 |
John Major เคยเป็นนายกอังกฤษโดยที่ไม่จบปริญญาตรีมาเลย ก่อนเป็นนายกเขาเคยสมัครงานได้งานทำระดับผู้บริหารในธนาคาร Standard Chartered Bank โดยแค่เรียนเรื่องการเงินและการธนาคารทางไปรษณีย์เท่านั้นเอง เพราะตอนสมัครงานจะมี selection panel (คณะกรรมการรับสมัครพนักงาน) ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญมาสัมภาษณ์และทดสอบความรู้ความสามารถเขา แล้วเขาผ่านเกณฑ์ก็เลยได้งานทำ John Major ได้รับความเชื่อถือจากคนอังกฤษเพราะเขามีผลงานด้านการเงินและการธนาคารถึงได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกอังกฤษ
ส่วนใหญ่ประเทศพัฒนาแล้วจะทดสอบความสามารถคนก่อนว่าจ้าง วุฒิการศึกษาดูแค่เป็นตัวประกอบเท่านั้น อย่างเช่นในอเมริกาจะสมัครงานเป็น computer programmer ถ้าไม่จบอะไรมาเลย แต่ไปนั่งสาธิตให้ selection panel ดูได้ว่าคุณทำอะไรดีๆกับ computer ได้บ้างคุณก็ได้งานทำ Bills Gates กับ Steve Jobs ถึงประสบความสำเร็จได้โดยไม่มีปริญญาเลยสักใบ ในขณะที่อเมริกาก็ไม่ล้าหลังเท่าไทยทั้งๆที่ไทยกำหนดให้ สส ต้องจบปริญญาตรีมา
เราเคยใช้วุฒิมัธยมต้นสมัครงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษกับโรงเรียนสอนภาษาที่มีฝรั่งเป็นผู้บริหารแล้วได้งานทำ เพราะฝรั่งสัมภาษณ์เราเป็นภาษาอังกฤษ แล้วเอา essay ที่เขียนโดยนักศึกษาปริญญาเอกในมหาลัยปิดดังๆของไทยมาให้เรา edit (ตรวจแก้) แล้วสั่งให้เราเขียนภาษาอังกฤษบรรยายว่านักเรียนเขียนอังกฤษได้ระดับนี้เราจะวางแผนการสอนยังไง ใช้สื่อการสอนยังไง และวัดผลยังไง เราเขียนอธิบายไปได้โดยใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นธรรมชาติมากๆสูสีเจ้าของภาษาเขียน เราก็เลยได้งานทำ แต่
"คุณสมบัติของเราตามมาตรฐานของระบบการศึกษาไทยถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้เด็กไทยได้ เพราะเราไม่จบปริญญาตรีมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่จบศึกษาศาสตร์มา และไม่สอบผ่าน 9 มาตรฐาน ก็เลยรับใบอนุญาตครูไม่ได้"
^ แต่เราก็ไม่เสียใจเพราะ
1. ครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมและมัธยมที่มีใบอนุญาตครู ถ้าแห่กันมาทั้งประเทศให้โดนผู้บริหารฝรั่งทดสอบทักษะการสอนภาษาอังกฤษแบบที่เราโดน เราท้าพิสูจน์ได้ว่าครูมีใบอนุญาตจะไม่ผ่านการทดสอบมากถึง 80% หรือมากกว่านั้น ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า การเลือกคนเข้าทำงานตามวุฒิการศึกษาโดยไม่ทดสอบความสามารถจริงในการทำงาน มันทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนา เพราะจะกลายเป็นประเทศที่สะสมคนจบวุฒิสูงๆแต่สติปัญญาต่ำๆเป็นจำนวนมากเอาไว้บริหารงานระดับใหญ่ๆจนประเทศชาติล้าหลัง
2 เราดีใจที่เราไม่ต้องง้อระบบคัดเลือกคนเข้าทำงานตามวฒิการศึกษาแบบไทยๆ เพราะสังคมไทยเริ่มเปลี่ยนไปเนื่องจากมีความต้องการคนมีความสามารถจริงในตลาดงาน จนทำให้ตอนนี้เราทำงานแปลไทยเป็นอังกฤษ พอส่งตัวอย่างการแปลไปให้ลูกค้าดูลีลาการเรียนภาษาอังกฤษของเรา เราคิดค่าแปลแพงๆไปลูกค้ารีบจ้างเราโดยไม่ต่อราคาเลย และลูกค้าประจำที่จ้างเราทำงานแปล รวมทั้งนักเรียนที่จ้างเราสอนภาษาอังกฤษ ก็รู้ด้วยว่าเราไม่จบปริญญามา ^ จนเราทำงานน้อยมากๆในแต่ละเดือนแต่ก็มีเงินใช้สบายๆ จนมีเวลาว่างเรียนรู้อะไรได้ ซึ่งเราก็ไม่สนใจที่จะเรียนเอาปริญญา แต่เราจะเรียนด้วยตัวเองเรื่อง คอมพิวเตอร์ โยคะ วรยุทธ์จีน การแพทย์แผนจีน(เรียนเรื่องสมุนไพร แทงเข็ม และฝึกกำลังภายในเพื่อรักษาโรคและคงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล) เรียน esoteric arts (ศาสตร์เร้นลับ) เช่นเรียนปรัชญาฮินดู ศาสตร์การดูดวง และใช้พลังในร่างผสานกับพลังจักรวาล และเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเรียนจาก digital media (ebooks, audios, videos และ software ที่ช่วยเรียนรู้)ที่ใช้ google ค้นมาได้จากต่างประเทศ
ความทะเยอทะยานของเราไม่เหมือนกับความคิดของคนไทยทั่วๆไปที่อยากเรียนจบสูงๆ...คือเราไม่อยากจบปริญญาใดๆ แต่อยากควมคุมและกำหนดชะตาชีวิตตัวเองให้ได้โดยไม่ต้องมีปริญญาใดๆ แต่มีวรยุทธ์อันสูงส่ง มีกำลังภายใน มีวิชาตัวเบา มีพลังจิตหยั่งรู้อะไรต่างๆเหมือนมีตาทิพย์หูทิพย์ อยากอายุยืนหลายๆร้อยปีแต่หน้าตายังเด็กอยู่และแข็งแรงมากๆ เหมือนจางซันฟง (ผู้ก่อตั้งสำนัก Wudang (บู๊ตึง)) หรือตั๊กม้อ (ผู้ก่อต้้งนักเส้าหลิน) และอยากเป็นเซียนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าให้ได้ในทึ่สุด...555+++...
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 18:58:44
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 18:55:24
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 17:09:50
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 17:08:09
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ต.ค. 55 17:01:53
|
|
|
|
 |