ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่านะ.. คนเก่ง กับคนที่มีจิตใจเป็นครู สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ดี  มันคนละอย่างกันครับ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 22:47:18

ความคิดเห็นที่ 2 เราเคยเจออาจารย์ที่เก่ง แต่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้นักศึกษาได้ สอนไม่ค่อยเป็น นักเรียนไม่เข้าใจ ถ้าคนที่มีจิตวิญญาณในการเรียนสอน ถึงแม้ว่าความรู้ไม่ดี สอนไม่เก่ง ก็พยายามพัฒนาตนเองเพื่อถ่ายทอดความรูัให้นักเรียนได้เป็นอย่างดีค่ะ ถ้าทั้งเก่ง ทั้งมีจิตวิญญาณในการสอน มักจะเป็นติวเตอร์ตามสถาบันกวดวิชา น้อยคนนักจะทำงานตามโรงเรียนทั่วไป ตามที่เราคิดนะคะ @.@ จากคุณ : หนูเป็นมนุษย์ต่างดาว เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 23:05:55

ความคิดเห็นที่ 3 กลับกลายเป็นว่า คนเก่ง กับมีจิตวิญญาณ กลายเป็นติวเตอร์ซะงั้น...โอ...พระเจ้าจริงๆ จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 23:33:54

ความคิดเห็นที่ 4 คงไม่ได้ เพราะ คนผิด เท่านั้น ที่เป็น ครู จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 23:51:38

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเพิ่งเตรียมการสอนเสร็จครับ ผมเป็น 1 ในจำนวนน้อยที่สอนในโรงเรียน+ติวเตอร์ที่สถาบันกวดวิชา วันนี้พี่ๆก็ให้CSมาถามคิวผม ** จะมีการถาม ถ้าบอกว่าว่าง ไม่ควรเบี้ยว มองในด้านดี คุณสอนใช้ได้ เขาอยากได้คุณไว้ เเต่ในขณะเดียวกันเป็นการกันไม่ให้ติวเตอร์บางคนหัวใสไปวิ่งรอกสอนหลายสถาบัน หรือเปิดสอนเอง ซึ่งความเป็นจริง ไม่ดี ไม่ควรทำ ** เพราะการเป็นอาจารย์ประจำในโรงเรียนมันเหนื่อยมากๆๆๆ วันศุกร์ก็หมดเเรงเเล้ว ถ้าในกรณีทำงานเต็มที่นะครับ ผมเองเชื่อไหม ผมไม่ชอบวันศุกร์มากนัก เพราะเสาร์-อาทิตย์ ทำงานทั้งวัน ถึงเเม้จะได้เงิน ก้อยากสอนน้อยลง เเต่ถ้าคุณสอนตามสถาบัน ถ้าคุณสอนใช้ได้ มันจะมีมาเยอะ มาเรื่อย ๆ เเละบางความคิด สอนข้างนอกได้มากกว่า+เป็นอิสระเเละมีเวลาที่จะทุ่มเทให้กับการเตรียมสอน ผมเองบางครั้งอยากจะลาออก ไม่ใช่เห็นเเก่เงิน เพราะเหนื่อย เเต่ขึ้นหลังเสือเเล้ว( สอนสถาบัน ไม่อยากเดินทางสอนตามบ้าน ก็ได้จริง เเต่ต้องสอนไม่ว่าจะเหนื่อย เจ้าของไม่ปลื้ม ถ้าเบี้ยวบ่อยๆ) สุดท้ายต้องหาวิธีในการสู้ เพราะที่ทำงานก็ดีมากๆๆๆ ไม่อยากออกมาสอนพิเศษอย่างเดียว ทำได้ตอนนี้คือ สอนตามบ้านในตอนเย็นน้อยลง(ในจ-ศ) ลดรายจ่ายโดยไม่กินกาเเฟ เเพงๆ+ออกไปกินข้าวกลางวันข้างนอก เพราะในโรงเรียนมีให้ จ -ศ สอน 2 วันในช่วงเย็น เเละเป็นช่วงสั้น ๆ คือ 1 ชั่วโมงครึ่ง ไม่คุ้มหรอก เเต่ถือว่าเด็กอยากเรียน ซึ่ง ok ถือว่าคุ้มทางใจเเล้วครับ วันที่ไม่ได้สอน กลับบ้านเร็ว พยายามนอนให้เร็วขึ้น 45 นาที เเต่ก็ประมาณนี้ โดยเฉพาะ พฤเเละศุกร์ ที่ต้องเตรียมการสอน สรุปว่า ถึงคนที่มีใจให้โรงเรียน ก็ต้องดูสังขาร ดูสุขภาพตัวเอง ถ้าเลือก เขาไม่เลือกจับปลา 2 มือ เเละส่วนใหญ่เลือกสอนพิเศษ ยกเว้นความศรัทธาส่วนตัวจริง ๆ เช่นผม เป็นอาจารย์ประจำ เงินอาจน้อย เเต่ได้สังคม เเล้วเเต่นะครับ สำหรับผมผมมีเพื่อนทั้ง 2 วงการ จากคุณ : tonmelb เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 00:02:18 A:14.207.207.32 X: TicketID:054700

ความคิดเห็นที่ 6 กระทู้แบบนี้ไม่อยากให้ตั้ง คือเรารู้ว่า จขกท มีเจตนาที่ดี แต่มันทำให้เสียเวลา ตอนว่างงานเราหลวมตัวตอบพอตอบเสร็จ 'งานเข้า' เพราะมีคน (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูที่ไม่เก่ง ซึ่งพยายามปกป้องสถานภาพของตนเอง) โดยใช้ lame logic (ตรรกะป่วย) เข้ามารุมเหยียบเรา ผลก็คือ 'น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ' เราต้องประกาศยอมแพ้ เพราะ ญัตติการโต้วาทีไม่เดินหน้า เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเราเข้ามา discredit เรา แทนที่จะเถึยงกันด้วยเหตุผล เราประกาศยอมแพ้คราวที่แล้วเพราะ 'งานเข้าจริง' ต้องหยุดเถึยงแล้วรีบทำงานแปลเอกสาร เมื่อคราวที่แล้วที่โดนครูที่ไม่เก่งรุมเหยียม พอเราประกาศยอมแพ้ เราได้เงินค่าแปลเอกสารจากการทำงานแปลแค่ 20 กว่าวันมาเป็นเงินตัวเลข 6 หลัก! เอาหละ วันนี้ขอตอบกระทู้นี้ล่อเป้าอีกรอบ เผื่อจะโดนครูที่ไม่เก่งรุมเหยียบให้เรา งานเข้่าได้เงินค่าแปลอีกเป็นแสนๆบาท...+++555... ............................................................ โอเคเริ่มจาก คคค 1 คุณพูดว่า 'ผมว่านะ.. คนเก่ง กับคนที่มีจิตใจเป็นครู สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ดี  มันคนละอย่างกันครับ' ^ lame logic(ตรรกะป่วย)! ปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันคือ คนเป็นครูไม่ได้จิตใจเป็นครู ที่คนส่วนใหญ่เป็นครูเป็นเพราะพวกเขาไม่เก่งพอที่จะสอบเข้าเรียนอย่างอื่นได้ ก็เลยต้องเป็นครูเพราะคะแนนต่ำสุดก็เข้าเรียนครูได้ แล้วคนพวกนี้จบมาก็ถ่ายทอดความรู้ไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้จะถ่ายทอด ^ เราว่านี่คือสิ่งที่ จขกท พยายามพูด แต่คุณไซค์โค้งตอบไม่ตรงประเด็น แต่สร้างคำพูดที่ทำให้คนอ่านเข้าใจผิดคิดว่า 'คนเก่งๆสอนไม่เป็น' ^ ซึ่งคุณคิดไปเอง เพราะ 'คุณใช้ lame logic (ตรรกที่ป่วย)' แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 00:20:04 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 00:05:19 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 00:03:56

ความคิดเห็นที่ 7 คราวนี้มา คคห 2 บ้าง คุณพูดว่า 'เราเคยเจออาจารย์ที่เก่ง แต่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้นักศึกษาได้ สอนไม่ค่อยเป็น นักเรียนไม่เข้าใจ' แต่เรากับคนไทยอีกหลายๆคน 'เจอครูสอนประถมและมัธยมซึ่งมีใบอนุญาตครูที่ไม่เก่ง แล้วก็ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนได้ เพราะไม่มีความรู้จะถ่ายทอด' เหมือนๆกับที่เราพูดใน คคห 6 My words against yours ก็คือ ต้องระดมคนทั้งประเทศมาทำ survey กันว่า 'ระหว่างครูที่เก่งวิชาที่จะสอน กับครูที่ไม่เก่งวิชาที่จะสอน ฝ่ายแรกกับฝ่ายหลังใครประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวมากกว่ากันในการสอนคนให้เก่ง แล้วทำสถิติระดับประเทศมาเลย' ไม่ใช่มาเถึยงด้วย fallacy (ทุกตรรกบท) อย่างที่คุณเถียง คุณใช้ fallacy ที่มีชื่อว่า Ad Misericordiam นั่นก็คือพูดให้คนสงสารครูที่ไม่มีความรู้จะสอน แล้วให้คนอ่านหลงเข้าใจผิดคิดว่าครูมีความรู้เยอะๆสอนไม่เป็น  ทั้งๆที่เรื่องที่คุณพูด มันก็ไม่ใช่ universal truth แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 00:21:09 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 00:15:30

ความคิดเห็นที่ 8 คห.6 ครับ เริ่ม คห.1 แล้ว ทำไมไม่ต่อล่ะครับ กำลังรออ่านอยู่เลยครับเนี่ยยยยย อารมณ์ค้าง โทษทีครับ ดันปาดดด ซะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 00:19:40 จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 00:18:12

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าได้เรียนกับคนที่เก่งมาก ๆ ผมว่าเขาไม่ค่อยสอนอะไรคุณมากหรอก เพราะเขารู้ดีว่าการที่เขามายืนตรงจุดนี้ได้เพราะการศึกษาด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เขาก็สอนเฉพาะในสิ่งที่คุณควรจะรู้ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคนเรียนที่ต้องไปฝึกเอง แล้วคนเก่งส่วนใหญ่มีัปัญหาเยอะครับ ไม่ค่อยใส่ใจใคร แม้กระทั้งผู้เรียน อยากเรียนกับคนเก่งคุณมีความคิด และพฤติกรรมใกล้เคียงคนพวกนั้นพอสมควร คนเก่งสอนคนเก่ง คนอ่อนสอนคนอ่อน ก็เหมาะสมแล้ว ไม่ต้องไปดึงคนเก่งมาหรอก พัฒนาคนที่เรียนอยู่ให้มีศักยภาพที่จะสอนก็เพียงพอ บางทีก็ตลก บังคับเรียนวิชาครู ดันไปอ่อนวิชาการ พอบังคับเรียนวิชาการ ก็ไม่ได้มีความเข้าใจในวิชาขั้นสูง คนที่เขาจบมาโดยตรงก็ยังไม่เข้าใจกันเสียไปหมดทุกคน แทนที่จะไปเจาะลึกในระดับมัธยมไปเลย ใช่ว่าคณิตศาสตร์มัธยม กับมหาลัยมันจะคล้ายกัน จากคุณ : เซียนแห่งmath เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 00:30:00

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นที่เชื่อว่า คนเก่ง IQ ดี มีแนวโน้มที่จะทำงานอย่างอื่นดีตามไปด้วย เช่น เก่งก็มักจะเก่งไปทุกเรื่อง ทั้งเรียน ทั้งพูด ทั้งร้อง ทั้งเต้นและอารมณ์ ในขณะที่คนไม่เก่ง ก็มักจะไม่เก่งไปซะทุกเรื่อง ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเกรดในโรงเรียนนะครับ แต่หมายถึงความสามารถทั่วไปที่คนอื่นยอมรับ เกรดในโรงเรียนเป็นหนึ่งในตัวแปรเท่านั้นเอง... ดังนั้น เราจึงคาดหวังว่า คนเก่ง เมื่อมาเป็นครูแล้ว ก็สามารถที่จะทำงานหลายอย่างได้ รวมไปถึงการเตรียมการสอนที่ดีกว่า เหมือนอย่างที่คุณ tonmelb เป็น สามารถเป็นได้ทั้งติวเตอร์และครูในเวลาเดียวกัน หรือคุณ fortuneteller ก็ไม่ได้มีความสามารถแค่แปลหนังสืออย่างเดียวเป็นแน่... จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 00:35:51

ความคิดเห็นที่ 11 ผมก็ครูนะครับ  ถามว่าเก่งมั๋ย  ไม่เก่งครับ  ขอพูดในฐานะครูนะครับ 1 ครูทุกคนล้วนอยากให้ลูกศิษเก่ง 2 เด็กแต่ละคนสมอง และความสนใจ ไม่เท่ากัน ในห้องมีคนเก่งและไม่เก่งปนกัน  ถ้าคุณเป็นครูจะเลือกสอนแบบไหน 1 สอนคนเก่ง  คือสอนแบบเข้มข้น  ส่วนคนไม่เก่งก็ต้องรับสภาพไปว่าตามไม่ทัน ต้องติด 0 ตามระเบียบ 2 สอนคนไม่เก่ง คือสอนให้คนไม่เก่งพอรู้เรื่อง สามารถให้เขาเรียนรู้ได้ ต้องไปช้าๆ 3 สอนสลับ คือเข้มบ้าง อ่อนบ้าง ครูควรเลือกสอนแบบไหน  ผมเลือกข้อสอง  เพราะคนเก่งมันเอาตัวรอดได้ในสังคม ต่อให้ผมสอนกากแค่ไหน เขาก็สามารถต่อยอดได้ แต่ถ้าผมละเลยคนไม่เก่ง สิ่งที่ตามมาคือเขาจะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง กลายเป็นเหมือนตัวประหลาดในสังคม อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ที่ผมไม่เลือกข้อสามเพราะมันไม่มีประโยชน์ คนเก่งก็ได้ไม่เต็มที่ คนอ่อนก็ไม่ได้อะไร เราไม่สามารถคาดหวังให้เด็กทุกคนตั้งใจเรียนได้ และไม่มีครูคนไหนสอนในห้อง แล้วเด็กจะเข้าใจได้  เด็กต้องทำการบ้าน อ่านหนังสือที่บ้านควบคู่ด้วยถึงจะเข้าใจ จากคุณ : ttno1 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 07:58:06

ความคิดเห็นที่ 12 เด็กที่มาเรียนพิเศษ กับผม 2-3 คน มาถึง  ก็ โยนการบ้าน  ให้ผมทำ ตัวเองเล่น BB เด็กอีกคน  ตั้งใจทำ แต่ มันก็ถามตั้งแค่ข้อ 1 จนข้อสุดท้าย ต้องตุ๊ยกันเกือบชัก  กว่าการบ้านจะเสร็จ เด็กที่ไม่ยอมทำการบ้านด้วยตัวเอง  แนะนำว่า ให้เธอลองทำก่อน ทำไม่ได้ สงสัยตรงไหน ถามได้ตลอดเวลา ไม่ยอม...!!  ร้องคำเดียวว่าไม่ ทำเสร็จ  ครูใจดี  หาโจทย์เรื่องเดียวกันจากตำราอื่น แถม 2 ข้อ ร้องคำเดียวว่า  ไม่     ผมกำลังหาวิธีแก้เผ็ด  คือ  ไม่รับสอน ไปทำเอง หรือท่านใดมีคำเสนอแนะ  กับเด็กบ้า BB แบบนี้ได้ ลองแนะนำดูครับ ผมไม่แคร์เด็กนะครับ  ไม่เรียนผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร จากคุณ : ~ทิดฉ่ำ~ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 08:31:15

ความคิดเห็นที่ 13 เรากลับเห็นด้วยกับ คคห.ที่ 1 นะ คนเก่งกับคนที่มีจิตใจของความเป็นครู มันคนละอย่างกัน แล้วเราก็คิดว่าเขาไม่ได้หมายความว่า คนเก่งๆสอนไม่เป็น ก่อนอื่นต้องแยกก่อนนะคะ ระหว่างคนเก่ง กับคนที่มีจิตใจของความเป็นครู และสองอย่างนี้บางทีก็ไม่ได้เดินคู่กันไปในคนๆเดียว เคยเห็นไหมคะ ครูที่เก่ง เก่งมาก เก่งแต่อธิบายไม่เป็น พอลูกศิษย์มาถาม ก็อธิบายตามที่ตัวเองเข้าใจ แต่ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์เข้าใจเหมือนตัวเองไม่ได้ ก็ขัดใจ ไปๆมาๆ ไล่ให้ลูกศิษย์ไปหาหนังสืออ่านเอง คราวนี้มาดูคนที่มีจิตใจเป็นครูบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่า คนที่จะเป็นครูได้ สิ่งหนึ่งที่ควรจะต้องมีมากคือ จิตใจที่มีความเมตตา กรุณา อย่าคิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ครูประเภทนี้ ถ้ายิ่งเก่งด้วยก็จะยิ่งดีใหญ่ เพราะเมื่อลูกศิษย์มาถามก็จะพยายามอธิบายๆๆๆๆ จนกว่าลูกศิษย์จะเข้าใจ ถ้าลูกศิษย์ยังไม่เข้าใจอีก ก็จะพยายามหากลวิธีอื่นมาอธิบายจนกว่าลูกศิษย์จะเข้าใจให้ได้ ไม่ใช่ฉันเก่งแล้ว ฉันอธิบายแล้ว คนอื่นโง่เอง ช่วยไม่ได้ อันนี้ถือว่าไม่มีจิตใจของความเป็นครูค่ะ ส่วนคุณทิดฉ่ำ คคห.ที่ 12 แล้วคุณไปทำการบ้านให้เด็กทำไมละคะ? คุณรับสอนพิเศษไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่รับทำการบ้าน ถ้าเด็กโยนการบ้านมาให้ คุณก็โยนกลับไป คุณเป็นครูนะ มีหน้าที่สอนเด็กให้เข้าใจบทเรียน ไม่ใช่( ^o^ )ที่คอยรับคำสั่งเด็กหรือผู้ปกครอง แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 55 15:54:19 จากคุณ : หมาฉันมันเป็นตุ๊ด เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 15:53:28

ความคิดเห็นที่ 14 ดึกเเล้ว ไม่ขอcomment เพิ่ม เเต่ขอpaste คำเเนะนำที่ post ให้น้องคนหนึ่งที่อยากหารายได้พิเศษโดยการสอนพิเศษครับ ผม post ...................ทางเดินมันมีไม่เยอะมาก มีเเค่สองทาง อยู่ที่เราเลือก .... ไม่จบใช่ไหม? อย่าเสียใจทีหลังก็เเล้วกัน อย่าเป็นอย่างฉันก็เเล้วกัน..... ตอนจบจาก หนังเรื่องจอมขมังเวทย์ ผมเลือกมาขำๆนะครับ เเต่โลกความเป็นจริงของติวเตอร์ก้ประมาณคุณโลกเงียบเขียน.... เมื่อก่อนเราเคยสอนครั้งแรก ไม่ทำการบ้านมา เด็กพากันเดินออกจากห้องเลยเป็นแถบ T__T เพราะเราพูดไม่รู้เรื่อง สอนเร็ว เพราะเราคิดว่าพูดแค่นี้เค้าเข้าใจ อธิบายเด็กยากไป แต่เด็กที่ทนฟังเค้าก็แนะนำมาตอนเขียนใบคอมเมนต์หลังเรียนจบ................. พี่เองปัจจุบันเป็นทั้งอ.ประจำ+ติวเตอร์ที่สถาบันเเห่งหนึ่ง(สอนมานานเเต่เพิ่งเข้าวงการเต็มตัวเมื่อเดือนเมษา 55) ขนาดพี่มีประสบการณ์หลายสิบปี ยังต้องปรับตามเด็กเลย ถูกต้องยังไม่เท่าถูกใจนะครับ เเนะว่า ให้ลองติวคนรอบข้างก่อน เเล้วค่อยเลื่อนไปโต๊ะเล็ก ก็ไม่ต้องนาน 6-12 เดือนน่าจะok ถ้าน้องมีใจรัก+มีความรู้ที่จะสอน อย่าเพิ่งโดดไปสมัคร เพราะถ้าไม่พอตัวระดับหนึ่ง จะร่วงง่าย ๆ หรือได้สอนจริง เเต่ คาบน้อย เเละไม่โต เเละถ้าไปสอนตามสถาบันจริง ต้องเตรียมตัวเหนื่อยมากๆๆๆๆเลย นะครับ เพราะถ้าเตรียมตัวน้อย น้องอาจจะโดนยำเละจากเด็กๆ หรืออยากหยุด ไมได้หยุด รวมถึงช่วงเเรกๆ รายได้ยังไม่เยอะเท่ากับสอนเองนะ ต้องบริหารเงินดีๆเลย ขอให้โชคดีนะครับ ดูพี่ซิ เพิ่งเตรียมการสอนเสร็จ 5 ทุ่มกว่าเเล้วยังไม่เข้านอนเลย พรุ่งนี้สอน วันจันทร์ตื่นไปทำงาน..................เเต่เลือกทำ 2 งาน ต้องสู้ครับ ผมตอบกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12944477/B12944477.html#4 รายได้เสริม อาชีพสุจริตนะครับ น่าภูมิใจออกครับ เเต่ต้องบอกเขาว่า เหนื่อยมากนะ ขอบคุณคุณamnakimที่มองว่าผมเก่ง โลกของติวเตอร์มันไม่เเน่นอนนะ เงินดีจริง เเต่ต้องฝึกปรือฝีมือตลอด ไม่เช่นนั้นอาจจะได้นั่งสำรอง on the bench ผมเห็นมาหลายราย ไม่พัฒนา โดนรุ่นน้องเเซง เเต่มันดีอย่าง คือมันสู้กันด้วยฝีมือ เเต่ที่เสียก็คือ เด็กคือผู้คุมเกม บางครั้งคุณอาจจะหวังดีต่อเด็ก เเต่เด็กยังเด็กไปยังสัมผัสไม่ได้ ประมาณว่า ถูกใจดีกว่าถูกต้องครับ เขาcomment คุณเสีย ๆหาย ๆ คุณอาจหลุดวงโคจรง่ายๆเลย ผมว่าติวเตอร์ต้องเก่งในเรื่องถ่ายทอด ก็เพราะว่าถ้าทำไม่ได้ เทอมหน้าไม่ได้สอน หรือบางคน ถูกเเช่เเข็ง ไม่หลุด เเต่ไม่โตเเล้ว สอนน้อยมาก จนต้องออกไปเองครับ คลื่นลุกใหม่present ตัวเองเก่งมากๆๆๆครับ ขอไปsleep ก่อนนะครับ ช่วงนี้ผมไม่มีเวลามาละเมียดเขียนกระทู้เลย เปิดเทอมใหม่มา อะไรก็ไม่รู้ มึน เเต่ไม่ได้หายไปไหน ตอนนี้มาเเจมๆตามกระทู้ต่างๆก่อน เเละผมเห็นว่าคุณlovelypriestได้ทำหน้าที่นี้อย่างสุดยอดเเล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผมยังมีคนpostน้อย จากคุณ : tonmelb เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 23:31:57 A:14.207.187.119 X: TicketID:054700

ความคิดเห็นที่ 15 ขอถามหน่อยนะคะ ลูกชาย อยู่ ป.6 ครูสอนภาษาอังกฤษ ผันกริยา 3 ช่องยังผิดเลย พอลูกายเถียง เพื่อนๆก็เถียงตาม ครูกลับบอกว่าให้จำใหม่นะ TEACH TAUGH TAUGH ไม่มี T ตาม ครูสอนวิทย์ การระเหิด คือ ของเหลวเปลียนสถานะเป็นกาซ การระเหย คือ ของแข็ง************** ถามหน่อยนะ เราเป็นแม่เนี่ยจะไปบอกกับครูโดยตรงเลยไหม แล้วถ้าครูเค้าไม่ใจกว้างล่ะ เค้าก๋จะเกลียดเราและลูกไปตลอด เนื่องจากเคยเจอแบบนี้แล้วที่ รร.เก่า ไม่รู้จะทำไงจิงๆๆ หน้าตาครูเค้าไม่เป็นมิตรเลย ทุกวันนี้ลูกและเพื่อนๆๆ บางคนเรียนด้วยความไม่มั่นใจ ไม่เชื่อมั่นในตัวครู จากคุณ : ผู้ปกครอง เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 19:40:25 A:124.121.217.6 X: TicketID:228309

ความคิดเห็นที่ 16 ลองคุยกับผู้บริหารโรงเรียนค่ะ การไปบอกครูผู้สอนโดยตรง ไม่น่าจะก่อให้เกิดผลดีหรอกค่ะ นัดคุยนอกรอบกับครูใหญ่ อย่าให้ครูผู้สอนทราบ ให้ทางโรงเรียนเขาไปจัดการกันเอาเอง จากคุณ : หมาฉันมันเป็นตุ๊ด เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 08:22:49

ความคิดเห็นที่ 17 รายได้น้อย คนเก่งๆ เขาจะมาเป็นกันหรอครับ? จากคุณ : Ryuichi เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 12:26:50

ความคิดเห็นที่ 18 เราคนนึงล่ะค่ะ จบวิศวะไฟฟ้า ทำงานมาสี่ปีแล้วอยากกลับมาเป็นครู :) ตอนนี้พยายาม สมัคร ป. โท อยากเรียนให้ตรงกับสายงานครู เค้าก็ไม่รับสมัครเพราะคุณสมบัติไม่ได้ เสียใจมากๆแต่ก็สู้ต่อไป :) จากคุณ : น่วมน่วม เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 12:23:52