ความคิดเห็นที่ 1 การทบทวนบทเรียนเป็นหัวใจของการเรียนฉันใด การเตรียมสอนก็เป็นหัวใจของการสอนติวฉันนั้น โดยเฉพาะกับเนื้อหาข้อสอบใหม่ๆ นี้ไม่เตรียมไม่ได้ครับ เว้นแต่เป็นเนื้อหาเก่า เอกสารเก่าที่สอนมาหลายรอบแล้ว (แต่ไม่ล้าสมัยนะ) อันนี้ไม่ต้องเตรียมไรอีก จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 22:59:12

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยเตรียมเลย เพราะที่สอนจะ expert สอนซ้ำจนขึ้นสมอง จากคุณ : followme เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 00:07:53 A:171.99.214.221 X: TicketID:358300

ความคิดเห็นที่ 3 ผมสอนเลข แต่ตอนนี้ไม่รับสอนที่โรงเรียนกวดวิชานะครับ เพราะผมไม่ชอบให้ใครมาบริหารเวลาผม หลักการก็คือต้องทำโจทย์เลขทุกวัน ยิ่งทำมาก ๆ จะได้แนวคิดใหม่ ๆ หรือแนวคิดที่ดีกว่าเดิมออกมาเรื่อย ๆ ถ้าอยู่นิ่งอยู่กับที่เมื่อไรก็ตามโลกนี้ไม่ทันเพราะข้อสอบโดยเฉพาะสายสอบแข่งจะมีพัฒนาการที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ หลัก ๆ ก็คือเตรียมข้อสอบหรือแบบฝึกหัดชุดใหม่ ๆ ให้เด็กตลอด จดบันทึกว่าลูกศิษย์คนนี้ทำข้อสอบชุดไหนไปบ้างแล้ว สอนเนื้อหาเรื่องอะไรไปบ้างแล้วลงใน Microsoft word หลังจากสอนเสร็จ อ่านหนังสือระดับชั้นต่าง ๆ หรือ E-Book แนว problem solving จากคุณ : mrgon เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 01:06:40

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อก่อนเราสอนภาษาอังกฤษเป็นอาชีพอย่างเดียวทำเงินได้มากแต่เลิกสอนเพราะอยากไว้ผมยาวอยากแต่งตัวตามสบายไม่ conservative เลยไปทำงานแปลเอกสารกับแปลหนังสืออยู่หลายปี แต่เราก็ยังค้นคว้าเรื่องการสอนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องเพราะสนใจโดยเป็นการส่วนตัว เมื่อก่อนเราสอน reading comprehension เก่ง สอน conversation กับ grammar ได้ดีพอสมควร (แต่ต้องสอนแยกกันทีละอย่างนะ) แต่หลังจากเรากินอาหารปลอดสารพิษแบบ Zen Macrobiotics กับฝึกสมาธิมาหลายปี อยู่ดีๆ cells สมองและร่างกายรวมทั้งคุณภาพเลือดของเราเปลี่ยนไปแบบผ่าเหล่าผ่ากอ (biological transmutation) เรากลายเป็นรู้วิธีสอน conversation, grammar, reading comprehension กับ writing (และทักษะปลีกย่อยอย่างอื่น เช่นการใช้ software ช่วยเรียนภาษาอังกฤษ) ไปพร้อมๆกันภายใน session เดียวได้อย่างน่ามหัศจรรย์ (จริงๆแล้วตอนเด็กๆเราเคยมี iq ต่ำกว่ามนุษย์ธรรมดาๆทั่วๆไป (เรียนอะไรก็เรียนไม่จบสักอย่าง) แต่เราฝึกฝนตัวเองไปเรื่อยๆเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง) เราว่าคนเรายิ่งพยายามทำอะไรซ้ำๆกันที่เป็น repertoire แต่ขณะทำซ้ำพยายามมองหามิติใหม่ๆ อย่างเช่นเคยรำมวยลำดับนี้ แต่เปลี่ยนลำดับซะ และดัดแปลงอะไรหลายๆอย่าง มันจะออกมาดีขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งคัมภีร์โบราณเล่มเดียว ที่เราอ่านจนจำข้อความได้เกือบหมดแล้ว แต่อีกหลายปีต่อมาอ่านใหม่แล้วตีความใหม่ก็จะได้อะไรใหม่ๆออกมาอีกอยู่เรื่อยๆ เราอยากจะทำลายล้าง concepts ที่นักเรียนทั่วๆไปคิดกันว่า เรียน grammar ต้องไปที่... เรียนศัพท์ ต้องไปที่... เรียน conversation ต้องไปที่... เรียน writing ต้องไปที่... คือเราว่าตอนนี้ถ้าเราเปิดสอนภาษาอังกฤษใหม่เราจะเป็น one-stop tutor เพราะในแต่ละ session ที่เราสอนเราสอนหลายๆอย่างผสานกันไปทีเดียวเลย หากแต่ตอนนี้ผมเรายาวเกือบถึงกันแล้ว นักเรียนอาจงงๆเหมือนกันนะว่าเราเป็น English tutor หรือ rock singer กันแน่ แถมเรายังไม่มีวุฒิสูงๆไปอวดนักเรียนอีกด้วย...555+++... แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 55 01:22:40 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 55 01:18:26 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 01:16:47

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ต้องทบทวนอะไรมากเพราะเด็กที่เรียนด้วยไม่ค่อยขยันเลย จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 11:41:07

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเป็นติวเตอร์ตอนอยู่ มศ.5 ให้พระที่เรียน ปกศ นอกเวลาเมื่อ 40+ ปีก่อน ไม่ต้องเตรียมครับ เพราะสอนภาษาอังกฤษ ระดับคนเรียนอ่อนกว่าผมมาก สอนโคตรเบสิกเลย สอนระดับความรู้ มศ.3 ก็พอแล้ว ตอนทำงานแล้ว เคยเป็นติวเตอร์ระยะหนึ่งเหมือนกัน 3 เดือน ก็ไม่ต้องเตรียมเลย เพราะสอนระดับ Entrance หมูๆ อยู่แล้ว แค่เอาตำราที่เขาเตรียมให้ก็สอนได้แล้ว สิ่งที่นักเรียนถามก็แสนจะเบสิกมากๆ ผมจะสรุปให้ฟังนะครับ การเตรียมตัวหรือไม่อยู่ที่ว่า สอนอะไร สอนใคร ระดับความรู้ผู้สอน ระดับความรู้ผู้เรียน ตัวแปรมีแค่นี้ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 17:01:50

ความคิดเห็นที่ 7 จริงๆแล้วเตรียมก็ดีนะครับ เวลาสอนจะได้เป๊ะ แต่ผมใช้วิธีทำชีทไว้ในคอม ในชีทจะมีโจทย์และเนื้อหาคร่าวๆ เวลาไปสอนก็พิมพ์ชีทไปให้เด็ก แล้วพูดตามชีท เฉลยโจทย์ก็เฉลยสดเอา สมัยที่เอนท์ใหม่ๆก็เก่ง วิธีพลิกแพลงได้มาก เพราะทำโจทย์บ่อยตอนเตรียมเอนท์ แต่สมัยนี้แก่แล้ว ก็ไม่ค่อยเก่ง อาจจะต้องลองทำโจทย์ในชีทตัวเองก่อนไปสอนบ้าง จากคุณ : ชิโฮจัง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 20:34:27

ความคิดเห็นที่ 8 ผมถึงบอกไงว่า สอนอะไร มันก็ต่างกัีนอยู่ อย่างผมสอนอังกฤษ เมืืือ 30+ ปีก่อน แต่ตอนนี้ 60 แล้ว ให้ไปสอนใหม่ ไม่จำเป็นต้องเตรียมเลยครับ หยิบชีตหรือหนังสือก็สอนได้ทันที หรือสอนปากเปล่าก็ยังได้ เช่น แกรมมาร์เรื่องต่างๆ หรือเฉลยข้อสอบแบบละเอียดพิสดารแค่ไหนก็ได้ เพราะภาษาอังกฤษมันไม่ได้พลิกแพลงเปลี่ยนไปในระดับ 30 ปีที่ผ่านมาเลย  ยิ่งแก่ยิ่งมีประสบการณ์มากถ้าคุณทำงานใช้อังกฤษทุกวันอยู่แล้ว จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 01:20:56

ความคิดเห็นที่ 9 นับถือทุกคอมเม้นต์ครับ ผมดีหน่อยที่เป็นเจ้าของโรงเรียนกวดวิชาของตัวเอง ทำให้สามารถกำหนดทิศทางในการสอนของตัวเองได้ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่กับคนสอนเพียงอย่างเดียวครับ ผมว่าเด็กบางคนนั่นแหละที่ไม่ตั้งใจทำอะไรเลย เหมือนความเห็นที่ 5 ปีนี้อายุ 32 ยังต้องเก็บชั่วโมงบินอีกเยอะครับ ข้อสอบยากขึ้นทุกปีจริงๆ จากคุณ : fabulous (nokkydeenee) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 10:24:41

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับท่าน เซียนแห่ง Math เพราะเจอกับตัวเอง  เราเตรียม Sheet,  แบบฝึกหัด  เป็น 2 ชั่วโมง เด็กดู 5 นาที  โยนไว้ข้างๆ  ไม่สนใจ เด็กสนใจ การบ้านเสร็จ  เป็นพอ (สอนพิเศษ ในบ้านตัวเอง) จากคุณ : ~ทิดฉ่ำ~ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 16:11:14

ความคิดเห็นที่ 11 ผมสอนตามบ้านน่ะครับ คณิตระดับประถม เตรียมตัวไม่มากครับ เพราะสิ่งที่ไปสอนเด็ก เป็นสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว และทำได้จนคล่อง เวลาไปสอนเด็กก็จะสอนวิธีการคิดมากกว่าครับ ว่าเจอแบบนี้ ต้องทำแบบไหน ประมาณนี้ครับ จากคุณ : i will ok เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 16:27:25

ความคิดเห็นที่ 12 สอนคณิต วิทย์ ฟิสิกส์ ครับผม ถ้าสอนเรื่องใหม่ที่ไม่เคยสอนก็จะเตรียมชีทเตรียมสอนนานหน่อย ถ้าเป็นเรื่องที่เคยสอนมาแล้ว ตอนนี้มันมีสเต็ปอยู่ในหัวเป็นขั้นเป็นตอนระดับฝังในดีเอ็นเอไปซะและ จะให้สอนสด ๆ โนสตันต์แมนสแตนด์อิน ยังได้เลย แบบฝึกหัดที่ให้เด็กฝึกทำออกกันสด ๆ เดี๋ยวนั้นก็ยังได้ จากคุณ : Seiki เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 22:37:09