ความคิดเห็นที่ 2
ถึงแม้ว่าเครื่องบินมิค-25 จะผลิตอย่าจริงจังตั้งแต่ปี 1969 แล้วก็ตาม แต่ไม่เคยมีชาวตะวันตกคนใดได้เคยเข้าไปชมมิค-25 นี้ใกล้ๆได้เลย
ดังนั้นอะไรที่เกี่ยวกับมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้ แต่ที่แน่ๆคือ มันเป็นเครื่องบินที่โลกตะวันตกกลัวมากที่สุดโดยเฉพาะ สหรัฐฯ ถึงกับยอมรับว่ามันอาจเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ดีที่สุดในโลกนี้ที่เคยมีมา แสดงให้เห็นว่าโซเวียตมีขีดความสามารถสูงกว่าในทางอากาศ และการมำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางนี้ทำให้รับมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ นายเจมส์ อาร์ ชาล ซิงเกอร์กล่าวเตือนรัฐบาลของตนว่า สหรัฐฯและพันธมิตรของตนต้องปรับยุทธศาสตร์การป้องกันอย่างเร่งด่วน
มิค-25 เป็นที่โซเวียตให้ความคุ้มครองอารักขาสูงสุด และตบตาสายลับตะวันตกด้วยการกำหนดรหัสง่ายๆ เมื่อกล่าวถึงมิค-25 ว่าผลิตภัณฑ์หมายเลข 84 ด้วยเหตุนี้ นักบินที่มาขับเครื่องบินสุดวิเศษนี้ จึงต้องมีการคัดแล้วคัดอีก เรียกว่าเป็นคนกลุ่มพิเศษของวงการทหารโซเวียตเลยที่เดียว
เบเลนโกปลดห้ามล้อเมื่อเวลา 12.50 น. ตรงและมิคคู่ชีพของเขาก็วิ่งไปตามรันเวย์แล้วก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เบเลนโกพยายามประหยัดเชื้อเพลิงโดยไต่ระดับช้าๆไปสู่ความสูง 24,000 ฟุต ในเวลา 5 นาที แทนที่จะเป็น 4 นาที เขาเริ่มฝึกตีวง 360 องศา ในวงกว้างเขาเห็นมิค-25ลำอื่น บินฉวัดเฉวียนอยู่ ทุกลำบรรทุกอาวุธเต็มอัตราศึกและบรรจุเชื้อเพลิงเช่นเดียวกับเขา
และอีกอึดใจเขาต้องมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ เมื่อตีวงครบ 360 องศา เขาต้องเลือกว่าจะฝึกต่อตามแผนหรือทำตามแผนลับที่ได้วางแผนไว้
เจ้าอาจยังหวนกลับได้ ไม่มีใครรู้ แต่ถ้าไปแล้วต้องไปชั่วนิรันดร์ ฉันต้องไป เบเลนโกยืนยันกับตัวเองและเริ่มแผนลับทันที
พอเขาตีวงเสร็จ เขาเริ่มปล่อยให้เครื่องบินร่อนต่ำช้าๆ จะไม่เป็นที่ผิดสังเกตของหอบังคับการอย่างน้อยในช่วงแรก พอมาถึงระดับความสูง 19,000 ฟุต เบเลนโกหักคันบังคับไปข้างหน้าเพื่อเลี้ยซ้ายอย่างเร็วในขณะดำดิ่งมันเป็นการโฉบลงในหุบเขา จนเหลือระดับ 100 ฟุตเขาเชื่อว่าเขาจะปลอดภัยจาก จรวดต่อสู้อากาศยาน(SAM) และกองพัน ปตอ.ตามยอดเขาต่างๆ ขณะเดียวกันยอดเขาจะบังเขาจากจอเรดาร์ของหอบังคับการ
เขาขับเครื่องอย่างรุนแรง เสียงก้องคำรามไปทั่วหุบเขา เพียง 2 นาที ก็พ้นพื้นดินสู่ทะเลญี่ปุ่น เขากดปุ่มสัญญาณเตือนภัยซึ่งจะส่งสัญญาณว่าเครื่องตก 40 วินาทีต่อมาเขาปิดสัญญาณนั้น หลังจากนั้นเขาก็ปิดเครื่องเรดาร์และอุปกรณ์อิเลคโทรนิคทั้งหมดเพื่อป้องกันการติดตาม
เพื่อหลบการติดตามเขาบินต่ำมากจนต้องหลบเสากระโดงเรือหาปลาถึง 2 ครั้ง แต่การบินต่ำมาก ทำให้เจ้ามิคซดน้ำมันเข้าไปมาก เขาคำนวณแล้วว่าถ้าไม่กลับไปที่ระดับ 20,000 ฟุต เขาไม่มีวันไปถึงญี่ปุ่นแน่ แต่ด้วยความสูงขนาดนั้นเรดาร์จะตามพบ ดีไม่ดียังอยู่ในวิถีที่จรวดแซมจะตามมาซัดเขาด้วย
แต่คิดไปคิดมาแล้วเขาควรเลือกทางที่อาจจะตายดีกว่า เลือกทางที่ตายชัวร์อย่างน้ำมันหมดกลางอากาศ ว่าแล้วเบเลนโกจึงไต่ระดับขึ้นไปสู่กลุ่มเมฆที่เขามองเห็นว่าสภาพอากาศเลวร้าย
เขาเลือกบินไปในทิศตะวันออกเฉียงใต้กะว่าจะพุ่งชนเกาะฮอกไกโดเลยทีเดียว เพราะมันเป็นเกาะที่ใกล้ที่สุด เมื่อเวลา 13.20 น. เขาคำนวณว่าเขาอยู่ในน่านฟ้าญี่ปุ่นแล้วจึงผ่อนเครื่องเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มาร้าย เขาคาดว่าญี่ปุ่นต้องส่งเอฟ-4 ของตนขึ้นมาประกบแน่นอนเพื่อบังคับให้เขาร่อนลง แต่พวกเขาต้องคลำหาเป้าเองเพราะคลื่นวิทยุของเขาย่านความถี่แคบมาก
เครื่องบินของเขาปรากฏบนจอเรดาร์ของญี่ปุ่นเมื่อเวลา 13.11 น. เมื่อตอนเขาไต่ระดับ 20,000 ฟุต อีก9 นาทีต่อมา เมื่อจุดไฟกระพริบบนจอเดาร์มุ่งตรงมาที่สถานนีเรดาร์ ผบ.ฐานทัพซีโตเช่จึงสั่งการให้แฟนธ่อม เอฟ-4 ของตนออกสกักั้นทันที พร้อมกับพยายามติดต่อกับเบเลนโกเพื่อเตือนให้เขาหันหลังกลับไปเป็นภาษาอังกฤษและรัสเซีย เวลา 13.22 น.เบเลนโกล้ำน่านฟ้าญี่ปุ่น แฟนธ่อมโผล่มาใกล้เพื่อตามประกบ แต่อีก 4 นาทีต่อมาเขาลดระดับลงบวกกับสภาพอากาศเลวร้ายกระทันหันทำให้เครื่องบินเขาหายจากจอเรดาร์อีกครั้ง
เขาลดระดับเรื่อยๆจนถึง 1,800 ฟุต จึงเห็นทัศนียภาพเบื้องล่าง....................
วันนี้ขอตัวครับพรุ่งนี้จะมาต่อให้ครับ......
จากคุณ :
ryzon
- [
26 เม.ย. 48 18:50:17
]
|
|
|