรียนได้จนถึงที่สุด ไม่ใช่แค่เพราะคุณแม่รับไม่ได้ กับสังคมที่น้องเป็น (ซึ่งเราอ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าเลวร้ายเลวทรามต่ำชาติตรงไหน แต่เพราะคุณแม่มีอคติมากกว่า) ถ้าคุณแม่ต้องการข้อมูล ว่าควรจะทำใจยังไง เดี๋ยวไว้เราจะสัมภาษณ์คุณแม่เราให้นะคะ ว่าการส่งลูกมาเรียนไกลๆ (เป็นพันกิโลฯ) เขาทำใจยังไง เผื่อจะเป็นแนวทาง ให้คุณแม่วางใจและทำใจปล่อยลูกให้โตได้สักทีค่ะ ^^ หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างนะคะ จากคุณ : 'ถาปัตย์50 (Jumem) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 09:32:31

ความคิดเห็นที่ 112 สังคมมีทั้งด้าน บวก และ ลบ ที่ผ่านทางครอบครัวได้สอนให้รู้จักกับสังคมมากแค่ไหน การเรียนรู้ชีวิตไม่ได้มีเพียงในครอบครัว จะต้องเจอทั้งสิ่งดีและไม่ดี ก็ต้องอยู่ที่ตัวบุคคลว่าจะเลือกสิ่งไหน ตัวผมเอง เจอเพื่อนที่คุยสุภาพ ก็คุยสุภาพ  เจอเพื่อนสนิทก็หยาบคาย ก็อยู่ที่ว่าคุยอยู่กับใคร เท่านั้นเอง จากคุณ : ตากล้อง_ตาถั่ว เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 09:45:31

ความคิดเห็นที่ 113 ไปเรียนกลางเมืองอาจเจอปัญหาอื่นเช่นเป็นแกะดำเพราะไม่ได้มาจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแค่แนะนำเค้าว่าอะไรดีไม่ดีเค้าก็น่าจะคิดได้เองลูกคุณกำลังจะเป็นผู้ใหญ่นะคะ จากคุณ : อุ๊ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 10:04:00 A:110.49.226.94 X: TicketID:374258

ความคิดเห็นที่ 114 อ่านแล้วแอบฮา มันเป็นปกติหรือเปล่าคะ ที่เด็กสมัยนี้สนิทกันจะพูดคำหยาบ ยิ่งไปอยู่ในสังคมผู้ชายเยอะๆแล้ว มันปกติมาก เรื่องการตั้งใจเรียน อ่านหนังสือมันไม่เกี่ยวกับสถาบันค่ะ มันแล้วแต่คน บางคนเลิกเรียนแล้วอ่านหนังสือ บางคนไปเที่ยว นี่มาโทษสถาบันอย่างเดียวเลย ไม่โทษลูกตัวเอง และถ้าซิ่วไปเรียนที่อื่นลูกคุณแม่จะพูดจาเพราะขึ้นก็ ... เอาเถอะนะคะ = =* จากคุณ : poi เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 10:04:05 A:125.24.88.35 X: TicketID:308830

ความคิดเห็นที่ 115 เราจขกทนะคะ คุณน๊อตโต๊ะจัง เราไม่ได้หนีนะคะ เราเข้ามาอ่านทุก comment แต่ไม่อยากตอบแล้วค่ะ พวกคุณบอกว่าการพูดจาแบบนี้ไม่ได้หยาบ กรุณาไปอ่าน #96 นะคะ คนไม่รู้จักกัน มาด่ากันอย่างนี้ได้อย่างไร หรือพวกคุณคิดว่าคำว่า เชี้ย เป็นคำชมก็ให้เค้าไปชมลูกสาวคุณแทน เราไม่ได้ว่าสถาบันไม่ดีนะคะ แต่เราบอกว่าเด็กที่นี่ส่วนใหญ่พูดอย่างนี้ แค่ ku and mng รับได้ค่ะ แต่แถมด้วย ตัวใน #96 กับ กล่าวถึง พ่อแม่ บ่อยๆรับไม่ได้ค่ะ มันไม่ใช่คำอุทานค่ะ อ้ออีกอย่างลูกเราเรียนดีค่ะ คะแนนที่ออกมา 2-3 วิชา เกินมีนเยอะค่ะ ส่วนเรื่องชวนกันเที่ยวน่ะ มีมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปเรียนแล้วค่ะ ลูกเราก็ปฎิเสธบ้างไปบ้างเพราะเราให้ไปบ้างไม่ให้ไปบ้าง เราถึงมาถามว่าทำไมชอบชวนกันเที่ยวจัง ทำไมไม่อ่านหนังสือ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 10:04:06 A:58.9.36.10 X: TicketID:340380

ความคิดเห็นที่ 116 ขอเล่าประสบการณ์บ้างนะครับ ตอนเด็กๆ ประถมผมเรียนที่1ตลอด ตอนมัธยมถึงไม่ได้ที่1ตลอด แต่ติด ท๊อป5 ของโรงเรียน ตอนแอดมิชชั่น คะแนนผมประมาณ ไม่เกินที่1500 ของประเทศ ผมเลือกที่จะยื่นเข้าที่ลาดกระบัง บ้านผมอยู่สุราษฏร์ฯ ไกลจากที่นี้ประมาณ 10 ชม รถทัวร์ ผมเลือกจะยื่นที่นี้ด้วยตัวเอง มารายงานตัวด้วยตัวเอง คนเดียว พ่อแม่ ไม่ได้มาส่ง นั่งรถไฟมาหัวลำโพงและถามประชาสัมพันธ์เอาว่าจะไปลาดกระบังไปยังไง ตอนนั้นไปลงสถานีรถไฟที่ สถานีลาดกระบัง ลงไป"โอ้โหที่ไหนวะเนี้ยย" ลงผิดสถานี จริงๆต้องลง"สถานีพระจอม " พอผมยื่นรายงานตัว ตอนสัมภาษณ์ อาจารย์ที่สัมภาษณ์ "ถามว่ามาไงมากะใคร" ผมบอก "นั่งรถไฟมา มาคนเดียวครับ" อาจารย์เค้าชมว่าโอ้โหเก่งจังบ้านอยู่ไหน พอบอกบ้านเท่านั้นแหละครับ ชมใหญ่เลยว่ามาได้ไง หลังจากสัมภาษณ์ผมก็ไปหาหออยู่แถวๆ เกกี ได้เจอพี่ๆที่ลาดกระบังช่วยแนะนำครับ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน หาหอให้ ผมประทับใจมากเลยครับ คราวนี้พอได้เรียน ผมก็เข้าเรียนนะครับ เข้าเชียร์ด้วย เกรดเทอมแรก2.00 ครับ น้อยมากๆติดดินเลย ตอนนั้น ท้อแล้ว อยากซิ่วแล้ว เพราะคิดว่าไม่ไหว แต่พอถามเพื่อนว่าได้เกรดเท่าไร่ 1.00+ กว่าทั้งนั้นเลย ส่วนใหญ่ที่ถามนะ ผมเลยมองว่าปัญหาผมเล็กไปเลย โทรไปคุยกะทีี่บ้านน้ำตานองเลย ตอนนั้นบอกที่บ้านว่า วิศวะ คงไม่ไหวยากไป แม่บอก "ให้ลองสู้ต่อ อยากเรียนเองช่วยไม่ได้" เพราะ ผมสอบตรงที่มหิดลติด แม่อยากให้ไปเรียนแต่ผมดื้อแพร่ง ก็เลยต้องหนีมายื่นที่นี้เอง ผมก็ทนสู้เรียนไปอีกเทอม ดีขึ้นครับ คราวนี้เกรดดีขึ้น2.6เลยสบายใจขึ้นมาหน่อย คราวนี้ถึงเวลาเที่ยวแล้วครับ โห เตลิดเลย เด็กไม่เคยเที่ยว ไม่เคยกินเหล้าสูบบหรี่ พูดหยาบ ครบเลย เดือนที่เที่ยวมากที่สุด 28วันใน 1 เดือครับ ตอนนั้น ผับใหญ่แถวนั้นเพิ่งเปิด ตอนนี้ปิดไปละ เกรดนี้ไมต้องพูดถึง ดำดิ่ง ใต้น้ำไปเลยครับ ตอนปีสอง ปีสาม 1 กว่าๆมาคิดได้ตอน เกรดรวมจะต่ำกว่า2แล้ว  Fกระจายย เริ่มคิดได้แล้วว่าพ่อแม่คงผิดหวัง เสียใจร้องไห้ คิดมากครับช่วงนั้น คิดฆ่าตัวตาย กลัวเรียนไม่จบ กินเหล้าเป็นน้ำเลย พอคิดได้ว่า เราทำตัวแบบนี้ คงไม่จบแน่ๆ เลยฮึดตั้งใจเรียน เข้าเรียนทุกวันไม่เคยขาด วิชาเลือกบางตัว เพื่อนโดดทั้งห้อง เข้าเรียน ตัวต่อตัว กับอาจารย์ยังมีเลยครับ เกรดก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยต่ำกว่า2.8เลย ก็จบมาได้ แต่ปัญหาไม่ได้จบเท่านั้น เพราะอย่างที่บอกตอน ม.ปลายผมเด็กเนิด ไม่ได้เรียน นศท ครับ ยังไม่ผ่านการคัดเลือกทหาร ไปสมัครงานที่ไหน ก็ไม่ได้ครับ เคยได้อยู่ที่หนึ่งเค้ากดเงินเดือนมากๆ 10k ครับ เค้าให้ผมเท่านั้น ผมทนทำอยู่ ครึ่งปีจึงลาออกไปคัดเลือกครับ ด้วยกรรมวิธีต่างๆ ผม "ผ่านการคัดเลือก" ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์ จึงมาสมัครงานใหม่ เรียกเงินเดือน 20k ครับ ผมสัมภาษณ์เสร็จ เค้าโทรมาบอกผลเลยว่าให้มาทำงานได้วันไหน รู้งี้เรียกเยอะกว่านี้คงดี ตอนนี้ผมสบายมากเลยครับ ส่งเงินให้ที่บ้านเดือนละ 7k นี้แหละครับ ชีวิตผมในลาดกระบัง โดยสังเขป "คุณแม่ลองคิดดูแล้วกันครับ ว่าสถาบันการศึกษา หรือสามัญสำนึกของเจ้าตัว ที่ทำให้คน เลวลง หรือ ดีขึ้นกันแน่ครับ" ส่วนข้อมูลการศึกษา ทางด้านวิศวกรรม คุณแม่สามารถ เข้าไปดูได้จากกระทู้ด้านล่างนี้ คอมเม้นท์ที่3 จะเป็นในส่วน ทางด้านวิศวกรรมเพียงอย่างเดียวนะครับ ^^ ขอให้พบทางออกที่เหมาะสมทั้ง คุณแม่และคุณลูก(ที่ยังคงเป็นรุ่นน้องของผมทั้งตอนนี้ และตลอดไป) นะครับ ^^ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2012/06/K12284155/K12284155.html ปล..ถ้าผมมีลูก แล้วลูกอยากเรียนวิศวะ ผมจะแนะนำลาดกระบังให้ลูกอย่างแน่นอนครับ. แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 10:35:56 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 10:28:49 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 10:15:44 จากคุณ : ผู้สังเกตการณ์ (Rorchach) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 10:12:53