คนที่กล้าคิดกล้าทำอะไรแปลกๆใหม่ๆ แบบแหกคอก จะสร้างสรรค์อะไรที่ดีๆให้แก่มวลมนุษย์ได้ เช่นงานประดิษฐ์หรือคิดค้นอะไรระดับอัฉริยะขึ้นมาได้
นั่นก็คือ "อย่ายึดติดกับคำพังเพย" กาลเวลามันเปลี่ยนไป
ยกตัวอย่างเช่น ของฝรั่ง A bird in the hand is worth two in the bush. นกตัวเดียวอยู่ในมือมีค่าเท่ากับนกสองตัวในพุ่มไม้
แต่เราขอคิดแหกคอกโดยการพูดว่า Throw away the one bird in the hand and go after a large flock of birds in the bush.
คือสอนตัวเองให้ think positive กล้าทิ้งนกตัวเดียวในมือ แล้วไปไล่ล่านกฝูงใหญ่ๆในพุ่มไม้ เพราะมั่นใจในตัวเองสูงมากๆว่าจับนกในพุ่มไม้ได้อีกบานเบอะ
มาดูของไทยกัน
รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ^ อย่าไปเชื่อมัน มันจะหลอกขายหนังสือเรียนที่ได้รับอนุมัติ แล้วคนอนุมัติกับคนผลิตหนังสือเรียนมันรวยเละ เห็นเด็กไทยไหมล่ะ แบกหนังสือจนตัวโก่ง แต่ส่วนใหญ่ไม่เชี่ยวชาญจริงสักวิชาเดียว สู้เด็กฝรั่งไม่ได้เรียนน้อยวิชาแต่เชี่ยวชาญจริงๆประเทศชาติเจริญกว่า
และนี่คือ paradox บ่อยครั้งที่เราพยายามเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆยัดมันเข้าไปในสมอง พออ่านกระทู้คนอวดกันว่า "ใครจะอ่านหนังสือได้มากเล่มกว่ากัน" (พวกเขาคิดว่ายิ่งอ่านมากยิ่งฉลาด) เราเกิดคิดแหกคอกขึ้นมา (เราจะฉลาดขึ้นโดยการอ่านน้อยลงบ้าง) เราก็เลย "หยุดอ่านหนังสือ" แล้วนั่งสมาธิ unlearn ทุกอย่าง (คือรู้อะไรก็ล้างมันทิ้งไปซะ) พอจิตสงบ อะไรยากๆที่เราอยากเรียนรู้จากตำรา มันกลายเป็นว่า "มีแรงดลใจจากสวรรค์ ทำให้เราคิดค้นมันขึ้นมาได้เอง อย่างน่ามหัศจรรย์"
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 11:11:18
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ย. 55 11:06:29
|
|
|
|