|
จิตร ภูมิศักดิ์ เขียนเกี่ยวกับเรื่องคำว่า "ตำรวจ" ไว้ ลองอ่านดู
อากาศคงคา กล่าวไว้ในเรื่อง "ประวัติตำรวจ" ตอนหนึ่งว่า "ตำรวจ" เป็นคำที่คิดตั้งขึ้นสมัยพระเจ้าบรมไตรโลกนารถ ข้อความนี้เป็นเนื้อหาสำคัญที่จะบันทึกต่อไป.
๑. "ตำรวจ" เป็นคำที่แผลงมาจาก "ตรวจ" เป็นภาษาเขมรมาแต่เดิม มิใช่เป็นคำที่ไทยเราคิดขึ้นแล้วเขมรยืมไปใช้ หากเป็นคำเขมรที่ไทยยืมมา พยานที่ว่าคำทั้งสองนี้เป็นภาษาเขมรก็คือตัว "จ" สะกด ถ้าเป็นคำไทยแล้ว คำสองคำนี้จะต้องมีรูปเป็น "ตรวด" และ "ตำรวด" (ด สะกด) เพราะหลักของไทยมาตรากด ต้องใช้ตัว "ด" สะกดเสมอ ไม่ใช้ จ, ช, ฎ, ฏ, ฐ, ฑ, ถ, ท, ศ ฯลฯ สะกดเลย (หากจะมีบ้างก็เป็นกรณีพิเศษที่เรามาดัดแปลงใช้เข้ากับความนิยมของอักขรวิธีเขมรและมคธสันสกฤตในชั้นหลัง)
๒. "ตำรวจ" เป็นคำที่เขมรคิดแผลงใช้กันมาแล้วแต่โบราณครั้งแรกสร้างนครธมเป็นราชธานี (พ.ศ. ๑๔๓๒) ยังมีคำสัตย์สาบานของตำรวจเขมรโบราณจารึกปรากฏอยู่ที่ประตูพระราชวังในนครธมจนบัดนี้ แสดงว่า "ตำรวจ" เป็นคำที่มีใช้มาในกัมพูชาประเทศก่อนแล้ว ไทยจึงขอยืมมาใช้ มิใช่ไทยจะเป็นผู้คิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถดังที่ "อากาศคงคา" กล่าวไว้
๓. ในประเทศไทย ศิลาจารึกภาษาเขมรที่พบ ณ เมืองลพบุรี ซึ่งพวกเขมรจารึกไว้ (แต่ครั้งเป็นใหญ่ครอบครองดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา) ในราว พ.ศ. ๑๕๖๕-๑๖๐๐ (คือศิลาจารึกหลักที่ ๒๐ และ ๒๑ ใน "ประชุมจารึกสยาม" ภาคที่ ๒ จารึกกรุงทวารวดี เมืองละโว้ และเมืองประเทศราชขึ้นแก่กรุงศรีวิชัย ของศาสตราจารย์ยอช เซเดส์) ก็ปรากฏว่ามีขุนนางพวก "ตำรวจ" ประจำอยู่ ณ เมืองละโว้ เรียกในจารึกว่า "ตมฺรฺวจวิษย" (ตำรวจวิษัย) ตัวอักษรในจารึกเป็นรูปดังนี้
"ตำรวจวิษัย" นี้ ศาสตราจารย์ยอช เซเดส์ สันนิษฐานไว้ว่า "เห็นจะเป็นตำแหน่งข้าราชการในราชสำนักซึ่งว่าราชการเมือง"
๔. คำว่า "ตำรวจวิษัย" นั้น ผู้บันทึกเข้าใจว่าจะเป็นชื่อตำรวจประเภทหนึ่งของเขมร อย่างตำรวจของเราก็มีประเภท ภูธร และ นครบาล (หรือ ภูธร และ ภูบาล ตามทำเนียมเดิม) ที่กล่าวเช่นนี้เป็นพราะสังเกตได้จากคำ "วิษัย" ซึ่งแปลว่า เมือง, เขต, แดน ตำรวจวิษัยก็คือตำรวจในเมืองหรือประจำเมืองคือพวกนครบาลอย่างนี้กระมัง? ในจารึกภาษาเขมรที่ปราสาทสด๊อกก๊อกธม จารึกราว พ.ศ. ๑๕๐๐-๑๖๐๐๑ มีตำแหน่งขุนนางเขมรตำแหน่ง ๑ เรียกว่า โฉลญ (เฉฺลาญ์) มี ๒ ประเภทคือ โฉลญพลคู่กับโฉลญวิษัย (เฉฺลาญ์วล-เฉฺลาญ์วิษย) ด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจว่า "ตำรวจวิษัย" เป็นประเภท ๑ ของขุนนางตำรวจ คงจะเป็นคู่กันกับ "ตำรวจพล" พล แปลว่า ทหาร, กำลัง, ตำรวจพลก็คือตำรวจที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการปราบปรามใช้กำลังคล้ายทหาร จะลองแบ่งออกเป็นประเภทดังนี้ :
ก. ตำรวจวิษัย : คือตำรวจพวกที่ทำการดูแลทุกข์สุขของราษฎรภายในเมืองหรือภายในประเทศ ทำนองข้าราชการตำรวจกึ่งพลเรือน บางทีตำรวจวิษัยอาจจะทำหน้าที่เป็นข้าราชการพลเรือนโดยตรงก็ได้ อย่างเช่นตอนแรกสร้างกรุงศรีอยุธยาก็ปรากฏในพระราชพงศาวดารว่าพระเจ้าอู่ทองโปรดให้ "ขุนตำรวจ" ไปตรวจที่ทางทำเลจะสร้างพระนคร ถ้าว่าอย่างจีนก็อาจจะเป็นฝ่าย "บุ๋น"
ข. ตำรวจพล : เห็นจะเป็นพวกใช้กำลังปราบปรามทั้งภายในและภายนอกอาณาจักร เวลาสงครามก็ออกทำการรบอย่างทหารด้วย เช่นเดียวกับตำรวจของไทยสมัยก่อนเวลามีสงครามก็ออกรบเสมอ เช่น พระยาอภัยรณฤทธิ์ (จางวางกรมพระตำรวจซ้าย) พระยาอนุชิตราชา (จางวางกรมพระตำรวจขวา) เป็นต้น ถ้าจะเทียบอย่างจีนก็เป็นฝ่าย "บู๊"
๕. ตามที่ผู้ที่บันทึกแบ่งตำรวจออกเป็น ๒ ประเภทคือ ตำรวจพลและตำรวจวิษัยนั้นเป็นเพียงเดา ไม่รับรองว่าจะถูก เพราะยังไม่มีเวลาค้นศิลาจารึกเขมรได้ทั่วถึง ว่ามีตำรวจพลคู่กับตำรวจวิษัยหรือไม่ ด้วยการบันทึกนี้กระทำโดยกะทันหัน.
อนึ่ง นอกจากจะมีหลักฐานอ้างอิงว่าตำแหน่งโฉลญยังมีโฉลญวิษัยคู่กับโฉลญพลแล้ว ในจารึกเขมรโบราณยังมีตำแหน่ง โขลญ (เขฺลาญ์) อีกตำแหน่ง ๑ ซึ่งเคยพบว่ามี โขลญพล (เขฺลาญ์วล) อาจจะเป็นคู่กับโขลญวิษัยก็ได้ แต่ผู้บันทึกยังไม่เคยพบคำโขลญวิษัย.
อย่างไรก็ตาม เมื่อตำแหน่งโฉลญยังมีทั้งโฉลญพล โฉลญวิษัยแล้ว ตำแหน่งโขลญพลที่ได้พบจึงน่าจะเป็นคู่กับโขลญวิษัย และตำแหน่งตำรวจวิษัยที่ได้พบแล้วก็น่าจะมีตำรวจพลเป็นคู่.
๖. ศิลาจารึกภาษาเขมรที่พบที่จังหวัดลพบุรี (คือหลักที่ ๒๑ ในประชุมจารึกสยามภาค ๒) มีคำ "โฉลญตำรวจวิษัย" (เฉฺลาญ์ตมฺรฺจจ์วิษย) เห็นจะเป็นยศตำรวจชั้นสูงขึ้นขึ้นไปอีกจึงเอาตำแหน่ง โฉลญ กับ ตำรวจ รวมกันเป็นตำแหน่งเดียว การรวมตำแหน่งหรือบรรดาศักดิ์สองที่เข้าด้วยกันเป็นบรรดาศักดิ์ใหม่สูงขึ้นไปนั้นเขมรโบราณนิยมมาก เช่น มรตาญ (มฺรตาญ์) เป็นตำแหน่ง ๑ โขลญตำแหน่ง ๑ เอามารวมกันเป็นตำแหน่งใหม่ว่า "มรตาญโขลญ"
อนึ่ง ตำแหน่งขุนนางเขมรโบราณนั้น ตามที่ได้พบในจารึกบรรดาศักดิ์มักจะตั้งล้อกันขึ้นไป เช่น เตง-เสฺเตง-กมฺสเตง-เสตงอัญ-กมฺรเตง-กมฺรเตงอัญ-โลญ-โฉลญ-โขลญ ดังนี้เป็นต้น.
ด้วยเหตุนี้ตำแหน่ง "โฉลญตำรวจ" จึงควรจะเป็นตำแหน่งเหนือ "ตำรวจ" ขึ้นไปอีกชั้น ๑ แต่ก็ยังไม่แน่นัก "โฉลญตำรวจ" อาจเป็นบรรดาศักดิ์ทั้งตำรวจและพลเรือน ซึ่งบุคคลผู้เดียวได้รับยศทั้งสองฝ่าย อย่างอำมาตย์เอก พระยา- - -หรือ พลเอก พระยา- - -ของเราก็ได้.
๗. สรุปแล้วจะเห็นได้ชัดว่า ตำรวจมิใช่คำที่ไทยคิดขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ และขุนนางพวก "ตำรวจ" มีมาในเมืองเขมรก่อน.
การปกครองบ้านเมืองของไทยสมัยต้นอยุธยานั้น เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า เอาแบบอย่างเขมรมาปรับปรุงใช้เป็นส่วนมาก ดังนั้นจึงเป็นที่เชื่อได้ว่าเราได้อย่างขุนนางตำรวจมาจากเขมร แม้ทางราชการทหาร ตำแหน่งหรือคำ "กระลาโหม" ของเราก็เคยมีมาแล้วในประเทศเขมรครั้งนครธม ซึ่งจารึกภาษาเขมรเรียกว่า "พระกระลาโหม" (วฺระกฺลาเหาม์)
เชิงอรรถ
๑. สนใจเชิญดู Le Cambodge Vol.II : Les prouinces Siamoises par Etienne Aymonier หรือ Bulletin de L"ecole Francaise D"extreme Orient, Tome XV, 1915.
บทความ "เรื่องตำรวจ" โดยจิตร ภูมิศักดิ์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "ตำรวจ" ปีที่ ๒๐ เล่มที่ ๔ ปักษ์หลัง ๑๕ มิถุนายน ๒๔๙๔
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/02/K5115945/K5115945.html#53
จากคุณ |
:
เพ็ญชมพู
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ก.ย. 55 09:08:55
|
|
|
|
|