คนดีแผ่นดินซ้อง
ฮ่องเต้ยอดกตัญญู
ตอนที่ ๑ มีกรรมแต่กำเนิด
พระเจ้าซ้องจีนจงฮ่องเต้นั้น มีนางเล่าฮองเฮา เป็นมเหสีใหญ่ และ นางลีสินฮุย เป็นมเหสีรอง ยังไม่มีพระราชบุตร ขณะนั้นเจ้าเมืองฮวนได้ยกกองทัพสิบหมื่น มาตีเมืองทันจิว ผู้รักษาเมืองแต่งทหารออกไปสู้รบ ก็ต้านทานไม่ได้ต้องรักษาเมืองไว้ให้มั่นคง แล้วมีใบบอกเข้ามายังเมืองหลวง ฮ่องเต้ทรงทราบความแล้วปรึกษาขุนนางทั้งปวง เห็นว่าฮ่องเต้ควรจะยกทัพไปปราบปรามข้าศึก ด้วยพระองค์เอง ไพร่บ้านพลเมืองจะได้มีใจสู้รบแข็งแรง ก็จะมีชัยชนะได้โดยง่าย
ฮ่องเต้ก็เห็นชอบด้วย จึงจัดกองทัพพลสามสิบหมื่น เครื่องศัตราวุธและเสบียงอาหารพร้อมสรรพ เสด็จยกกองทัพออกจากเมืองหลวง ไปตั้งค่ายที่เมืองทันจิว การศึกครั้งนี้กินเวลาหลายปี
ในระหว่างที่พระเจ้าซ้องจีนจงฮ่องเต้ ไปราชการสงครามปีแรก นางเล่าฮองเฮาก็ประสูติพระราชธิดาองค์หนึ่ง ส่วนนางลีสินฮุยก็ประสูติพระราชโอรสองค์หนึ่งเช่นเดียวกัน นางเล่าฮองเฮาเกรงว่า บุตรของนางลีสินฮุยจะได้ครองราชสมบัติในภายหน้า จึงคบคิดกับ กวยหวย ขันที หาทางกำจัดพระราชโอรสเสีย
วันหนึ่งนางเล่าฮองเฮามาเยี่ยมนางลีสินฮุย และชวนไปพูดคุยกันที่ตำหนักของตน นางลีสินฮุยเกรงใจขัดมิได้ก็อุ้มบุตรชาย ไปที่ตำหนักของนางเล่าฮองเฮา นางก็สั่งให้จัดโต๊ะมาเลี้ยง และพูดคุยหน่วงเหนี่ยวนางลีสินฮุยอยู่จนบุตรชายหาวนอน นางเล่าฮองเฮาจึงให้กวยหวยอุ้มไปนอนข้างในเก๋งของนางลีสินฮุยก่อน นางลีสินฮุยนั่งสนทนาอยู่จนเย็นได้เวลาที่บุตรชายจะตื่นนอนแล้ว จึงคำนับลานางเล่าฮองเฮากลับไปที่อยู่ ถามสาวใช้ว่าบุตรชายอยู่ที่ไหน สาวใช้บอกว่าอยู่ในห้อง นางลีสินฮุยก็เข้าไปดูในห้องนอนของตน หาเห็นพระราชบุตรไม่ มีแต่แมวตายนอนอยู่แทน นางก็ร้องไห้ร่ำไรเป็นอันมาก และคิดขึ้นมาได้ว่าการเป็นดังนี้ก็เพราะนางเล่าฮองเฮาคิดกำจัดบุตรของตนเสีย ด้วยกลัวว่านานไปจะได้ราชสมบัติ แต่จะว่ากล่าวขึ้นก็หามีผู้ใดจะชำระให้ไม่ ด้วยพระเจ้าซ้องจีนจงฮ่องเต้ไปราชการทัพ ยังหากลับมาไม่ ตนเองเป็นผู้น้อยไม่รู้จะพึ่งใคร ต้องคอยจนกว่าฮ่องเต้จะเสด็จกลับ จึงจะกราบทูลให้ทรงทราบ
ในขณะนั้น นางโควหนิง สาวใช้ของนางเล่าฮองเฮา ได้รับคำสั่งจากกวยหวยให้เอาพระราชบุตรซึ่งกำลังหลับอยู่ไปโยนทิ้งน้ำ นางก็อุ้มพระราชบุตรมาถึงสระกิมจุยตี๋ ในสวน แต่ก็บังเกิดความสังเวชนัก หาอาจจะโยนลงไปได้ไม่ ให้คิดสงสารจึงลงนั่งร้องไห้เป็นทุกข์อยู่ พอดีกับ ตันหลิมถูกโปยอ๋องกับนางเต็กเชยกิม ใช้ให้มาเก็บดอกไม้ในสวนหลังบ้าน เห็นนางโควหนิงอุ้มพระราชบุตรนั่งร้องไห้อยู่ ก็สอบถามจนได้ความ จึงให้นางโควหนิงส่งพระราชบุตรมาให้ตน แล้ววางลงไปในเข่งดอกไม้แบกเอาไปให้โปยอ๋อง และเล่าเรื่องที่นางเล่าฮองเฮากับกวยหวย คิดกำจัดพระราชบุตรให้ทราบทุกประการ โปยอ๋องจึงให้นางเต็กเชยกิมผู้ภรรยาเลี้ยงไว้ก่อน
ฝ่าย นางโควหนิง เห็น ตันหลิม พาพระราชบุตรไปแล้ว ก็กลับมาแจ้งความแก่ นางเล่าฮองเฮา ว่าตนทำการสำเร็จแล้ว นางเล่าฮองเฮาก็มีความยินดี แต่เกรงว่าเมื่อ พระเจ้าซ้องจีนจงฮ่องเต้ กลับมาจากสงคราม นางลีสินฮุย ก็อาจจะกราบทูลให้ชำระความเรื่องนี้ ตนเองก็จะไม่พ้นความผิด จึงเรียกกวยหวย ขันทีมาสั่งว่า
.ธรรมดาผู้จะตัดต้นผลไม้ให้สูญหาย ก็ต้องขุดรากเง่าเสียให้สิ้น จึงจะไม่งอกงามต่อไปได้ ท่านจงคิดขุดรากเง่าเสียให้หมดด้วย อย่าให้เกิดความขึ้นได้
..
กวยหวยจึงว่า
..ท่านอย่าวิตกเลย ข้าพเจ้าคิดไว้แล้ว ท่านจงให้คนจัดเชื้อเพลิงไว้เถิด ค่ำวันนี้จะไปเผาเก๋งนางลีสินฮุยเสีย นางไม่ทันรู้ตัวไฟก็จะไหม้ตายอยู่ในเก๋งนั้น ความก็จะสูญอยู่เอง..
นางเล่าฮองเฮาก็เห็นชอบด้วย จึงสั่งคนใช้ที่สนิทให้เตรียมการไว้ตามที่กวยหวยบอก นางโควหนิงรู้ความนี้แล้วก็ตกใจ จึงแอบหนีไปแจ้งเรื่องแก่นางลีสินฮุย แล้วบอกว่า
.ท่านจงคิดหนีเอาตัวรอดเถิด บุตรท่านนั้นหาเป็นอันตรายไม่ ข้าพเจ้าให้ตันหลิมพาไปให้โปยอ๋องเลี้ยงไว้ ท่านจงหนีไปหาโปยอ๋องเถิด
..
นางโควหนิงครั้นบอกความแก่นางลีสินฮุยแล้ว ก็วิตกถึงตนเองว่า การอันนี้สำคัญใหญ่หลวงนัก นานไปข้างหน้าถ้านางเล่าฮองเฮารู้ว่าตนทำการดังนี้ ก็คงจะไม่พ้นความตาย ควรจะตายเองดีกว่าให้เขาทำให้ตาย คิดดังนั้นแล้วนางโควหนิงก็ไปที่สระกิมจุยตี่ โจนลงน้ำฆ่าตัวตายเสีย
ส่วนนางลีสินฮุยได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็แต่งตัวปลอมเป็นไพร่มิให้ผู้ใดจำได้ รีบหนีออกจากพระราชวังไปในเวลาค่ำประมาณยามเศษ หมายใจจะไปที่บ้านโปยอ๋อง แต่หารู้ที่ไม่ ก็เดินเลยบ้านโปยอ๋องหลงทางไปหลายวัน ได้ความเวทนาเป็นอันมาก จึงพบหญิงแม่ม่ายคนหนึ่งมีครรภ์แก่ แต่สามีตายเสียแล้ว หญิงนั้นเป็นคนเข็ญใจหามีผู้ใดอยู่เป็นเพื่อนไม่ เห็นนางลีสินฮุยเดินร้องไห้มา จึงชวนให้อยู่เป็นเพื่อนกันที่บ้านของตน อยู่มาไม่นานนางนั้นก็คลอดบุตรเป็นชาย แต่ตัวนางเองก็ตาย นางลีสินฮุยจึงเลี้ยงทารกนั้นไว้ ให้ชื่อว่า กวนไฮซิว ตามแซ่ของบิดา ต่อมาเกิดไฟไหม้บ้านนั้น นางลีสินฮุยจึงพาบุตรเลี้ยงไปตั้งบ้านอยู่ที่ตำบลตันเกีย เมืองซินจิว โดยไม่มีผู้ใดรู้จักเลย
ฝ่ายนางเล่าฮองเฮาเมื่อให้คนสนิท ไปเผาเก๋งนางลีสินฮุยในเวลาดึกสงัดแล้ว ก็คิดว่านางลีสินฮุยตายอยู่ในกองไฟ ขณะเกิดเพลิงไหม้ขุนนางและข้าราชการทั้งหลาย ซึ่งรักษาพระราชวังนั้น ก็พากันไปช่วยดับไฟ ครั้นไฟดับแล้วไม่เห็นนางลีสินฮุยกับพระราชบุตร ต่างก็สำคัญว่าไฟไหม้ตายเสียแล้ว
ครั้นเวลารุ่งเช้า มีผู้มาแจ้งความแก่นางเล่าฮองเฮาว่า นางโควหนิงไปโดดน้ำตายเสียที่สระกิมจุยตี่แล้ว นางเล่าฮองเฮากับกวยหวยก็สะดุ้งใจ ต่างก็คิดว่านางโควหนิงคงจะเอาความไปบอกแก่นางลีสินฮุยเป็นแน่ แล้วกลัวความผิดจึงฆ่าตัวตายเสีย นางลีสินฮุยเห็นจะไม่ตายในไฟ คงหนีไปได้แน่ แต่จะตามไปฆ่าเสียก็ไม่แจ้งว่าไปทางไหน เป็นการจนใจจึงปิดความนิ่งอยู่
ฝ่าย โปยอ๋อง แจ้งว่าไฟไหม้เก๋งนางลีสินฮุย ก็สำคัญว่านางลีสินฮุยตายในไฟ หารู้ที่จะคิดประการใดไม่ จึงบอกกับ นางเต็กเชยกิม ผู้ภรรยาว่าเห็นจะเป็นอุบายของนางเล่าฮองเฮาคิดเผาเสียเป็นแน่ แต่นางเล่าฮองเฮาก็มีอำนาจและพวกพ้องมาก เราจะชำระว่ากล่าวเอาความจริง ไหนจะรับโดยดี จะต้องสงบความไว้ คอยท่าพระเจ้าแผ่นดินเสด็จกลับมา จึงค่อยคิดกราบทูล
โปยอ๋องนั้นชรามากแล้ว เลี้ยงพระราชบุตรไว้จนเจริญวัยขึ้น ให้ชื่อว่า ชิวเอีย และมีบุตรกับนางเต็กเชยกิมคนหนึ่งชื่อว่า เตียเปีย ฮ่องเต้ก็ยังไม่เสด็จกลับมา โปยอ๋องก็ประชวร หมอรักษาโรคนั้นหาคลายไม่ มีแต่หนักลงทุกวันจนสิ้นพระชนม์ลง เมื่อายุได้ห้าสิบแปดปี ขุนนางเจ้าพนักงานก็ทำการฝังศพ อย่างพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ นางเต็กเชยกิมก็เลี้ยงดูพระราชบุตรต่อไปแต่ผู้เดียว
ฝ่าย พระเจ้าซ้องจีนจงฮ่องเต้ ยกกองทัพไปรักษาเมืองทันจิวครั้งนั้นเป็นเวลานานหลายปี จึงตกลงเป็นไมตรีกัน และกองทัพฮวนก็ยกกลับไป ฮ่องเต้ก็ยกกองทัพกลับเมืองเปียนเหลียง
เมื่อเสด็จถึงพระราชวัง ขุนนางข้าราชการก็กราบทูลว่า เมื่อฮ่องเต้ยกกองทัพไปช่วยราชการศึกเมืองทันจิวนั้น นางลีสินฮุย คลอดพระราชบุตรเป็นชาย อยู่ได้ประมาณสี่เดือนเศษ เวลากลางคืนเกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ตำหนัก นางลีสินฮุยกับพระราชบุตรดับสูญเสียในเพลิง แล้วต่อมา โปยอ๋องก็สิ้นพระชนม์เสียด้วย
ฮ่องเต้ได้ทรงฟังก็โทมนัสเสียพระทัยนัก จึงทรงพระดำริว่าโปยอ๋องก็ตายแล้ว ราชบุตรเราก็ไม่มี ตัวเราอายุก็ล่วงเข้าห้าสิบปีแล้ว ไม่เห็นใครเลยที่จะครองราชสมบัติรักษาแผ่นดินต่อไปได้ เห็นแต่ ชิวเอีย บุตรผู้ใหญ่ของโปยอ๋องคนหนึ่ง ควรจะรักษาแผ่นดินต่อไปได้ จึงรับสั่งให้หาชิวเอียกับ นางเต็กเชยกิม เข้ามา แล้วตั้งให้ชิวเอียเป็นที่ เกียเอียฮองไทจือ ตั้ง เตียเปีย บุตรคนรองของโปยอ๋องเป็นที่โลฮวยอ๋อง ตั้งนางเต็กเชยกิมเป็นที่เต็กไทเฮาราชมารดา แล้วทำการสมโภชต่าง ๆ กับโปรดให้ปล่อยคนโทษในคุกเสียสิ้น
ครั้นถึงปีจอเดือนสิบสอง พระเจ้าซ้องจีนจงฮ่องเต้มีพระชนม์ได้ห้าสิบปี อยู่ใน ราชสมบัติมายี่สิบห้าปี ก็ทรงพระประชวรหนัก เสด็จสวรรคตที่พระตำหนักเตียเก๋งเต๋ย ขุนนางเจ้าพนักงานก็จัดหีบไม้หอมมาใส่พระศพ มีการฉลองต่าง ๆ เสร็จแล้วเชิญพระศพไปฝังตามยศอย่างกษัตริย์ และขุนนางทั้งปวงก็ยกเกียเอียฮองไทจือ ซึ่งมีอายุประมาณเจ็ดปี ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ทรงพระนามว่า พระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ ทรงตั้ง นางเล่าฮองเฮา เป็นฮองไทเฮา ส่วนนางเต็กเชยกิม เป็นเต็กไทเฮาตามเดิม
######
จากคุณ |
:
เจียวต้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 55 06:53:37
|
|
|
|