ความคิดเห็นที่ 1 พระองค์ชายนั้นทรงกรมเป็นกรมหมื่น  ต้องคดีทำเงินปลอม  รับพระราชอาญาจำสนมอยู่หลายปีทีเดียว จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 17:42:30

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีค่ะคุณ วีมี       เรื่องเกิดขึ้นในปี ๑๒๒  เมื่อ ผู้บังคับกรมกองตระเวณ Eric St.J. Lawson ได้รับแจ้งจาก ธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้ได้รับธนบัตรปลอม ๒ ใบ   จึงไปตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติบางประการ(จุดของอักษรที่วันที่ไม่มี อักษร D ท้ายคำ "limited" กลายเป็นอักษร P)   ลอซันเห็นเป็นเรื่องสำคัญ   จึงโทรศัพท์แจ้งนายอากรบ่อนเบี้ยและแขวงหวย ในหลายตำบลว่า  ผู้ใดได้รับธนบัตรปลอมต้องมารายงาน ต่อมาอีกวันหนึ่งพบ ธนบัตรราคาหนึ่งร้อยบาทปลอม  ๙ ใบ  ราคาใบละ ๒๐ บาท ๕๔ ใบ   ที่ธนาคารชาเตอร์ แล้วไปเจอที่คลังกับห้างแบดแมน ธนบัตรปลอมร้อยบาท ๓ ฉบับ  ยี่สิบบาท ๑ ฉบับ นายห้างอับดุลราฮิมสุรัฟอะสี  ได้รับเงินค่าซื้อของจากบุตรขุนนางผู้หนึ่ง ๑๒๐๐ บาท   มีใบละร้อยปลอมอยู่ ๔ ใบ ลอซันก็สงสัยบุตรขุนนางผู้นี้  ว่ายากจนเพราะเล่นเบี้ยอยู่เสมอ  เพียงแต่เงินเล็ก น้อยก็ไม่มีจะให้   ทำไมช่วงนี้จึงมีเงินจับจ่าย ลอซันก็ปฎิบัติราชการอย่างตรงไปตรงมา  โดยไปแจ้งพี่เขยของผู้ต้องสงสัยว่าพา ไปสอบสวนที่บ้านที่บ้านของผู้ต้องสงสัยหน่อยเถิด    อ่านมาถึงตอนนี้ก็คิดว่า ผู้บังคับการคนนี้มีสติและปัญญาเป็นเอก  เพราะไม่สุ่มสี่สุ่มห้าไปเอง ผู้ต้องสงสัยแจ้งว่าไปเล่นการพนันได้มาจากกรมหมื่น P  สองพันบาท   และได้ จากที่อื่นอีก ๑๙๐๐ บาท     ที่อีกแห่ง ๗๐๐ บาท  ที่อื่น ๆ อีก ๓๗๐๐ บาท เอ่ยชื่อกรมหมื่นออกมา   โปลิศก็ไปสืบต่อ สืบไปสืบมา   สืบไปถึงกรมหมื่น  .... แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 23:18:35 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 22:13:56 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 22:12:32 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 22:11:07 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 21:42:56 จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 21:41:03

ความคิดเห็นที่ 3 ลอซันไปค้นโรงแรมคอนติเนเตัลที่ญี่ปุ่นแก๊งปลอมเงินบาทแต่สะกด ภาษาอังกฤษไม่เป็น   เจ้าของโฮเต็ลไม่ยอมเพราะเป็นฝรั่งเศส เรื่องเล็กกว่านี้ยังไม่ยอมนี่นา   ต้องไปเชิญกงสุลฝรั่งเศสมา  กงสุลเห็น ว่าเป็นญี่ปุ่นต้องสงสัยเป็นไรไปเล่า  ค้นได้      ไม่เจอเงินปลอมที่นี่      เรื่องใช้เงินปลอมผลิตมาจากญี่ปุ่นนี้หวาดเสียวมาก  เพราะเพื่อนฝูง คนรู้จัก  เจ้าหนี้เก่า  คนขายม้า  โดนกันเหนื่อยใจ คนอ่านอ่านแล้วก็ตื่นเต้นเพราะนับถือว่าท่านผู้ต้องหาใจถึงจริงๆ  โปรยหรือ หว่านเงินไปทั่ว ซื้อต่างหูเพชรไว้ให้บุตรสาวคู่หนึ่ง    ๒๔๐๐ บาท ใช้หนี้คุณนายภรรยาคุณพระ         ๑๐๐๐ บาท ใช้หนี้คุณหลวง                  ๑๐๐๐ บาท ซื้อม้าตัวหนึ่ง                    ๓๐๐ บาท ซื้อม้าอีกตัว                     ๒๔๐ บาท จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 22:01:47

ความคิดเห็นที่ 4 สรุป   ผู้ต้องสงสัย  สารภาพ   ต้องโทษจำขัง  ๕  ปี กรมหมื่น  สารภาพ     ต้องสนม  ๗ ปี เงินปลอมนั้นซ่อนมากับฉากญี่ปุ่นที่กางไว้ในโรงแรมฝรั่งเศสนั้น นั่งคอยถามเพื่อนฝูงว่า  ฉากนั้นเป็นรูปอะไร   กระดาษแข็งมันปลาบ หรือเปล่า   คงไม่สูงมากนะ แบบว่าอยากรู้เจ้าค่ะ จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 22:09:26

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วพระธิดาองค์ใหญ่ทำเรื่องอะไรถึงต้องโดนพระอาญาหรอคะ ปล. สงสัยว่าตกลงพระธิดาและพระโอรสในรัชกาลที่เท่าไหร่กันแน่คะ ใช่ในรัชกาลที่ 4 แต่กระทผิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 หรือไม่คะ จากคุณ : น้ำแข็งใสสีฟ้า เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 00:25:01

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นพระราชโอรส-ธิดา ในรัชกาลที่ ๔ ค่ะ  รัชกาลที่ ๔ ทรงทราบว่าในภายหน้าจะมีพระราชธิดา ๑ พระราชโอรส ๑ กระทำความผิดรุนแรง  ก่อนสวรรคตจึงตรัสขอรัชกาลที่ ๕ ไว้ล่วงหน้าว่าอย่าลงทัณฑ์ถึงขั้นประหาร  การกระทำผิดมาเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ ค่ะ รัชกาลที่ ๔ ผูกดวงพระชาตาพระโอรส - ธิดา ทุกพระองค์  ด้วยพระองค์เอง  จึงทรงทราบพระชาตาพระโอรส - ธิดา จากคุณ : paolin เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 10:59:27

ความคิดเห็นที่ 7 ขอตอบคุณ น้ำแข็งใสสีฟ้า นะครับ พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ คือ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ กระทำความผิดคือ           "เมื่อครั้งยังเป็นสาวแรกรุ่น ได้เสด็จไปฟังเทศน์ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระที่เทศน์ชื่อ พระภิกษุโต ปรากฏว่าพระองค์เจ้าหญิงพระองค์นี้ และพระโตมีจิตปฏิพัทธ์เสน่หาต่อกัน ต่อมาพระโตได้สึกออกไป พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ จึงได้จัดหาตึกให้ทิดโตพำนักอยู่แถวถนนเจริญกรุง และได้แอบปีนเข้าหาพระองค์เจ้ายอดยิ่งเยาวลักษณ์ ในพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท จนเกิดเรื่องอื้อฉาวเนื่องจากพระองค์เจ้าหญิงพระองค์นี้ทรงมีครรภ์ เมื่อความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงให้ลงโทษทิดโต โดยให้ตัดศีรษะที่วัดตึก (วัดพลับพลาไชย ในปัจจุบัน)     ส่วนพระองค์เจ้าหญิงยอดยิ่งเยาวลักษณ์ไม่ได้ถูกประหารชีวิต เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยตรัสขอพระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าลูกยาเธอทั้งหมด แก่ "ท่านผู้ใดที่จะปกครองแผ่นดินต่อไป" หากโทษประหารก็เพียงจองจำเอาไว้หรือเนรเทศ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ จึงถูกถอดออกเป็นสามัญชน เรียกเป็นหม่อมยิ่ง และให้ไปอยู่แถวบริเวณทุ่งบางกะปิ หรือบริเวณหนองจอกในปัจจุบัน" หากแต่ว่าชาววังก็ยังคงเรียกว่า "เสด็จพระองค์ใหญ่ยิ่ง" อยู่เสมอๆ ไม่ปรากฎว่าจะเรียก "หม่อมยิ่ง" สักเท่าใด     เรียนคุณ แสนอักษร นะครับ พระราชโอรสที่ทรงกรมหมื่น...ที่ว่านี้ เป็นพระราชโอรสที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเที่ยงใช่หรือไม่ครับ ? หากใช่คงจะเป็นพระองค์นี้ จะได้หายคลายแคลงใจ ขอบพระคุณครับ จากคุณ : RoyalKunaree (RoyalKunaree) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 12:22:49

ความคิดเห็นที่ 8 เรียนคุณ RoyalKunaree ผมสงสัยในเรื่องวัดที่ประหารชีวิต "ได้ทรงให้ลงโทษทิดโต โดยให้ตัดศีรษะที่วัดตึก (วัดพลับพลาไชย ในปัจจุบัน)" ที่จริงแล้วผมทราบว่า "วัดตึก" ในโบราณมี ๒ ที่เรียกกัน คือ ๑. วัดตึก (วัดชนะสงคราม) คลองถม  ๒.วัดตึก (วัดเทพลีลา) ส่วนวัดพลับพลาไชย (เดิมชื่อ วัดโคก) เป็นสถานที่ตัดหัว จึงรบกวนช่วยดูเอกสารด้วยว่าเป็นวัดใดกันแน่ครับผม จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 13:47:52

ความคิดเห็นที่ 9 เรียนคุณ​ RoyalKunaree     ถูกต้องค่ะ เสด็จในกรมได้มีจดหมายขอพระราชทานอภัยโทษ  ความว่าตัวท่านเอง มีหน้าที่ถวายการรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  แต่มาต้องสนม รู้สึกน้อยใจตัวเองที่ไม่ได้ทำหน้าที่ อีกประการหนึ่งครอบครัวก็ขัดสนไม่เทียมหน้าเขา   เพราะลูกๆไม่ได้เบี้ยหวัด เพราะบิดาได้กระทำผิดไว้ จดหมายเขียนได้จับใจค่ะ  คือท่านไม่ได้ทูลขอพระราชทานอภัยโทษเพื่อตัวท่านเอง ตอนที่ท่านไปติดสนม  ท่านก็มีสุนัข ๑ ตัว  และ ไก่ ๑ ตัว เป็นเพื่อน บุตรขุนนางนั้นได้รับพระราชทานอภัยโทษไปก่อน   เขียนหนังสือกราบทูลเก่งมากค่ะ เพราะโดนมาหลายเรื่องแล้ว เมื่อตอนที่เพิ่งมีการสอบสวนใหม่ ๆ    มารดาของอดีตขุนนาง(บุตรขุนนางชั้นเจ้าพระยา) ได้ไปหาเสด็จในกรมที่วัง  อ้อนวอนให้ช่วยลูกของตน(ตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าเสด็จในกรม ก็เกี่ยวด้วย)    เสด็จรับสั่งว่าถ้าผิดแล้วก็ต้องรับกรรมไป      มารดาท่านนี้ซึ่งเข้าใจว่า บุตรของตนได้เงินปลอมมาก็ใช้ไปไม่น่าจะมีความผิดตรงไหน   ได้หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง แล้วกล่าวว่า  "เมื่อเป็นลูกแล้วจะทำอย่างไรได้  ก็ต้องช่วยเหลือต่อไป"    อ่านแล้วก็ ตื้นตันใจในความรักของแม่ที่มีต่อลูกชายคนโต  เป็นกรรมตามมาโดยแท้   เกียรติยศชื่อเสียง ที่แม่ได้รับจะมีความหมายอะไรเล่า จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 16:35:08

ความคิดเห็นที่ 10 คุณหนุ่มรัตนะ    วัดเทพลีลานั้นจัดว่าค่อนข้างห่างไกลจากพระนครมากนะครับ    อยู่ทุ่งหัวหมากแน่ะ     แถวๆบางกะปิในอดีตนี่ห่างไกลความเจริญเอามาก    ไม่น่าจะต้องยกขบวนกันมาประหารที่วัดนี้นะ แต่ไม่ไกลจากวัดเทพลีลามากนักก็มีวัดภาษีซึ่งเป็นวัดที่ใช้ประหารนักโทษอยู่   บุญเพ็งหีบเหล็กก็โดนประหารที่วัดนี้ ถ้าจะประหารจริงๆก็ประหารที่วัดภาษีได้นะ    ไม่น่าต้องถ่อมาถึงวัดเทพลีลา แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 19:53:55 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:52:53

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนคุณความเห็นที่ 7 และ 8  มีข้อเพิ่มเิติมเล็กน้อยครับ 1.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทฯ)เดิมชื่อ"วัดกลางนา" ตั้งอยู่แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร (ใกล้ astv และทางไปบางลำพู) 2.วัดชัยชนะสงคราม(ที่ตั้งเรือนเก่าของเจ้าพระยาบดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี) เดิมชื่อ"วัดตึก" ตั้งอยู่ ถ.จักรวรรดิ์ แขวงสัมพันธ์วงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ จากคุณ : songpon.ouan เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 20:07:44

ความคิดเห็นที่ 12 ทุ่งบางกะปิ อยู่แถวอโศกปัจจุบันใช่ไหมครับ เท่าที่ทราบ จากคุณ : ปลากระป๋องพลาซ่า เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 23:18:45

ความคิดเห็นที่ 13 ทุงบางกะปิสมัยก่อนเริ่มจากริมทางรถไฟเพลินจิตไปทางอโศกนั่นละครับ  เดี๋ยวนี้ยังมีธนาคารกรุงเทพ สาขาบางกะปิอยู่แถวๆ สถานีรถไฟฟ้าที่อยู้ตรงกลางระหว่างสถานีเพลินจิตกับสถานีอโสกอยู่เลย จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 06:54:33

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบพระคุณทุกท่าน โดยเฉพาะคุณRoyalKunaree มากค่ะที่มาช่วยตอบให้กระจ่าง จะว่าไป รัชกาลที่ 4 นี่คาดการณ์ผูกดวงได้แม่นยำมากกกกกกเลยนะคะ ขนลุกเลยค่ะ อ่อ เคยอ่านกระทู้เรื่องการให้พรในวันประสูติของพระธิดา พระโอรส ที่ว่าเป็นพรที่เกี่ยวข้องเมื่อแต่ละพระองค์เติบใหญ่ไปแล้ว แม่นมากค่ะ แต่ตอนนี้หากระทู้นั้นไม่เจอแล้ว เสียดายจัง ปล. ขออภัยถ้าคำราชาศัพท์เราจะผิดไปหน่อยนะคะ ไม่เชี่ยวชาญด้านนี้จริงๆค่ะ :) จากคุณ : น้ำแข็งใสสีฟ้า เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 20:24:09

ความคิดเห็นที่ 15 คดีพญาระกา พระราชโอรสรัชกาลที่4 สองพระองค์ก็ต้องพระราชอาญา องค์หนึ่งก็ติดสนมแต่ไม่นาน อีกองค์หนึ่งก็ห้ามเข้าเฝ้าในที่รโหฐานตลอดรัชกาล จากคุณ : ไข่มุขราตรี เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 23:30:52

ความคิดเห็นที่ 16 แล้ว ลูก ของ หม่อมยิ่ง เกิดมาหรือปล่าวครับ  และทำไมต้องลงโทษหนักขนาดนั้น ครับ ทำไมไม่จัดงานให้ถูกต้องตามธรรมเนียม จากคุณ : สุดยอดแซบ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 14:27:48

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบ คห 16 เกิดครับ โดยมี หลวงเทวะวงศ์วโรปการ(แสน)ซึ่งเป็นเจ้ากรมใน พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ รับเป็นบิดา ต่อมาเด็กผู้นั้นรับราชการเจริญก้าวหน้าจนได้เป็น นายพลตรี พระวิบุลอายุรเวช(เสข ธรรมสโรช) และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามสกุลให้ว่า ธรรมสโรช ตั้งแต่เมื่อครั้งยังดำรงยศและบรรดาศักดิ์ที่ นายพันตรี หลวงศักดาพลรักษ์ จากคุณ : Lord Ianassa เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 16:14:11

ความคิดเห็นที่ 18 ขออนุญาตแก้ไขความเห็นที่ ๑๗ ครับ นายพลตรี พระยาวิบุลอายุรเวช ครับ บรรดาศักดิ์ชั้นพระ มียศสูงสุดเพียง นายพันเอก ครับ จากคุณ : V_Mee เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 07:52:31

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณ อาจารย์ V_Mee มากครับที่กรุณาแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา จากคุณ : Lord Ianassa เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 14:02:41