CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ขอยืมตัวฮูหยินสักครา ตอนที่ 9 ความอ่อนโยนและหัวใจ

    พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกัน มีความสุขยิ่ง

    นางรู้ว่าสหายและคนของสามีนาง ล้วนไม่เคารพนาง ทั้งยังริษยาฐานะของนาง จนบัดนี้นางยังบาดเจ็บเพราะพวกเขา ซึ่งกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนางแม้แต่น้อย ดังนั้นนางจึงไม่สนใจแล้ว ไม่สนใจวงล้อมของคนเหล่านั้น ไม่สนใจว่าคนเหล่านั้นจะคิดเช่นไร

    นางรู้สึกสบายใจยิ่ง นางละทิ้งจ่านจิงถัง นางทรยศคนเหล่านั้น นางละทิ้งจ่านจิงถัง เพราะเหตุว่าสถานที่แห่งนั้นมิได้ผูกพันกับนางแม้แต่น้อย นางทรยศคนเหล่านั้นเพราะเหตุว่าพวกเขามิใช่สหายของนาง ทว่าบุรุษเบื้องหน้านางผู้นี้ เนื่องจากต้องการช่วยเหลือนางจึงแทบสิ้นชีวิตไป เขาจึงเป็นสหายของนาง ทว่านางมิได้รู้สึกผิดต่อสามีของนาง

    เดิมทีนางยังรู้สึกไม่เคยชินกับยามค่ำคืนอันยาวนาน

    ส่วนเขาเล่า ความน่าหวาดกลัว คล้ายกับว่าสิ่งที่เขาประสบพบเจอมาตลอดทั้งชีวิต เป็นความฝันที่มิอาจถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาได้ ขอเพียงได้จามสักหลายครั้ง บิดเอวสักหลายครา พลิกตัวอีกครั้งก็ตื่นขึ้น ภายหลังยามค่ำคืนก็จะเปลี่ยนเป็นความเคยชินไป

    นางพบว่าเขาพลันรินเหล้าลงถ้วย ถือตะเกียบ ขมวดคิ้ว ทุกอิริยาบถล้วนเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของบุรุษชายชาตรี ทว่ายามเขามองดูนาง กลับทำให้นางรู้สึกอบอุ่นใจยิ่งนัก

    ชายเสื้อของเขาถูกผู้อาวุโสเซี่ยคว้าจับจนขาดไป  ทว่าหากไม่นับรอยขาดแห่งนั้นแล้ว บนเสื้อของเขาก็ยังคงมีรอยขาดวิ่นอีกมากมายหลายแห่ง ทว่ารอยขาดเหล่านั้น นอกจากคราบเลือดแล้วนั้น กลับทำให้ผู้อื่นรู้สึกบริสุทธิ์ ใสซื่อ แม้ว่าเขาจะมีท่าทีดุร้ายอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน เช่นนี้กลับทำให้ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งบุกออกมาจากภูเขาดาบทะเลเพลิงก็ปาน

    ภายใต้แสงเทียน นางมองดูเงาร่างของเขา เงาของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกเลื่อนลอย

    เขาสนทนา หัวเราะ หรือดื่มกิน ล้วนคล้ายกับว่าเป็นสหาย พี่น้องที่น่าคบหา

    มิว่าพิษใดก็มิอาจรอดประสาทสัมผัสจมูกของเขาไปได้ มีคราหนึ่ง เขาคีบผมเส้นหนึ่งขึ้นมาจากในหม้อน้ำแกงแล้วกล่าว “ผมเส้นนี้เคลือบพิษไว้”

    หลังจากที่ลอบทำร้ายครั้งนั้นล้มเหลว วงล้อมภายนอกก็มิได้เคลื่อนไหวอันใด คล้ายกับรับคำสั่ง หรือว่าเป็นมิกล้าไปยุ่งกับเขาอีก

    ชุ่ยเอ๋อร์ยังคงส่งอาหาร สุรา รวมถึงน้ำที่ใช้อาบเข้ามา มีคราหนึ่ง ชุ่ยเอ๋อร์ลอบกระซิบกับเหลียงเยิ่นฮวาว่า “พวกเขาให้ท่านให้ผ้าผืนนี้ ชุบน้ำให้กับคนผู้นั้นเช็ดหน้า เมื่อเขาใช้เช็ดหน้า ฮูหยินก็รีบหนีออกทางระเบียง พวกเขาจะมาช่วยฮูหยินเอง”

    ฮูหยินเพียงยิ้มเล็กน้อย พร้อมกล่าวกับนางว่า “มิต้องทำเช่นนี้ นี่เป็นศิษย์น้องของเซี่ยงกง(คำเรียกสามีของตนเอง) เขากำลังรอให้เซี่ยงกงกลับมา เพราะมีเรื่องสำคัญจะหารือ เพื่อช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสนี้ ข้าจำต้องอยู่ที่นี้ วันสองวันคงมิเป็นไร เจ้ากลับไปบอกต่อเหล่าเหย ไหนไหน่(พ่อตาและแม่ยาย ให้พวกเขาวางใจเถิด”

    ชุ่ยเอ๋อร์อย่างไรก็มิเข้าใจ จึงเดินออกไปด้วยความงวยงง สงสัย

    เหวยชิงชิงชิงมิได้สนใจว่าพวกนางจะสนทนาเรื่องอันใด คล้ายกับว่าพวกนางกล่าวกระไร ทำกระไร เขาก็เชื่อว่าเรื่องเหล่านั้นมิมีเภทภัยต่อตนเอง

    จนกระทั่งเช้าวันที่สาม เขาจึงใช้พู่กันเขียนแผนที่ขึ้นฉบับหนึ่ง แล้วกล่าวต่อนางว่า “หากมีวันหนึ่ง ท่านต้องการหาข้าพเจ้า โปรดส่งคนมายังที่นี้ แจ้งให้ข้าพเจ้าทราบสักคำก็พอแล้ว ข้าพเจ้ามีสหายผู้หนึ่งมีนามว่า ไช่กว้อฉี อาศัยอยู่ที่ “อวิ๋นเฟยจ้งโหลว(ตึกเมฆเหิน)” วิชาซอสองสายของเขาแย่มาก คล้ายกับเป็ดร้องก็ปาน ทว่าเขาก็ยังคงชมชอบที่จะสีซอนั้น โดยเฉพาะในยามที่ฝนตกฟ้าร้อง เขามักจะสีซอโดยไม่เบื่อหน่ายแม้แต่น้อย เขามีฉายาว่า “เสี่ยวโหลวอีเย่ลาชุนอวี่(หอน้อยนำฝน) ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ที่นั่นกับเขา”

    “คนผู้นี้น่าสนใจนัก” เหลียงเยิ่นฮวาหัวเราะ รับพู่กันคืนจากเขา พร้อมกับชมดูแผนที่นั้น นางเพ่งมองดูอย่างละเอียด แผนที่ซึ่งทำขึ้นอย่างง่ายนั้น นางกลับมองดูเหมือนกับชมภาพวาดมีค่าก็ปาน เช่นนี้ทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายยิ่งนัก จึงถามว่า “นี่เป็นพู่กันใด”

    นางยังคงมองดูภาพ แล้วตอบว่า “เป็นพู่กันเขียนคิ้ว”

    “อ้อ” เหวยชิงชิงชิงมิเข้าใจว่าเป็นพู่กันเขียนคิ้วใด จึงรับมาชมดู เหลียงเยิ่นฮวาพลันหัวเราะกล่าว “นี่เป็นพู่กันที่ว่ายจื่อ(คำเรียกสามี)ใช้วาดคิ้วแก่ข้าพเจ้า เป็นของของเขา ภายหลัง ท่านอย่าได้กระทบ และอย่าได้ใช้ ได้หรือไม่”

    เหวยชิงชิงชิงพลันหน้าแดงฉาน กล่าว “อ้อ อ้อ ได้ ได้” ผ่านไปชั่วครู่ เขานึกถึงวาจาเมื่อครู่จึงรู้สึกเหมือนเป็นฟ้าผ่ายามกลางวัน

    นางพลันโยนแผนที่นั้นเข้าไปในกองไฟ

    เขามิเข้าใจ

    แต่ครั้งนี้กลับไม่กล้าเอ่ยถาม

    “ข้าพเจ้าจำสถานที่แห่งนั้นได้แล้ว” นางพลันชี้ไปที่หน้าผากของตนเอง “มิเช่นนั้น หลังจากท่านไป พวกเขาคงมาค้นหา มาสอบถาม ทิ้งไว้กลับมิเป็นผลดีต่อท่าน”

    “อ้อ ถูกแล้ว” เขายังคงตอบอย่างลืมตัวว่า “ถูกแล้ว”


    พวกเขายังคงสนทนากันต่อไป เหวยชิงชิงชิงยังคงยกย่องนางเป็นซือเส่า(พี่สะใภ้)เสมอ มิได้ล่วงเกินนางแม้แต่น้อย จนถึงค่ำคืนนั้น เหวยชิงชิงชิงพลันกล่าวอำลาเหลียงเยิ่นฮวา “ผ่านมาสองวันแล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ยังคงไม่กลับมา ข้าพเจ้าคงต้องไปก่อนแล้ว”

    “ท่านมิใช่จะรอเขากลับมางั้นหรือ” เหลียงเยิ่นฮวาถามด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงกล่าว “เขาใกล้จะกลับมาแล้วกระมัง”

    “วันหน้าข้าพเจ้าค่อยมาหาเขาอีกครั้ง อีกอย่างได้พบกับซือเส่า ข้าพเจ้าเห็นว่า ข้าพเจ้ามิต้องถามอันใดเขาอีกแล้ว” เขากล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “อีกอย่าง ข้าพเจ้าอยู่ที่นี้เป็นเวลานานแล้ว อย่างไรก็มิเป็นผลดีต่อซือเส่า”

    นางมองดูเขา นัยน์ตาของนางคล้ายกับเปลวเทียนในความมืด งดงามยิ่ง

    เหวยชิงชิงทราบว่าสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือละทิ้งแล้วจากไป  แน่นอนเรื่องเหล่านี้มิใช่เป็นสิ่งที่เขาต้องการเลือก แต่เป็นเพราะเขามิมีทางเลือกอื่น เขากระทั่งไม่ต้องการถามอันใดกับจางโหวอีก และมิต้องการแก้แค้นผู้ใดอีก ชั่วชีวิตนี้ สามารถอยู่ร่วมกับนางถึงสองคืน นั่นก็เพียงพอแล้ว เขาสงสัยว่าในความทรงจำของตนเอง นอกจากนางแล้ว เขายังมีสิ่งใดที่น่าจดจำอีก

    เขาตัดสินใจจากไป

    ในยามนี้ เขาพลันได้ยินคนภายนอกเรียกชื่อของเขา

    เขาจำเสียงนั้นได้

    นั่นคือเสียงสหายของเขา “เสี่ยวโหลวลาชุนอวี่(หอน้อยนำฝน)”ไช่กว้อฉี


    “เหวยซานชิง” คนผู้นั้นเพื่อสะดวกในการเรียก จึงเรียกชื่อเขาโดยย่อเป็นเหวยซานชิง “หากท่านมิออกมาอีก ข้าพเจ้าต้องตายแน่แล้ว ข้าพเจ้าคงต้องพลีชีพเพื่อท่านแล้ว”

    เหวยชิงชิงชิงยังมิทันตอบคำ เหลียงเยิ่นฮวาก็กล่าว “ว่ายจื่อกลับมาแล้ว” เขาพบว่าท่าทีของนางพลันเปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความหวังและความห่วงใย “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงไอของเขา”
       
    เหวยชิงชิงชิงพลันกัดฟัน เดินออกไป

    เมื่อเดินออกมาถึง “ศาลาเป้าเอิน” จึงพบผู้คนหลายคน ในจำนวนน้นมีผู้หนึ่ง แขวนกระบี่ไว้ที่ข้างเอวทั้งสองข้าง ใบหน้าดุจเชื้อพระวงศ์ ท่าทีสง่างาม คมเข้ม ซึ่งก็คือเจ้าสำนักจ่านจิงถัง สามีของเหลียงเยิ่นฮวา ศิษย์พี่ใหญ่ของเหวยชิงชิงชิง ผู้มีนามว่า จางโหวแห่งไหวอิน

    จากคุณ : Mr. คัปปะ - [ 3 พ.ย. 47 10:39:56 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป