ความคิดเห็นที่ 1 พุทธเค้าอ้างไป เป็นไม่รู้กี่อสงไขยปีครับ ยาวนานมาก จักรวาลตายแล้วเกิดไป ไม่รู้กี่อสงไขยรอบแล้วครับ เมื่อ 2500 ปีก่อน พึ่งเป็นสมัยของพระสมณโคดม พระพุทธเจ้านี่มีนับไม่ถ้วนเลยครับ จากคุณ : AA - [ 9 ส.ค. 47 23:54:51 A:203.113.39.8 X:203.150.217.116 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตาม ธรรมชาติ... เปลือก จะ ทำ หน้าที่ ปกป้อง แก่น... จากคุณ : ^_^ - [ 10 ส.ค. 47 02:19:45 A:202.5.88.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามประวัติศาสตร์ แล้ว กลุ่มคนในอินเดีย แยกเป็นสองกลุ่มใหญ่ 1.กลุ่มแรก ผู้มีวัฒนธรรมมาช้านาน ร่วมๆกับ อียิปต์ได้ด้วย เตี้ย ดำ หาได้จาก คนอินเดียที่มีอยู่มากในศรีลังกา 2.อินเดีย ขาว รูปร่างสูงใหญ่กว่า กำยำมาจากทางด้านตะวันตกของทวีป --- เชื้อสายของพระพุทธเจ้า คนกลุ่มแรกอยู่มาช้านาน เป็นกลุ่มที่ฉลาด มีวัฒนะธรรมมาช้านาน แต่ด้วยความที่บ้านเมืองสงบมานาน จึงถูก กลุ่มคนที่สองซึ่งมาแย่งแผ่นดิน เพราะเก่งว่าในด้านรบ ดังนั้น ผมจึงคิดว่าพระพุทธองค์ คงสุงและ กำยำพอควร แต่ก็ไม่น่า จะ สูงโอเว่อร์เกินคน เพราะแม้ว่า บบรรพบุรุษของพระองค์จะมาจากทางตะวันตก แต่ชาวตะวันตกสมัยก่อนก้ไม่ได้สูงใหญ่มากมายไปกว่าคน เอเชียเท่าไหร่เลย แล้วยิ่งถ้าเอาไปเทียบกับ พวกยุโรปตอนบน ที่สมัยก่อนยังเป็น บาบาเรี่ยนตัวจริง นั้นคนยุโรป สมัยนั้นก็เตี้ยไม่ได้ต่างจากคนไทยมากนัก ถ้าคุณไปดูบ้านเก่าๆ เอาแค่บ้านสมัย 200-300 ปีในยุโรป บ้านจะเตี้ย เพดานจะเตี้ยมาก ปล. อันนี้เป็นความรู้เก่าที่ ศึกษามา กับ การมาอยู่แถวตะวันตก ก็เป็นความคิดของผมนะ ถูกผิดอย่างไรขอโทษด้วย จากคุณ : tinyvoice (tinyvoice) - [ 10 ส.ค. 47 03:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กินข้าวว่า นั่นคือไดโนซอรัสค่ะ พระพุทธเจ้าก่อนหน้านี้เป็นไดโนซอรัสนะเจ้าคะ จากคุณ : กินข้าว (กินข้าว) - [ 10 ส.ค. 47 07:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็คิดแบบนั้น มานานแล้วเหมือนกันครับ ความเป็นพุทธะ อาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปกายของมนุษย์ปัจจุบัน (2 แขน 2 ขา มี 10 นิ้ว) ความเป็นพุทธะ น่าจะอยู่ที่ภาวะจิตที่หลุดพ้นจากสิ่งยึดเหนี่ยวมากกว่า ป.ล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ผมไม่ได้มีจิตใจจะจาบจ้วงพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด จากคุณ : old technician - [ 10 ส.ค. 47 09:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 1. ฮ่าๆๆๆ ผมชอบความเห็นที่ 4 จังเลย แฮะ ฮ่าๆๆๆๆ 2. มนุษย์ในสมัยก่อน ผมขอละพวกอสงไขย กัปป์กัลป์ นะครับ เพราะ "ไม่ใช่พื้น หรือรากฐานความรู้ของผม" เอาแต่ในทางวิทยาศาสตร์ที่เป็น "วัตถุนิยมวิภาษ (Dialectical Materialism)" เท่าที่ขุดค้นพบในปัจจุบันพวก วานรมนุษย์ก็สูงเพียงประมาณกึ่งหนึ่งของพวกเราปัจจุบัน...ทั้งพวกนีแอนเดอทัล (ซึ่งเป็นอีกสายพันธุ์ของมนุษย์) หรือพวกโครมันยอง (สายพันธุ์เดียวกันกับเรา) ก็มีความสูงน้อยกว่าคนปัจจุบันโดยเฉลี่ยพอสมควรนะครับ...จริงอยู่ครับว่าแน่นอนว่าคนสมัยก่อนที่ตัวสูงใหญ่ก็คงมี แต่จะโดยเฉลี่ยแล้วยัง "เตี้ย" กว่าคนปัจจุบันมากครับ 3. จริงๆแล้วในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ก็อ้างความสูงของบุคคลเป็นศอกเช่นกัน เช่น ขงเบ้งสูงถึงหกศอกเศษ เป็นต้น ซึ่งถ้าตรวจสอบจริงๆแล้ว เป็นการแปลผิดจากหน่วยวัดความยาวที่เรียกว่า "เซี้ยะ" ของจีน (ซึ่งประมาณเท่ากับ 'ฟุต' ของฝรั่ง) เป็นศอกซึ่งมีความยาวมากกว่าพอสมควรทีเดียว 4. ถ้าจะดูเรื่องพวกนี้ที่ท่านเจ้าของกระทู้ยกมาอภิปรายกันนั้น คงจะมาจากหนังสือ "ไตรภูมิ" ซึ่งมีรากเง่ามาจากแบบทางเหนือ...ซึ่งมักจะมีหลักคิดที่ "เกินจริง" ไปหน่อย....ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากษัตริย์คนไหนมีที่นามาก ก็มักจะตั้งชื่อตัวเองว่า พญากือนา (มีนาเป็นล้าน) บ้าง พญาแสนนา (มีนาเป็นแสน) บ้าง ฯลฯ 5. ดังนั้นแล้ว ผมว่าในการศึกษาเอกสารโบราณจะต้อง "ละทิ้ง" ส่วนที่เป็นเปลือกเหล่านี้ออกไปครับ ต้องมาพิจารณาอิทธิพลของการเมือง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของยุคนั้นเป็นเกณฑ์ แล้วตีความอย่างปราศจากอคติทั้ง 4 จึงจะเห็น (หรืออย่างน้อยใกล้จะเห็น) จุดสำคัญ และข้อเท็จจริงในเอกสารนั้นๆครับ แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 47 01:15:59 จากคุณ : นายเจ็ดตัวอักษร - [ 10 ส.ค. 47 12:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้ผมเรียนอยู่ภาดอิสานครับ เรื่องคนแปดศอกคนที่นี่ก็มีความเชื่อเหมือนกัน เวลาลงภาคสนามไปสัมภาษณ์คนเฒ่าคนแก่เวลาเราถามถึงเวลาในอดีตที่ย้อนไปเป็นเวลานาน เขาก็จะตอบว่ามันนานมากย้นไปตั้งแต่ยุคคนแปดศอกนั่นแหละ คือประมาณว่าถ้าพูดถึงคนแปดศอกก็จะเป็นอะไรที่นานนมากๆ ซึ่งความเชื่อเรื่องคนแปดศอกจะพบบ่อยในแถบภาคอิสาน แต่ความหมายและหลักฐานว่าคนแปดศอกมีจริงหรือไม่นี่ยังไม่ทราบว่ามีหลักฐานอะไรมายืนยังข้อเท็จจริงครับ จากคุณ : พ ณ.ลำพู - [ 10 ส.ค. 47 12:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตกอะไรไปอย่างหนึ่งหรือเปล่าครับ คนสูง 8 ศอกอายุยืน 8 หมื่น ปี ก็ต้องคิดเองว่าอารยะธรรมในช่วงยุคนั้นมีอายุกี่แสนกี่ล้านปีนะครับ และถ้าวัฏจักรวงชีวิตวิวัฒนาการ เกิดขึ้น เจริญ เสื่อม สูญสลาย กว่าจะเกิดวัฏจักรใหม่ใช้เวลาเท่าไร นี่ผมไม่รู้หรอกครับ แต่เขียนไปยังงั้นละ เคยนึกคนเดียวว่า หากอนาคตข้างหน้ามนุย์บนโลกนี้เจริญสูงสุดสามารถไปยังต่างกลุ่มดาวกาแล็กซี่ได้ แล้วพบว่าสิ่งมีชีวิตในดาวดวงนั้น(ตามในพระไตรปิฎกที่พระพุทธองค์บอกไว้ทุกกาแล็กซี่จะมีดาวดวงหนึ่งที่มีสภาพเหมาะสมมีสิ่งมีชีวิตได้ แต่มีเพียงโลกเท่านั้นที่มีสภาพดีสุดในการดับทุกข์) ยังเป็นไม่เจริญ แล้วกลุ่มมนุษย์โลกที่ไปยังดาวนั้นจะสอนวิชาการใหม่ๆ หรือช่วยสร้างสิ่งต่างๆ แล้วจะบอกว่าตัวเองเป็นผู้สร้างผู้ให้หรือเปล่าครับ แล้วสิ่งมีชีวิตบนดาวนั้นจะบันทึกมนุษย์โลกเหล่านั้นว่าคืออะรไ คือใคร มาจากไหน และอีกเรื่องหากความเจริญสูงสุดนั้นมีความเชื่อมโยงกันทั้งโลก ใช้แหล่งพลังงานสูงสุด ปลอดภัยที่สุด เชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว แต่หากผิดพลาดจะถูกทำลายหายไปทั้งหมดเหมือนกัน มนษย์โลกยุคนั้นจะหาวิธีการบันทึกที่คงทนถาวรที่คนผู้โง่เขลาก็เข้าใจได้ เผื่อสำหรับเหตุการณ์ผิดพลาดนั้นไว้บ้างหรือเปล่า เพื่อให้มนุษย์ยุดหลังจากนั้นเข้าใจในวิทยาการด้านต่างๆ ที่เคยมีบนโลกมนุษย์ แค่คิดสมมติไปเองนะครับ ก็เขียนเล่าให้ฟังถึงความคิดเล่นบ้าๆของผมเองเพียงคนเดียวนะ ใครมีความคิดแปลกๆแลกเปลี่ยนกันหน่อยนะครับ ขอบคุณครับที่กรุณาอ่าน จากคุณ : **ฌาณ~ญาณ** - [ 10 ส.ค. 47 17:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เท่าที่เคยได้ยิน ไม่ใช่หนึ่งระบบสุริยะ มีดาวที่มีสิ่งมีชีวิตได้ 1 ดวงเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ เรื่องคน 8 ศอก เท่าที่ผมเคยสัมภาษณ์และฟังเขาพูดมา ไม่มีรายใดอ้างถึงโครงกระดูกซักที มีแต่อ้างถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ใหญ่โต และสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และการปรากฏตัวของผี ที่เขาว่าตัวดำสูงถึง 8 ศอกเลย เรื่องผีผมคงอธิบายไม่ได้ แต่เรื่องข้าวของเครื่องใช้และที่อยู่อาศัยนี่ อธิบายได้ว่า เขาไม่ได้ทำขึ้นใช้เองแน่นอน แต่คงทำขึ้นเพื่อบูชาเทวดา ของชิ้นใหญ่เก็บไว้บนหิ้ง ส่วนของเล็กเหมาะมือก็เก็บไว้กับตัว ไว้ใช้ได้จริงๆ ของที่เป็นเหมือนตำนานพวกนี้ไม่กี่ร้อยปีเอง จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า - [ 10 ส.ค. 47 22:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อืมมม อ่านความเห็นแล้วอยากกินมาม่าที่ร้านเจ๊โรงอาหารมากเลย จากคุณ : รมณีย์ - [ 11 ส.ค. 47 10:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมมองอย่างนี้ครับว่า ที่กล่าวถึงไม่ใช่ช่วงอายุโลกอย่างตอนนี้แน่นอน แต่เป็นช่วงของอายุของโลก กัป ขาขึ้นหรือลงใน ช่วงที่โลกยังใหม่ๆอยู่ อาหาร อากาศ สภาวะแวดล้อม มลพิษย่อมมีน้อย(หรือแทบไม่มีเลย)กว่าสมัยนี้ไม่รู้เท่าใหร่ อะไรๆก็เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนตั้งแต่ความคิด การกระทำ หรือวิถีชีวิต คนสมัยนั้นกว่าจะโตเป็นหนุ่มสาว มีครอบครัว ก็อายุเท่าไหร่แล้ว แต่ในยุคนี้ซิ 10 ขวบก็อยากจะโตเป็นหนุ่มสาวกันแล้ว ผมก็เคยเห็น อะไรที่ใหญ่กว่าปกติ ในสภาวะที่มีความสมดุลย์ ก็เคยเห็นดอกไม้ เช่นดอกกุหลาบโตเท่าหน้าคน พืชผักผลไม้ยักษ์ เช่นลูกฟักทองยัก ก็เคยเห็น คนตัวโตๆ ขนาด 7 - 8 ฟุต ก็มี อันนี้ก็คุยเล่ากันฟังนะครับ จากคุณ : เรา (เพื่อนกันเอง) - [ 13 ส.ค. 47 17:48:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อืม คำว่า โลก อาจไม่ได้แปลว่า ดาวเคราะห์ ดวงนี้ แต่น่าจะแปลว่า ช่วงเวลาหนึ่งที่เกิด ดวงจิตมีสภาวะจิตของมนุษย์ ดำรงอยู่ จากคุณ : มนุษย์โลก - [ 15 ส.ค. 47 00:27:17 A:202.5.88.153 X: TicketID:068141 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืม ...เรื่องนี้ผมก็เคยอ่านมาครับ เขากล่าวถึงพระพุทธเจ้ากี่อสงไขกัปจำไม่ได้ สูง 8 ศอกกับอายุหลายพันปีเพราะถ้ามนุษย์สูงขาดนั้นตามความเป็นจริงอายุจะต้องยืนยาวตามไปด้วย โลกที่มนุษย์อาศัยอยู่จะต้องใหญ่กว่านี้อีกหลายเท่า แล้วพระพุทธเจ้ามีนับไม่ถ้วนเป็นอย่างไร เค้ามูลว่าในโลกดังกล่าวเป็นหนึ่งในโลกคู่ขนานของเรา ด้วยการวัดระยะเวลาดังกล่าวเป็นมูลความรู้ของชาวเชื้อสายอารยันโบราณเราไม่อาจศึกษาอย่างถ่องแท้ซึ่งเราเองจะไม่ค่อยเข้าใจ บางครั้งศาสตร์โบราณนั้นนำหน้าอย่างที่เราคิดไม่ถึง อย่างเช่นสมัยที่เราเชื่อว่าโลกแบน แต่สมัยก่อนหน้านันภูมิความรู้ของมนุษย์รู้ว่าโลกมันกลมมานานมากแล้ว โลกเราไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาลแน่นอน ซึ่งไม่ต้องนึกภาพว่ายังมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกอีกมากขนาดไหน ในเมื่อจักรวาลกว้างขนาดนั้น แค่ว่าโลกที่เหมือนกับเราจะมีมากมายขาดไหน ในจักรวาลอันหลายมิติทั้งระยะทางเวลาที่เชื่อมมิติต่างๆ ลองส่องกระจกดูตัวเราว่ามีคนหน้าตาคล้ายตัวเราในต่างมิติอีกตั้งเท่าไหร่คน การเดินทางข้ามมิติไปพบกับสิ่งเหล่านั้นจะใช้เวลากี่ปี.................... หากไม่ใช่เพราะจิตที่เดินทางได้เร็วกว่าพหนะทั้งปวงหรือผนวกมิติแห่งเวลาเพื่อเล่าขานสืบทอดความรู้จากสิ่งเหล่านั้นของชนโบราณหรือเราอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีภูมิจากต่างภพ เขาเดินทางมาทางจิตหรือเปล่าหรือเทคโนโลยีอันล้ำหน้า ดังตำนานของชนโบราณหลายชนชาติกล่าวถึงการมาของผู้มีอารยธรรม และความรู้สรรพสิ่งต่างๆแก่พวกแอลป์ โดยเฉพาะเรื่องจักรวาลดาราศาตร์ อีกกลุ่มก็จะเป็นเรื่องศาตร์ของจิต การวัดระยะเวลา ระยะทาง ระยะ มิติแห่งจักวาลซึ่งที่นักวิทยาศาสตร์แห่งโลกเสื่อมถอยในปจุบันยังไปไม่ถึง แค่ในโลกปจุบันยังคลำผิดคลำถูกอยู่เลย คนเราถูกสอนให้เชื่อทางโลกอย่างนั้น ไม่ว่าในการเรียนมหาวิทยาลัย การวิจัยหรืออะไรก็ตาม เป็นเปลือกของมนุษย์ที่เชื่อว่าตนมีอารยธรรมความรู้สูงสุด มิติของการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสิ่ง มีมากมายจนเราคาดไม่ถึงสำหรับยุคสมัยอันแสนสั้นสำหรับภูมิความรู้ของมนุษย์ที่เพิ่งพัฒนามาจากลิงแอลป์ จากคุณ : มิโลสลาฟ ปลาซิว - [ 15 ส.ค. 47 09:24:16 A:203.146.232.33 X: TicketID:048533 ]