ความคิดเห็นที่ 1 บริ รายล้อม ข้างเคียง อ้อม บท กลุ่มคำ บริบท  คำหรือข้อความแวดล้อมเพื่อช่วยให้เข้าใจความหมาย จากคุณ : s.suk - [ 18 พ.ค. 48 01:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 i.e. context จากคุณ : ! o_o ! - [ 18 พ.ค. 48 02:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เวลาที่เราไม่สามารถทำความเข้าใจกับ "เป้าหมาย"ได้โดยตรง เช่น นักอักษรศาสตร์โบราณคดี พยายามแกะคำจารึกภาษาที่สูญหายไปแล้ว ซึ่งไม่สามารถหาอะไรมาอ้างอิ่งได้ วิธีที่ทำให้เขาสามารถแปลความและเข้าใจได้ ก็จะใช้วิธีการศึกษา"บริบท" เช่น ข้อความรอบ ๆ บางคำอาจจะเป็นศัพท์ที่ใกฃ้เคียงหรือหาความหมายได้ในปัจจุบัน พอแปลออกมาแล้วได้ใจความ อย่างนี้เขาก็เรียกว่า "บริบท" หรือเวลาเราอ่านภาษาอังกฤษ เจอศัพท์ใหม่ ๆ ในประโยคที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  เราก็จะดูรูปประโยคนั้น ดูคำศัพท์อื่น  ที่ประกอบอยู่กับศัพท์นั้น ๆ เพื่อหาความหมายของมัน  ซึ่งก็จะพอเดาได้ แม้จะไม่ตรงเป๊ะ ๆ ก็ตาม นี่ก็เรียกว่า "บริบท" หรือเวลาเราศึกษาประวัติศาสตร์รุ่นเก่า ๆ เช่นสมัยสุโขทัย หรือเอาแบบใกล้ ๆ ก็ได้ แต่บางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ หรือได้ข้อมูลมาไม่ครบ หรือข้อมูลไม่ตรงกับความจริง เช่น จะให้รัฐธรรมนูญแล้ว กำลังเขียนอยู่ แบบนี้เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาพูดจริงแล้วคิดจริงตามนั้นหรือเปล่า เราก็ดู "บริบท" ของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนั้น เช่น บอกว่าจะเขียน แล้วมีคณะทำงานไหม ทำงานกันอย่างไร วาระประชุมถี่แค่ไหน ใครเข้าร่วมได้บ้าง ใครเสนอความเห็นได้บ้าง เร็จแล้วใครเป็นคนพิจารณาตัดสิน และใช้เวลาไปแล้วแค่ไหน คืบหน้าไปอย่างไร ผลก็คือ รัฐธรรมนูญฉบับนั้นใช้เวลาเขียนมาแล้ว 10 ปี ยังไม่เสร็จ ก็เลยเกิดกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญและ 14 ตุลาขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อท่านผู้นำว่า จะมีรัฐธรรมนูญจริง ๆ ไม่ใช่เพราะผู้นำสารภาพ แต่เป็นเพราะ"บริบท"มันบอก หรืออย่างโครงการก่อสร้าง "โฮปเวลล์" ทั้งนักการเมืองไทยและเจ้าของสัมปทานต่างชาติ ยืนกรานเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำแน่ เสร็จแน่ เชื่อได้ไหม ก็ต้องดูบริบท เอาเงินลงทุนจากไหน  แบงก์ปล่อยกู้หรือเปล่า ปักเสาได้วันละกี่ต้น เดือนละกี่กิโลก ระยะเวลาสัมปทานเท่าไร ถ้าจะให้เสร็จจริงตามนั้นต้องใช้เวลาเท่าไร เหลืออายุสัมปทานเท่าไร คุ้มต่อการลงทุนไหม ผลออกมาปรากฎว่า หากใช้ระยะเวลาตามที่ปักเสาอยู่นี้ คงต้องรออีกเกือบร้อยปีถึงจะเสร็จ ก็รู้ได้ว่า โกงกันแน่ ๆ โกหกกันแน่ ๆ ไม่ต้องรอให้เขาถอนโครงการหรือรอให้เหลือแต่ซากประจานอย่างทุกวันนี้ แบบนี้เขาก็เรยกว่า การดู"บริบท" ในการนำไปใช้จริงครับ จากคุณ : แปดแฉก (สื่อศิลป) - [ 18 พ.ค. 48 09:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่มเติมจากความคิดเห็นที่ ๓ ตัวอย่างบริบททางหลักภาษาไทย ๑. คำว่า "มัน" เป็นคำชนิดใด? เราสามารถบอกได้ว่า เป็นคำนามก็ได้ คำสรรพนามก็ได้ คำกริยาก็ได้ ขึ้นอยู่กับบริบท เช่น บ้านฉันปลูกมันไว้เต็มไปหมด - มัน เป็นคำนาม เจ้าด่างมันไม่ยอมกินข้าว - มัน เป็นคำสรรพนาม ผัดผักร้านนี้มันเหลือเกิน กินไม่ลง - มัน เป็นคำกริยา เราระบุชนิดของคำได้ เนื่องจากบริบท(ข้อความที่แวดล้อม) ๒. ประโยค "ฉันให้เธอ" ผู้พูดเน้นเสียงที่คำใด? ฉันให้เธอ เขาไม่ได้เป็นคนให้ - เน้นที่ประธาน ฉัน ฉันให้เธอ ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก - เน้นที่กริยา ให้ ฉันให้เธอ ไม่ใช่ให้เขา - เน้นที่กรรม เธอ เราสามารถระบุตำแหน่งคำได้ โดยอาศัยบริบทนั่นเอง เป็นต้น จากคุณ : hua856@hotmail.com - [ 18 พ.ค. 48 18:34:56 A:202.41.167.246 X: TicketID:024407 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ..คุณ s.suk  คุณ ! o_o ! คุณแปดแฉก (สื่อศิลป) และคุณ hua856@hotmail.com มากๆเลยนะคะ..แต่อยากถามต่ออีกนิดหนึ่งนะคะ ถ้าเราจะศึกษาบริบทของอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง จะมีหัวข้ออะไรบ้างค่ะที่จะทำให้ครอบคลุมเนื้อหามากที่สุด ...ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จากคุณ : ก้อนหินริมทาง - [ 18 พ.ค. 48 19:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เหมือนรายงานเลยนะ ก็เริ่มจากการเอา "อุทยานแห่งชาติ" ตั้งไว้เป็นศูนย์กลาง แล้วลากเส้นเชื่อมโยงจากศูนย์กลางไปหาส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยยึดอยู่บนฐานคิดที่ว่า "ไม่มีอะไรที่หยุดนิ่งและไม่สัมพันธ์  ทุก ๆ อย่างที่อยู่และเห็นบนโลกนี้ล้วน"เคลื่อนไหวและสัมพันธ์" กันทั้งนั้น" ลองนึกดูสิครับว่า เจ้าศูนย์กลางของเรามัน "เคลื่อนไหว"อย่างไร เช่น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป" อย่างไร ส่นสัมพันธ์ก็ เช่น มันเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับระบบการเมืองอย่างไร เกี่ยวกับเศรษฐกิจอย่างไร เกี่ยวกับสังคมอย่างไร เช่น การเกิดขึ้นของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นอุทยานแห่งแรกของไทย เกิดขึ้นจากแนวคิดอะไร เกี่ยวข้องกับการเมืองในขณะนั้นอย่างไร เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอย่างไร (เช่น เพราะมีเขาใหญ่ ทำให้เกิดจุดท่องเที่ยวและการค้าในบริเวณดังกล่าวหรือการเกิดรีสอร์ตหรู ๆ แถวเขาใหญ่) เกี่ยวข้องกับสังคมอย่างไร เช่น การขยายตัวของชุมชนที่เกิดจากการจัดตั้งอุทยาน การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นเนื่องจากการจัดการอุทยาน  การบุกรุกที่ดินเพื่อทำรีสอร์ตเพื่อให้อยู่ใกล้เขาใหญ่ กระทั่งพัฒนาการเศรษฐกิจของชุมชนบริเวณรอบเขาใหญ่ (เลือกเป้าหมายเล้ก ๆ หรือกระทั่งอำเภอปากช่องแม้กระทั่งเมื่องโคราชเลยก้ได้) ที่เกิดจากการประกาศอุทยานแห่งชาติใหญ่ กระทั่งเรื่องของการไล่ที่ชาวบ้านเพื่อพ้นพื้นที่อุทยานก็ทำได้ เพราะเมื่อประกาศเขตอุทยานแล้วชาวบ้านจะไปตั้งบ้านเรือนอยู่ไม่ได้  ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำยังไง แต่ขอตั้งข้อสังเกตไว้หน่อยว่า เราอยากได้แบบเจาะลึกหรือครอบคลุมเนื้อหา เพราะถ้าตั้งเป้าไม่ดี การครอบคลุมเนื้อหาจะหมายถึงการต้องอ้างอิงข้อมูลมหาศาลเกินกว่าที่เราจะทำได้นะ แต่ถ้าไม่เอาเจาะลึก ก็เล่นประเด็นความเกี่ยวช้องกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งในแง่ของความสัมพันธ์และความเคลื่อนไหว ครับ จากคุณ : แปดแฉก (สื่อศิลป) - [ 19 พ.ค. 48 11:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ..คุณแปดแฉก (สื่อศิลป) มากๆเลยนะคะสำหรับคำอธิบายที่ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นมากๆๆ (นับจากที่ไม่รู้อะไรเลย) ถ้ามีอะไรสงสัยอีกจะเรียกมารบกวนอีกนะคะ.. ขอบคุณมากๆๆ อีกครั้งค่ะ จากคุณ : ก้อนหินริมทาง - [ 19 พ.ค. 48 22:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยินดีครับ จากคุณ : แปดแฉก (สื่อศิลป) - [ 20 พ.ค. 48 12:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แวะมาอ่านเลยได้ความรู้ด้วยคน...ฃขอบคุณทุกทั่นและผู้ตั้งกระทู้ จากคุณ : อิฮั้น(เอง) - [ 23 พ.ค. 48 05:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แวะมาแล้วได้ความรู้ชัดเจนขึ้น ขอบคุณผู้ตอบทุกท่านค่ะ จากคุณ : katt1963 - [ 24 พ.ค. 48 23:53:31 ]