นิยายนอกสายตา 5 เรื่องแห่งเฮียบ โดย เซียวสี่บ้อ
ในชีวิตของข้าพเจ้า นับว่าสิบปีให้หลังมานี้ มีนิยายกำลังภายในเป็นเครื่องชโลมจิตใจ มาตรว่าไม่นาน แต่ก็ไม่นับว่าน้อยแล้ว อย่างน้อยควรนานพอรู้จักพลิกแพลงได้ คิดค้นได้ สำเร็จได้ขั้นต้น ในชีวิตการอ่านช่วงแรกของข้าพเจ้า เริ่มในวัยเยาว์ เมื่อเริ่มอ่าน ก็ติดงอมแงม เมื่อตื่นต้องอ่าน เมื่อนอนยังไม่วายจินตนาการ ยามนั่งอ่านได้ ยามยืนก็อ่านได้ มิว่าทำอะไรล้วนหยิบจับขึ้นมาอ่านได้ ที่ข้างกาย ในมือขวาต้องมีหนังสือนิยายกำลังภายในแนบอยู่ตลอดเวลา คล้ายว่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายข้าพเจ้าก็มิปาน
ครึ่งหลังของชีวิตการอ่านกลับแตกต่างไป อ่านครึ่ง ครุ่นคิดครึ่ง มิอ่านมากเหมือนอดีต แต่กลไกความคิดกลับวิ่งเร็วเป็นเท่าตัว อ่านหนึ่งบทคำนึงหนึ่งบท อ่านสองบท คำนึงสองบท ท้ายสุดอ่านหนึ่งเล่มคำนึงถึงไร้จำกัด บางทียังคำนึงถึงตัวเองว่า คำนึงมากเกินไปแล้ว มากเกินพอดี แต่คิดคำนึงย่อมมีเหตุปัจจัย เหตุนั้นคือแนวทางที่แตกต่าง แนวทางหนังสือที่แตกต่าง
เมื่อเริ่มต้น อ่านแนวทางสายหลัก ไม่ว่า กิมย้ง โกวเล้งล้วนอ่าน เนี่ยอู้เซ็ง อ้อเล้งเซ็ง ล้วนไม่พลาด หลังจากนั้น ก็อ่านไม่เลือกผู้เขียน มิว่าเรื่องใดก็ล้วนอ่าน แต่พออ่านถึงจุดหนึ่งกลับเริ่มรู้สึกอิ่มตัว ความรู้สึกมิใช่เช่นเดิม จึงเปลี่ยนแนวทางการบริโภค เลือกอ่านเพียงเฮียบ (คุณธรรม) ไม่เน้นบู๊ (ต่อสู้)
เมื่อเลือกอ่านขั้นต้นยังเลือกยาก ยังแปลความหมายของ เฮียบ ไม่ออก ล้วนอ่าน เฮียบ บนแผงร่ำไป จากนั้นปรากฏว่า เฮียบ ของหนังสือในตลาดก็ไม่ต่างจาก เฮียบ ในนิยาย มีทั้ง เฮียบ และ เฮียบจอมปลอม ข้าพเจ้าพบว่าตัวละครมาตรว่าตัวเอกชอบอ้างพฤติการณ์คุณธรรม กลับประพฤติตนเยี่ยงผู้ดีจอมปลอมไม่ต่างไปจากตัวร้าย เยี่ยงนี้ยังรับได้ ตัวเอกใช่ว่าต้องเพียบพร้อมเสมอ แต่ลึกลงไป พบว่าผู้ประพันธ์ยิ่งผิดพลาด มิได้ผิดพลาดในการเขียน เพียงผิดพลาดในด้านคุณธรรม ทั้งคุณธรรมในกายเนื้อของเรื่องเล่า และคุณธรรมที่สะท้อนจากกลไกตลาดเอง เพียงเขียนสุกเอาเผากิน พอขายยังชีพเป็นใช้ได้
ในระหว่างนั้น ข้าพเจ้าสับสนยิ่ง ยิ่งอ่านยิ่งมัวหมอง กระทั่งเลิกอ่านไปพักหนึ่งเลยก็มี หลังจากนั้นด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และกอปรกับได้อาจารย์และบิดาที่ดี ค่อยค้นพบแนวทางของตนเอง เป็นแนวทางแห่ง เฮียบ ที่ใกล้ เฮียบ ที่แท้มาอีกขั้น
ข้าพเจ้าพบว่าการอ่าน เฮียบ ไม่สามารถเร่งร้อน ในอดีต วันหนึ่งอ่านได้หนึ่งเล่ม รวดเร็ว แต่ปัจจุบัน วันหนึ่งสามบทถือว่าไม่น้อยแล้ว มาตรว่าอ่านช้า แต่รู้สึกสามารถบริโภคได้อิ่มเอิบยิ่งขึ้น เข้าถึงตัวหนังสือมากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าเริ่มต้น กลับไปย้อนทวนอ่านหนังสือในอดีต อ่านทีละบท ทีละเล่ม เสพตัวอักษร อย่างเต็มที่ ข้าพเจ้าพบว่ามีหนังสือห้าเล่มของห้านักเขียน ที่ข้าพเจ้าสามารถบันทึกได้ ว่าเป็นห้าเรื่องในดวงใจของข้าพเจ้า ยังเป็นห้าเรื่องแห่ง เฮียบ ประจำใจของข้าพเจ้า
แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 48 09:54:42
จากคุณ :
rynekel
- [
17 พ.ค. 48 09:43:01
]