เราสงสัยกับการสอนภาษาอังกฤษในมหาลัยหลายๆแห่งมากๆว่า "ให้ translation assignment ไปหาพระแสงอะไรกัน" มันเป็นวิธีการสอนที่ "ไม่เข้าท่าเอาซะมากๆเลย"
ในกระทู้แรกๆของคุณ SnowHeart คุณ Ensign สงสัยว่าคุณ SnowHeart เรียนปริญญาโทการแปลหรือ? แล้วคุณ SnowHeart ตอบว่า "ไม่ใช่ แต่เรียนแค่ปริญญาตรี"
เราก็เลยอยากจะแนะนำว่า วัตถุประสงค์ของการสอนไม่ควรเป็น "เพื่อพัฒนาทักษะด้านการแปล" เพราะระดับความรู้ภาษาอังกฤษขนาดคุณ SnowHeart ไม่ถึงกับง่อยมากนะ คือพออ่านรู้เรื่องบ้าง แต่ยังใช้ dictionaries ไม่ค่อยจะเป็น เลือกความหมายคำศัพท์ในบริบทยังไม่ค่อยจะถูก การที่อาจารย์อยู่ดีๆก็ให้ไปหาอะไรมาแปล มันเป็นการสอนที่ไร้ประสิทธิภาพ เพราะกว่าจะพัฒนาทักษะการแปลมาได้ กลายเป็น "ไม่ได้พัฒนาทักษะอื่นที่จำเป็นมากกว่า" ลงเอยเผลอๆเรียนจบ 4 ปี ได้อะไรมาน้อยมากๆ หรือแทบไม่ได้อะไรเลย เพราะนักศึกษาที่ยังไม่เก่งมากนักถูกอาจารย์สั่งให้ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองอยู่ในความมืดโดยที่อาจารย์ไม่ได้ให้ guidelines อะไรเลย (เพราะอาจารย์คงจะขี้เกียจหรือไม่ก็สอนไม่เป็นนั่นเอง)
จริงๆแล้วการสอนนักศึกษาความรู้อังกฤษระดับนี้ ควรสอน
1. วิธีใช้ dictionaries ให้เลือกคำศัพท์ "เพื่อตีความ (ไม่ใช่เพื่อการแปล) ให้ถูกต้องตามบริบท" 2. อาจารย์หาบทความมาเอง (ที่ใช้สอนได้ดีทั้ง reading comprehension ทั้ง writing ไปพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน) เอาให้นักศึกษาอ่าน แล้วอาจารย์ตั้งคำถามเป็นภาษาอังกฤษ คล้ายๆข้อสอบ reading comprehension (อาจเป็นปรนัยเหมือนข้อสอบก็ได้) ให้นักศึกษาตอบเพื่อทดสอบความเข้าใจ ^ *****การที่่จะสอนแบบนี้ได้อาจารย์ต้องเขียนภาษาอังกฤษได้ไม่มีกลิ่นกะปิน้ำปลา*****
3. และสอนให้นักศึกษานำศัพท์ที่อยู่ใน passage (ข้อความ) ที่อ่านมา นำไปแยกธาตุเพื่อฝึกเขียนประโยคภาษาอังกฤษที่พลิกแพลง โดยการดูตัวอย่างประโยคใน esl dictionaries และอาจทำการทดสอบนักศึกษาได้โดยการให้ฝึก 2 อย่างนี้คือ
3.1 ให้ประโยคอังกฤษมา แล้วให้ศัพท์มาคำหนึ่ง แล้วสั่งให้สร้างประโยคใหม่ด้วยคำศัพท์ที่ให้มาโดยให้ประโยคใหม่มีความหมายเหมือนประโยคแรก 3.2 ให้ประโยคอังกฤษที่สมบูรณ์มา แล้วให้อีกประโยคที่ไม่สมบูรณ์ แล้วสั่งว่าให้ทำประโยคที่ไม่สมบูรณ์ให้สมบูรณ์ แต่ให้มีความหมายเหมือนประโยคแรก ^ *****การที่่จะสอนแบบนี้ได้อาจารย์ต้องเขียนภาษาอังกฤษได้ไม่มีกลิ่นกะปิน้ำปลา*****
^ การสอนแบบนี้จะเป็นการสอนทั้ง reading comprehension กับ writing ไปพร้อมๆกัน ซึ่งในกระบวนการทั้งตีความประโยค กับการเขียนประโยค จะพ่วงการสอน grammar ไปด้วย และถ้าอาจารย์เลือกสื่อจากต่างประเทศที่ทำมาเป็นชุด ซึ่งมี audio หรือ video ประกอบด้วย มันจะสอน listening กับ speaking ให้นักศึกษาไปพร้อมๆกัน เพราะมันจะนำไปสู่ group discussion ได้ด้วย ^ *****การที่่จะสอนแบบนี้ได้อาจารย์ต้องฟังพูดภาษาอังกฤษได้คล่องมากๆ*****
นั่นก็คือในการสอนในแต่ละ session (รอบ) จะสอนได้ครบหมดทั้งทักษะ การฟัง พูด อ่าน เขียน และ grammar
ซึ่งถ้าสอนแบบนี้เมื่อนักศึกษาจบไป ก็จะได้อะไรไปมากกว่า
"อยู่ดีๆไล่ให้นักศึกษาไปหาอะไรมาแปลมั่วๆ"
^ เพราะการสอนแบบนี้จะทำให้นักศึกษาที่อ่อนมากๆ ไปจ้างคนอื่นเขาแปล
เราขอชมเชยคุณ SnowHeart ที่ถึงเรียนมหาลัยที่ไม่ใช่ระดับแนวหน้า แต่ก็เป็นคนที่ใฝ่รู้ และขอประนามอาจารย์คุณว่า "สอนได้ห่วยแตกมากๆ!"
นี่เป็นข้อคิดที่ว่า
การคัดเลือกอาจารย์ไปสอนในมหาลัย ส่วนใหญ่เกณฑ์ก็คือ ต้องจบปริญญาเอก แต่จริงๆแล้วถ้าเลือกอาจารย์ไปสอนภาษาอังกฤษในมหาลัยควรเลือกอาจารย์ที่มีคุณสมบัติดังนี้ซะมากกว่า
1. ฟัง พูด อ่าน เขียนอังกฤษได้ดีมากๆ คือพูดคล่องพูดชัดและเขียนอังกฤษได้แบบไม่มีกลิ่นกะปิน้ำปลา 2. ทดสอบความคิดพลิกแพลงสร้างสรรค์ของอาจารย์ ว่าใช้สมองคิดค้นวิธีสอนพลิกแพลงได้อย่างไรบ้าง วางแผนการสอนได้ยังไง สร้างและหรือหาสื่อการสอนดีๆได้หรือไม่ รู้หรือไม่รู้วิธีวัดผลหรือไม่
ไม่ใช่อยู่ดีๆไปคว้าใครก็ได้ที่จบปริญญาเอกมาเป็นอาจารย์ แล้วเวลาสอนก็เลยกลายเป็นอาจารย์มาเล่นปาหี่
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 55 03:57:16
|
|
|
|