| 
เรื่องนี้เชื่อกันเป็นตุเป็นตะจริงๆ ก่อนที่จะเชื่อว่าเรื่องนี้มีเค้าความจริงหรือไม่  ขอให้ย้อนไปดูที่พระนามกรมของพระราชโอรสในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถเสียก่อนเริ่มที่ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงกรมเป็นกรมขุนเทพทวาราวดี  พระองค์ถัดมาคือ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ  และพระองค์สุดท้ายคือ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา
 
 มาดูที่พระนามกรม ๓ พระองค์นี้  เทพทวาวราวดี คือกรุงศรีอยุธยา
 พิษณุโลกประชานาถ คือ มณฑลพิษณุโลก  ซึ่งในสมัยอยุธยา เมืองพิษณุโลกเป็นเมืองลูกหลวง  ที่รัชทายาทไปครอง
 สุโขทัยธรรมราชา คือ กรุงสุโขทัย
 
 ทั้งรัชกาลที่ ๖ และ ๗ ต่างก็ทรงมีพระนามกรมเป็นราชธานีเก่าของไทย  ส่วนกรมหลวงพิษณุโลกนั้นในสมัยรัชกาลที่ ๖ ก็ทรงเป็นพระรัชทายาท
 
 ข้อพิจารณาต่อมาคือ การที่จะทรงขนานพระนามกรมนี้โหรหลวงจะต้องคำนวณดวงพระชะตาถวาย  ซึ่งเรื่องการคำนวณดวงพระชตานี้ก็มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อซาร์เรวิซ มกุฎราชกุมารมาเยือนเมืองไทย  ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ โปรดให้โหรหลวงคำนวณดวงพระชะตาเพื่อจะส่งไปถวายเป็นการอวดฝีมือโหรไทย  แต่โหรหลวงคำนวณดวงพระชะตาทั้งแบบโหราศาสตร์ไทยและสากลแล้วทำนายว่า ซาร์เรวิซจะทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย  จึงมิได้โปรดให้ส่งผลการคำนวณนั้นไป
 
 ที่นี้มาพิจารณาต่อว่า สมเด็จพระบรมฯ พระองค์ใหญ่สวรรคต พ.ศ. ๒๔๓๗  แต่ทรงตั้งรัชกาลที่ ๖ เป็นกรมขุนเทพทวาราวดีตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๓๑  และทรงตั้งสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถเป็นกรมขุนพิษณุโลกประชานาถเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๓
 
 ในข้อที่เชื่อกันว่า รัชกาลที่ ๕ มีพระราชประสงค์ให้จัดลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ตามลำดับพระชนมายุ  ก็สามารถเรียงลำดับสมเด็จเจ้าฟ้าตามพระชนมายุได้ดังนี้
 ๑. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
 ๒) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนเทพทวาราวดี (รัชกาลที่ ๖)
 ๓) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต
 ๔) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์
 ๕) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
 แต่ในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ นั้น  ทรงพระราชบันทึกไว้ว่า  เมื่อเสด็จออกไปทรงศึกษาที่อังกฤษใน พ.ศ. ๒๔๓๖ แล้ว  ในระหว่างนั้นรัชกาลที่ ๕ ทรงพระประชวรอันเนื่องมาแต่เหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒  จนทรงเกรงว่าจะไม่สามารถดำรงพระชนม์ชีพยืนยาวได้  จึงได้มีลายพระราชหัตถเลขาทรงสั่งเรื่องจัดการพระบรมศพ  ให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนเทพทวาราวดีเป็นผู้ถวายน้ำสรงพระบรมศพ  แต่ถ้าเวลานั้นยังมิได้เสด็จกลับเข้ามาก็ให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนพิษณุโลก (พระยศในขณะนั้น) เป็นผู้ถวายน้ำสรงพระบรมศพแทน
 
 เรื่องการถวายน้ำสรงพระบรมศพนี้ในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชบันทึกว่า ปกติเป็นหน้าที่ของพระรัชทายาท  แต่เวลานั้นกำลังกริ้วสมเด็จพระบรมฯ พระองค์ใหญ่  จึงทรงสั่งให้รัชกาที่ ๖ เป็นผู้ถวายน้ำสรงแทน  แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า ถ้ารัชกาลที่ ๖ ยังไม่เสด็จกลับจากต่างประเทศ  ให้กรมขุนพิษณุโลกเป็นผู้ถวายน้ำสรงแทน  เหตุไฉนจึงไม่ทรงกำหนดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธออีก ๒ พระองค์ที่มีพระชันษามากกว่าสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกเป็นผู้ถวายน้ำสรง
 
 ทั้งหมดนี้คือข้อพิสูจน์ว่า ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ที่ย้ายจากสายสมเด็จพระพันวัสสาฯ มาเป็นสายสมเด็จพระพันปีหลวงนั้นน่าจะเป็นพระบรมราชวินิจฉัยในรัชกาลที่ ๕  มิใช่สมเด็จพระพันปีหลวงขอพระราชทานพร  ซึ่งหาที่มาของคำร่ำลือนี้ไม่ได้
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
V_Mee   |  
					| เขียนเมื่อ | : 
5 พ.ย. 55 19:51:34 |  
					|  |  |  |