PANTIP.COM : K12636540 พระพุทธเจ้าปรินิพพานเมื่อ 487 ปีก่อนคริสตศักราช [ศาสนา-ปรัชญา]

ความคิดเห็นที่ 12

เรื่องการกำหนดปี พ.ศ. ว่าเกิดก่อน ค.ศ. 487 ปี นั้น ก็มีแต่นักประวัติศาสตร์แขกกับฝรั่งเท่านั้นแหละที่ใช้ บางครั้งยังมีพวกนักปราชญ์รู้พลั้งมาโวยวายว่า พระเจ้าอโศกแต่งเรื่องพระพุทธเจ้าขึ้น ว่าพระจอมเกล้าฯ ปลอมหลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงขึ้นนั้นยังมีเลย เรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่ที่สำนึกของแต่ละคนว่าจะเชื่อเรื่องแบบไหนมากกว่า

จากทุกลัทธินิกายในพระพุทธศาสนา ล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า พระพุทธเจ้าดำรงพระชนม์อยู่ 80 ปี แต่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานในปีไหน ยังไม่มีข้อยุติ ทางลังกา พม่า ไทย ลาว เขมร ที่ถือตามนิกายเถรวาท เห็นพ้องต้องกันว่า พุทธปรินิพพานเกิดขึ้นก่อน ค.ศ. 543 ปี เป็นแต่ลังกาและพม่า ที่นับวันดับขันธ์ปรินิพพานเป็น พ.ศ. 1 หากทางไทยเรา ถือว่าปีที่ครบล่วงแล้ว จากนั้นจึงเป็น พ.ศ. 1 เท่านั้นเอง

พวกนักประวัติศาสตร์ฝรั่งและแขก ส่วนใหญ่ไม่รับการเปรียบเทียบศักราชเช่นนี้ เพราะพวกนี้ถือว่าปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานนั้นโยงได้ถึงปีอภิเษกพระเจ้าอโศกมหาราช โดยอาจเปรียบเทียบได่ว่าปีที่พระเจ้าอโศกเสวยราชสมบัตินั้นตรงกับ 267-268 ปีก่อนคริสตศักราช

พวกนี้จับเอาตำนานทางศาสนาของฝ่ายพุทธและพราหมณ์มาเทียบกันแล้วยันกับเอกสารของพวกกรีกที่เข้าไปยังอินเดียในช่วงนั้น ดังคัมภีร์ปุราณะของพราหมณ์ลงรายการไว้ว่า ราชวงศ์เมารียะมีอายุทั้งสิ้น 137 ปี โดยลงรายละเอียดเป็นรัชกาลๆ ไว้ด้วย ดังนั้นทางฝ่ายพุทธก็มีคัมภีร์ทีปวงศ์และมหาวงศ์ ของลังกามากำกับเพื่อช่วยในการตรวจสอบแล้วจับได้ว่าปีรัชกาลนั้นๆบางทีขาดเดือนไปมากๆก็นับเป็นปีแล้ว บางทียังบวกพลาดอีกด้วยเช่น เวลามหาวงศ์เอ่ยระยะกาล 37 ปี โดยทยอยออกเป็น 18+12+4+3+4 ผลก็คือกลายเป็น 41 ปีไป ถ้าจะให้ได้ 37 ต้องทอนเหตุการณ์ออกเป็น 17+11+3+2+4 ดังนี้เป็นต้น

คัมภีร์บาลีลงปีว่า พระเจ้าอโศกเสวยราชย์เมื่อ 214 ปีแต่มหาปรินิพพาน ฝรั่งหาเอกสารจากฝ่ายกรีกได้ตรงกับ 272 ปีก่อน ค.ศ. แล้วเลยนับต่อไป เช่นนี้ว่า อภิเษกเป็นพระราชาเมื่อ พ.ศ.218 (เท่ากับ 268 ปีก่อน ค.ศ.) แล้วดำรงพระชนม์อยู่อีก 37 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 218 -355 (268-231 ปี ก่อน ค.ศ.) แต่ทางคัมภีร์พราหมณ์เอ่ยว่า พระเจ้าอโศกครองราชย์เพียง 36 ปี (ไม่มีระยะกาลจากตอนที่ยึดราชสมบัติได้ไปจนถึงราชาภิเษกดังที่ทางบาลีว่า ห่างกัน 4 ปี) และปีรัชกาลก็สั้นลงไปอีก เป็นอันเทียบกับพุทธศักราชได้ว่า เสวยราชย์เมื่อ 272 ปีก่อน ค.ศ. จนถึง 236 ปี ก่อน ค.ศ. จึงเป็นอันสิ้นสุดรัชกาล

ข้อแตกต่างระหว่างคัมภีร์บาลีกับปุราณะ อาจหาข้อยุติได้ ถ้านำเอาคัมภีร์สันสกฤตมาประกอบ กล่าวคือ ฝ่ายสันสกฤตกล่าวว่า เมื่อทรงพระชรา พระราชนัดดาสัมปทินครองราชอย่างผู้สำเร็จราชการโดยอาจปลดพระเจ้าอโศกออกก่อนสวรรคตก็ได้ Lamotte จึงสรุปว่าพระเจ้าอโศกเสวยราชย์เมื่อ พ.ศ.214 หรือก่อน ค.ศ. 272 ปี อภิเษกเมื่อ พ.ศ. 218 ทรงครองราชย์เองจริงๆ 214-250 หากมาสวรรคตเอาเมื่อ พ.ศ.255 คัมภีร์บาลีลงปีอภิเษกของพระเจ้าอโศกว่าตรงกับ พ.ศ. 218 แต่คัมภีร์สันสกฤตกำหนดปีอภิเษกว่าเป็น พ.ศ.318

วิธีนับคือ พระเจ้าพิมพิสารเสวยราชย์ 60 ปีก่อน พ.ศ. พระเจ้าอโศกเสวยราชย์ พ.ศ.218 รวมเวลา 278 ปี ตามตำนานว่ามีพระราชา 13 พระองค์ ซึ่งพอฟังได้ แต่มีพระวินยาจารย์สืบต่อช่วงกันลงมาเพียง 5 พระองค์ ซึ่งออกจะน้อยเกินไป ครั้นนับปีเรียงดูจากคัมภีร์บาลีนั้นๆ ก็ดูปีจะขาดๆเกินๆไป ดังจีนแปล "สมันตปาสาทิกา" อรรถกถาวินัยไป แล้วลงศักราชว่า พระเจ้าอโศกอภิเษกเมื่อ พ.ศ.118 แทน 218 และตติสังคายนาที่เมืองปาลีฏบุตรก็กลายเป็น พ.ศ.118 บ้าง 218 บ้าง โดยที่ทางบาลีถือว่าเหตุการณ์สำคัญนี้ตรงกับ พ.ศ.236 ตำนานฉบับสั้นๆของฝ่ายเหนือ ซึ่งรวมทั้งภาษาจีนและสันสกฤตลงศักราชว่า พระเจ้าอโศกเสวยราชย์เมื่อ พ.ศ.100 แต่นับพระราชาในระหว่างพระเจ้าพิมพิสารกับพระเจ้าอโศกได้ 12 พระองค์ สังฆปรินายกได้ 5 องค์ วสุมิตรรจนาเรื่องนิกาย กล่าวว่า พระเจ้าอโศกอภิเษกเมื่อ พ.ศ.100 ตำนานของรัฐโขฐฐานบ่งว่ารัชกาลของพระเจ้าอโศกเริ่มเมื่อ พ.ศ. 214

ทางฝ่ายจีนถือคติว่า เมื่อพระอุบาลีเป็นประธานการกสงฆ์ฝ่ายพระวินัย คราวทำปฐมสังคายนา ได้ลงจุด 1 ไว้ที่คัมภีร์พระวินัยปิฎก พระวินยาจารย์ที่สืบทอดจากท่านได้ลงจุดเช่นนี้ทุกปี มีพระทารกะ พระโสณกะ พระสิคควะ พระโมคคัลลีบุตรติสสะ เรื่อยไปจนถึงพระจันทรวัช พระสังฆภัทร ซึ่งเดินทางไปถึงเมืองกวางตุ้งนั้น ได้ลงจุดไว้ที่ พระคัมภีร์เป็นหมายเลขที่ 975 ซึ่งตรวจสอบได้ว่าตรงกับ พ.ศ. 489 จึงเทียบได้ว่า พุทธปรินิพพานเกิดเมื่อ 468 ปีก่อนคริสตศักราช ดูแล้วพวกนักประวัติศาสตร์ฝรั่งจะถือตัวเลขนี้เป็นหลักในการนับศักราชค่อนข้างมาก พ.ศ.ของฝรั่ง จึงล่าช้ากว่าของเราราวๆ 157 ปี (543-468) แต่ที่นับว่าพุทธปรินิพพานเกิดก่อน ค.ศ.478 ปี ก็มี ส่วนประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นับว่า พ.ศ. เกิดก่อน ค.ศ. 483 ปี ล่าสุด(ประมาณ ปี 2532-2533) ศาสตราจารย์ เบรดเซต แห่งมหาวิทยาลัยกอตติงเกนในเยอรมัน นัดจัดสัมมนาทางวิชาการเพื่อหาทางตกลงให้แน่นอนว่า พ.ศ. เทียบกับ ค.ศ. อย่างไรและเท่าไร แต่ที่ประชุมก็หาข้อยุติไม่ได้เช่นกัน

จากคุณ : ตาแก่หลงกรุง

เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 15:01:21

ความคิดเห็นที่ 15

ไม่ใช่แค่เรื่อง เวลาปรินิพพานที่ฝรั่งบันทึกนะคะ ที่ยืนยันถึงความคลาดเคลื่อนของ

พศ.ที่ใช้กัน

อยู่ ยังมีเรื่องการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าอโศกมหาราชและปรากฏการณ์สุริยุปราคา

ดังนี้ (ก๊อบเค้ามา)

'พระไตรปิฎก' ระบุไว้ชัดเจนว่าพระเจ้าอโศกมหาราชขึ้นครองราชย์เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานล่วงไปแล้ว 218 ปี

อันนี้น่าเชื่อมากน้อยเพียงใด ... ก็ต้องตั้งประเด็นที่ว่า ห่างจากยุคพุทธกาล 2,000 กว่าปีอย่างฝรั่ง กับ 200 กว่าปีอย่างพระเจ้าอโศก ... แบบไหน 'สด' กว่ากัน

ถ้าตีความตามตัวบทเราก็จะได้ว่าพระเจ้าอโศกมหาราชขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ.218 ซึ่งถ้าตีเป็นปี ค.ศ. แบบฝรั่งคือราวๆ 325 ปีก่อนคริสตศักราช

แต่ตรงจุดนี้หลักฐานทางโบราณคดีของฝรั่งกลับบอกว่า พระเจ้าอโศกมหาราชทรงครองราชย์เมื่อ 269 ปีก่อนคริสตศักราช ช้ากว่าที่พระไตรปิฎกบอกถึง 56 ปี

56 อีกแล้ว …

หนำซ้ำว่ากันว่าครองราชย์แล้ว 4 ปีจึงค่อยทำพิธีราชาภิเษก ตรงนี้เป็นจุดที่ให้งุนงงสงสัยว่า ที่พระไตรปิฎกบอกว่า 218 ปีหลังพุทธปรินิพพานนั้น เป็น การครองราชย์ หรือ การราชาภิเษก กันแน่

ถ้าปีที่ 218 หลังพุทธปรินิพพานเป็นปีครองราชย์ แสดงว่า ปี 222 เป็นปีราชาภิเษก

แต่ถ้าปี 218 เป็นปีราชาภิเษก ก็แสดงว่า ปี 214 เป็นปีที่ครองราชย์

แต่ไม่ว่าความเป็นจริงจะเป็นเช่นไร สิ่งที่เราทราบแน่ๆก็คือว่าตัวเลข ‘218’ เป็นปีแรกของพระอำนาจในบัลลังก์

ทีนี้เราลองมาวิเคราะห์กันดูเล่นๆมั้ยครับว่าการที่ศักราชจะคลาดเคลื่อนไปประมาณ 50-60 ปีนั้น มันมีความเป็นไปได้มั้ย?

ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าการที่เรานับ พ.ศ.ในปัจจุบันนี้นั้น เอาอย่างมาจาก ‘ลังกา’

จริงอยู่พุทธนิกายเถรวาทล้วนแล้วแต่นับ พ.ศ. อย่างลังกากันหมด แต่ไทยเราทะลึ่งนับปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานปีแรกเป็น ‘พ.ศ.0’ ต่างจากเถรวาทประเทศอื่นที่เขาเริ่มนับกันที่ ‘พ.ศ. 1’

แต่ก็ใช่ว่าลังกาจะเริ่มนับกันทันทีทันใดที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน เพราะเวลานั้นพระพุทธศาสนายังไม่ได้เข้าไปในลังกา กว่าพระพุทธศาสนาจะเข้าไปในลังกาก็ล่วงเลยมาถึงท้ายๆยุคของพระเจ้าอโศกมหาราช

ซึ่งถ้าหากว่าพระเจ้าอโศกมหาราชขึ้นครองราชย์หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 218 ปี แน่นอนว่าพระศาสนาย่อมเข้าไปในลังกาหลังจากนั้นอีกหลายสิบปี ฉะนั้นแล้วโอกาสที่จะเกิด ‘ช่องว่างทางเวลา’ ขึ้นก่อนหน้าที่ชาวลังกาจะรู้จักพระพุทธศาสนานั้น ย่อมเป็นไปได้สูง

สื่อให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ลังกาเองก็เริ่มรู้จัก พ.ศ. กันตอนที่เป็น พ.ศ.200 กว่าๆแล้ว ไม่ใช่รู้จักหรือใช้กันตั้งแต่ พ.ศ. 1

ซ้ำยังไม่มีใครรู้ว่าลังกาเขาเริ่มใช้ พ.ศ.นั้นกันตอนไหน พระพุทธศาสนาเข้าสู่ลังกาแล้วใช้เลยทันที หรือว่าเริ่มใช้หลังจากนั้นกี่ร้อยกี่พันปี

แล้วไหนจะสงครามแย่งชิงพื้นที่บนเกาะลังกาในกาลต่อๆมา ระหว่างชาวสิงหลที่เชื่อว่าตนสืบเชื้อสายมาจากสิงโต(สัตว์ทวีปอะไร?)กับชาวทมิฬ ซึ่งฝ่ายแรกเป็นพุทธ ฝ่ายหลังเป็นฮินดู ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาเป็นพันๆปี ยามใดฝ่ายใดชนะก็เผาคัมภีร์อีกฝ่าย ยิ่งเมื่อต่อมาปรากฏว่ามีพวกอิสลามเข้ามามีอิทธิพลบนเกาะลังกาอีกก็ยิ่งไปกันใหญ่ …

เรียกว่ารบราฆ่าฟันกันเละตุ้มเป๊ะมาทุกยุคทุกสมัย บรรดาบันทึกทั้งหลายที่จารึกแล้วถูกทำลายก็ถูกจารึกขึ้นใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำอีก แน่นอนว่าย่อมอาจเกิดความคลาดเคลื่อนในข้อมูลส่วนหนึ่งส่วนใดได้เป็นธรรมดา

ถามว่าในช่วงสมัยพุทธกาลนั้นนิยมใช้ ‘ศักราช’ มากน้อยเพียงใด?

ก็ตอบได้ว่าไม่ฮิต จะมีก็แต่ ‘มหาศักราช’ซึ่งก็เกิดหลังพุทธปรินิพพานไปถึง 500-600 ปี และก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยมีการบันทึกศักราชไว้ทั้งในพระไตรปิฎกและเอกสารทางประวัติศาสตร์ แต่นิยมบันทึกว่าเป็นปีที่เท่าไหร่ของกษัตริย์พระองค์ใด

แล้วก็ด้วยความที่เป็นเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ว่าพอกษัตริย์พระองค์ใหม่ครองราชย์ก็นับเป็นปีเริ่มต้นของกษัตริย์องค์นั้นโดยไม่สนว่าองค์ก่อนหน้าครองราชย์มากี่เดือน กี่วัน ทำให้ศักราชในช่วงนั้นเกิดการนับต่อๆกันโดยไม่ได้คำนึงถึงระยะเวลาตามความเป็นจริง

แล้วถามว่ากษัตริย์ในช่วงที่เขานับศักราชกันมั่วๆแบบนั้นมีกี่พระองค์ … ฉะนั้นการที่นับศักราชคลาดเคลื่อนไป 50-60 ปีอันอาจเกิดจากการนับในลักษณะนี้ ก็ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา

หลักฐานที่บ่งชี้ว่าพุทธศักราชที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันกับระยะเวลาที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานนั้นคลาดเคลื่อนประมาณ 50-60 ปีจริงๆอีกอันหนึ่ง ก็คือ ‘สุริยุปราคา’ ครับ

เว็บไซต์ http://eclipse.gsfc.nasa.gov/eclipse.html ซึ่งรวบรวมข้อมูลสุริยุปราคาที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดบนโลกตั้งแต่สมัยโบราณ ระบุว่าเมื่อ 249 ปีก่อนคริสตศักราช ได้เกิดสุริยุปราคาขึ้นที่ตอนเหนือของอินเดีย

ซึ่งมันก็บังเอิญไปตรงกับบันทึกการเสด็จจาริกไปยังสวนลุมพินีวันของพระเจ้าอโศกมหาราชในปีที่ 21 ของรัชกาล

ก็ในเมื่อ ‘พระราหู’ มาบอกใบ้แบบนี้แล้ว สุริยุปราคาที่เกิดขึ้นเมื่อ 249 ปีก่อนคริสตศักราชนั้น ในบันทึกพระเจ้าอโศกบอกว่าเป็นปีที่ 21 ฉะนั้นแล้วถ้าเราเอา '20' ซึ่งเป็นจำนวนเต็มของปีที่ครองราชย์ไปลบกับ '249' เราก็จะได้ตัวที่แท้จริงของปีที่ 'เริ่มครองราชย์' ซึ่งก็คือ 269 ปีก่อนคริสตศักราช

ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น ไม่ต้องไปสนใจเลยว่าคำว่า ‘ในปีที่ 218 ของพุทธปรินิพพาน’ นั้นหมายถึงอะไร ‘ครองราชย์’ หรือ ‘ราชาภิเษก’ เพราะจะหมายถึงอะไรก็ไม่มีความหมาย ... แต่เป็นอันว่ารู้กันทั่วอินเดียยุคนั้นว่าปีที่ 218 ของพุทธปรินิพพานคือ 'ปีแรกของรัชสมัย'

และเมื่อเอาไปเราเทียบเคียงกับคริสตศักราชก็ได้ความว่า ณ ปีที่ 218 หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วนั้นตรงกับ 269 ปีก่อนคริสตศักราชอย่างไม่ต้องสงสัย

ถามว่าไปเชื่ออะไรกับสุริยุปราคา ก็ต้องบอกว่า ของแบบนี้มันคำนวณกันได้ และก็แม่นยำ 100%

ท่านผู้อ่านครับ ถ้าหากผมบอกว่าข้อมูลการเกิดสุริยุปราคาในครั้งนั้น อาจหาญถึงขนาดระบุไว้ชัดเจนว่าตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคม ... แบบนี้น่าเชื่อพอรึยัง?

ด้วยเหตุนี้แหล่ะครับ นักประวัตศาสตร์เขาจึงนำเอาตัวเลข 218 ไปบวกกับปีที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงครองราชย์คือ 269 ปีก่อนคริสตกาล แล้วได้ปี 'ค.ศ.' ที่แท้จริงที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ซึ่งนั่นก็คือตัวเลข 487 ปีก่อนคริสตกาล

ถ้าท่านผู้อ่านยังไม่ลืมสูตร 'พ.ศ. - 543 = ค.ศ.' ตอนเรียน ม.ต้น เราก็จะได้ความจริงที่น่าตกใจว่า

487 ปีก่อนคริสตกาล ก็เท่ากับ พ.ศ.56 พอดี

แสดงว่าพุทธศักราชที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีความคลาดเคลื่อนหรือเร็วไปถึง 56 ปี

จากคุณ : fallen angel

เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 19:50:36 A:203.144.144.162 X: TicketID:362183