ความคิดเห็นที่ 1 เพราะว่า เวียดนามรู้ว่าดินแดนที่กล่าวมานั้น เป็นเขตอิทธิพลของสยาม ซึ่งกำลังของเวียดนามกับสยามก็ไม่ได้ต่างกันมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมายึด แถมสมัยนั้นยังมีพวกฝรั่งเศสมาจ้องตาเป็นมัน คงไม่มีกะจิตจะใจจะมาเอาดินแดนอื่น จากคุณ : YoshiDa_Bangkok เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 08:40:35

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงสมัยกลาง-ปลายอยุธยานั้น เวียดนามตกอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมืองยาวนานมากครับ ทำให้เวียดนามอ่อนแอ วุ่นวาย และแย่งชิงอำนาจกันตลอด จักรพรรดิราชวงศ์เล้เสมือนเป็นแค่หุ่นเชิดที่ตระกูลเหงียนและตรึน แย่งกันเอาไปอ้างความชอบธรรมเท่านั้น ขุนศึกตระกูลเหงียนมีฐานอำนาจอยู่ทางใต้แถบเมืองเว้ (เป็นบ้านเกิดเดิมของบรรพชนสกุลเหงียน) ส่วนตระกูลตรึนมีฐานอำนาจอยู่ทางเหนือ ได้ราชสำนักจีนหนุนหลังในฐานะที่ควบคุมตัวจักรพรรดิราชวงศ์เล้เอาไว้ได้ กว่าขุนศึกตระกูลเหงียนจะปราบพวกไตเซิน และรวมแผ่นดินตั้งราชวงศ์ได้ก็ปลายรัชกาลที่ 1 แล้วหน่ะครับ ซึ่งตอนนั้นสยามเป็นเจ้าประเทศราชของทั้งกัมพูชาและลาวทั้ง 3 มาก่อนแล้ว เวียดนามจึงต้องพยายามหาทางแทรกเข้ามาในฐานะคนมาทีหลัง ผมมองว่าเวียดนามไม่ได้ให้ความสำคัญของการขยายอำนาจไปในลาวมากนัก เวียดนามมีความสนใจแน่นอน แต่รู้สึกไม่คุ้มหากต้องปะทะกับสยามตรงๆในลาว เพราะผลประโยชน์ในลาวมีน้อย พื้นที่เป็นป่าเขาทุรกันดาน ยากที่จะบุกเบิก ในขณะที่ดินแดนปากแม่น้ำโขงตอนใต้ ไล่ไปจนถึงเมืองท่าอย่างฮาเตียนนั้น มีคุณค่าทางเศรษฐกิจมากกว่ากันเยอะ และใกล้กับฐานอิทธิพลของสกุลเหงียนเดิมมาก พระเจ้ากรุงกัมพูชาเองก็มีใจที่จะออกห่างจากสยามมาแต่เดิมแล้ว นั่นทำให้พอเกิดสงครามกลางเมืองในกัมพูชา เวียดนามเลือกที่จะเข้าร่วมอย่างไม่ลังเล และนำมาซึ่งสงครามกับสยามครับ ในทางกลับกันตอนสถานการณ์ของล้านช้าง เวียดนามเลือกที่จะแค่ออกหน้า (คือส่งคนมาช่วยเจ้าอนุวงษ์เจรจายอมความกับสยาม) แต่ไม่ยอมออกแรง (ไม่ส่งกองทัพมาช่วยเจ้าอนุวงษ์) จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 09:35:49

ความคิดเห็นที่ 3 สยามในยุคก่อน เป็นมหาอำนาจแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นะครับ แม้แต่พม่า หลังจากพระเจ้าตากสินทรงสร้างกรุงธนบุรีแล้ว  พม่าก็รบแพ้ไทยมาตลอด อาณาเขตของไทยตอนนั้นใหญ่กว่าปัจจุบันเกือบสองเท่า สมัยนั้น ถ้าเวียดนามเปิดศึกกับไทยตรงๆ เวียดนามยับเยินแน่  ขนาดตอนเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปปราบเขมร เขมรขอให้เวียดนามช่วย เวียดนามยังไม่กล้า แต่ก็จัดพิธีต้อนรับเจ้าพระยามหากษัตรย์ศึกอย่างยิ่งใหญ่ คือใช้ทางทูตเข้าแก้ไข โดยบอกว่าเขมรก็เหมือนเด็ก ทำอะไรให้ผู้ใหญ่ไม่พอใจก็ขอให้อภัย บรรพบุรุษของเราท่านเก่งกล้าสามารถมากครับ  มีรุ่นหลาน เหลนโหลน นี่แหละ ทำให้ปัจจุบันย่ำแย่ ทั้ง GT200  บอลลูนลอยฟ้า ฯลฯ จากคุณ : รักหลอกจึงบอกให้ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 11:46:47

ความคิดเห็นที่ 4 ตรงลาวที่ติดกับเวียดนาม    ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาอันนัมและเทือกเขาแดนญวนครับ      การที่เวียดนามจะบุกเข้ามาทางลาวได้ค่อนข้างเป็นเรื่องยากมาก       ในขณะที่ทางเขมรที่ติดกับเวียดนามพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่ง+พื้นราบไม่ค่อยมีภูเขา     สามารถเคลื่อนทัพเข้ามาได้ง่ายกว่ามาก จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 20:50:37

ความคิดเห็นที่ 5 อีกประการคือตอนศึกเจ้าอนุวงศ์นั้น เวียดนามเองก็มีการวัดพลังภายในกันระหว่าง องต๋ากุน แม่ทัพใหญ่ 2 รัชกาลที่กุมอำนาจทางทหารเรือในภาคใต้ และจักรพรรดิมินหมาง จักรพรรดิหนุ่มผู้ทรงอยากจะปกครองเวียดนามอย่างเด็ดขาดเพียงผู้เดียวครับ องต๋ากุน สนับสนุนเจ้าอนุวงศ์ และเคยรับปากจะยกกองเรือจากเวียดนามเข้าร่วมกับเจ้าอนุฯตีกรุงเทพ เจ้าอนุฯเลยลงมือก่อการได้ แต่แผนของเจ้าอนุล่ม ส่วนหนึ่งก็เพราะ จักรพรรดิมินหมางไม่ยอมให้องต๋ากุนเคลื่อนทัพออกมาครับ โดยเอาเหตุว่าปีนั้นเวียดนามเกิดโรคระบาดกับภัยธรรมชาติเป็นข้อโต้แย้งการเคลื่อนทัพ ซึ่งก็เพราะว่า หากเจ้าอนุสามารถเอาชนะสยามได้ ล้านช้างเวียงจันทน์และกัมพูชาก็จะตกเป็นเขตอิทธิพลของเวียดนาม แลความชอบทั้งปวงจะเป็นของขุนศึกใหญ่อย่างองต๋ากุน ไม่ใช่จักรพรรดิหนุ่มมินหมาง พระองค์ไม่อยากให้พวกขุนศึกเรืองอำนาจอีกรอบ จึงต้องตัดตอนความเป็นไปได้ในการสร้างความชอบชิ้นโตขององต๋ากุนเสีย พอตกถึงสมัยอานามสยามยุทธ จักรพรรดิมินหมางทรงรวบอำนาจปกครองไว้อย่างเด็ดขาดครับ พระองค์จัดว่าเป็นจักรพรรดิราชวงศ์เล้องค์เดียวที่มีอำนาจปกครองอย่างเด็ดขาดที่สุด (เพราะจักรพรรดิเกียลองพระบิดาสร้างแผ่นดินมา ก็ต้องติดหนี้บุญคุณพวกฝรั่งมังฆ่า หรือขุนศึกคู่หูมากมาย อำนาจเลยต้องแบ่งๆไปบ้าง ส่วนจักรรพรดิหลังจากมินหมางก็๋เป็นหุ่นเชิดทั้งสิ้น) การทำศึกกับสยามเพื่อขยายอิทธิพลหรืออำนาจ จึงเป็นความชอบหรือความรับผิดชอบของพระองค์อย่างเต็มร้อย จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 07:31:31

ความคิดเห็นที่ 6 โดยสรุปว่าทั้งสยามและเวียตนามต่างก็ยอมรับในอำนาจซึ่งกันและกันใช่ไหมครับ  เวียตนามก็ไม่ขยายอาณาเขตมาทางอีสานบ้านเรา ส่วนสยามก็ไม่แผ่อาณาเขตไปทางตอนใต้ของปปากแม่น้ำโขงแมากนัก... จากคุณ : ริเชลิว เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:49:07

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ไม่ใช่ครับสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงนั้นเคยขึ้นกับไทยมาก่อน    (เป็นดินแดนของพระเจ้ากรุงเขมร - บัณฑายมาศ)     พอรัชกาลที่1สวรรคต     พระเจ้าญาลองก็มาขอ (ยึด) ไป       ทางไทยตอนนั้นไม่สะดวกจะไปเอาคืนเลยปล่อยไปก่อน     มาถึงอานามสยามยุทธกะจะยึดคืนด้วยเลยก็ไม่สำเร็จ   ตกลงเจรจากัน    เลยต้องปล่อยเลยตามเลย จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 16:06:02