ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเน้นจบง่าย ก็ IS ค่ะ แต่ถ้าเน้นความรู้เจาะลึก ยุ่งยากหน่อย ก็วิทยานิพนธ์ ประสบการณ์ส่วนตัว ก็เลือก IS ค่ะ ทำแบบเชิงคุณภาพ ไม่ยุ่งยากเท่าไร จากคุณ : มือใหม่คับผม เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 11:18:19

ความคิดเห็นที่ 2 Thesis แผน ก ส่วนใหญ่จะเป็น นักศึกษาภาคปกติ สามารถนำวุฒิ ป โท และ Thesis ไปต่อ ป เอก ได้ เพราะ Thesis ต้องนำไปเผยแพร่ตีพิมพ์ระดับประเทศ เรียนหนักกว่า ส่วน IS แผน ข ส่วนใหญ่จะเป็น นักศึกษาภาคพิเศษ เสาร์อาทิตย์ อาจจะเรียนไม่หนัก แนะนำ ทำ IS ค่ะ จากคุณ : houisjung เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 11:20:15

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่าขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ ถ้าคิดว่าคิดว่าจะเรียนต่อ ป.เอก ก็ควรทำวิทยานิพนธ์ แต่ถ้าเน้นที่ความง่ายก็ IS ครับ ต่างกันที่ความยุ่งยากและเวลาในการทำ อย่าง MBA จุฬา จริงๆทั้งแผน ก และ ข กำหนดเวลาเรียนเท่ากัน คือ 2 ปี แต่อาจารย์บอกว่าแผน ก แทบไม่เคยมีใครจบได้ใน 2 ปี จากคุณ : Sirapak เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 11:32:38

ความคิดเห็นที่ 4 @ คุณSirapak : เราคิดว่าจะเรียนจุฬาค่ะ แผน ก ยากขนาดนั้นเลยหรอ T^T เห็นรุ่นพี่ที่เรียน MBA ม.เกษตร เลือกทำ IS ทำไมดูจบยากจัง ใช้เวลาเรียนเกือบ 3 ปีส่วนป.เอกคงไม่เรียนละ เยอะเกิน 555 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ :D จากคุณ : ramborabbit เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 12:18:18

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ค่ะ แผน ก ค่อนข้างหนัก ขนาดเราจบคนแรกของรุ่น (ทำแผน ก นะคะ) ยังจบมาด้วยเวลา 2 ปีครึ่งเลย เห็นอาจารย์บอกว่า ยังไม่มีใครทำได้ 2 ปีตามหลักสูตรเลย จริง ๆ เราใช้เวลาทำประมาณ 1 ปีกว่า ๆ เราว่ามันยากตรงต้องเผื่อเวลาตีพิมพ์ผลงานนี่ล่ะ บางที กินเวลาประมาณ 6 เดือน กว่าจะได้ใบตอบรับตีพิมพ์จากวารสาร เพื่อนำมายื่นจบ ถ้าทำบทความตีพิมพ์เสร็จไว แล้วได้ใบตอบรับไว โอกาสจบเร็ว ก็มีสูงค่ะ จากคุณ : production เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 12:52:13

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ตอบคุณ จขกท. ที่ คห.4 ขอตอบเฉพาะส่วนของจุฬานะครับ ผมว่ามันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถหรอกครับ แต่ต้องใช้เวลา คือแผน ก มีระเบียบข้อกำหนดอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวข้องกับการทำวิทยานิพนธ์ ทำให้ต้องใช้เวลามากกว่า ต่างจากแผน ข ที่แทบไม่มีข้อกำหนดตายตัวอะไรเลย แค่ทำเนื้อหา IS ให้ดีๆก็เพียงพอแล้ว และถ้าดูจากหลักสูตรของจุฬา ทั้งแผน ก และ ข เรียน 51 หน่วยกิต แต่แผน ก ทำวิทยานิพนธ์ 12 หน่วย ในขณะที่แผน ข ทำ IS แค่ 3 หน่วย หมายความว่าแผน ก ควรจะเรียนน้อยกว่าแผน ข 9 หน่วย คือ 3 วิชา แล้วเอาเวลาไปทำวิทยานิพนธ์ก่อน แต่ในความเป็นจริงแผน ก จะมีวิชาบังคับคือวิชาวิจัยที่ต้องเรียนก่อนทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งหลักสูตรมาเปิดให้เรียนตอนเทอมเกือบสุดท้าย ทำให้กลายเป็นว่าคนเรียนแผน ก กว่าจะได้เริ่มทำวิทยานิพนธ์ก็พร้อมๆกับที่แผน ข เริ่มทำ IS แต่อย่างที่บอกว่าวิทยานิพนธ์ต้องใช้เวลามากกว่า ก็เลยทำให้จบช้ากว่าคนที่ทำ IS ครับ edit เพิ่มเติมอีกนิด คนที่จะเรียนแผน ก ต้องมีความตั้งใจจะทำวิทยานิพนธ์จริงๆด้วยนะครับ จากสถิติแผน ก รับน้อยกว่าแผน ข แต่มีคนสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่านเยอะกว่าแผน ข อีก เห็นว่าส่วนใหญ่ที่อาจารย์ไม่ให้ผ่านเพราะไม่ได้มีความตั้งใจจะทำวิทยานิพนธ์ แต่เป็นเพราะประสบการณ์ทำงานไม่ถึง 1 ปี เลยมาสมัคร แต่สำหรับคุณ จขกท. ที่มีประสบการณ์ทำงานมากขนาดนี้ ถ้าอยากทำวิทยานิพนธ์ก็คงไม่มีปัญหาครับ (แต่มีปัญหาตรงอยากจบง่าย ผมว่าเลือกแผน ข ไปเถอะ :P ) แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 13:21:46 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 13:06:11 จากคุณ : Sirapak เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 13:03:41

ความคิดเห็นที่ 7 @Sirapak : พอดีไม่อยากเรียนอะไรให้มันยากเกินไปค่ะ แค่ทำงานอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว เลยอยากจบง่ายๆหน่อยค่ะ แหะๆๆ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ^_^ จากคุณ : ramborabbit เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 15:15:04

ความคิดเห็นที่ 8 อยากจบง่ายแนะว่าทำ IS ค่ะ วิทยานิพนธ์ทำเอาเรากระอักเลือดอยู่ตอนนี้ จากคุณ : AnEndEventually เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 15:31:22

ความคิดเห็นที่ 9 @คุณAnEndEventually : สู้ๆค่ะ :D จากคุณ : ramborabbit เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 15:57:21

ความคิดเห็นที่ 10 ตัวแปรที่สำคัญมากๆนอำจากแผนการเรียน คือความใส่ใจของอาจารย์ที่ปรึกษา thesis หรือ is ด้วยครับ บางท่านรับงานนอกมากหรืองานอื่นๆเยอะ ไม่มีเวลาตรวจงานให้ นศ.เก่งแค่ไหนก็จบทันได้ยาก บางมหาลัยก็เลือกอาจารย์ได้ บางที่เลือกไมาได้แล้วแต่จัดมาให้ อันนี้ขึ้นกับวาสนาด้วยครับ อย่างผมเจอ อ.ที่เก่ง แต่ไม่มีเวลาตรวจงานให้ จะเข้าพบให้ตรวจงานทีต้องนัดหมายล่วงหน้า และรอแต่ละครั้งเป็นเดือน จนเพื่อนในรุ่นจบไปแล้ว แต่ผมและคนอื่นๆที่ได้ อ.ท่านนี้เป็นที่ปรึกษา ยังดองกันอยู่เพียบเลย จากคุณ : jonaja เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 16:43:43

ความคิดเห็นที่ 11 เราต้องลงแผน ก. เพราะไม่มีประสบการณ์ทำงาน จากคุณ : Senior_Buen เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 18:37:13

ความคิดเห็นที่ 12 เราว่าที่เมืองไทย เรียนปริญญาโทกันนานเกินไปนะ อย่างที่อังกฤษนี่ หลักสูตร 1 ปี ส่วนใหญ่ก็จบกัน 1 ปีตามเป้า ที่ทำพวก dissertation พบอาจารย์ไม่กี่ครั้ง พอส่งเล่มแล้ว ก็แทบจะลุ้นได้เลยว่าจบแน่ ๆ แต่ที่เมืองไทย เรียนกัน 3-4 ปี เป็นเรื่องปกติ ทำวิทยานิพนธ์แบบละเอียด พบอาจารย์หลายครั้ง แก้หลายครั้ง จนกว่าอาจารย์จะพอใจ ซึ่งจริง ๆ งานเขียนเนี่ย ถ้าอยากให้ตรงใจคนอ่าน ก็คือต้องให้คนอ่านมาเขียนเอง จะตรงใจที่สุด กว่าจะจบปอโทที่ไทย กว่าจะเรียนเอกอีก อายุเลยปาไปกัน 30 อัพทั้งนั้นเลย เฮ้ออ สำหรับ จขกท นะคะ - ถ้าอยากจบไว เลือก IS - ถ้าอยากมีความรู้แน่น มีการการันตี ว่าเข้าปอเอกง่ายกว่า เลือกแบบที่ทำวิทยานิพนธ์ค่ะ จากคุณ : production เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 19:28:38

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีค่ะ ยืนยันค่ะ ถ้าอยากจบไวๆ เลือก IS เลยค่ะ  บางที่ทำ IS เป็นกลุ่มอีกต่างหากค่ะ หลักสูตรที่เราเรียนต้องเป็น Thesis เท่านั้นค่ะ คนละสาขากับคุณ จขกท  กว่าเราจะทำ thesis เสร็จตั้งแต่ เริ่ม proposal จน thesis defense เป็นปีเลยค่ะ ร้องไห้หลายรอบเลยค่ะ ตอนนี้ก็รอการตอบรับจากกองบรรณาธิการ เพื่อลงวรสารอีก นานมาก ตอนนี้ก็ทำใจค่ะ คิดว่าคงจะมีแก้ manuscript อีกแน่ๆเลย  ได้แต่ลุ้นว่าเมื่อไหร่คณะกรรมการภายนนอกจะอ่าน และ comment ไวๆค่ะ จากคุณ : athena_b เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 19:43:46

ความคิดเห็นที่ 14 จบง่าย ลง IS เลยค่ะ ตอนนี้ก็กำลังกระอัก กะ THESIS อยู่ค่ะ อาจารย์บอกว่า ตรวจ IS 5 เล่ม เท่ากับ THESIS 1เล่ม ถ้าไม่มุ่งเรียนเอก หรืออาจารย์อะไรก็ เรียน IS เลยค่ะ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 23:26:23

ความคิดเห็นที่ 15 IS  ครับถ้าให้ง่าย THESIS แค่ PROPOSAL ก็ทำผมกระอักเลือดละ จากคุณ : Tea_bomb เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 01:21:28

ความคิดเห็นที่ 16 สนับสนุนให้ทำ thesis ค่ะ ถ้าฝ่าฟันได้สำเร็จ อะไรต่อมิอะไรมันจะดีกว่าเยอะ แต่จากกระทู้ ต้องตอบว่า IS จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 19:11:51

ความคิดเห็นที่ 17 แค่ IS ก็กระอักเลือดแล้วค่า ถ้าไม่มีแพลนต่อเอก แนะ IS ค่า จากคุณ : มะม่วงมันสีฟ้า เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 11:50:02