ความคิดเห็นที่ 1 ถามลุงเค แกเริ่มจากวินาศสันตะโรจนเป็นท๊อปของโรงเรียนจนถึงได้ทุนไปเรียนนอก แกทำได้แล้วทำไมคุณจะทำไม่ได้ อย่าใจเสาะก็แล้วกัน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 15:53:57

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่ได้เริ่มจากห่วยแตกครับพี่ ระดับกลางของห้องครับ ก็ราวๆ ระดับ C ครับ จนไป A เก่งที่สุดของห้องได้ใน 1 ปี จาก มศ 3 ได้ระดับ C จบ มศ.4 ได้ระดับ A และเป็นที่ 1 ของห้องได้รางวัลคือ Oxford Advanced Learners Dictionary. ถ้าระดับติดลบเลย จะสอบ Toefl ได้ 100+ ใน 3 ปี ไม่มีทางครับ แต่ถ้าจะให้ได้สัก 80+ พอทำได้ 1. ต้องเรียนอังกฤษอย่างจริงจัง อย่างน้อย 6 ชม ทุกวัน ไม่มีเว้นสักวัน (ผมทำได้ 365 วันเลย) 2. เริ่มทำการเข้าใจแกรมมาร์พื้นฐานเพื่อช่วยในการอ่านให้เข้าใจ ผมแนะหนังสือเล่มนี้ Essential Grammar in Use สีแดงส้ม มีแปลไทย อ่านให้จบ ทำแบบฝึกหัดทุกบท แล้วต่อด้วย English Grammar in Use เล่มสีน้ำเงิน มีแปลไทย อ่านให้จบ ทำแบบฝึกหัดทุกบท 3. ดูกระทู้ต่างๆ ของคุณ lovelypriest ที่แนะนำการเรียนใน Youtube เลือกบทที่เราพอจะอ่าน/ฟังรู้เรื่อง ฝึกทุกวัน 4. เลือกอ่าน/ฟัง/copy จาก http://www.voanews.com/specialenglish อย่างน้อย 1 บท ทุกวัน การ copy คือ พิมพ์ตามบทความ คือ อ่าน 1 ประโยค แล้วก็พิมพ์ให้เสร็จ แล้วก็อ่านประโยคต่อไป พิมพ์ต่อไป 5. ถ้าสงสัยศัพท์อย่าปล่อยทิ้งไว้ ให้เปิดดิก แนะ http://dict.longdo.com/ แต่เมื่อขึ้นปีสามแล้ว ให้ใช้ http://www.ldoceonline.com/ 6. พอขึ้นปี 3 ให้หาข้อสอบ Toefl เก่าๆ มาทำทุกวัน อย่างน้อย 3 ชม. ถ้าคุณทำตามเงื่อนไขพวกนี้ได้ มีสิทธิ์ถึง 80+ อย่าหวัง 100+ เพราะฐานคุณต่ำเกินไป จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 16:08:55

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ไม่แน่ จขกท อาจเป็นอัจฉริยะก็ได้ อาจเรียนเก่งกว่าผม อังกฤษจาก F ไป A ได้ใน 3 ปี ผมทำได้จาก C ไป A ใน 1 ปี แต่ต้องทุ่มมาก และวิชาอื่นๆ ก็ด้อยลงพอควร เพราะมัวแต่ทุ่มอังกฤษ ใน 1 ปี ผมอ่านตำราแกรมมาร์จบสองเล่ม ทำแบบฝึกหัดครบ ทำข้อสอบเ่ก่า และอ่านหนังสือ Graded readers จากห้องสมุด British Council จบไปประมาณ 100+ เล่มครับ ผมในสมัยปี 1968 ตอนอยู่ มศ.3 ก็เก่งพอควร เพราะถ้าไม่เก่ง ก็ไม่สามารถขึ้นเรียน มศ.4 แผนกวิทย์และอยู่ห้องคิง โรงเีรียนดังระดับประเทศและห้องผมได้ที่ 1 2 และ 4 แผนกวิทย์ทั่วประเทศมัธยมปลายครับ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 16:20:14

ความคิดเห็นที่ 4 -ขอบคุณพี่K.Seniorมากครับ-(เรียกพี่ละกัน) พวกตามโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษนี่เค้าสอนส่วนใหญ่เกี่ยวกับอะไรหรอครับ ไปลงเรียนดีไหมครับ ปล.อัจฉริยะที่ว่าคงไม่ใช่ผมแน่ๆครับ -ขอบคุณพี่ แอ๊ด ปากเกร็ดด้วยครับ ผมจะพยายาม- จากคุณ : Start(จขกท) เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 16:25:26 A:58.8.17.113 X: TicketID:378073

ความคิดเห็นที่ 5 คนที่ไปเรียนติว (ผมจนมาก ไม่มีโอกาส ต้องเดินไป รร ถึง 12 ปี) คือคน 1. ตามกระแส กลัวเรียนไม่ทัน ไม่เก่งเท่า 2. ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง 3. หลงโฆษณา 4. อ่านเองไม่รู้เรื่อง ครูสอนในห้องไม่เข้าใจ คิดว่าไปเรียนติวแก้ปัญหานี้ได้ (แต่ไม่เสมอไป) สำหรับผม คิดว่า ถ้าอ่านรู้เรื่อง ไปเรียนติว ไม่คุ้ม เพราะเสียเวลาเดินทาง และไม่แน่ใจว่า ระดับเราจะรับได้หรือไม่ ไม่ว่ายากไปหรือง่ายไป ตย ผม อ่านรู้เรื่อง ต่อให้ติวฟรี ผมก็ไม่ไปครับ เพราะอ่านเองได้สมาธิ ได้เรื่อง ได้เน้อมากกว่าครับ เพราะเคยไปดูตัวอย่างครูติวดังๆ ระดับ อ.สงวนมาแล้ว หลังจากกลับจากต่างประเทศก็รู้ว่า แกก็คุยว่า ตัวเองเรียนเก่ง อ่านเอง จัุบจุดได้ กลั่นกรองมาสอนหาเงินได้ ผมก็คุยได้ว่า ผมก็เรียนเก่ง ไม่ต้องติว ก็เก่ง ชิงทุนไปเรียนเมืองนอกได้ 555 สรุป ติวเตอร์ดัง แบบ อ.สงวน ยังบอกว่า ถ้าเีรียนเก่ง อ่านรู้เรื่องจับจุดได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนกับแก ลองทำตามที่ผมแนะนำก่อนดีไหม? ปูฐานก่อนดีไหม? ถ้าห่วยแตกก็เรียนกับ อ.สงวนไม่รู้เรื่องอยู่ดี เสียเงิน เสียเวลาเดินทางไปเปล่าๆ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 16:46:58

ความคิดเห็นที่ 6 ลูกชายอยู่ ม.1 เป็นหางแถวของห้อง ม.4 TOEFL 620 สูงสุดของระดับชั้น จบ ม.6 TOEFL 657 ตอนนี้ได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 17:12:09 A:110.168.136.141 X: TicketID:117365

ความคิดเห็นที่ 7 ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 17:32:54

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ เจ๋งอ้ะ ทำได้ไงเนี่ย ตอนผมจบ ม.ปลาย ยังสอบได้แค่ 570 เอง ไปอยู่นอก 4 เดือนถึงได้ 610 อยู่อีก 4 ปี ถึงจะได้ราวๆ 650+ แต่จำมะได้ว่าเท่าไหร่ จากคุณ : Ensign เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 17:36:06

ความคิดเห็นที่ 9 คห 6 เด็กอัจฉริยะ มีครับในไทย คนเราสมองไม่เท่ากัน สมาธิไม่เท่ากัน ในเวลาเท่ากัน คนหนึ่งเรียนด้วยตนเองรู้เรื่องไปไว อีกคนหนึ่งเรียนรู้เรื่องแต่ไปไม่ไวเท่า ทักษะก็เลยไปไม่เท่ากัน ผมเก่งพอควรแต่ไม่อัจริยะ ถึงแนะนำว่า ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 ชม ทุกวัน เพราะนั่นคืออัตราที่ผมเก่งขึ้นมาได้ใน 1 ปี จาก C ไป สุดยอด A ระดับที่อ่านหนังสืออังกฤษเกิน 100 เล่มใน 1 ปี มีความพยายามมาก จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 22:06:27

ความคิดเห็นที่ 10 ...  ท่าน จขกท ทำตามที่ลุงเค และป๋าแอ๊ด แนะนำเถอะครับ  เมื่อห้าปีที่แล้วผมถามคำถามเดียวกับท่าน  ขณะนั้นผมเป็นช่างซ่อมบำรุงในโรงงาน ตอนนี้ผมทำงานอยู่ต่างประเทศ ในระดับบริหารโครงการ     ขอกราบขอบพระคุณท่านทั้งสองไว้ ณ. ที่นี้ด้วยครับ จากคุณ : เม่า_พอเพียง เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 17:09:35

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ K.Senior ครับ การฝึกการฟัง ต้องฝึกอย่างไรดีครับ ... ถึงจะฟังทันและฟังรู้เรื่อง จากคุณ : 7887 (banana_nui) เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 20:58:17

ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนอื่นๆ ต้องอ่านให้รู้เรื่องก่อน ไม่เข้าใจคำไหนเปิดดิก อย่างปล่อยทิ้ง พออ่านรู้่เรื่องแล้ว ก็เปิดเนื้อเรื่องฟัง จะเริ่มอย่างง่ายก่อนก็คือ http://www.voanews.com/specialenglish หรืออาจจะฟังก่อนรอบหนึ่ง แล้วเปิดอ่านเพื่อตรวจความเข้าใจ ไม่เข้าใจคำไหนเปิดดิก  จากนั้นปิด sub ฟังอีกสองเที่ยว คุณเชื่อไหม สมัยอยู่ มศ.5 ผมเคยฝึกฟังเทปบางเรื่องกว่า 5 ครั้งกว่าจะฟังจับสำเนียงได้ รู้เรื่องหมด ทั้งที่อ่านรู้เรื่องหมดแล้ว จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 06:31:35

ความคิดเห็นที่ 13 ที่พี่ K.Senior แนะนำ นี่คือวิธีที่พี่เค้าใช้ในการพัฒนาภาษาอังกฤษใช้มั้ย ครับ จากคุณ : ผู้บัญชาการ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 14:30:12

ความคิดเห็นที่ 14 ที่ 2  ครับ ลองยกตัวอย่างกิจกรรมภาษาอังกฤษ ไม่น่าเบื่อใน 6 ชม. ต่อวัน ให้เป็นวิทยาทานได้ไหมครับ จากคุณ : น่ารัก (IG_KGB) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 22:19:58

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับมีประโยชน์มาก จากคุณ : ยิ้มหน่อยน่านะน๊า เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 15:23:59

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วต้องใช้เวลา 6 ชม./วัน ต้องเป็นช่วงเวลาที่ติดกันหรือว่าสามารถแบ่งเป็นช่วงเช้า 3 ชม. แล้วหลังเลิกงาน 3 ชม.ได้มั้ยคะ ตอนนี้อยากเก่งภาษาอังกฤษมากๆ เลยอยากให้ช่วยแนะนำเพิ่มเติมเรื่องเวลาหน่อยค่ะ จากคุณ : ตาลตัวกลม (ตาลตัวกลม) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 19:56:20