 |
สมัยเราเริ่มติวภาษาอังกฤษให้เด็กประถมและมัธยมใหม่ๆ เราคลำทางไม่ถูกก็เลยต้องกางหนังสือเรียนเด็กเพื่อสอนเด็ก
แต่หลังจากค่อยๆฝึกสอนไปเรื่อยๆจนชำนาญมากๆ เราแค่เปิดดูหนังสือเรียนเด็กให้รู้วัตถุประสงค์และระดับที่จะต้องสอน จากนั้นเราปิดหนังสือเรียนแล้วเราเขียนบทเรียนขึ้นมาเอง โดยการใช้ตำราจากต่างประเทศกับสื่อ (มีทั้ง ebooks, audios, videos และ computer software ที่ช่วยด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ) จากต่างประเทศหลายๆสิบชุดเพื่อตัดต่อกัน ผลิตบทเรียนขึ้นมา แต่พอทำๆไปเรื่อยๆ เขียนออกมาจากสมองตัวเองได้เลย
เราเชื่อว่าถ้าครูหมั่นศึกษาค้นคว้าบ่อยๆ ไม่ว่าจะสอนวิชาอะไร อย่างเช่นวิชาฟิสิกส์ก็ใช้ตำรากับสื่อจากต่างประเทศเอามาตัดต่อและสร้างใหม่ขึ้นมาเองได้ จนในที่สุดครูก็เขียนบทเรียนทั้งหมดออกมาจากสมองตัวเองได้
ที่แน่ๆก็คือการเขียนบทเรียนเอง (จากการค้นคว้าตำราและสื่อต่างประเทศ) ทำให้สอนได้ครอบคลุมเนื้อหา และยืดหยุ่นมากกว่าการกางตำราภาษาไทยแค่ไม่กี่เล่มสอน เพราะเนื้อหาวิชาหลักๆส่วนใหญ่คนไทยไม่ได้คิดขึ้นฝรั่งคิดขึ้นเราก็ไปเอาความรู้มาจากต้นตอซะเลย เพื่อมาสอนเด็ก
สมัยนี้ใครอ่านภาษาอังกฤษได้แตกฉานแล้วใช้ google เก่งมากๆ จะเขียนบทเรียนวิชาต่างๆให้เด็กประถมและมัธยมได้ง่ายๆโดยใช้ข้อมูลจากต่างประเทศล้วนๆ ไม่โดนปิดประตูตีแมวหให้ต้องอ่านแต่ตำราไทยเพียงแค่ไม่กี่เล่ม
การต้องโดนบังคับให้ใช้ตำราไทยที่ผู้ผลิตตำรากับผู้อนุมัติให้ตีพิมพ์และอนุมัติให้เอาไปใช้ในโรงเรียน มันเป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้ใครบางคน นอกจากนั้นแล้วมันยังเป็นการจำกัดการเรียนรู้อีกด้วย
| จากคุณ |
:
fortuneteller   
|
| เขียนเมื่อ |
:
24 ต.ค. 55 11:53:05
|
|
|
|
|
สมัยนี้ยังมีการบังคับใช้หนังสือแบบเรียนอยู่บ้างรึเปล่า
ทุบหัวตัวเอง เข้าใจละ รอท่านอื่นมาคอนเฟิร์มอีกที จะมีไหมหนอ เสิชอากู๋ก็ไม่เจอ
(กิ๊ฟต์หมดแล้ว)