ความคิดเห็นที่ 1 เราเป็นคนโง่ภาษาอังกฤษค่ะ  ตอนนี้ดีกว่าเดิมอยู่บ้าง ที่รู้ศัพท์เพิ่มเติมเพราะอาศัยการดูหนัง  ซีรีส์  เพลงฝรั่ง และการอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ + คอมเม้นในเว็บบอร์ดกับ  youtube คำไหน  ไม่รู้จัก  ก็เปิดดิกแปลเอาหรือถ้าแปลไม่ได้  ก็ตั้งกระทู้ถามเอาค่ะ อ่านแบบนี้บ่อยๆ  ผ่านตาหลายครั้ง  มันจะจำศัพท์  จำประโยคได้เอง  โดยไม่ต้องท่องศัพท์เลย จากคุณ : I AM มืดตึ๊บ เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 10:49:24

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีที่ทำให้เรารู้ศัพท์เยอะขึ้นคือเราอ่านค่ะ เวลาเจอศัพท์ไม่คุ้นเคยก็จะเปิดพจนานุกรมหาความหมายค่ะ แล้วก็จะจดลงสมุดอีกทีหนึ่งค่ะ พวกความหมายแล้วก็ตัวอย่างประโยคค่ะ ทำมาเรื่อยๆ เราก็รู้สึกว่ามีคำศัพท์ในหัวมากขึ้นค่ะ จากคุณ : Nepster เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 11:42:42

ความคิดเห็นที่ 3 ในเนตมีให้ฟรีนะ ลองเสิร์ชดู เราไม่ว่าง ถ้าว่างและไม่ลืม พรุ่งนี้จะลองเสิร์ชให้ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 13:37:15

ความคิดเห็นที่ 4 -เก็บศัพท์พื้นฐาน ถ้าโคม่ามาก ไปร้านซีเอ็ด หรือร้านหนังสือชั้นนำ   มีหนังสือคำศัพท์เล่มเล็กๆ ศัพท์เด็กป.6   เล่มละ 60 บาท+  ไม่ถึงร้อย ศัพท์ง่ายๆแต่บางคำเราก็ไม่รู้ คำไหนรู้แล้วก็ข้ามไป แต่มันการันตีได้ว่า ศัพท์นั้นเป็นศัพท์พื้นฐานที่เราต้องเจอบ่อยแน่ๆ เรื่องคำอ่านของหนังสือพวกนั้นอย่าไปเชื่อมันมากออกเสียงผิดก็มีนะ รู้หมดก็ได้1000 + คำแล้วละ -ระดับกลางๆ เราแนะนำให้ซื้อ longman dictionary แบบที่แถมซีดีเป็นโปรแกรมมีเสียงอ่านแบบอังกฤษและอเมริกันลงบนคอม   ดีทั้งการเรียนสำเนียงอักฤษและอเมริกัน ท่องพร้อมกับออกเสียงให้ถูก ไม่ใช่ท่องตะพึดตะพือ ถ้าเราไม่รู้ว่าต้นฉบับออกเสียงอย่างไรแล้ว ออกเสียงแบบคนไทย จำภาษาอังกฤษสำเนียงไทยๆไป เราจะฟังเวลาฝรั่งพูดไม่ค่อยออก เวลาเขาพูดรัวๆ ทั้งนี้เพื่ิอเอาไว้ประกอบกาเรียนรู้คำศัพท์  มีวลี ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว คุ้มค่าแก่การลงทุน เช่นวลีที่เจอบ่อยๆ   put up  with   หรือ in charge of (ซึ่งเราจะต้องไปหาในคำว่า charge) มีพร้อมตัวอย่างประโยค ว่าใช้ยังไง สุดท้าย หาอะไรอ่าน เสิชศัพท์ในโปรแกรม นั่งมือหงิกเปิดดิกที่เป็นหนังสือ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน จากคุณ : Don't judge too quickly เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 14:09:35

ความคิดเห็นที่ 5 เสิร์ช 2500 common English words ทาง Google แล้วจะได้รายการคำศัพท์ครับ ส่วมมากจะให้แค่รายการ แต่เว็บไซต์อันนี้ให้เกมบ้างด้วย http://www.manythings.org/vocabulary/lists/l/ และที่เว็บไซต์นี้เล่นเกมแข่งขันการสะกดคำได้ มีเสียง(สำเนียงอังกฤษ)ให้ฟัง ฟังคำแล้วก็สะกด มี 5 ระดับซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 1800 คำ 1. easy peasy (ประมาณ 100 คำ) 2. simple pimple (ประมาณ 300 คำ) 3. lickety split (ประมาณ 700 คำ) 4. okey dokey (ประมาณ 500 คำ) 5. uh oh (ประมาณ 200 คำ) ระดับ 1-4 ส่วนใหญ่ประกอบด้วยคำพื้นฐาน (ประมาณ 1600 คำ) http://www.tutpup.com/plays/new/2-word-game จากคุณ : Coffeeclub เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 14:24:07

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีชีทอะไรให้เหรอคะ เช่นชีทรวมคำศัพท์ ชีทบทความที่ให้ไปเปิดดิคเอาเอง เดี๊ยนเปิดกระทู้ล่าง ๆ ของคุณเจ้าของกระทู้ผ่าน ๆ จึงไม่ทราบว่าคุณเรียนอะไร ระดับไหน ถ้าเป็นบทความหรือโนว์-ฮาว มันจะมีคำศัพท์ซ้ำ ๆ และความหมายภาษาไทยของศัพท์นั้น ๆ ซ้ำ ๆ อยู่ค่ะ เรียกว่าถ้าจำได้แล้วก็ใช้เป็นกุญแจไขความหมายประโยคได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องจำเป็นบริบทก็ได้ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 55 16:17:19 จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 16:13:33

ความคิดเห็นที่ 7 หรือเอาแบบที่ผมทำสมัย ม4 ครือ เอาดิกโง่ๆ เล่มเล็กๆ อ้วนๆ นะแหละ นั่งท่องตั้งแต่ a-z ก็ได้แล้วหละคัฟ แล้วหลังจากนั้น ชีวิตคุณจะง่ายขึ้นจมเลย ในแง่นี้นะ มันไม่มีวิธีต้มกินแล้วตื่นขึ้นมาได้ทุกสิ่งทุกอย่างหรอกคัฟ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาอังกฤษ หรือการลดน้ำหนัก หรือ get rich fast ทั้งหลายแหล่ หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะชีวิตมิใช่กินฟาสต์ฟู๊ด กร๊ากกก เพราะฉะนั้น อย่าไปเชื่อโฆษณาอะไรว่ามีวิธีง่าย มันมีแต่ วิธีที่เราต้องใส่ใจ และใส่เวลาพอสมควร ต้องเอาความพยายามเข้าแลกทั้งนั้นแหละคัฟ ถึงจะประสบความสำเร้จ ยกเว้นว่าคุณจะนามสกุลล่ำซำละก็เอ้อ ไม่ต้องพยายามอะไรก็เป็นนายธนาคารได้ กร๊ากกกก จากคุณ : Ensign เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 16:37:57

ความคิดเห็นที่ 8 เอามาแปะที่นี่ด้วย เผื่อไม่เห็น (ที่ถามว่า คุณเรียนแปล ป.โท อยู่หรอ) --------------------------------------------- แสดงว่า หลักสูตรการแปล ป.โท เป็นเรื่องลวงโลกอย่างที่ผมคิด เพราะมันค้านกันเอง คุณจะเรียนแปลไปทำไม๊ ถ้าคุณรุภาษาอังกฤษอยู่แล้ว นักแปลที่ทำมาหากินเป็นอาชีพ เขาไม่ได้เรียนแปล ป.โท กันมาหรอกคัฟ ผมว่าส่วนมากเขาก็เรียนตามปกตินี่แหละ นักเรียนไทย เรียนภาษาอังกฤษกันไม่น้อยนะคัฟ ยิ่งสมัยนี้ เรียนกันตั้งกะ อนุบาลยัน ป.ตรี  แต่ไม่กี่คนจะใช้การได้ มันกี่พันกี่หมื่นชั่วโมงกันนั่นที่ใส่เข้าไป น่าตกใจไหมนั่นการศึกษาไทย!!!!!!! และถ้าคุณไม่รุภาษาอังกฤษดีพอ ต่อให้เรียนแปล ป.โท ก็คือเอาเงินไปจ้างให้อาจาน มาบอกว่าคุณแปลผิดโดยไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น เหมือนอย่างที่คุณเจอไง และเขาจะไม่ยอมบอกคุณว่า จริงๆ ปัญหาของคุณอยู่ที่ ไวยากรณ์!!! ถ้าไม่รุไวยากรณ์ ต่อให้เรียนจนตายก็ไม่ได้ผล และถ้ารุไวยากรณ์ ความจริงก็ไม่ต้องมาเรียนแล้ว แปลเองได้เลย แต่เขาบอกคุณเขาก็ฆ่าตัวตายดิ กร๊ากกก สรุปว่า คนที่แปลได้อยู่แล้ว ไปเรียนแปล จะนึกว่าดี เพราะตัวเองรุเรื่อง กร๊ากกก ส่วนคนที่แปลไม่ได้อยู่แล้ว ไปเรียนก็จะตก แล้วก็ด่าตัวเองว่าทำไมคนอื่นทำได้ ปัญหาของคุณ แก้ได้ด้วยการ กลับไปปูพื้นฐานภาษาใหม่ Grammar เท่านั้นคัฟทั่น จากคุณ : Ensign เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 17:03:40

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ Ensign คะ ขอแก้ข่าวว่าเราไม่ได้เรียน eng แปล ป.โทค่ะ ดิฉันเรียนป.โทสาขาอื่น แต่ ที่ชอบเอาการบ้าน eng แปล มาถามนี่ เพราะเป็นวิชาที่ทุกคนต้องเรียนค่ะ สำหรับคนที่สอบแบบทดสอบของมหาลัยผ่านจะไม่ต้องเรียนค่ะ แล้วดิฉันเรียนมา 1 รอบแล้ว ไม่ผ่าน ดิฉันจึงต้องทำให้ผ่านเทอมนี้ให้ได้ค่ะ ส่วนคำแนะนำของคุณ ดิฉันก็พยายามไปยืมหนังสือแกรมม่ามาอ่านแล้วค่ะ แต่เหตุที่ตัดสินใจไปหาที่เรียนเพราะ ถ้าอ่านเองทั้งหมดก็ไม่รู้ว่าจะเข้าใจเองถูกหรือเปล่าน่ะค่ะ จากคุณ : ข้าวขาหมูเนื้อหนังไม่ไข่ เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 17:17:20

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างไรก็ขอบคุณที่ช่วยวิเคราะห์ให้นะคะ จะได้เกาถูกที่คันซะทีค่ะ ^^ จากคุณ : ข้าวขาหมูเนื้อหนังไม่ไข่ เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 17:19:31

ความคิดเห็นที่ 11 #6 ชีสและหนังสือมีค่ะ แต่ถามเผื่อว่าเขาจะมีหนังสือที่ลิสรายการไว้ให้แล้วน่ะค่ะ จากคุณ : ข้าวขาหมูเนื้อหนังไม่ไข่ เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 17:21:25

ความคิดเห็นที่ 12 การอ่านไวยากรณ์ช่วยไม่ได้มากหรอกค่ะสำหรับงานแปล เพราะคำคำหนึ่งมีความหมายตั้งมากมาย บางทีเดี๊ยนก็เลือกความหมายใส่ลงไปไม่ถูก แม้จะมีชนิดของคำเป็นชนิดเดียวกัน จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 17:21:55

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าภาษาอังกฤษที่คุณเจ้าของกระทู้กำลังเรียน เชื่อมโยงกับวิชาเฉพาะที่คุณเรียนอยู่ ให้เอาชีทมานั่งเลือกคำศัพท์เองเลยค่ะ เดี๊ยนว่ามันอยู่ในนั้นแหละ 2,500 คำที่ว่า จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 17:24:56

ความคิดเห็นที่ 14 ดู ดู ไปก็เก่งเอง จากคุณ : IG_KGB เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 13:42:22

ความคิดเห็นที่ 15 http://www.slideshare.net/ajaiprashanth/the-4000-words-essential-for-an-educated-vocabulary อันนี้น่าจะเพียงพอนะ จากคุณ : Healer เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 13:44:39

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าที่อาจารย์เขาบอกคุณให้ไปรู้คำศัพท์มาอย่างน้อย 2500 คำ คงไม่ไช้ให้คุณไปปูพรมหาศัพท์อะไรมาก็ได้ เขาคงไม่ได้ขยายความให้คุณรู้เป้าหมาย หากคุณดูพจนานุกรม อังกฤษ-อังกฤษ จะเห็นว่ามีคำหลายหมื่นหรือถึงแสนๆคำแล้วแต่ขนาดเล่ม โดยแต่ละคำก็จะมีนิยามให้ ความหมายของคำนิยามเหล่านี้แหละที่เขาบอกว่าเป็นคำพื้นฐานหรือ basic/essential vocabulary ที่จะเป็นนิยามมาประกอบคำที่ยุ่งยากยิ่งขึ้น ซึ่งรวบรวมแล้วก็มีสัก 2500-4000 คำ พูดง่ายๆคือ ถ้าเรารู้ศัพท์พวกนี้ก็จะช่วยให้เรานิยามคำอื่นๆได้ง่ายขึ้น พูดง่ายๆคือ คนที่ร้ศัพท์พวกนี้แสดงว่ามีขีดความสามารถในการสร้างความเข้าใจและสื่อสารพื้นฐานในภาษาอังกฤษ ข้อสอบคุณก็คงไม่เอาคำยากเย็นกว่านี้มาสอบคุณ มีหลายคนแนะนำเว็บไซท์ให้ไปหาอ่านแล้ว ผมคงไม่ซ้ำ แต่อยากบอกว่า ถึงจะไปอ่านเว็บไซท์เหล่านั้น มันก็ช่วยให้คุณรู้จักและจำได้ แต่ว่าการรู้จักและจำคำศัพท์ได้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถนำคำเหล่านั้นไปใช้งานได้ คุณรู้คำสัพท์แต่ถ้าเอามันมาต่อเป็นประโยคหรือข้อความไม่ได้ปะติดปะต่อเป็นเรื่องเป็นราวสื่อสารได้ คุณก็ตกม้าตายอยู่ดี การรู้คำศัพท์เป็นเพียงก้าวแรก การที่คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้นั้นวิธีง่ายที่สุดคือการได้สังเกตเห็นรูปแบบและวิธีการใช้งานจริง เช่น การอ่าน การฟัง แล้วก็นำมาฝึกเขียนและฝึกพูด พูดง่ายๆคือมันต้องนำมาสร้างทักษะไปด้วย ดังนั้น การอ่านและการเขียนเป็นสิ่งที่ยังจำเป็นในการเสริมสร้างทักษะของคุณนะครับ ต่อให้คุณจำคำศัพท์ได้แต่ไม่เคยอ่านให้มันรู้ความหมายของประโยคและข้อความ คุณก็อาจจะไม่เข้าใจ ดังนั้น อย่าลืมหัดอ่านหัดเขียนควบคู่กไปกับการท่องศัพท์ด้วย ผมเห็นคนเยอะแยะที่ท่องศัพท์วันละสิบคำมาเป็นปี จำได้ทั้งเล่มอย่างแม่นยำ แต่พอให้อ่านให้เขียนก็ตะกุกตะกักหรือไม่ได้เอาเลย ก็เพราะไม่เคยเอาศัพท์พวกนั้นมาเชื่อมกันและใช้งาน นึกว่าท่องศัพท์ได้แล้วจะเก่งอังกฤษ มันไม่ใช่อย่างนั้น จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 17:52:58