ขอบพระคุณ คุณ แจ้น มากครับ
ชื่อท่านเท่มากครับ ฟังชื่อแล้วเหมือนได้เห็นตัวเลย
แซวเล่นนะครับอย่าโกรธกัน
ขออนุญาตหารือกับท่าน เครซี ก่อนนะครับ(ท่านอื่นๆอย่าตกใจนะครับ มาจากกระทู้เดิม)
ท่านเปิดประเด็นในเรื่องภาษาในราชสำนักว่าใช้ภาษาแมนดาริน
ที่ผมยกมากล่าวนั้น หมายถึง ผมแย้งว่าคงไม่ได้ใช้ภาษาแมนดารินมาทุกยุคทุกสมัยดอกกระมัง
ดูอย่างยุคเลียดก๊ก แตกออกเป็นหลายก๊กหลายเหล่า แต่ละก๊กต่างก็ตั้งตัวเป็นอ๋อง แต่ละก๊กก็มีภาษาและตัวอักษรต่างกันไป (หากใครได้ดู The hero คงจะจำได้) และคำว่า "แมนดาริน" ฟังดูใหม่จัง
ผมเองก็เป็นเจ๊ก แต่เพื่อนๆเขาเรียกผมว่า "ไอ้เจ๊กกบฏ" เพราะว่าผมไม่ค่อยเหมือนเจ๊ก และด้วยโตมาจากทางเหนือจึงรับวัฒนธรรมทางเหนือเข้ามามาก จะเรียกยังไงก็เรียกเถอะครับ มันก็เป็นแค่เพียงชื่อที่หมายเอาตัวเราเท่านั้นเอง
ผมขอยกเอกสารจีนที่กล่าวถึงเสี้ยมก๊ก
ซึ่งท่านกล่าวว่าไม่มีเอกสารจีนที่กล่าวถึงเสียม(สุโขทัย) หรือเสียน ดังนี้ครับ
(ไม่ทราบว่าในแผ่นดินนี้ใช้ภาษาแมนดารินในราชสำนักหรือไม่ใช่ ขุนเจนจีนฯอาจเป็นแต้จิ๋วก็ได้เช่นกัน-ไม่ได้สอบ)
ท่านจะแปล คำว่าเสียมหรือ เสียน อย่างไร
ว่าด้วยทางพระราชไมตรี
หนังสือเรื่องเสี้ยมก๊ก หลอฮกก๊ก เป็นพระราชไมตรีกับกรุงจีน ข้าพระพุทธเจ้า ขุนเจนจีนอักษร(สุดใจ)แปลออกจากหนังสือคิมเตี้ยซกทงจี่ เล่ม ๕ หน้า ๓๔ หน้า ๓๕ หน้า ๓๖ หน้า ๓๗ หน้า ๓๘
หนังสือคิมเตี้ยซกทงจี่นี้เป็นหนังสือหลวง ด้วยขุนนาง ๖๖ นาย เป็นเจ้าพนักงานเรียงหนังสือคิมเตี้ยซกทงจี่ เมื่อแผ่นดินเขียนหลง(เฉียนหลง หรือไม่ใช่)ปีที่ ๓๒ เตงหาย (ตรงกับปีกุนจุลศักราช ๑๑๒๙ ปี)ในราชวงศ์เชงนี้ ต่อมาแผ่นดินเขียนหลงปีที่ ๕๐ อิดจี๋(ตรงกับปีมะเส็ง จุลศักราช ๑๑๔๗ ปี ใน รัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์)ขุนนางจ๋อโตวซื้อชื่อกีก๊ก(เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายขวา) กับขุนนางต๋ายลี้ยี่เคงชื่อเล็กเซียะหิม(เป็นกรมอยู่ในกระทรวงเมือง)ได้ชำระหนังสือคิมเตี้ยซกทงจี่นี้อีกครั้งหนึ่ง
ครั้งสมเด็จพระร่วงรามคำแหงครองกรุงสุโขทัย
พระเจ้าหงวนสีโจ๊วฮ่องเต้(ครั้งนั้นมงโกลได้ราชสมบัติในกรุงจีน เป็นปฐมกษัตริย์วงศ์หงวน นามแผ่นดินเรียกว่าจี่หงวน) แผ่นดินจี่หงวนปีที่ ๑๙ หยิมโหงวลักง้วย(ตรงกับ ณ เดือนแปด ปีมะเมีย จ.ศ.๖๔๔ ปี) พระเจ้าหงวนสีโจ๊วฮ่องเต้ รับสั่งให้ขุนนางก๊วนกุนโหวชื่อหอจือจี่เป็นราชฑูตไปเกลี้ยกล่อมเสี้ยมก๊ก
แผ่นดินจี่หงวนปีที่ ๒๖ กี้ทิ้วจับหง้วย(ตรงกับ ณ เดือน ๑๒ ปีฉลู จ.ศ.๖๕๑ ปี)หลอฮกก๊กให้ราชฑูตนำเครื่องบรรณาการมาถวาย
แผ่นดินจี่หงวน ปีที่ ๒๘ ซินเบ๊าจับหง้วย(ตรงกับ ณ เดือน ๑๒ ปีเถาะ จ.ศ.๖๕๓ หลอฮกก๊กอ๋องให้ราชฑุตนำราชสาส์นอักษรเขียนด้วยน้ำทองกับเครื่องบรรณาการ คือทองคำ งาช้าง นกกระเรียน นกแก้วห้าสี ขนนกกระเต็น นอระมาด อำพันทอง มาถวาย
แผ่นดินจี่หงวนปีที่ ๓๐ กุ่ยจี๋สี่หง้วย(ตรงกับ ณ เดือนหก ปีมะเส็ง จ.ศ.๖๕๕ ปี) พระเจ้าหงวนสี่โจ๊วฮ่องเต้รับสั่งให้ราชฑูตไปทำพระราชไมตรีด้วยพระเจ้าเสี้ยมก๊ก("พระราชไมตรี"นั้น ท่านว่าขุนเจนจีนฯแปลผิด อาจเป็นเพราะขุนเจนจีนเกรงพระราชอาญานั่นเอง)
.....
แผ่นดินจี่หงวนปีที่ ๓๑ กะโหวงชิดหง้วน(ตรงกับ วันเดือนเก้า ปีมะเมีย จ.ศ.๖๕๖ ปี) ในปีนั้นพระเจ้าหงวนสี่โจ๊วฮ่องเต้สวรรคต พระเจาหงวนเสงจงฮ่องเต้ขึ้นเสวยราชสมบัติ แต่ยังไม่เปลี่ยนนามแผ่นดิน เสี้ยมก๊กอ๋องกังมกติ๋งมาเฝ้า(ตรงกับพงศาวดารไทยที่ว่าพ่อขุนรามคำแหงเสด็จประเทศจีน) พระเจ้าหงวนเสงจงฮ่องเต้รับสั่งกับเสี้ยมก๊กอ๋องกังมกติ๋งว่าแม้ท่านคิดว่าเป็นไมตรีกันแล้วก็ควรให้ลูกชายหรือขุนนางมาจำนำไว้บ้าง(พระราชไมตรี...เฮ้อ...)
เมื่อตั้งกรุงศรีอยุธยาแล้ว และสุโขทัยเสื่อมอำนาจ
ยกมาแสดงดังนี้
พรรณนาว่าด้วยกรุงสยาม(ในรัชกาลที่ ๕ เราเรียกแผ่นดินของเราว่า"กรุงสยาม)
หนังสือเรื่องกรุงสยามได้เป็นพระราชไมตรีกับกรุงจีน ข้าพระพุทธเจ้า ขุนเจนจีนอักษร(สุดใจ)แปลออกจากหนังสือหวงเฉียวบุ๋นเหี่ยนทงเค้า เล่ม ๓๔ หน้า ๔๐ หน้า ๔๑
หนังสือหวงเฉียวบุ๋นเหี่ยนทงเค้านี้เป็นหนังสือหลวง ขุนนาง ๖๖ นายเป็นเจ้าพนักงาน เรียบเรียงในสมัยราชวงศ์ไต้เชง เมื่อแผ่นดินเขียนหลงปีที่ ๔๒ เตงอิว(ครงกับปีระกา จุลศักราช ๑๑๓๙ ปี พ.ศ. ๒๓๒๐ ในครั้งกรุงธนบุรี)
เสี้ยมหลอก๊ก(คือรวมกันแล้ว ระหว่าง เสี้ยมก๊กและหลอฮกก๊ก)
เสี้ยมหลอก๊กอยู่ฝ่ายทิศตะวันออกเมืองก้วงหลำ เฉียงหัวนอน(เฉียงใต้)เมืองกั้งพู้จ้าย(กัมพูชา) ครั้งโบราณมีสองก๊ก เสี้ยม(สยาม คือ สุโขทัย)ก๊กหนึ่ง หลอฮก(ละโว้)ก๊กหนึ่ง (ถ้าเสียมไม่ใช่สุโขทัย แล้วทำไมไม่กล่าวถึงสุโขทัยบ้างเลย (เงียบดีจัง)) อาณาเขตพันลี้เศษ ปลายแดนมีภูเขาล้อมตลอดในอาณาเขตแบ่งกุ๋น(เมือง) กุ้ย(อำเภอ) กุ้ยขึ้นฮู้(ขึ้นเมือง)ฮู้ขึ้นต๋าคูสือ(แปลว่าเจ้าพนักงานคลังมณฑล คือมีข้าหลวงคลังกำกับ คงจะหมายความเป็นเมืองที่ตั้งมณฑล ด้วยแบบราชการวงศ์เชงมีข้าหลวงคลังกำกับแต่เมืองที่ตั้งมณฑล)
ต๋าคูสือที ๙
๑,เสี้ยมหลอ(กรุงศรีอยุธยา - จีนไม่ยอมให้เป็นพระนครหลวง เสี้ยมหลอจึงเป็นได้เพียงต๋าคูสือ-กัมม์)
๒.ค้อเล้าสี้ม้า(นครราชสีมา)
๓.จุกเช่าปั๊น
๔.พี่สี่ลก(พิษณุโลก)
๕.สกก๊อตท้าย(สุโขทัย)
๖.โกวผินพี้(กำแพงเพชร)
๗.ต๋าวน้าวสี้(ตะนาวศรี)
๘.ท้าวพี้
๙.ลกบี๊
มีฮู้ ๑๔
๑.ไช้นะ(ชัยนาท)
๒.บู้เล้า
๓.บี๊ไช้
............
ยกมาแสดงเพื่อให้ท่านเห็นว่ามีเอกสารจีนที่กล่าวถึงเสียม(สุโขทัย) หรือเสียน อยู่จริง
หรือท่านจะแปลว่าอย่างไร
ประชุมพงศาวดารเล่ม ๔ องค์การค้าของคุรุสภา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ.๒๕๐๖
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 48 00:36:58
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 48 00:25:19
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 48 00:20:32
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 48 00:18:31
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 48 00:06:26