ความคิดเห็นที่ 1 เทียบจากราคาทอง น่าจะพอได้ไหมครับ จากคุณ : วาหนิติ์นิกร เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 09:14:43

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อตอนวัยรุ่น พ่อผมกินก๋วยเตี๋ยวจากล่ะ 1 สลึง ตอนผมเรียน ประถม ผมกินก๋วยเตี๋ยวจานล่ะ 7 บาท ตอนผมเรียน ม.ปลาย ผมกินก๋วยเตี๋ยวจานล่ะ 30 บาท ตอนผมทำงานแล้ว ผมกินก๋วยเตี๋ยวจานล่ะ 45 บาท น่าจะประมาณนี้ มั้งครับ เทียบกับ ราคาของ ใช้รอบตัว หรือ ไม่ก็ ราคาทอง ครับ จากคุณ : nap62 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 09:54:37

ความคิดเห็นที่ 3 ฝรั่งใช้อัตราเงินเฟ้อ จากคุณ : jo guevara เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 10:02:52

ความคิดเห็นที่ 4 มันมีตรางเทียบไหมคะ  เช่น ตึกไทยคู่ฟ้า ถูกซื้อมาในราคา 1,000,000 บาท ในปี 2484 มันน่าสนใจว่าราคาเทียบปัจจุบันเท่าไหร่  ทราบว่าก่อนซื้อ 1,000,000 บาท เจ้าของเสนอ 2,000,000 บาท อ่านประวัติเหมือนรัฐบาลบอกแพงไป มองในมุมปัจจุบัน 2,000,000 บาท ถูกมาก แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 11:30:41 จากคุณ : nana5104 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 11:27:56

ความคิดเห็นที่ 5 ตึกไทยคู่ฟ้า จากคุณ : nana5104 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 11:31:10

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเรียนวิชาการเงิน อาจารย์บอกให้ใช้ discount rate 7% ถ้าซื้อมา 1 ล้านบาท 71 ปี ที่อัตรา 7% ปัจจุบันก็น่าจะประมาณ 122 ล้านบาทครับ จากคุณ : yut-san เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:19:10

ความคิดเห็นที่ 7 เทียบกับอัตราเงินเฟ้อชัวร์สุด จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 14:44:51

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ยืนยันว่าถูกต้อง คิดว่าถ้าจะเทียบกับราคาสินค้า คงต้องเทียบกับราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มน่าจะดีที่สุด เพราะเป็นสินค้าที่มีอุปสงค์อุปทานค่อนข้างคงที่ที่สุดแล้ว สินค้าอื่น ตัวแปรในเรื่องราคามีเยอะกว่ามาก อย่างทอง การเก็งกำไรก็ทำให้ราคาในบางช่วงผิดเพี้ยนเกินความจริงไปได้เช่นกัน ----------------------------------------------------------------------------------------- เงิน 5 บาท สมัยก่อนมูลค่าขนาดไหน ลองนึกถึงเรื่องสามเกลอ พล นิกร กิมหงวน มีตอนหนึ่งพลให้เงินเด็กรับใช้ในห้าง 5 บาท บอกให้ไปซื้อวิสกี้มาให้หนึ่งขวด เงินทอนยกให้เด็กคนนั้น ถ้าเทียบกับปัจจุบันน่าจะหลักพันบาทเข้าไปแล้ว จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 15:44:41

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้านานๆแบบเป็นสิบๆปีให้ใช้ราคาอาหาร แต่ถ้า 3-4 ปีให้ใช้อัตราเงินเฟ้อครับ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ จากคุณ : ท่าพระมูน เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 21:07:09

ความคิดเห็นที่ 10 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2    อาเสี่ยกิมหงวนมีทรัพย์สินราวๆ 160 ล้านบาท      และมีกำไรต่อปี 46 ล้านบาท นี่คือมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศไทยตอนนั้น ในขณะที่พระยาวิจิตรบรรณาการมีรายได้ราวๆ 1.5 ล้านบาท      หักรายจ่ายแล้วมีกำไรต่อปีราวเกือบๆ 1.3 ล้านบาท จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 20:38:15

ความคิดเห็นที่ 11 ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจนถึงตอนเพิ่งเลิกสงครามเงินเฟ้อกระฉูดครับ น่าจะเป็นสิบเท่า เอาง่ายๆลองดูเงินเดือนไอ้แห้ว ตอนช่วงแรกกะตอนเพิ่งเลิกสงครามครับ ตอนเพิ่งเลิกสงครามเงินเดือนโดดไป300ละ ทั้งๆที่ก่อนสงครามหลักสิบต้นๆ จากคุณ : Rey Elessar เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 22:11:05

ความคิดเห็นที่ 12 คห 10-11 พูดไปพูดมาเดี๋ยวเขานึกว่าสามเกลอมีตัวตนจริงหรอก แต่ที่ยกนิยายสามเกลอมาเป็นตัวอย่าง เพราะผู้เขียน ป.อินทรปาลิต เป็นคนในยุคนั้น และเขียนโดยใช้พื้นฐานของสังคมรวมถึงเศรษฐกิจในยุคนั้นเป็นหลัก จึงพอใช้เป็นตัวเทียบเคียงโดยประมาณได้ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 22:25:38 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 22:25:02