K2805312 มีใครเรียนนิติ รามคำแหงบ้าง ขอคำแนะนำหน่อยครับ [การศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 2

ผมเคยเรียนรามปีนึงนะ ชีวิตคือนั่งรถเมล์ไปบางนา เข้าฟังบรรยาย กินข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว(สุก) นั่งรถเมล์หลับกลับมาบ้าน ก็เหนื่อยแล้ว อ่านหนังสือได้นิดหน่อย เรียนก็ไม่ค่อยดี ถ้าบ้านอยู่ในเมืองบริเวณอนุสาวรีย์ เดินทางก็ควรเผื่อไว้ประมาณ 2 ชั้วโมง ทำให้ไม่ค่อยอยากไปเรียน เพื่อนก็ไม่ค่อยมีเพราะเราไม่เข้าซุ้ม เห็นกิจกรรมของพวกเขาเราก็ไม่ค่อยนึกสนุกกับเขา (แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะ เพื่อนบางคนก็ดูมีความสุขดี) ส่วนผมเรียกว่าไม่มีความสุข จนต้องย้าย...
ผ่านมา 10 ปีพอดี ตอนนี้ถ้าให้แนะนำ เรื่องการเรียนเนี่ย ผมสันนิษฐานว่าคุณคงรู้ตัวเองดีว่าเรียนอะไรถึงจะเหมาะ แต่การปรับตัวผมว่ามีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน วิธีว่าจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในการเรียน ผมว่าต้องประกอบกันหลาย ๆ อย่าง อย่างแรกคือต้องมีฉันทะ นำมาก่อน คืออยากเรียน แล้วต่อมาคุณก็จะพบเองว่าควรจะจัดการกับชีวิตอย่างไร ในฐานะผู้มีประสบการณ์ผมว่าเราต้องฝึกต้วเองให้มีความสมดุลย์ ในการใช้ชีวิตโดยเริ่มตั้งแต่เรียนมหา'ลัย คุณก็จะแบ่งเวลาเป็น
1. หน้าที่หลักคือเรียน ก็ต้องเรียนให้เต็มที่ก่อน พยายามเข้าฟังบรรยายให้ครบทุกคาบ (ที่รามจะไม่มีการเช็คชื่อ ห้องเรียนบรรยายรวมจะใหญ่มาก ๆ จุคนได้เป็นพัน บางห้องเรียนเป็นทีวีถ่ายทอดมาจากห้องใหญ่ ) แม้ว่าจะมีหนังสือประเภทอ่านลัด(ขายอยู่หน้ารามมากมาย) แต่รับรองว่าสิ่งที่อาจารย์สอนคุณจะได้วิธีคิดมากว่าการท่องจำที่ไม่มีใครบอกได้ในตำรา และอาจารย์ท่านยังสามารถแนะนำว่าคุณจะไปค้นคว้าเพิ่มอย่างไร เพราะการเรียนกฎหมาย ผมก็เรียนจบกฎหมายมา บอกได้เลยว่าไม่ใช่วิชาท่อง แต่ต้องใช้สมองมาก เพราะต้องค้นหาวิธีคิดให้เจอโดยอาจจะต้องเริ่มจากการอ่าน มาก ๆ ก่อน อ่านหลาย ๆ ตำราเพื่อเปรียบเทียบกัน ถ้าคุณคิดเป็นระบบได้ในการเรียนกฎหมายคุณจะจำทุกอย่างได้จนวันตาย ไม่มีลืม และที่สำคัญ ต้องมีกลุ่มเพื่อนเพื่อมาแลกเปลี่ยนความคิดและช่วยกันติว เราอ่านมากเราติวให้เพื่อน เราก็จะเก่งขึ้นด้วย นอกจากนั้นก็ลองหาข้อสอบเก่า ๆ มาลองทำดูเพื่อจะได้รู้แนว ขอเน้นว่าการเรียนนิติศาสตร์แบบจำฎีกา หรือตอบข้อสอบโดยลอกแนว ฎีกา อย่างเดียว คุณจะไม่ประสบความสำเร็จเลย คุณควรจะคิดให้เป็นมากกว่ามาดูว่าเรื่องนั้น เรื่องนี้มีฎีกาหรือเปล่า เพราะฎีกาก็คือการวินิจฉัยโดยมาจากหลัก ซึ่งผู้พิพากษาบางท่านก็อาจวินิจฉัยผิดมาแล้ว(มีมากด้วย) เราควรอ่านประกอบเพื่อฝึกวิธีคิดเท่านั้น
2.การใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ก็มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะวัยมหาลัย เพราะเป็นการฝึกใช้ชีวิตจริงครั้งสุดท้ายก่อนออกไปเจอโลกภายนอกต้องเจอคนอีกมาก ต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ตัวผมเองใช้ชีวิตที่รามอย่างไม่สมดุลย์ตอนอยู่ที่ราม ก็เป็นอุทาหรณ์ให้เห็นได้ว่าผมไม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาที่นี่เพราะไม่รู้จักความสมดุลย์ ไม่มีเพื่อน ไม่ทำกิจกรรม ต่อมาผมปรับตัวตอนมาเรียนอยู่ที่อื่น ทำให้รู้ว่าเราทุกคนสามารถมี"เพื่อนตายได้" เพียงแค่การรู้จักให้ที่ไม่ต้องลำบากอะไรเลย เพียงแค่แชร์ความรู้สึกกับเพื่อน ทำสิ่งที่เราต้องการได้รับจากเพื่อน เหมือนเป็นตัวเราเอง ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน่(ไม่ใช่ร่วมสุขอย่างเดียว)
3.รู้จักผ่อนคลาย เวลาเรียนต้องเรียนให้หนัก แต่เราต้องได้ทำสิ่งที่ชอบด้วย เช่นเล่นกีฬา หรือดนตรี วิธีการแบ่งเวลาคือ เราควรจะมีลิมิทในการอ่านหนังสือหรือเข้าเรียนเป็นหลักและทำให้ได้ เช่นว่า วันหนึ่งเราคิดว่าเราจะอ่านหนังสือซัก 2 ชม. เมื่ออ่านครบ 2 ชม.แล้ว เราก็เล่นได้ แต่ไม่ใช่เล่นก่อนที่จะอ่านหนังสือได้ครบ รับรองว่าถ้าคุณทำได้อย่างนี้ จะเป็นคนที่แบ่งเวลาเป็น แน่นอน
ผมมีตัวอย่าง เพื่อนคนหนึ่งสอบได้เป็นที่หนึ่งเนติบัณฑิต(สมัยที่เท่าไหร่จำไม่ได้ 6 - 7 ปี มาแล้วตอนนี้ได้ทุนไปเรียนที่ฝรั่งเศส) เคล็ดลับคือเขาบอกว่าอ่านหนังสือเพื่อสอบเน มาประมาณ 4 เดือนเป็นอย่างต่ำ พอถึงช่วงสอบก็เป็นช่วงที่อ่านจบมานานแล้วแต่ก็ยังทบทวนสม่ำเสมอเป็นประจำ และไม่ต้องโหมเหมือนคนอื่น ๆ ถ้ามามองดูคนอื่น ๆ เวลานั้นเรียกได้ว่าไฟลนก้นเลยแหละ แต่เขาไปเที่ยว ไปดูหนังได้สบาย เพราะอะไร ก็เพราะเขามีวินัยดีเยี่ยม แน่นอนว่าเขาสอบได้และได้ที่ 1 !
ขอให้น้องมีความสุขกับการเรียนที่รามครับ

จากคุณ : นิติรุ่นปู่ - [ 9 พ.ค. 47 13:42:52 A:192.168.0.5 X:210.86.147.227 ]