 |
เราเคยเป็นเหมือนคุณต้นนะ แต่แย่กว่าด้วยซ้ำไป คือเมื่อสิบกว่าปีมาแล้วเราเคยทำงานรับเงินเดือนบริษัทแปลเอกสาร พอเลิกงาน 5 โมงเราไปสอนภาษาอังกฤษตามโรงเรียนสอนภาษา ที่ทำไปคงเป็นเพราะเหงามั๊ง เป็นช่วงที่เราอยู่คนเดียวไม่มีแฟน โหพอกลับบ้านนะ นั่งๆกินข้าวต้มดูทีวี อยู่ดีๆ "วูบ" คือหลับบนเก้าอี้แล้วตีลังกาล้มลงมาถ้วยชามแตกหมดเลย!
หลังจากนั้นเราลาออกจากงานประจำแล้วทำงานเป็นนักแปลอิสระ ทำอะไรก็ไม่สมหวังหมด มีแฟนก็มีปัญหาเลิกกันไปตั้งหลายคนแน่ะ ปั่นงานแปลเยอะแต่ได้ค่าแปลน้อยจนเครียด การยิ่งพยายามใช้เหตุผลเพื่อดิ้นรนทำอะไรให้มันดีกว่าเดิม ยิ่่งดิ้นรนก็ยิ่งเหมือนติดบ่วงลึก ตอนนั้นเราติดเหล้างอมแงม ค่าแปลก็ได้น้อย หน้าหนึ่งเราได้แค่ 200 บาทเอง แต่มีงานทำมากมายทุกวัน (รับจากบริษัทแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่กินหัวคิวค่าแปลเรา 50%) เราต้องพยายามแปลให้ได้ 15 หน้าทุกวันเพื่อหาเงิน 3,000 บาทมาซื้อเหล้าฝรั่ง และมีเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น แต่บางวันแผ่วแปลได้แค่ 10 หน้าเหลือหาได้ 2000 บาทเองแทบไม่พอใช้ ลองแปลนิยายดูยิ่งไปกันใหญ่เลย หมุนเงินไม่ทันคอมพิวเตอร์พังกลางคันไม่มีเงินซ่อมด้วย ยิ่งคิดหาทางแก้ก็ยิ่งติดบ่วงลึก ตอนนั้นคิดว่าถ้าเราไปเรียนต่อให้ได้ปริญญามาสักใบเราคงสมัครงานดีๆได้ง่ายกว่าใช้วุฒิมัธยมต้นของเรา แต่คิดๆก็ยิ่งฟุ้งซ่านหนักเพราะขนาดเราวุฒิมัธยมต้นเรายังหาเงินได้วันละ 2000-3000 พันบาท (นั่นมันเมื่อ 10 ปีมาแล้ว) แต่เงินเดือนคนวุฒิปริญญาตรีมันต่ำกว่านั้นซะอีก แล้วเราจะเรียนเอาปริญญาไปทำไมกัน
เราเลยใช้วิธีที่เรียกว่า non-action action (การกระทำโดยไม่กระทำ) เราตามหาตำราเล่มหนึ่งเจอ เจอทั้งตำราเจอทั้ง video มันคือ Alexander Technique เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่เราเคยต้องการจะเรียนมันตอนอยู่ใน London แต่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเรียน ศาสตร์นี้สอนวิธีปรับแนวกระดูกสันหลังตัวเองให้ be in perfect harmony with the gravitational force เราลองฝึกวิชานี้ดู แล้วกลับไปฝึกโยคะกับฝึกกำลังภายในต่อ โดยโยงแนวคิดในหนังสือ The Secret ว่าด้วย The Law of Attraction เข้าด้วยกัน
^
แปลกแต่จริง การปรับเปลี่ยน posture ตัวเองให้ดีกว่าเดิม แล้ว think positive คือเลิกกลัวว่าเราจะหางานดีๆไม่ได้เพราะเราจบแค่มัธยมต้นมา แต่มุ่งเรียนเขียนภาษาอังกฤษให้เก่งเข้าไว้โดยเรียนด้วยตัวเอง แล้วเลิกคิดเรียนต่อเอาปริญญา อยู่ดีๆมันกลายเป็นทำให้ "ร่างกายตัวเองกลายเป็นเสาอากาศที่ดีกว่าเดิม" จนมันดึงดูดเอาแต่สิ่งดีๆเข้ามาหาตัวเราเอง ตามหลัก The Law of Attraction เราได้แฟนใหม่ดีๆคนหนึ่งที่มีเครือข่ายงานแปลเอกสารราคาแพงๆ ทำให้อยู่ดีๆจากที่เราเคยทำงานแปลเอกสารหน้าละ 200 บาท เรากระโดดไปได้งานแปลหน้าละ 800 - 1,200 บาท และทำๆไปเรื่อยๆมีลูกค้าประจำที่จ้างเราประจำ ตอนนี้เรากลายเป็นทำงานแค่เดือนหนึ่ง 15 -18 วันเรามีเงินเหลือเฟือ พอที่จะเดิน shopping เสื้อผ้าแฟชั่น ฝึกโยคะ ทดสอบ computer software และใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมากขึ้นเรื่อยๆ และที่ประหลาดก็คือ ยิ่งอายุเรามากขึ้นเรื่อยๆ มันกลายเป็นสุขภาพเราดีขึ้นเรื่อยๆ รูปร่างหน้าตาเราเด็กขึ้นเรื่อยๆ สมองเราก็เรียนรู้อะไรใหม่ๆได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้เรามั่นใจสูงมากๆเรื่อง think positive ทุกวันเราจะฝึกสมาธิแล้ว visualize ว่าสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตเรา คล้ายๆกับที่บุุคคลที่ประสบความสำเร็จให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขามองเห็นภาพตัวเองในอนาคตว่าทำสิ่งที่ตัวเองได้ทำ คือมันมาได้เองโดยไม่ต้องไปดิ้นรนไขว่าคว้าหามันมา เรามั่นใจสูงมากๆจนถึงกับล้มเลิกการเรียนต่อเอาปริญญาของเรา เพราะตราบเท่่าที่เรา think positive ทำอาชีพอะไรเราก็ประสบความสำเร็จหมด ต่อให้เป็นหมอดูเราก็ว่าเราก็หาเงินได้ ทุกวันนี้เราส่งตัวอย่างการแปลไทยเป็นอังกฤษไปให้ลูกค้าดูแล้วเสนอราคาตามที่ต้องเราต้องการ ลูกค้าก็ยอมจ่ายเงินตามนั้น เราไม่ต้องกังวลต่อไปอีกแล้วว่าเราจะหาเงินได้น้อยเพราะไม่มีปริญญา การเรียนเขียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองของเราโดยไม่มีปริญญานั้น "มันจ่ายค่าตอบแทนให้เราคุ้มค่ามากๆ"
และที่ประหลาดมากๆก็คือขนาดเราประกาศว่าเราจบแค่มัธยมต้นมา แต่คนใน pantip ก็ยังติดต่อหลังไมค์กับทาง mail จะจ้างให้เราสอนภาษาอังกฤษให้อยู่เรื่อยๆ แต่ช่วงนี้เรางดสอนภาษาอังกฤษหมดเลย เพราะปั่นแต่งานแปลเอกสารราคาแพงๆ แล้วเอาเวลาว่างไปเดิน shopping ฝึกโยคะ และทดสอบ computer software (พยายามใช้ software ช่วยเรื่องการเรียนรู้) กัดฟันเรียนวิชาการแพทย์แผนจีนต่อด้วยตนเอง แต่ไม่รู้จะแบ่งเวลาได้หรือไม่
ตอนนี้ความทะเยอทะยานสูงสุดของเราก็คือ รอให้ตัวเองอายุ 80 ซะก่อน ในขณะที่ฝึกวิชาเร้นลับให้ตัวเองกลับเป็นเด็กวัยรุ่นให้ได้ พอสำเร็จแล้วเราจะเปิด courses สอนศาสตร์คนแก่กลับเป็นเด็กหน้าเด้งขายคนรวยๆ (เมื่อก่อนกะจะกลับไปสอนภาษาอังกฤษ แต่หมู่นี้บ้ามากเรื่อง esoteric arts) เพราะเราเชื่อ 100% แล้วว่าเราค้นพบ
The Secrets of Eternal Youth
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 55 11:05:07
| จากคุณ |
:
fortuneteller   
|
| เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 55 10:59:44
|
|
|
|
|
ขอความคิดเห็นเพิ่มเติมครับ เกี่ยวกับการลาออกจากงาน1ไปโฟกัสอีก1งาน
