ความคิดเห็นที่ 1 อีกนิดนึงนะคะ คำว่า X-ray tubes ในประโยคข้างล่างนี้ คืออะไรคะ หลอดทดลองรังสีเอ็กซืเรย์ หรือท่อส่งรังสีเอ็กซ์เรย์หรือเปล่าคะ In 1896, C.H.F. Muller began building X-ray tubes in a small factory in Hamburg, Germany, for use at a nearby hospital. HIs factory became the basis for today's most advanced X-ray tube factory worldwide and located in the same Hamburg. ขอบคุณค่ะ จากคุณ : kate - [ 1 ธ.ค. 46 11:20:05 A:202.133.170.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 chemically treated scree = สกรีนที่เคลือบด้วยสารเคมี faint spark = สปาร์ก (การปล่อยประจุไฟฟ้าเป็นประกาย) ที่อ่อนๆ (หรือเบาบาง) induction coil = ขดลวดเหนี่ยวนำ (เป็นขดลวดที่ใช้สร้างกระแสไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กโดยการเหนี่ยวนำ) denser shadow = เงาที่มีความทึบกว่า น่าจะใช่ (แต่รอให้แพทย์มาชี้แจงรายละเอียดก้อแล้วกัน) soft tissues = เนื้อเยื่ออ่อน น่าจะใช่ (แต่รอให้แพทย์มาชี้แจงรายละเอียดก้อแล้วกัน) property = คุณสมบัติ Dr. Smith took the first x-ray image. = นายแพทย์สมิทธ์ถ่ายภาพรังสีเอ็กซ์เป็นครั้งแรก Dr. Smith น่าจะเป็นผู้ถ่ายนะไม่ใช่ผู้ถูกถ่าย ตามข้อมูลข้างล่างนี้ In the medical field, Dr. Smith has developed x-ray systems for detecting blocked arteries in the heart (arteriosclerosis), and the loss of calcium in the bones (osteoporosis). His work in nondestructive testing has led to products for inspecting cans and bottles for fill level and leaks, and printed circuit boards for defective solder connections........ได้มาจาก home page ของเจ้าตัวเองเอยคือ http://www.dspguide.com/swsmith.htm การค้นพบของ Roentgen ซึ่งจะนำมาใช้งานได้อย่างหลากหลายในด้านการแพทย์ เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัด ซึ่งในปัจจุบันนี้ การที่ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดบางประเภทโดยไม่ได้ดูภาพถ่ายรังสี ต้องเป็นที่สงสัยว่าจะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรม (หรือจรรยาบรรณ) หรือไม่ เพราะว่าในสาขาวิชาแพทย์ ภาพถ่ายรังสีนี้ ถือว่าเป็นแผนที่ของประเทศ (หมายถึงของร่างกายคน) ซึ่งจะต้องทำการสำรวจ ..........ความหมายรวมๆก็คือว่า ในเมื่อมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยแบบนี้แล้ว การผ่าตัดบางอย่าง ถ้าทำไปโดยไม่ดูภาพถ่ายเอ็กซ์เรย์ก็ถือว่าผ่าตัดเดาสุ่มซึ่งน่าจะผิดจรรยาบรรณนั่นเอง x-ray tube = หลอดเอ็กซเรย์ เป็นหลอดสูญญากาศ ใช้สร้างรังสีเอ็กซ์ โดยการทำให้กระแสอิเล็กตรอนที่มีพลังงานสูงวิ่งไปกระทบกับเป้าที่เป็นโลหะ ที่ตอบให้เนี่ย เพื่อให้พอรู้ว่าจะเลือกคำแปลอย่างไร ส่วนรายละเอียดในเรื่องการแพทย์ต้องรอนายแพทย์ใหญ่ Dr. Add มาอธิบาย หรือรายละเอียดในเรื่อง electronics ต้องรอให้นายช่างใหญ่ (วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์) คุณบูมเม่อร์มาอธิบาย........เราชอบเก็บแต่ของง่ายๆ ของยากๆไม่ชอบแปล... จากคุณ : sober immortal - [ 1 ธ.ค. 46 13:09:19 A:202.129.0.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากค่ะ คุณ sober immortal (คุณเมาอมตะ) ที่ช่วยตอบกลับมา ช่วยทำให้เข้าใจขึ้นได้มากเลยค่ะ แต่ตอนนี้มีที่สงสัยเพิ่มขึ้นอีกแล้วล่ะค่ะ คือในบทนี้จะมีที่กล่าวถึง การนำรังสีเอ็กซ์เรย์มาใช้ด้วย และก็มีประโยคประมาณว่า Within months X-rays were used to locate a bullet in the brain of a 12 year-old child, a severed drainage tube in a lung, and to photograph a broken hip joint. By the end the year an electrical engineer named Wolfram C. Fuchs had performed more than 1,400 X-ray examinations. ก็เลยงงเลย ว่ามีการใช้รังสีเอ็กซ์เรย์ในการฝังลูกกระสุนหรือลูกตะกั่วในสมองเด็กด้วยเหรอ แล้ว a severed drainage tube in a lung คืออะไร การระบายน้ำออกจากปอดหรือเปล่า แล้วมันขยายหรือเกี่ยวข้องอะไรกับประโยคข้างหน้าหรือเปล่า งงมากเลยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการกล่าวถึงรางวัลโนเบลสาขาการวิจัยรังสีเอ็กซ์เรย์ด้วย ซึ่งก็จะศัพท์เฉพาะทางต่างๆเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ เปิดดิกฯแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ เพราะมันจะอธิบายมากกว่าที่จะบอกว่าคำนี้ในภาษาไทยใช้คำว่าอะไร เช่นคำว่า diffraction ดิกก็บอกว่า เป็นการอ้อมของคลื่นเวลาไปกระทบกับวัตถุ ก็เลยงงพอเจอประโยคที่ว่า X-ray diffraction from crystals จะแปลว่าเป้นการอ้อมของคลื่นเอ็กซ์เรย์จากก้อนผลึก ได้ไหมคะ แต่ฟังดูแล้วแปลกๆ อย่างไรก็ไม่รู้ ก็เลยอยากรบกวนถามศัพท์เฉพาะด้วยน่ะค่ะว่าคำว่า X-ray diffraction from crystals คืออะไร นอกจากนี้ก็มีคำศัพท์เฉพาะทางต่างๆ ที่ไม่เข้าใจ มีดังต่อไปนี้ค่ะ -Characteristic radiation of elements -X-ray spectroscopy -Scattering of X-rays by electrons -Diffraction of X-rays and electrons in gases Chemistry for the structure of hemoglobin -Computed axial tomography -High resolution electron spectroscopy -Structures of proteins crucial to photosynthesis ขอโทษด้วยค่ะที่ถามเยอะแยะ จะพยายามแปลเองดูก่อน แต่จะเข้ามาขอเช็คความถูกต้องในกระทู้นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : kate - [ 1 ธ.ค. 46 14:32:58 A:202.133.169.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 แปลตรงช่วงรางวัลโนเบลไปแล้วล่ะค่ะ แต่ทับศัพท์ไปเยอะมาก และไม่แน่ใจด้วยว่าแปลถูกหรือเปล่า รบกวนช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะ 1901 Discovery of X-rays - W. C. Roentgen 1914 X-ray diffraction from crystals - M. von Laue 1915 Crystal structure derived from X-ray diffraction - W. H. Bragg and W. L. Bragg 1917 Characteristic radiation of elements - C. G. Barkla 1924 X-ray spectroscopy - K. M. G. Siegbahn 1927 Scattering of X-rays by electrons - A. H. Compton 1936 Diffraction of X-rays and electrons in gases - P. Debye 1962 M. Perutz and J. Kendrew in Chemistry for the structure of hemoglobin. 1962 Structure of hemoglobin - M. Perutz and J. Kendrew 1979 Computed axial tomography - A. McLeod Cormack and G. Newbold Hounsfield 1981 High resolution electron spectroscopy - K. M. Siegbahn 1985 Direct methods to determine X-ray structures - H. Hauptman and J. Karle 1988 Structures of proteins crucial to photosynthesis - J. Deisenhofer, R. Huber, and H. Michel 1901 ค้นพบรังสี X-rays เป็นครั้งแรก - W.C. Roentgen 1914 X-ray Diffraction จากก้อนผลึก - M. von Laue 1915 โครงสร้างของก้อนผลึก ที่มาจาก X-ray Diffraction - W.H. Bragg และ W.L. Bragg 1917 Characteristic radiation ของ elements - C. G. Barkla 1924 X-ray spectroscopy - K. M. G. Siegbahn 1927 การแตกตัวของรังสี X-rays โดยอิเล็กตรอน - A. H. Compton 1936 Diffraction ของ X-rays และ electrons ในก๊าซ - P. Debye 1962 เคมีสำหรับโครงสร้างของHemoglobin - M. Perutz and J. Kendrew 1962 โครงสร้างของ Hemoglobin – M. Perutz และ J. Kendrew 1979 Computed axial tomography - A. McLeod Cormack และ G. Newbold Hounsfield 1981 High resolution electron spectroscopy - K. M. Siegbahn 1985 แบบแผนทางตรง ว่าด้วยการกำหนดโครงสร้างของรังสี X-rays - H. Hauptman และ J. Karie 1988 โครงสร้างของโปรตีนที่สำคัญต่อการสังเคราะห์แสงของพืช - J. Deisenhofer, R. Huber และ H. Michel จากคุณ : kate - [ 1 ธ.ค. 46 16:48:16 A:202.133.169.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 Roentgen noticed a faint green cloud appearing on a chemically treated screen placed about a yard from the experiment. It was as if a faint spark from the induction coil had been reflected by a mirror. >> Roentgen สังเกตเห็นฝ้าสีเขียวจางๆเกิดขึ้นบนฉากฉาบสารเคมีซึ่งตั้งไว้ห่างหนึ่งหลาจากจุดที่ทำการทดลอง ลักษณะเหมือนกับว่าเป็นเงาสะท้อนของประกายไฟจางๆจากขดลวดเหนี่ยวนำ Human bones, he noticed, cast a denser shadow than surrounding soft tissues- a property that would form the basis for the global medical X-ray industry we see today. >> เขาสังเกตเห็นว่ากระดูกมนุษย์ทำให้เกิดเงาทึบได้มากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่โดยรอบ คุณสมบัตินี้(ของรังสีเอ๊กซ์)เป็นพื้นฐานของอุตสาหกรรมรังสีเอ๊กซ์ทางการแพทย์ที่เราพบได้ทั่วโลกในปัจจุบัน Dr. Smith took the first X-ray image >> นพ.สมิธเป็นผู้ทำการถ่ายภาพด้วยรังสีเอ๊กซ์เป็นภาพแรก The manifold uses to which Roentgen's discovery may be applied in a medicine are so obvious that it is even now questionable whether a surgeon would be morallly justified in performing a certain class of operations without first having seen pictured by these rays the field of his work-a map, as it were, of the unknown country he is to explore. >> เป็นที่ชัดเจนว่าการค้นพบของ Roentgen มีลู่ทางนำไปประยุกต์ใช้ทางการแพทย์ได้มากมายจนทำให้เราต้องตั้งคำถามว่า ศัลยแพทย์จะลงมือทำศัลยกรรมบางอย่างได้โดยถูกจริยธรรมหรือไม่หากไม่ได้เห็นภาพล่วงหน้าของตำแหน่งที่จะทำการผ่าตัดซึ่งถ่ายด้วยรังสีเอ๊กซ์อันเปรียบเสมือนกับแผนที่นำทางสู่ภูมิประเทศของดินแดนซึ่งตนจะต้องไปสำรวจ Within months X-rays were used to locate a bullet in the brain of a 12 year-old child, a severed drainage tube in a lung, and to photograph a broken hip joint. By the end the year an electrical engineer named Wolfram C. Fuchs had performed more than 1,400 X-ray examinations. >> ในเวลาไม่กี่เดือนก็ได้มีการใช้ภาพถ่ายด้วยรังสีเอ๊กซ์เพื่อหาตำแหน่ง(locate)ของกระสุนปืนที่อยู่ในหัวสมองของเด็กอายุสิบสองขวบ และของท่อระบายหนองที่ขาด(severed)ติดอยู่ในปอด และเพื่อถ่ายภาพของข้อสะโพกหัก พอถึงสิ้นปี วิศวกรไฟฟ้าชื่อ W.C. Fuchs ก็ได้ทำการตรวจโรคด้วยรังสีเอ๊กซ์ไปกว่า 1,400 ครั้งแล้ว 1901 Discovery of X-rays - W. C. Roentgen >> การค้นพบรังสีเอ๊กซ์ 1914 X-ray diffraction from crystals - M. von Laue >> การใช้ผลึกเลี้ยวเบนรังสีเอ๊กซ์ 1915 Crystal structure derived from X-ray diffraction - W. H. Bragg and W. L. Bragg >> การหาโครงสร้างผลึกโดยการเลี้ยวเบนรังสีเอ๊กซ์ 1917 Characteristic radiation of elements - C. G. Barkla >> คุณลักษณะการแผ่รังสีของธาตุต่างๆ 1924 X-ray spectroscopy - K. M. G. Siegbahn >> การทำสเปคโตรสโกปีด้วยรังสีเอ๊กซ์ 1927 Scattering of X-rays by electrons - A. H. Compton >> การกระจายรังสีเอ๊กซ์ด้วยอีเล็กตรอน 1936 Diffraction of X-rays and electrons in gases - P. Debye >> การเลี้ยวเบนของรังสีเอ๊กซ์และอีเล็กตรอนในก๊าซ 1962 M. Perutz and J. Kendrew in Chemistry for the structure of hemoglobin. >> M.Perutz & J.Kendrew ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีเรื่องโครงสร้างสารเฮโมโกลบิน 1962 Structure of hemoglobin - M. Perutz and J. Kendrew >> โครงสร้างของเฮโมโกลบิน ( *** มันก็ไอ้เรื่องเดียวกับข้างบนนะครับ) 1979 Computed axial tomography - A. McLeod Cormack and G. Newbold Hounsfield >> การเอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์ ( Computed Axial Tomography) 1981 High resolution electron spectroscopy - K. M. Siegbahn >> การทำสเปคโตรสโกปีความละเอียดสูงด้วยอีเล็กตรอน 1985 Direct methods to determine X-ray structures - H. Hauptman and J. Karle >> ระเบียบวิธีโดยตรงเพื่อหาโครงสร้างรังสีเอ๊กซ์ 1988 Structures of proteins crucial to photosynthesis - J. Deisenhofer, R. Huber, and H. Michel >> โครงสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์แสง คุณ kate กำลังกัดคำโตเกินไปครับ ทั้งในแง่ความยากทางเทคนิคและความยากทางภาษาของเอกสาร จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 1 ธ.ค. 46 23:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Roentgen noticed a faint green cloud appearing on a chemically treated screen placed about a yard from the experiment. It was as if a faint spark from the induction coil had been reflected by a mirror. >> คุณ sober immortal ได้ตอบตรง chemically treated screen, faint spark และ induction coil ไปแล้วนะครับ Human bones, he noticed, cast a denser shadow than surrounding soft tissues- a property that would form the basis for the global medical X-ray industry we see today. ตรง soft tissues นี่ อาจจะหมายถึงเนื้อเยื่ออ่อนอย่างที่ว่าล่ะครับ แต่ผมเห็นว่า คำว่า soft ตรงนี้ เอามาใช้เพื่อเน้นว่าเนื้อเยื่อมันอ่อนนุ่มกว่ากระดูก เลยปรากฏให้เห็นเป็นภาพที่จางกว่าภาพที่ปรากฏจากส่วนที่เป็นกระดูก (ส่วนเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆกระดูกจะอ่อนนุ่มกว่าเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆในร่างกายหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน --ซึ่งถ้ามันอ่อนนุ่มกว่าเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ ก็คงจะเรียกได้ว่าเป็น "เนื้อเยื่ออ่อน" --หวังว่าคงเข้าใจประเด็นของผมนะครับ) Dr. Smith took the first X-ray image >> ก็เหมือนกับ I took photo นั่นแหละครับ The manifold uses to which Roentgen's discovery may be applied in a medicine are so obvious that it is even now questionable whether a surgeon would be morallly justified in performing a certain class of operations without first having seen pictured by these rays the field of his work-a map, as it were, of the unknown country he is to explore. >> ลองอ่านเป็น The manifold uses [which Roentgen's discovery may be applied to] are so obvious that it is even now questionable whether a surgeon would be morrally justified in performing a certain class of operations without first having seen the field of his work pictured by these rays. >> คำว่า use ในประโยคนี้เป็นคำนามครับ >> เข้าใจว่าอาจจะงงตรง having seen pictured by these rays the field of his work... ด้วย ซึ่งตัว the field of his work นั่นถูกสลับเอาไว้ตอนท้าย เนื่องจากต้องการเอา --a map, as it were, of the unknown country he is to explore เข้ามาขยายความ จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 1 ธ.ค. 46 23:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 - Characteristic radiation of elements >> คือ เค้าว่า ธาตุ (element) ต่างๆนี่ มันเปล่งรังสี (radiate--radiation) ออกมาด้วยความยาวคลื่นที่ต่างๆกัน ซึ่งความยาวคลื่นที่ว่านี่จะมีความเป็นเฉพาะตัวของมัน (characteristic) -X-ray spectroscopy >> การแยกสเป็คตรัมของรังสีเอ๊กซ์ (มั้ง) -Scattering of X-rays by electrons >> การแตกกระจายของรังสีเอ๊กซ์เมื่อถูกฉายผ่านอิเล็คตรอน (มั้ง) -Diffraction of X-rays and electrons in gases Chemistry for the structure of hemoglobin >> ฮ่า ฮ่า ไม่รู้เหมือนกัน เดาไม่ถูก -Computed axial tomography >> การแสดงภาพตัดขวางในแนวแกนจากการคำนวณ (เดาเอาว่า เค้าคงฉายรังสีเอ๊กซ์เข้าใส่วัตถุจากสามแนวแกน แล้วเอาคอมพิวเตอร์มาคำนวณอีกทีเพื่อแสดงภาพในสามมิติ...เดาอย่างเข้มข้นเลยล่ะอันนี้) -High resolution electron spectroscopy >> ลอกคุณแอ๊ดข้างบน -Structures of proteins crucial to photosynthesis >> นี่ก็ลอกเหมือนกัน ถ้ามีเวลา ลองไปค้นหาหนังสือเรียนฟิสิกส์ ม. ปลายมาลองหาคำศัพท์ดูสิครับ สมัยผมเรียน ม.ปลาย จำได้ลางๆว่ามีศัพท์แสงเกี่ยวกับเรื่อง diffraction อะไรนี่อยู่เหมือนกัน (ถ้าจำไม่ผิด เค้าใช้คำว่า การหักเหของแสง มั้งครับ) จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 1 ธ.ค. 46 23:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ติดใจนิดหน่อยตรงที่คุณ kate เขียนว่า "...เปิดดิกฯแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ เพราะมันจะอธิบายมากกว่าที่จะบอกว่าคำนี้ในภาษาไทยใช้คำว่าอะไร..." ผมว่าตรงนี้มันก็สำคัญนะครับ เรื่องการอธิบายเนี่ย เพราะถ้าเราเข้าใจที่เค้าอธิบาย เราก็อาจสามารถหาคำไทยมาสวมแทนคำนั้นได้ โดยที่อ่านแล้วเข้าใจเกือบทันที ตัวอย่างเช่น ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ cdma นี่ มีคำว่า orthogonal/orthogonality อยู่ ซึ่งถ้าเปิดดิกฯดู (อย่างในดิกฯที่ผมมีอยู่นี่) เค้าแปลว่า "of or involving right angles; at right angles" ถ้าแปลทื่อๆแบบสละสลวยก็อาจจะได้คำแปลประเภท "ซึ่งมีคุณสมบัติตั้งฉากกัน" ก็เป็นได้ ซึ่งชาวบ้านและ/หรือคนนอกวงการก็คงอ่านไม่เป็นเรื่อง (เออ...มันตั้งฉากกันแล้วมันเป็นไงต่อ) แต่ถ้าอ่านคำอธิบายศัพท์ (ในวงการ) ต่ออีกนิด จะพอทราบว่า พอตั้งฉากกันปุ๊บเนี่ย พอเอามาโชะเชะกันในเชิงคณิตศาสตร์ (หรือเชิงเวคเตอร์) ผลลัพธ์ของการโชะเชะกันจะเป็น ศูนย์--ซึ่งก็คือมันมีคุณสมบัติหักล้างกันเองได้ ดังนั้น แทนที่จะแปลว่า "ซึ่งมีคุณสมบัติตั้งฉากกัน" ก็อาจจะแปล orthogonal เป็น "ซึ่งมีคุณบัติหักล้างกันเองได้" ซึ่งอ่านหรือฟังดูแล้วท่าทางจะเข้าใจได้มากกว่า (ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรอบข้าง และศัพท์แสงในวงการนั้นๆครับ คำเดียวกันแต่ใช้ในคนละวงการ อาจบางทีไม่สามารถใช้คำแปลคำเดียวกันได้) ถ้ามีเวลาพอ ก็น่าจะทำการบ้านให้หนัก ค้นหาที่มาและคำอธิบายของศัพท์เหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจ และสามารถหาคำที่เหมาะสมมาสวมแทนได้ครับ (แหล่งค้นหาศัพท์บัญญัติที่ผมเข้าไปค้นดูประจำเวลาถูกถาม ก็คือเว็บไซต์ราชทิด http://www.royin.go.th ครับ แต่ต้องทำใจนิดนึงว่า บางครั้ง--หลายๆครั้ง--ศัพท์ที่เราต้องการก็ไม่ได้ถูกบัญญัติไว้อย่างเป็นทางการ) แหล่งข้อมูลอีกแหล่งนึงก็คงเป็น หนังสือบรรดา ปทานุกรม/พจนานุกรมศัพท์ช่าง หรืออะไรเทือกนั้น (ซึ่งถ้ายังหาไม่เจออีก คราวนี้ก็ต้องบัญญัติศัพท์เองล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 46 00:13:31 จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 2 ธ.ค. 46 00:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ ทั้งคุณหมอแอ๊ดและคุณบูมเมอร์มากเลยค่ะ ที่ตอบเข้ามา จริงๆ ตัวเองคงไม่เลือกงานแปลชิ้นนี้แน่ๆ ถ้าสามารถตัดสินใจเองได้ ก็เหมือนที่คุณหมอแอ๊ดบอกแหล่ะค่ะ กัดคำโตเกินไป แต่นี่เป็นงานที่หัวหน้าส่งมาค่ะ คือบริษัทดิฉันเป็นบริษัทเล็กๆ จ้างนักแปลไม่กี่คน และรับงานแปลทุกรูปแบบเลย นักแปลเลือกไม่ได้หรอกค่ะว่าจะแปลหรือไม่แปล งานเข้ามาคุณก็ต้องทำให้เสร็จ ส่งให้ทัน และต้องถูก ถ้าไม่รู้เรื่องเพราะไม่ถนัดในสาขานั้น ก็ต้องไปหาเอาเอง เวลาที่ให้ก็ค่อนข้างจำกัด ก็ลำบากใจพอสมควร แต่ก็คิดในแง่ดีว่านี่คงจะเป็นประสบการณ์ให้เราต่อไปในอนาคตนะคะ เพียงแต่ว่าไม่สบายใจเท่าไหร่ พอคิดว่าถ้าเราแปลผิดจะทำยังไง อยากจะทำงานให้ดีที่สุดน่ะค่ะ ไม่อยากให้มันผิด เพราะถ้าผิดเราก็ต้องรับผิดชอบ ตัวเองก็เพิ่งจะหัดเดินอยู่เหมือนกัน จากคุณ : kate - [ 2 ธ.ค. 46 06:24:18 A:203.144.143.250 X:202.133.159.188 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในเรื่องของการใช้ดิก ฯ ก็ต้องขอบคุณคุณบูมเมอร์มากนะคะที่แนะนำ จริงๆ ดิกฯที่มีอยู่ มันเป็นดิกฯธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ใช่ดิกฯในวงการน่ะค่ะ อ่านแล้วก็เลยงง พอจะแปลตามแบบที่ตัวเองเข้าใจก็กลัวว่า มันจะไม่ใช่คำที่คนในวงการเขาใช้กัน จะผิดและโดนหัวเราะเยาะเสียเปล่าๆ ก็เลยไม่กล้าแปลค่ะ กำลังคิดว่าถ้าจะต้องแปลงานแนวนี้ไปอีกเรื่อยๆ คงต้องไปซื้อดิกฯในวงการมาเสียที แต่อย่างไรขอบคุณมากนะคะที่แนะนำแนวทางให้ จะนำไปปฏิบัติค่ะ จากคุณ : kate - [ 2 ธ.ค. 46 06:30:38 A:203.144.143.250 X:202.133.159.188 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เป็นไรหรอก ทำไปเรียนไป ถ้าคุณตั้งใจจริง ขยัน และพร้อมที่จะขยายโลกทัศน์ อีกหน่อยก็จะดีขึ้นเมื่อสร้างสมประสบการณ์ได้มากกว่านี้ ระหว่างนี้ก็มาแปะถามได้ที่นี่แหละครับ ยินดีตอบ แล้วอย่าลืมเผื่อแผ่น้องๆด้วยก็แล้วกันเมื่อคุณเก่งแล้ว ร่วมด้วยช่วยกันครับ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 2 ธ.ค. 46 09:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบพระคุณมากค่ะ คุณหมอแอ๊ด จากคุณ : kate - [ 2 ธ.ค. 46 11:12:48 A:202.133.169.126 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ kate, ทักษะที่สำคัญที่สุดในการแปลก็คือต้องอ่าน dictionaries อังกฤษ-อังกฤษ ให้เข้าใจแตกฉาน เพราะ dictionaries อังกฤษ-ไทย ยังมีคำศัพท์น้อยเกินไป...(และมีข้อผิดพลาดที่มากมาย) ...ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อ cross-reference ได้เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการตีความต้นฉบับภาษาอังกฤษ... ลองไปที่เว็บเราสิ เราทำ links ไปที่ dictionaries ศัพท์เฉพาะทางมากมาย.....ลองเข้าไปดูที่ www.thai.net/plaa แล้วเขียนกระดานข่าวติชมหน่อยนะจ๊ะ จากคุณ : drunken immortal (tansy) - [ 4 ธ.ค. 46 18:12:41 A:202.129.0.164 X: ]