ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมที่อยุธยา ปทุมธานี อิสลาม กับ พุทธ อยู่ด้วยกันได้ปกติมาก ๆ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคุณจะเป็นพุทธ เป็นมุสลิม รู้กันก็ตอนกินเท่านั้นล่ะว่าบางอย่างไม่เหมือนกัน ให้ง่ายก็ต้มยำกุ้ง กับกุ้งเผา ของถูก ๆ มานั่งกินด้วยกัน แฮบปี้ ๆ ตอนเด็ก ๆ ผมเคยอยู่ในซอยอ่อนนุชมาก่อน เมื่อก่อน อ่อนนุช วัด สลับกับ มัสยิด สมัยนั้นยังไม่มีฮิญาบ ขึ้นรถเมล์หัวตะเข้-พระโขนง นี่ไม่มีรู้ว่าใครพุทธ ใครมุสลิม แยกไม่ออกหรอกครับ อาจจะแค่เดา ๆ ได้ แต่แขกตัวขาวจั๊วะ ไทยตัวดำปี๋ ก็มีเยอะแยะไป ยังไงก็ทายถูกไม่หมด พม่าซัดโรฮิงญา ผมว่าไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่คนพม่าเหมือนถูกปลูกฝังว่าตัวเองคือเผ่าปกครอง เหนือกว่าเผ่าอื่น พม่าถึงได้มีเรื่องกับชนเผ่าอื่นมาเป็นสิบ ๆ ปี บังเอญว่ามีแต่โรฮิงญาที่นับถืออิสลาม แต่อย่าง กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ มอญ กับพม่าก็ฆ่ากันมาเป็นเบือ ทำไมไม่มีใครสนใจ โรฮิงญาเป็นคนต่ำต้อย ยากจน การศึกษาน้อย ถึงได้ไม่แข็งแกร่งพอจะตั้งกองกำลัง สู้รบเหมือนเผ่าอื่นได้ ต้องพยายามอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่ไหนแต่ไรถูกรังแกมีแต่หนี ไม่มีคิดสู้อยู่แล้ว แต่วันนี้มีพวกกลุ่มในตะวันออกกลางบางกลุ่ม เข้ามาถือหาง มันก็เลยเห็นภาพการตอบโต้ขึ้นมา กลุ่มพวกนี้ไปถึงประเทศไหน บ้านเมืองลุกเป็นไฟที่นั่น คนไทยบอกว่า อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่กลุ่มพวกนี้ มีแต่พยายามขยายเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องก่อการร้าย ความคิดหัวรุนแรงแบบนี้มีในทุกศาสนา อยู่ที่ว่าทำยังไงจะไม่ให้ความคิดเหล่านี้ชี้นำได้ เท่านั้นเอง จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:53:35

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วย กับ คห.1 เราอยู่อยุธยา ไม่เคยเห็นเรื่องนี้เป็นปัญหา อยู่กันได้ เฮฮาปาร์ตี้ไปตามเรื่อง ตอนนี้รู้ง่ายกว่าสมัยก่อน เพราะการแต่งกาย แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ อยู่กันได้อย่างดี ต่างกันแค่เรื่องกินเพราะเราชอบไปกินกับเค้า อร่อยดีค่ะ ตอนนี้ที่อยุธยามี คนมุสลิมย้ายมาจาก สามจังหวัดชายแดนใต้ก็เยอะค่ะ ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ทำมาหากันกันไป เห็นรวยเอ๊า รวยเอา อ้อ ช่วงนี้มีโรฮินยา อพยพมาก็เยอะ พวกขายโรตี ขายถั่วอะไรอย่างเนี้ย พม่า เวียดนาม ลาว ก็มีเยอะ อยู่กันได้อย่างสงบสุขดีมาก ไม่เกี่ยวกับกระทู้ มาแสดงความเห็นส่วนตัวเฉย ๆ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 17:16:59 จากคุณ : แสงสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:15:51

ความคิดเห็นที่ 3 พวกเจ้าอาณานิคมมักจะเป็นแบบนี้แหละครับ     ทิ้งกับระเบิดไว้    พอมันระเบิดก็เข้ามาแสดงท่าทีเป็นห่วง     จะเข้ามาช่วย   สร้างภาพว่าเป็นคนดี   ไม่ใช่ตัวการ อย่างที่ไทยทะเลาะกับเขมร    ฝรั่งเศสรีบยื่นปากมาก่อนเลย      ว่ายินดีจะมอบหลักฐานแผนที่ต่างๆให้เพื่อยุติความขัดแย้ง       ไทยรู้ทันก็รีบปฏิเสธทันที      ที่มันมีปัญหากันจนทุกวันนี้ก็เพราะแผนที่ของ Mung นั่นแหละ โรฮิงยานั้นความจริงอังกฤษขนมาจากอินเดีย (ส่วนบังคลาเทศในปัจจุบัน)       ความจริงบังคลาเทศก็เคยรับชาวโรฮิงยาไปดีๆ    จนชักมากขึ้นบังคลาเทศเองประชากรก็มากยากจน    รับไม่ไหวเลยเลิกรับ       ไปที่อื่นก็ไม่มีใครรับ     เพราะโรฮิงยานี่จัดว่าเป็นประชากรที่ไร้คุณภาพสุดๆ      ความรู้ก็ไม่ค่อยมี    อย่างเดียวที่เก่งกาจเอามากๆคือผลิตประชากร    พม่าไล่ฆ่ามาหลายสิบปียังไม่หมด    แถมมากขึ้นด้วย ที่ถูกแล้วอังกฤษในฐานะตัวการ    ควรจะประกาศรับชาวโรฮิงยาทั้งหมดเป็นผู้อพยพไปอยู่ในอังกฤษเลย   เอาไปให้หมดอย่าให้เหลืออยู่ในพม่าเลย     ไปทำให้เขาเดือดร้อนแล้วก็ควรจะรับผิดชอบ      แบบนี้ถึงจะถูกต้อง จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 21:28:58

ความคิดเห็นที่ 4 # LUCKPOWERRICH ถ้ายังไม่เข้าใจคนพม่าดีพอ อย่าเพิ่งไปว่าเขาเลยครับ  คนพุทธในพม่า ไม่เหมือนคนพุทธในประเทศไทยนะครับ เมืองไทยน่ะอะไร ๆ ก็ใจอ่อน  แต่พม่าเขาแข็งกว่าเราเยอะครับ เอาเป็นว่า เยรูซาเล็ม, เมกกะ , สวนลุมพินี  เป็นเครื่องหมายแสดงถึงอะไร ? ถ้าตอบได้ ในพม่าก็แนวคิดเดียวกันครับ ที่พม่า พระใหญ่กว่าทหารครับ ผมเห็นด้วยกับคุณ zodiac28 นะครับ อังกฤษน่ะ ควรจะรับผิดชอบเรื่องนี้ได้แล้ว อพยพโรฮิงยากลับไปด้วยครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 21:35:24

ความคิดเห็นที่ 5 ขี้ทิ้งไว้แล้วไม่ตามมาเช็ดเกือบทั้งโลกแล้วมั้ง ประเทศเมืองผู้ดีประเทศนี้เนี่ย แถบตะวันออกกลางก็ใช่ จากคุณ : Michael เบ๊ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 00:45:30

ความคิดเห็นที่ 6 โรงฮิงยาไม่ใช่คนพม่า ที่สําคัญถ้าแม้แต่คนยะไข่ยังไม่เอาก็แย่มากแล้ว 2เหตุผลนี้ก็น่าจะพอแล้ว เรื่องไทยไม่เกี่ยวกันครับ   กรณีนี้คือพม่า พื้นที่ยะไข่ จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 00:47:48

ความคิดเห็นที่ 7 ความเห็นที่ 6 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับไทยครับ เพราะเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง อย่างเช่นเมื่อไม่นานมานี้ มีชาวโรฮิงยา นั่งเรือกันเข้ามา จะขึ้นฝั่งที่เมืองไทย ทางทหารเรือก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดการ เพราะต้องพิจารณาเรื่องสืทธิมนุษยชน เรื่องสายตาของนานาประเทศที่จับจ้องมองดูอยู่ ยุ่งยาก มากมายจริงๆ จากคุณ : NICKAZ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 09:35:03

ความคิดเห็นที่ 8 ความเห็นที่ 3  และ 4 ผมมองว่า ที่จริงแล้ว การแก้ปัญหา มองกันไปคนละมุม จึงไม่คืบหน้าไปไหน เจ้าของประเทศ คือพม่า ไม่ต้องการให้ชาวโรฮิงยา อยู่ในประเทศของเขา ดังนั้น การจะยอมให้ แก้ปัญหาอย่างสันติ ลดความรุนแรงและะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ คงจะเป็นไปได้ยาก ในบริบทการบริหารงานของผู้นำรัฐบาลพม่า ประเทศเจ้าอาณานิคมในอดีต คืออังกฤษ อยากให้มีการแก้ไขปัญหา โดยตัวเอง เป็นผู้ชักนำชาวโรฮิงยา เข้ามาในแผ่นดินพม่า แต่ไม่สามารถหาพื้นที่ให้ชาวโรฮิงยาได้ จะเอาไปอยู่อังกฤษทั้งหมดก็ใช่ที่ จึงต้องออกมาในรูปให้อยู่ในพม่า อยู่กันอย่างสันติ นับว่าจุดหมายปลายทางไม่ตรงกัน อย่างนี้พูดกันไปเรื่อยๆ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ครับ แสดงว่าในเนื้อแท้อังกฤษ ก็ยังคงเป็นอังกฤษอยู่เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด คือ เอาแต่ได้ เสียไม่รับ ทางแก้อย่างเดียวคือ อังกฤษก็หาที่อยู่ใหม่ให้ชาวโรฮิงยาเสียก็จบปัญหา หรือเอาชาวโรฮิงยาทั้งหมด ไปอยู่อังกฤษ ทำได้ไหม ก็ทำไม่ได้ แล้วจะมาแสดงบทบาทผู้ดี ห่วงใยเรื่องสิทธิมนุษยชนไปเพื่ออะไร? การอยู่ในสังคมโลก ก็ต้องมีการเรียกร้องให้แก้ปัญหา เป็นเรื่องปกติที่ควรทำ แต่กับอังกฤษ เป็นผู้ก่อปัญหาไว้ บริบทจึงผิดกับประเทศอื่นๆ จะมาเรียกร้องแบบเดียวกันกับประเทศอื่นๆไม่ได้ ต้องแสดงบทบาท แสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาให้มากกว่านี้ จากคุณ : NICKAZ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 09:37:53

ความคิดเห็นที่ 9 คนที่7 ปัญหานั้นมองโรฮิงยาว่าหนีไปทั่วนั้นละ แต่คงไม่มีใครเอาหรอก  ถ้ารับคงเพราะไม่รู้จะไล่ไปไง.. เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับไทยก็คือสังคมนะครับ จะมาบอกว่าไทยรับคนง่ายๆ เพราะงันพม่าก็ควรจะรับๆเอาไป นั้นไม่ดีครับ นั้นง่ายไป จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 15:17:55