ความคิดเห็นที่ 1 **** (ต่อไปนี้จะเป็น spoiler แล้วค่ะ) **** เรื่องเริ่มจากการพบศพหัวหน้าผู้พิพากษาฮีลลีย์นอนเปลือยอยู่ในโรงนา มีแมลงและหนอนนับพันตัวชอนไชศพเป็นเวลาหลายวันก่อนคนมาพบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นคือมีคนฟาดศีรษะฮีลลีย์จนเสียชีวิตก่อนทิ้งศพเขาไว้ให้หนอนกัดกิน แต่สาวใช้ที่พบศพให้เบาะแสประหลาด เธอบอกว่าเมื่อย้ายศพของท่านผู้พิพากษานั้น เขายังไม่ตาย! ผู้กำกับการตำรวจบอสตัน..จอห์น เคิร์ทซ์..ร้อนใจกับคดีนี้มาก เพราะฮีลลีย์เป็นคนชั้นสูงในสังคมและศาล กรมตำรวจถูกภรรยาม่ายของท่านผู้พิพากษากดดันให้เร่งสืบหาคนร้ายมาลงโทษ ระหว่างที่สายตรวจนิโคลัส เรย์กำลังต้อนบรรดาผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำที่สถานี ชายจรจัดคนหนึ่งกระซิบข้อความที่ฟังไม่ออกแนบหูเขา แล้วกระโดดฆ่าตัวตายท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน สายตรวจเรย์ข้องใจกับข้อความปริศนานั้น ถึงขนาดสืบเสาะหานักภาษาศาสตร์มาตีความ ทางมหาวิทยาลัยแนะนำให้เขามาพบลองเฟลโลว์ ซึ่งรับปากจะลองค้นหาคำตอบให้ แล้วฆาตกรก็ลงมืออีกครั้ง สาธุคุณทัลบอตถูกจับฝังดินโดยหันหัวลง เท้าที่โผล่พ้นดินขึ้นมามีผ้าพันแล้วจุดไฟเผา ดร. โฮล์มส์ที่ตามตำรวจเข้าไปดูศพรู้สึกติดใจกับภาพที่เห็น เขาแน่ใจว่าเคยเห็นภาพนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วก็นึกออกว่า “ดังเต้นั่นเอง” “Dai calcagni a le punte” Holmes whispered aloud: From their heels to their toes—that’s where the corrupt clerics, the Simoniacs, burn forever in their craggy ditches. His heart sank. “Dante! It’s Dante!” จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 05:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดร. โฮล์มส์รีบเล่าเรื่องนี้ให้สมาชิกอีกสามคนรู้ ลองเฟลโลว์ค้นกระดาษที่เจ้าหน้าที่เรย์เขียนจากสิ่งที่เขาได้ยินชายจรจัดซึ่งฆ่าตัวตายพูด ปรากฏว่าเรย์สะกดผิดแต่อ่านได้เสียงเหมือนกลอนใน Inferno ช่วงคำจารึกหน้าประตูนรกว่า “Before me nothing was created. If not eternal, and eternal I shall endure. All hope abandon, ye who enter” ... งานแปลหยุดชะงัก เหมือนคนที่กำลังจะเข้านรกต้องหยุดเมื่อเห็นคำเตือนให้ละความหวังก่อนเข้าไป แต่เจมส์ โลเวลกระตุ้นทุกคนให้ฮึดสู้ด้วยกลอนอีกบท “ you and I are old: Old age hath yet his honor and his toil. Death closes all: but something ere the end. Some work of noble note, may yet be done ” ลองเฟลโลว์และฟิลดส์ร่ายกลอนช่วงต่อไป “ the deep Moans round with many voices. Come, my friends, ‘T is not too late to seek a newer world ’ and tho’ We are not now that strength which in old days Moved earth and heaven, that which we are, we are, ’” ดร. โฮล์มส์ที่ยังลังเลอยู่ต่อกลอนจนจบ เป็นการแสดงเจตนารมย์ว่าจะหาตัวฆาตกรที่กำลังทำร้ายชาวเมืองบอสตันให้ได้ก่อนที่ตำรวจจะเอะใจและตามรอยเบาะแสมาถึง Divine Comedy แล้วทำลายโอกาสประกาศความยิ่งใหญ่ของดังเต้ในอเมริกา บรรยายภาพ: ห้องทำงานของเฮนรี่ ลองเฟลโลว์ในเคร้กกี้เฮ้าส์ เป็นห้องที่เขาภูมิใจมากเพราะจอร์จ วอชิงตันวางแผนยึดบอสตันในห้องนี้ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 05:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พวกเขาตั้งฉายาฆาตกรว่า “ลูซิเฟอร์” และเริ่มวิเคราะห์ว่าคุณสมบัติโดยรวมของลูซิเฟอร์ เช่น รู้ภาษาอิตาเลี่ยน เคยอ่านงานของดังเต้ คิดขัดขวางการเผยแพร่แนวคิดของดังเต้ในอเมริกา ฯลฯ และวิเคราะห์ว่าเหยื่อฆาตกรรมแต่ละรายถูกลงโทษแบบนั้นเพราะทำผิดอะไร ...ผู้พิพากษาฮีลลีย์เพราะไม่ยอมช่วยคนที่ช่วยได้ สาธุคุณทัลบอตเพราะเงิน (แม้จะไม่รู้ว่าเป็นเงินสุจริตหรือคดโกงมา) เมื่อค้นพบว่าลูซิเฟอร์ลงมือฆาตกรรมตาม contrapasso ก่อนการนัดประชุมที่เคร้กกี้เฮ้าส์สามวัน พวกเขาสรุปว่าลูซิเฟอร์กำลังท้าทายพวกเขา และการสืบนี้กลายเป็นการแข่งขันระหว่าง Dante Club กับลูซิเฟอร์ โดยมีการแจ้งเกิดของดังเต้ในอเมริกาเป็นเดิมพัน ภาพซ้าย: ภาพวาดดังเต้ใน Commedia เมื่อหลงทางแล้วเจอเวอร์จิล ภาพขวา: ภาพเฟรสโกในฟลอเรนซ์; Domenico di Michelino (1417-1491) จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 05:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สมาชิกทุกคนเริ่มลงมือสืบเต็มที่ มีการตามล่าหารายชื่อชาวอิตาลีในบอสตัน การสะกดรอยผู้ต้องสงสัย การไปสืบในที่เกิดเหตุอีกครั้ง อันเป็นเหตุให้ค้นพบเรื่องน่าสยอง เช่น หนอนที่ชอนไชตัวผู้พิพากษาฮีลลีย์ไม่ใช่พันธุ์ที่พบในประเทศหนาว และมันกัดกินเนื้อเยื่อที่ยังมีชีวิตอยู่ หมายความว่าฮีลลีย์ยังไม่ตายจริง ๆ ตามที่สาวใช้อ้าง แล้วลูซิเฟอร์ก็ลงมืออีกครั้ง คราวนี้ เพื่อนชื่อฟิเนียส เจนนีสันของโลเวลถูกฆ่าชำแหละศพตามวิธีลงโทษพวก Schismatic ในนรกของดังเต้ ทุกอย่างเริ่มตึงเครียดเมื่อสายตรวจเรย์ค้นพบความเกี่ยวโยงระหว่างดังเต้กับคดีฆาตกรรม ... ดร. โฮล์มส์ทนความกดดันไม่ไหว ขอวางมือจากการสืบจนทะเลาะกับโลเวล ... นักเรียนคนหนึ่งของโลเวลดูเหมือนจะหายตัวไป ฯลฯ ...เล่ามากกว่านี้คง spoiler เกินไป แต่บอกได้ค่ะว่าเหตุผลและการตัดสินใจของฆาตกรคือ twist ที่ทำให้อ่านไปจวนจบแล้วต้องหันกลับมาทบทวนเนื้อเรื่องทั้งหมดอีกรอบ และลูซิเฟอร์ไม่ใช่ตัวร้ายที่อยู่ ๆ ก็โผล่มา แต่เป็นคนที่ปรากฏในเรื่องเกือบจะตลอดเวลา..แต่เราไม่มีทางทายได้เลย บรรยายภาพ: การลงโทษพวก Schismatic ที่ดังเต้และเวอร์จิลเห็นในนรก ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 05:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลืมย่อรูป.. จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 05:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เนื่องจากเนื้อเรื่องใน Dante Club อ้างอิง Divine Comedy มาก เลยอยากพูดถึงดังเต้เล็กน้อยค่ะ Dante Alighieri (1265-1321) เป็นกวีและนักปรัชญาชาวอิตาเลี่ยน ผู้นิยมแนวคิดแบบ “พบกันครึ่งทาง” ระหว่างอาณาจักรกับศาสนจักรในโรมัน ซึ่งในช่วงนั้นเกิดขัดแย้งกันอย่างรุนแรงว่าฝ่ายใดควรจะปกครองราชอาณาจักร ดังเต้เป็นผู้เสนอแนวคิดจนทั้งสองฝ่ายปรองดองกันได้ ดังเต้เกิดที่เมืองฟลอเรนซ์ เขาเริ่มชีวิตด้วยการเป็นทหาร ต่อจากนั้น ศึกษาวิชาการหลายแขนง ทั้งกวีนิพนธ์ ปรัชญาโบราณ ศาสนวิทยา คณิตศาสตร์ จิตรกรรมและปรัชญา ช่วงที่ดังเต้เกิด เมืองฟลอเรนซ์เต็มไปด้วยความยุ่งยากและขัดแย้งระหว่างคนขาวกับคนดำ อิตาลีแทบล่มสลายเพราะสงครามกลางเมืองระหว่างผู้สนับสนุนพระสันตะปาปากับผู้สนับสนุนอำนาจจักรพรรดิโรมันที่มีอำนาจเหนือโรม เมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างคนขาวกับคนดำในฟลอเรนซ์อีกครั้ง ดังเต้และคณะบริหารปกครองเมืองปฏิเสธไม่ช่วยเหลือฝ่ายศาสนจักรซึ่งเข้าข้างคนดำ ในปีค.ศ. 1301 ดังเต้ถูกส่งตัวไปกรุงโรมเพื่อจัดให้มีแผนฟื้นฟูสันติภาพ ระหว่างนั้น ฝ่ายคนดำยึดอำนาจได้ และสถาปนาอำนาจของพระสันตะปาปาให้กลับมามีอำนาจเหนือเมืองฟลอเรนซ์อีกครั้ง ดังเต้ถูกเนรเทศห้ามเข้าฟลอเรนซ์ในปี 1302 หากเข้าไปจะถูกจับเผาทั้งเป็น ผลคือดังเต้ใช้ชีวิตพเนจรอยู่ต่างประเทศ เขียน La Commedia หรือ Comedy (คำว่า Divine ถูกนักพิมพ์ชาวอิตาลีเพิ่มเข้ามาในทศวรรษ 1550) จนจบและสิ้นใจโดยไม่เคยได้กลับฟลอเรนซ์ไปพบหน้าลูกเมียอีกเลย จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Divine Comedy เป็นงานประพันธ์ของดังเต้ในช่วงถูกเนรเทศ เริ่มจากดังเต้นอนหลับในป่าแล้วเลี้ยวผิดทาง ดังเต้ได้พบกับกวีเวอร์จิลซึ่งมานำทางเขาผ่านประตูนรกเข้าไปดูชีวิตหลังความตาย ดังเต้ได้เดินทางไปเห็น Purgatory (ดินแดนสำหรับวิญญาณที่ไม่โดนลงโทษรอการชำระบาปก่อนขึ้นสวรรค์), Inferno (นรก) และ Paradise (สวรรค์) ภาพ: Topography of Hell; Bartolomeo di Fruosino, c.1420 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Inferno คือส่วนที่ถูกอ้างอิงในนิยายเรื่องนี้ นรกที่ดังเต้เห็นแบ่งออกเป็นชั้น ๆ ทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นมีสภาพภูมิศาสตร์ต่างกัน (แอ่งโคลนฝนตกตลอด เมืองล้อมกำแพง ป่า หุบเหว แม่น้ำเลือด ร่องดิน) และเป็นสถานลงโทษต่างทัณฑ์กันสำหรับผู้ทำบาปแต่ละกลุ่ม เมื่อผ่านประตูนรกมาจะพบ Minos คอยพิพากษาและส่งคนบาปไปนรกแต่ละชั้น แต่ละชั้นมักมีสัตว์ประหลาด เช่น เซเรบัส พลูตัส เซนธอร์ คอยเฝ้าไม่ให้คนบาปหลบหนี บาปต่าง ๆ ได้แก่ ล่วงประเวณี, ตะกละ, โลภ, ใช้จ่ายไม่สมเหตุผล..ทั้งพวกที่ฟุ่มเฟือยหรือไม่ใช้เลย, โมโหโทโส, ไม่เชื่อในพระเจ้า, ทรราชย์, ฆ่าตัวตาย, สอพลอ, ขโมย, หลอกลวง, ผูกพยาบาท ฯลฯ การลงโทษมีตั้งแต่แช่โคลน ตากฝน ดมกลิ่นเหม็น แช่ในน้ำโสโครก, ล่องลอยในกระแสพายุชั่วนิรันดร์, โดนสุนัขไซเบอร์รัสในตำนานกัดทึ้ง, กัดกินกันเองในแม่น้ำสติงซ์, นอนในหีบศพที่ไฟลุกไหม้, เป็นวิญญาณห้อยอยู่กับกิ่งไม้, เปลือยร่างนอนขณะสะเก็ดไฟตกจากฟ้า, จับแช่น้ำเดือด, โดนตอกอยู่ระหว่างหิน, โดนปีศาจเฆี่ยนตี, โดนผ่ากลางตลอดลำตัว ฯลฯ โดยการลงโทษพวกนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีวันหยุด ระหว่างการเดินทาง ดังเต้ได้พบผู้มีชื่อเสียง ศัตรู เพื่อนและญาติมากมายกำลังรับโทษต่างกัน ยิ่งเข้าไปในนรกลึกมากขึ้น บาปที่ทำก็ยิ่งร้ายแรง โทษทัณฑ์ก็หนักหนามากขึ้น ดังเต้ได้พบกับตัวซาตานและการลงโทษสุดท้าย คือโดนจับแก้ผ้าแช่ในน้ำแข็งเมื่อเขาไปถึงนรกชั้นเก้า ภาพ: สัตว์ประหลาดที่ปรากฏใน Dante's Inferno ได้แก่ Minotaur, Minos, Centaur, Cerberus และ Geryon จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตัวละครใน Dante Club เจมส์ รัสเซล โลเวล (James Russell Lowell) เป็นศาสตราจารย์ที่รับตำแหน่งสอนในฮาร์วาร์ดต่อจากลองเฟลโลว์ เขาค่อนข้างมีอิทธิพลในวงการเพราะเป็นบรรณาธิการนิตยสารถึง 2 ฉบับคือ the Atlantic Monthly และ the North American Review นอกจากนั้น ยังเป็นกวีที่ดังตั้งแต่ยังหนุ่ม และอาจเพราะอายุน้อยกว่าทุกคนในกลุ่มนั่นเอง เขาถึงมีความคิดก้าวหน้า เปิดเผย ใจร้อนมุทะลุ จนบางครั้งต้องมาเสียใจกับสิ่งที่พูดไปในภายหลัง เจมส์ โลเวลกับดร.โฮล์มส์เป็นเพื่อนคู่กัดที่พยายามชิงดีชิงเด่นกันในที ในขณะที่ศจ. ลองเฟลโลว์คือผู้ที่โลเวลเคารพนับถือในความสามารถ รายละเอียดของเขาและผลงานที่พูดถึงในนิยายตรงกับตัวจริงที่เคยมีชีวิตในช่วงปี 1819-1891 ค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดร. โอลิเวอร์ เวนเดล โฮล์มส์ (Dr. Oliver Wendell Holmes) เป็นแพทย์ กวีและนักพูด (ตามที่เขาเรียกตัวเอง) ตัวจริงของโฮล์มส์มีบทบาทในวัฒนธรรมมากแม้ว่าตลอดชีวิตเขาจะไม่เคยเป็นสุดยอดกวีแห่งนิวอิงแลนด์ เพราะเขาเป็นคนบัญญัติชื่อนิตยสารและศัพท์ไว้มากมาย เช่น the Atlantic Monthly, “Hub of the Universe”, “Boston Brahmins” และ anesthesia ซึ่งเขาสรุปให้เรียกว่าอีเธอร์ ดร. โฮล์มส์เป็นคนดังในสังคมไม่แพ้โลเวล และเป็นคนเก่งหลายด้าน ชอบสังคม ขณะเดียวกันก็เป็นคนรอบคอบ พยายามรักษาทั้งประโยชน์ส่วนรวมและส่วนตัวไปพร้อมกัน จึงออกจะดูเหมือนคนโลเลในบางครั้ง เขาเข้าร่วม Dante Club โดยถือเสมือนเป็นการเข้าร่วมสโมสรอะไรสักอย่าง และเป็นสมาชิกที่มีแววจะลาออกเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวมากที่สุด แต่เขากลับเป็นคนแรกที่เชื่อมโยงการฆาตกรรมเข้ากับดังเต้ และมีบทบาทในการไขปริศนามากกว่าคนอื่น จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เจมส์ ที. ฟิลดส์ (James T. Fields) เป็นหุ้นส่วนอาสุโสและผู้จัดพิมพ์ชื่อดังในอเมริกา เขาไม่ใช่กวีหรือนักเขียน แต่เป็นคน “ตาถึง” ในเรื่องวรรณกรรม ทำให้ไต่เต้าจากเด็กฝึกงานจนได้เป็นผู้บริหารสนพ. Tickner, Fields & Co ที่เป็นกิจการแบบครอบครัวได้ทั้งที่เขาไม่ใช่คนในสกุลทิคเนอร์เลย เมื่อ Harvard Corporation ขู่จะยกเลิกและไม่ส่งงานมาพิมพ์กับสนพ.อีก ถ้าเขาพิมพ์ Divine Comedy ฉบับแปล ฟิลดส์ไม่แคร์และลงบทความสนับสนุนโครงการของลองเฟลโลว์เป็นการท้าทาย เขาเป็นสมาชิกในกลุ่มที่คอยไกล่เกลี่ยไม่ให้โลเวลและดร.โฮล์มส์ขัดแย้งกันมากจนถึงขั้นบาดหมางใจกัน [ตรงนี้เป็นความเห็นส่วนตัว] อย่าเพิ่งคิดว่าเขาเป็นพวกแก่อุดมการณ์ เปล่าเลย... ฟิลดส์ เพิ่งรับสืบทอดกิจการของศาสตราจารย์วิลเลี่ยม ทิคเนอร์คนพ่อมา วิลเลี่ยม ทิคเนอร์เป็นศาสตราจารย์อยู่แล้ว จึงทำตัวกลมกลืนกับโลกวรรณกรรมได้ แต่ตอนนี้ ฟิลดส์ต้องบินเดี่ยว เดาได้เลยว่านักธุรกิจอย่างเขาย่อมมีความลำบากใจอยู่บ้างในการทำความคุ้นเคยกับนักกวีเจ้าของผลงานที่ตีพิมพ์ เขาเริ่มได้ใกล้ชิดสนิทสนมและผูกมิตรกับกวีพวกนั้นเมื่อเข้าร่วม Dante Club ในปีแรกที่ต้องบริหารงานโดยไม่มีทิคเนอร์เป็นหลัก โครงการแปล Divine Comedy จึงมีความสำคัญทั้งในแง่ธุรกิจและชื่อเสียงส่วนตัว เพราะถ้าหนังสือขายดี เขาจะได้ทั้งเงินทั้งกล่อง เจ้า “กล่อง” นี่แหล่ะที่จะพิสูจน์ว่าเขาบริหารสนพ. คนเดียวได้อย่างประสบความสำเร็จ ศจ.ทิคเนอร์คนปู่พูดถึงฟิลดส์ไว้ว่า... “I’m afraid, Doctor, that while Mr. Fields knows what people read, he shall never quite understand why. He grows carried away by the enthusiasm of close friends. A dangerous trait.” จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เฮนรี่ เวดสวอร์ธ ลองเฟลโลว์ (Henry Wadsworth Longfellow) กวีรุ่นเก๋าที่เก็บตัวเงียบจากงานสังคม หลังเสียภรรยาไปในอุบัติเหตุที่เหลือรอยแผลเป็นไว้บนหน้าเขา ลองเฟลโลว์เก็บตัวในเคร้กกี้ เฮ้าส์ ละทิ้งงานกลอนหันมาทุ่มเทแปล Divine Comedy โดยได้เพื่อนกวีรุ่นหลังคอยสนับสนุน แต่ถึงจะไม่ออกงานบ่อยนัก (จากที่อ่านในนิยายเรื่องนี้) ลองเฟลโลว์กลับเป็นที่รักใคร่และมีชื่อเสียงในโลกวรรณกรรมยิ่งกว่าใครในชมรม ในความเป็นจริง เฮนรี่ ลองเฟลโลว์เป็น “เสียงหลักในวงการวรรณกรรม” คนหนึ่งในศตวรรษที่ 19 และมีชื่อเสียงไม่แพ้เทนนีสันและดิคเก้นส์ มีช่วงหนึ่งในนิยายเปรียบไว้ว่า “หากนักศึกษาคนใดคนหนึ่งของโฮล์มส์เคยประสบพบพานบทกวีแท้จริงแล้วไซร้ ก็น่าจะเป็นงานของลองเฟลโลว์เสียส่วนใหญ่ เพราะชื่อเสียงโด่งดังของโฮล์มส์เป็นเหมือนการกระจายข่าวซุบซิบ เมื่อนักศึกษาคนหนึ่งที่อ่านแล้วถามอีกคนว่า “คุณยังไม่อ่านดิ ออโตแครท เหรอ?” กล่าวได้ว่าเป็นความโด่งดังจากกิตติศัพท์ (reputation of reputation) ซะมากกว่า” ดังเต้ประพันธ์ Divine Comedy เพื่อระบายความเศร้าและขมขื่นในฐานะผู้ถูกเนรเทศ ลองเฟลโลว์แปล Divine Comedy เพื่อลืมความเศร้าจากการสูญเสียภรรยา จุดที่น่าสังเกตคือดังเต้เริ่มแต่งจากนรกไปสวรรค์ แต่ลองเฟลโลว์แปลจากสวรรค์ลงมานรก ...อาจพูดได้ว่าการรวมกลุ่มตั้ง Dante Club เป็นเสมือนประตูเชื่อมโยงเขากับโลกภายนอกนั่นเอง จากชีวประวัติของเขา ลองเฟลโลว์ ประทับใจช่วงนี้ในนิยายค่ะ Since that summer, society had sorely missed the soothing presence of Henry Wadsworth Longfellow. Longfellow wrote his friends notes declining all invitations that would have compelled him to leave Craigie House, explaining that he was occupied. He had begun translating Dante, he said, and did not plan to stop: I have this work when I can do nothing else. Coming from the reticent Longfellow, these notes were screaming laments. He was outwardly calm but inwardly bleeding to death. ภาพลองเฟลโลว์ในช่วงอายุต่างกัน จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จอร์จ วอชิงตัน กรีน (George Washington Greene) นักประวัติศาสตร์และนักเทศน์ มักถูกเรียกเป็น “คนแก่” ในกลุ่มทั้งที่อายุมากกว่าลองเฟลโลว์เพียง 2 ปี และแก่กว่าโฮล์มส์ 4 ปี เขาป่วยเรื้อรังมาหลายปี แต่ก็กระตือรือร้นจะเดินทางจากโร้ดไอส์แลนด์มาร่วมเกลาสำนวนแปลที่เคร้กกี้เฮ้าส์ทุกสัปดาห์ สมาชิกในกลุ่มตัดเขาจากเรื่องสืบสวนคดีฆาตกรรมเพราะรู้สึกว่าเขา “แก่” เกินไปสำหรับงานนี้ ถึงบทบาทจะน้อย แต่กรีนก็ทิ้งความประทับใจไว้ได้มากทีเดียวในเรื่อง บางที เขาอาจเป็นสมาชิกคนที่หลงไหล Divine Comedy มากกว่าใครเพื่อนก็ได้ ดร. ออกัสตัส แมนนิ่ง (Dr. Augustus Manning) เป็น treasurer ของ Harvard Corporation เขาเชื่อว่าวรรณกรรมภาษาอิตาลี สเปนและเยอรมันคือแหล่งรวมแนวคิดเสื่อมโทรมไร้สาระของยุโรป ซึ่งไม่ควรนำเข้ามาสร้างความแปดเปื้อนแก่ฮาร์วาร์ดของเขาเป็นอันขาด ดังนั้น เขาจึงใช้อำนาจในมือพยายามทุกวิถีทางเพื่อบ่อนทำลายและหยุดยั้งการแปล Divine Comedy ตั้งแต่การพยายามแทรกแซงการสอนของเจมส์ รัสเซล โลเวล, จ้างนักสืบมาสอดแนม dante club, ขู่จะเลิกทำธุรกิจกับสนพ. ของฟิลดส์, วางแผนติดสินบนดร. โฮล์มส์ ฯลฯ นิโคลัส เรย์ สายตรวจกรมตำรวจ นายตำรวจผิวสีคนเดียวในเมือง ซึ่งในขณะนั้นยังมีการเหยียดสีผิวในหมู่คนบางกลุ่มอยู่ แม้แต่ทางการเองก็ให้อำนาจกับเรย์แค่กึ่งหนึ่ง คือไม่มีสิทธิ์พกปืน ห้ามทำการจับกุมคนร้ายด้วยตัวเอง ทำได้แต่เดินตรวจตามถนน สืบหาข้อมูล ขับรถให้ผู้กำกับการตำรวจเคิร์ทซ์ ฯลฯ แต่เรย์มี “กึ๋น” ของตำรวจ เขารู้ว่าเบาะแสไหนที่มีค่าควรแก่การติดตาม และเขาตามรอยไปจนถึง Dante Club โดยไม่รู้ตัว จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อาร์ทีมัส เพรสค็อต ฮีลลีย์ หัวหน้าผู้พิพากษาซึ่งถูกพบในสภาพนอนเปลือยเปล่ามีหนอนและแมลงชอนไช อันเป็นลักษณะการลงโทษพวก Neutrals ในนรกของดังเต้   ในเรื่อง ผู้พิพากษาฮีลลีย์เพิ่งส่งตัวทาสชื่อซิมส์กลับประเทศ ทั้งที่เขามีอำนาจจะลบล้างการใช้กฏหมายส่งตัวทาสคืนเจ้าของ หรือ Fugitive Slave Act ได้ ใน Dante's Inferno นิยามให้ Neutrals เป็นพวกที่ยามมีชีวิตอยู่งอมืองอเท้าไม่ช่วยเหลือหรือกระทำการในกิจที่สมควรทำ จึงต้องโทษให้ได้รับความตายที่เหมือนไม่ตาย   กวีเวอร์จิลบอกให้ดังเต้เดินผ่าน “เหล่าคนขลาดที่ทำการปฏิเสธครั้งยิ่งใหญ่” ไปโดยไม่พูดคุยด้วย  ดังนั้น ผู้รู้จึงได้แต่เดาว่าดังเต้ยกตัวอย่างใครไว้ในเรื่อง   ชาวอิตาลีเชื่อว่าดังเต้หมายถึง Pietro da Morrone ซึ่งได้รับเลือกเป็น  Pope Celestine V ในปี 1294 แต่เขาลาออกจากตำแหน่ง 5 เดือนต่อมา  จึงถูก Bonafice VIII ที่รับตำแหน่งต่อจากเขาจับขังไว้ แต่สมาชิกใน Dante Club ส่วนหนึ่งเชื่อว่าหมายถึงปอนเตียส ปีลาต (Pontius Pilate) เจ้าเมืองซึ่งไม่สนับสนุนและไม่ห้ามการจับพระเยซูคริสต์ตรึงกางเขน [ในไบเบิ้ล ปีลาตปล่อยนักโทษคนหนึ่งไป และบอกให้ฝูงชนตรึงกางเขนพระเยซูหากพวกเขาต้องการ ทั้งที่รู้ว่าพระองค์ถูกจับเพราะความอิจฉา] ภาพ: Neutrals ที่ขยายจากภาพ Topography of Hell แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 47 16:35:50 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สาธุคุณอีไลชา ทัลบอต  เหยื่อที่ถูกฆาตกรยึดเป็นพวก Simonist หรือนักบวชที่ใช้อำนาจเพื่อแสวงหาลาภทรัพย์ตามคำบรรยายนรกของดังเต้   ในนิยาย สาธุคุณทัลบอตเคยรับคนจากยุโรปมาอเมริกา แล้วส่งไปทำงานสร้างทางรถไฟ  ผู้อพยพพวกนี้ต้องล้มตายไปมากมาย ทิ้งภรรยาและลูกให้ลำบาก  ทัลบอตที่ได้ "ค่าเหนื่อย" จากการรับผู้อพยพรีบถอนตัวออกมาก่อนชื่อเสียงจะแปดเปื้อน โทษของพวก Simonist คือจับฝังเอาหัวลงขณะที่ขาถูกไฟเผาในหลุมศพ   อันเป็นการลงโทษแบบเดียวกับที่คนในสมัยของดังเต้นิยมใช้กับพวกลอบสังหาร   ผู้ที่โดนลงโทษแบบนี้ใน Divine Comedy คือซีโมน มากัส นักบวชที่ขอซื้อพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยเหรียญทอง [กิจการของอัครทูต viii 22]   และโป้ปนิโคลัสที่สาม ภาพ: Simoniacs ที่ขยายจากภาพ Topography of Hell แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 47 16:38:25 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 06:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาคุยถึงสถานที่บ้าง ชมรมดังเต้นัดพบกันทุกสัปดาห์ที่บ้านเคร้กกี้เฮ้าส์ของเฮนรี่ ลองเฟลโลว์ ซึ่งมีอยู่จริง แม้แต่ร้านเหล้า Red Tavern ในนิยายเรื่องนี้ก็มีจริงเช่นกัน Craigie House ในเคมบริดจ์ แมสซาชูเซตส์ สร้างโดยจอห์น วาสเซิลในปี 1759 ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าไปชมศิลปะและงานวรรณกรรมได้ เคร้กกี้เฮ้าส์เข้าไปมีบทบาทในยุคอาณานิคมของอเมริกาหลังจอห์น วาลเซิลย้ายไปเพราะภัยสงคราม นายพลจอร์จ วอชิงตันใช้บ้านนี้เป็นศูนย์บัญชาการและวางแผนยึดบอสตันในช่วงกรกฎาคม 1775 ถึงเมษายน 1776 ต่อมา เฮนรี่ ลองเฟลโลว์ที่กำลังหางานสอนเช่าบ้านนี้จากมิสซิสเคร้กกี้ บ้านตกเป็นของนาธาน แอปเปิ้ลตันซึ่งยกบ้านให้ลองเฟลโลว์เป็นของขวัญวันแต่งงานระหว่างลูกสาวของเขากับลองเฟลโลว์ (เป็นการแต่งงานครั้งที่สองของเขา) ลองเฟลโลว์อยู่ที่บ้านนี้นานเกือบครึ่งศตวรรษจนเขาเสียชีวิต (1837-1882) เขาใช้บ้านนี้ต้อนรับนักปรัชญาและศิลปินนับไม่ถ้วน ทั้งราล์ฟ วัลโด้ อีเมอร์สัน, นาธาเนี่ยล ฮอว์ธอร์น, จูเลีย วอร์ด โฮว์และชาร์ลส์ ซัมเนอร์ เคร้กกี้เฮ้าส์ได้รับการประกาศเป็น National Historic Site ในปี 1972 ภาพ: Cragie House ในปี 1900 (ซ้าย) และปัจจุบัน (ขวา) จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 07:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จริง ๆ ยังมีตัวละคร (ที่มีตัวตนจริง) น่าสนใจอีกหลายคน  และยังมีเกร็ดน่าสนใจจากหนัง Hannibal ที่พูดถึงดังเต้ และการพบกระดูกของดังเต้ (ซึ่งมีเอ่ยถึงในนิยาย) ด้วย ..แต่เนื่องจากวันหยุดหมดแล้ว คงต้องจบแค่นี้ก่อนค่ะ ก่อนไป มารู้จักหน้าตาคนแต่ง Dante Club หน่อย MATTHEW PEARL จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สาขาวรรณคดีอังกฤษและอเมริกาในปี 1997 ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง  เขาได้รับรางวัล Dante Prize จาก Dante Society of America   เขาเริ่มเขียน Dante Club ในขณะที่เริ่มเรียนกฏหมาย และจบจากที่นั่นในปี 2000 (วุฒิ J. D.)   Dante Club เป็นนิยายเรื่องแรกของเขา ซึ่งจะถูกแปลไปทั่วโลกกว่า 20 ภาษา แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 47 19:43:04 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 เม.ย. 47 07:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แวะเข้ามาร้องกรี๊ดครับ ว้าว แบบนี้คงต้องกลับไปอ่านใหม่ดีกว่า ขอบคุณมากครับสำหรับ Guideline จากคุณ : Filippo - [ 19 เม.ย. 47 08:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณยาคูลท์ ต่อมอยากรู้ทำงานอย่างรุนแรงค่ะ เดี๋ยวไปตามหามาอ่านบ้างดีกว่า :) จากคุณ : นารูมิ - [ 19 เม.ย. 47 08:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่าสนใจดีนะคะ ไว้มีโอกาสจะลองหามาอ่าน ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากคุณ : nuannutch - [ 19 เม.ย. 47 09:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หงะ ยังอ่าน Divine Comedy มะจบเลยค่ะ ไม่กล้าอ่านสปอยเลอร์เลย อิอิ จากคุณ : -) - [ 19 เม.ย. 47 16:00:44 A:68.40.243.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 เซฟฟฟเอาไว้ค่ะคุณยาคูลท์ เมื่อวันก่อนไอซ์แวะไปร้านหนังสือ เกือบซื้อเล่มนี้มาแล้วแหล่ะ แต่พอดีราคามัน 6.99 ปอนด์ แล้วเล่ม Wild Swan มัน 9.99 ปอนด์ ในวงซื้อ 2 แถมหนึ่ง ด้วยความงก ก็เลยต้องหาหนังสือราคาใกล้เคียงกัน กร๊ากกก เลยได้ 1421 กับ An Instance of the fingerpost เพิ่มมาแทน ยิ่งอ่านรีวิวแล้วยิ่งอยากอ่านมาก ๆ เลยค่ะ โฮะ ๆ เล่มนี้ งวดหน้า ไม่รอดมือแน่ ๆ ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 19 เม.ย. 47 17:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอปรบมือและขอบคุณคุณยาคูลท์ค่ะ รีวิวได้ดีมากๆ เลย ยิ่งอ่านรีวิวแล้วยิ่งอยากอ่านมาก ๆ เลยค่ะ --> ก็อปปี้ยัยน้องคนข้างบน อิอิ จากคุณ : มะวัน - [ 20 เม.ย. 47 13:48:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อยากอ่านด้วยคนอ่ะ ยาคูลท์บรรยายซะเกิดกิเลสเรยยยยย คิดแล้วก็เจ็บใจตัวเอง เพิ่งไปเดินคิโนะมา ดันลืมซื้อเล่มนี้ซะเนี่ย แต่ว่าไม่เคยอ่าน divine comedy อ่ะ จะอ่านรู้เรื่องอ๊ะเป่าจ๊ะน้องยาคูลท์ ดังเต้ นี่พี่อ่านเล่มเดียวจริงๆ (เอ่อ เป็นเล่มเดียวที่บังเอิญอ่านรู้เรื่องง่ะ เล่มที่ชื่อ vita nuova เล่มนั้นแหละ ส่วนdivine comedy นี่ตัวใครตัวมันละกันจ้าน้องยาคูลท์คนสวย กร้าก) จากคุณ : เพติ๊ด - [ 20 เม.ย. 47 16:08:52 A:203.107.197.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 หุหุ มีเหยื่อหลงมาแล้ว ... คุณโป้ คุณนารูมิ คุณ nuannutch บอกก่อนนิดนึงว่ามันน่าเบื่อในช่วงร้อยหน้าแรกนะคะ จะอ่านไม่จบกันก็เพราะ canticle แรกนี่แหล่ะ แต่อย่างที่บอก พออ่านผ่านไปได้จะรู้จักตัวละคร (รูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอ) ดีจนอดลุ้นไปกับพวกเขาในตอนท้ายไม่ได้ค่ะ คุณ -) - .. ว้าว อ่าน Divine Comedy เหรอคะ? ยาคูลท์ยังวนเวียนอยู่ในนรกเลยค่ะ และก็คงอยู่ในนั้นแหล่ะ ไม่ได้ขึ้นสวรรค์แน่ เพราะนรกของดังเต้นี่ tempting สุด ๆ มีอะไรให้อ่านเพียบเลย น้องไอซ์ ขอบคุณจ้า จะรอรีวิว An Instant of Fingerpost นะ คุณมะวันต้องอ่านได้สนุกแน่เลย ตอนเราอ่านน่ะ ชะงักหลายจุดเวลาเขาอ้างอิงชื่อคน บางทีขี้เกียจค้นเลยข้าม ๆ ไป แต่คนมี talking, living dic อยู่ใกล้ตัวคงสบายกว่าเรา อิอิ พี่เพติ๊ดจ๋า (อ้อนมะ?) ตอนเขาพูดถึงกลอนนะ คิดถึงพี่มากเลย คิดว่าพี่ต้องรู้จักแน่ว่าเขาพูดถึงใคร อือม์.. ถ้า Divine Comedy แบบครบสามส่วน คงต้องใช้รหัสสุดท้าย "ตัวใครตัวมัน" เหมือนกันค่ะ ..ว่าแต่ vita nuova นี่แปลว่า a new life ใช่ป่ะ? ใน lost chapters ของนิยายก็พูดถึงด้วยค่ะ มันเป็นเรื่องแบบไหนคะ ไว้วันไหนว่าง ช่วยรีวิวคร่าว ๆ หน่อยสิคะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 20 เม.ย. 47 16:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณคุณยาคูลท์มากนะค่ะ ที่รีวิวเรื่องนี้ซะทำให้อยากเลย ตั้งใจอยู่แล้วล่ะค่ะว่าจะต้องซื้อเรื่องนี้แน่ๆ และก็เซฟหน้านี้เอาไว้อ่านต่อไปแล้วด้วยค่า ขอบคุณอีกครั้งน่ะค่ะ คุณยาคูลท์น่ารักจริงๆ จากคุณ : นิด (JewNid) - [ 21 เม.ย. 47 13:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อยากอ่านเรื่องอื่นๆของดังเต้ด้วยอ่ะครับ มีแปลเป็นไทยมั้ยครับ? จากคุณ : Dead-of-[A]Saleman - [ 22 เม.ย. 47 22:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เชียร์ให้อ่านค่ะ คุณนิด  ..แล้วคุณจะรู้ว่านรกมีจริง 55555  (เอ๊ะ ยังไงกัน?) แหะแหะ คุณอวสานเซลส์แมน  เผอิญไม่โปรเรื่องดังเต้เลยค่ะ  แต่ตอนหาข้อมูล จำได้ว่าดังเต้เขียนงานเป็นภาษาอิตาเลี่ยนไว้ 6 เรื่อง (Divina Commedia, Vita Nuova, the Convivio, Rime, Il Fiore, Detto d'Amore) กับภาษาละตินอีก 4-5 เรื่อง  ถ้าเสิร์ชหาตามเว็บไซต์คงหาดาวน์โหลดภาษาอังกฤษมาได้ค่ะ ..แต่แปลไทยนี่ ไม่เคยเห็นค่ะ  หรือไม่ก็อาจมีแต่ไม่ได้สังเกต แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 47 10:53:17 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 23 เม.ย. 47 10:52:09 ]