ขุนช้างล้านเศรษฐีมีแต่ทุกข์ (๑)
|
|
คุ้ยวรรณคดี
ขุนช้างล้านเศรษฐีมีแต่ทุกข์
ตอนที่ ๑ ตั้งใจคิดเอาว่าเจ้าพิม
ฑ.มณฑา
เป็นเรื่องน่าแปลกที่ขุนช้าง ซึ่งเป็นตัวเอกในวรรณคดีเรื่องเยี่ยมของไทย สมัยกรุง รัตนโกสินทร์นั้น มีชื่อขึ้นก่อนแต่กลับกลายเป็นผู้ร้าย ส่วนขุนแผนกลับเป็นพระเอก ขุนช้างเป็นตัวตัวละครที่แสนจะอาภัพไปทุกอย่างทุกประการ ด้วยความจงใจของผู้แต่ง ที่แกล้งจะให้เขาได้รับแต่ความผิดหวังอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งต้องเสียนางวันทองไปอย่างไม่มีวันกลับ ก็ดูเหมือนจะไม่มีผู้ใดสงสารเขาเลย มีแต่สมน้ำหน้า
ลองหวนกลับไปดูอดีต ตั้งแต่เขาเริ่มเกิด มารดาของเขานั้น เมื่อเห็นหน้าลูกชายแรกคลอดออกมา ก็อุทานว่า
นางเทพทองเหลียวหน้าคว้าลูกชาย พลิกคว่ำพลิกหงายอยู่ตัวสั่น ทุดลูกบัดสีเหมือนผีปั้น หัวล้านในครรภ์ดังวงเดือน เสียแรงอุ้มท้องประคองมา ชกโคตรแม่อ้ายหมาขี้เรื้อนเปื้อน เลี้ยงมันไว้ใยอายเพื่อนเรือน หัวเหมือนโคตรข้างไหนให้เกิดมา ฯ
ครั้นโตขึ้นมีเพื่อนเล่นอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน คือพลายแก้ว และนางพิม พิลาไล ก็ตกเป็นรองของเพื่อนทั้งสองอยู่เสมอ อย่างเช่นครั้งหนึ่ง
.
ข้างพลายแก้วอุตริว่า
เราเล่นเป็นผัวเมียกันเถิดรา ขุนช้างร้องว่าข้าชอบใจ นางพิมว่าไปอ้ายนอกคอก รูปชั่วหัวถลอกกูหาเล่นไม่ พลายแก้วว่าเล่นเถิดเป็นไร ให้ขุนช้างนั้นไซร้เป็นผัวพลาง ฯ
นึกว่าจะดีพอเล่นไปได้หน่อยหนึ่ง พลายแก้วเล่นเป็นชู้เข้าไปชกขุนช้าง ก็เลยเกิดการชกต่อยกันใหญ่
นางพิมด่าให้ไอ้ตายโหง พวกอ้ายโล้งโต้งกูไม่เล่นได้ อ้ายหัวล้านขี้ถังมัน[^_^] แล้วพาฝูงข้าไทไปเรือนพลัน ฯ
นางพิมก็เลิกเล่นพาบ่าวไพร่กลับไปบ้าน เจ้าช้างก็เลยเจ็บตัวฟรี
อยู่มาพอลูกช้างเจริญวัยขึ้น ขุนศรีวิชัยพ่อของขุนช้าง ก็พาไปถวายตัวกับ พระพันวษา เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นพ่อลูก ก็ทรงมีรับสั่งว่า
ฮ้าเฮ้ยอ้ายขุนศรีวิชัย นั่นมืงพาลูกใครเข้ามาหวา ดูหัวหูน่าสมเพชเวทนา เป็นเชื้อวงศ์พงศาของผู้ใด ฤๅลูกหลานหว่านเครือของมืงเอง หัวล้านโจงเหม่งไม่เอาส่ำได้ จะเอามาให้กูหรือว่าไร มีธูปเทียนดอกไม้ใส่พานมา ฯ
ขุนศรีวิชัยก็กราบทูลว่า เป็นบุตรชายของตนเอง ขอทูลเกล้าถวายไว้เป็นทหาร พระพันวษาก็ตรัสว่า เดี๋ยวนี้มันยังเด็กเล็กอยู่ รอไว้ให้โตกว่านี้จึงให้เข้ามารับราชการ แล้วก็พระราชทานเสื้อผ้าให้เป็นรางวัล
อยู่มาจนขุนช้างโตเป็นวัยรุ่น ก็มีนายโจรใหญ่ชื่อจันศร ยกพวกเข้าปล้นบ้านขุนศรีวิชัย ซึ่งเป็นเศรษฐีใหญ่ในเมืองสุพรรณ ตัวขุนศรีวิชัยโดดลงจากเรือนไป ทิ้งลูกเมียไว้ให้โจรจับเอาไปขู่เข็ญให้บอกที่ซ่อนทรัพย์
พวกโจรสับสนอยู่กล่นเกลื่อน ตีฝาเคาะเรือนทุบโอ่งไห โห่ฉาวกราวเกรียวเที่ยวค้นไป ครั้นจับได้แม่ลูกให้ผูกคอ เทพทองร้องขอชีวิตฉัน ขุนช้างกลัวตัวสั่นตาปอหลอ ยั่นกูอีเฒ่าเอาให้พอ เทพทองร้องขอแต่โทษตัว พวกขโมยจูงมาที่กลางบ้าน อ้ายหัวล้านนี้ฤๅคือเจ้าผัว เทพทองร้องว่านี่ลูกตัว ผัวกลัวเขาทิ้งวิ่งหนีไป อ้ายขโมยเอาไฟเข้าลนก้น มืงจะทนหรือจะบอกออกความให้ เงินทองข้าวของไว้ที่ใด มัดแขนแอ่นไพล่อย่าปิดกู เทพทองร้องว่าข้าจนใจ ขโมยเอาดินใส่ระเบิดหู ขุนช้างกราบกรานวานเอ็นดู ขอโทษแม่ตูจงงดไว้ เงินทองของดีมีห้าพัน อยู่ในกำปั่นจะบอกให้ อ้ายขโมยโห่มี่มันดีใจ ผ่ากำปั่นใบใหญ่ขนออกมา ฯ
เมื่อได้ทรัพย์สินเงินทองแล้ว พวกโจรก็ยกขบวนเดินทางกลับ โดยผูกคอแม่ลูกลากไปในขบวนเป็นตัวประกัน แต่ขุนศรีวิชัยที่หนีไปนั้น ได้ชวนชาวบ้านมาเป็นพวกได้ร่วมสองร้อย คอยดักซุ่มอยู่ตามทางที่พวกโจรจะผ่าน พอมาถึงก็จู่โจมเข้าตีพวกโจรโดยไม่ทันให้รู้ตัว เกิดการสู้รบกันอลหม่าน ขุนศรีวิชัยนั้นก็มีฝีมืออยู่พอตัว ทั้งคงกระพันฟันแทงก็ไม่เข้า เข้าสู้กับจันศรนายโจรอยู่หลายท่า แต่สุดท้ายถูกพวกโจรกลุ้มรุมเข้าจับตัวไว้ได้
พวกขโมยพร้อมล้อมจับตัว เอาดาบสับหัวหาเข้าไม่ ผูกคอแทงผึงตึงตึงไป ดังว่าแทงขอนไม้ไม่เข้ามัน เอาดาบฟันผ่าลงบ่าฉับ เยินยับหักร้นไปจนกั่น ขโมยว่าอ้ายนี่มันดีครัน หอกดาบหักสบั้นยับเยินไป ฯ
ลงท้ายพวกโจรก็จับขุนศรีวิชัยมัดเหมือนหมู แล้วเอาหลาวแทงเข้าทางรูทวาร จึงขาดใจตายไปอย่างน่าเอน็จอนาถ ขุนช้างกับมารดาหนีรอดไปได้ ขุนช้างจึงเป็นกำพร้าบิดาตั้งแต่นั้นมา
จากคุณ |
:
เจียวต้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ย. 55 13:28:17
|
|
|
|