ความคิดเห็นที่ 1
ผู้อ่านผลงานของหวงอี้มาก่อน น.นพรัตน์ สำหรับคนไทยคนหนึ่งย่อมเป็น ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ แห่งบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น แสดงทรรศนะผลงานและตัวตนของหวงอี้ว่า “เขาแต่งหนังสือได้เยี่ยม ตัวละครแคล่วคล่องว่องไว ในจินตนาการของคนอ่าน หวงอี้ก็น่าจะเป็นแนวนั้น แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม เขาเหมือนคนเดินถนนธรรมดา ถ้าเราวิจารณ์ก็คือ เป็นคนค่อนข้างเคร่งขรึม คล้ายๆ กับคุณ น.นพรัตน์”
น.นพรัตน์ ขยายภาพหวงอี้เพิ่มว่า "ลายเส้นตัวเขียนหนังสือของเขา เป็นแบบโบราณไม่ค่อยเห็นใครเขียนมาก่อน นั่นแสดงว่าความรู้เรื่องโบราณของเขาลึกพอสมควร ลึกมากจนกระทั่งสามารถถ่ายทอดตัวหนังสือมาให้เราดูได้“
มองลึกเข้าไปในผลงาน "ปรัชญา” ในเนื้องานของหวงอี้มีมากน้อยเพียงใด
น.นพรัตน์ ในฐานะผู้ได้เคยพบปะหวงอี้มาไม่น้อยกว่าสองครั้ง เผยให้รู้ว่า "เท่าที่คุยกัน เขาก็เป็นแฟนนวนิยายกำลังภายในเหมือนกัน เขาชอบอ่านผลงานของนักเขียนบรมครูทุกท่าน เขาชอบผลงานของกิมย้งและซื่อหม่าหลิงที่สุด ซื่อหม่าหลิงในประเทศไทยเราจะมีแปลอยู่ไม่มากนัก แนวการเขียนของซื่อหม่าหลิงได้รับการยอมรับว่าเหนือกว่า อ้อ เล้ง เซ็ง มาก เพราะเรื่องของเขาเมื่ออ่านแล้วจะมีคุณค่าที่ดีแทบทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า หวงอี้ก็ได้นำเอาปมเด่นของกิมย้งกับซื่อหม่าหลิงมาเขียนในนวนิยายของเขา คล้ายกับคำสุภาษิตจีนว่า เขียวเกิดจากคราม แต่ว่าครามเหนือกว่าเขียว นั่นก็คือว่า ศิษย์เหนือกว่าอาจารย์ หมายถึง หวงอี้เอาปมเด่นของซื่อหม่าหลิงเข้ามา แล้วก็สอดแทรกปรัชญาและความเป็นตัวตนของตัวเองเข้าไป หนังสือของเขาแทบทุกเรื่องมีสีสันและมีความน่าอ่านเหนือกว่านักเขียนรุ่นก่อนๆ“
เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่าผลงาน หวงอี้ กับ กิมย้ง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ผู้อ่านผลงานของนักเขียนทั้งสองท่านมาอย่างโชกโชน สรุปให้ฟังว่า "ผมชื่นชมผลงานของหวงอี้ก็เพราะโครงเรื่องที่กว้างใหญ่ไพศาล แล้วเขาก็เขียนไม่หลุด แม้จะมีปรากฏการณ์อะไรออกมาก็ตาม เขามีเหตุผลในเบื้องหลังหมด อีกหลายเล่มต่อมาก็จะถูกใช้ออกมา“
ใช่แค่การปูพื้นฐานไว้ให้เรื่องสมจริง แต่การเขียน "ฉากสงครามเขาก็บรรยายได้ละเอียด บรรยายได้เห็นภาพ ถึงความโหดร้าย ความชุลมุนวุ่นวายของเหล่าทหารหาญในช่วงเวลานั้น ผมถือว่านักเขียนนวนิยายกำลังภายในทั้งหมด รวมทั้งกิมย้งด้วย ก็เทียบไม่ได้ กิมย้งไม่สามารถเขียนฉากสงครามได้ดีกว่าหรือเท่าหวงอี้ แต่จุดที่หวงอี้อาจจะด้อยกว่ากิมย้งก็คือ กิมย้งสามารถสร้างบุคลิกของตัวละครแบบค่อยๆ ให้ผู้อ่านพบเอาเอง ติดตามอ่านแล้วค่อยๆ เข้าใจถึงตัวละครว่า ที่แท้จริงเป็นคนอย่างไร อย่างบางเรื่องที่บอกว่า ผู้หญิงสวย ดี ตั้งแต่เริ่มต้น ในที่สุดกลับเป็นคนร้าย เป็นการสร้างบุคลิกเป็นธรรมชาติ ไม่บอกว่าคนนี้ดีอย่างไร ร้ายอย่างไร ไม่บอกด้วยปลายปากกา แต่ให้คนอ่านเข้าใจเอาเอง”
อันที่จริง “ในชีวิตจริงของหวงอี้เป็นคนเคร่งขรึม เป็นเสือยิ้มยาก ไม่พูดเล่นนัก แต่ว่าตัวละครเป็นตรงกันข้าม ตัวละครของเขาสดชื่น มีอารมณ์ขัน เพราะฉะนั้นผมรู้สึกว่าหวงอี้ถูกเมียคุม รู้สึกว่าเจ้าชู้ไม่เป็น แต่ว่าในหนังสือ เขียนให้ตัวเอกและฝ่ายผู้ร้ายเจ้าชู้ เขาเขียนได้เฉียบขาด แสดงว่าเป็นการเก็บกดแล้วนำมาปลดปล่อย”
ตัวตนของหวงอี้ในวงการ น.นพรัตน์ เสริมให้เห็นว่า "ถ้าเราติดตามนวนิยายกำลังภายในมาตลอด ในระยะหลังๆ นี้เราจะพบว่า ไม่มีนักเขียนนวนิยายกำลังภายในเก่งและมีวินัยเหมือนกับหวงอี้ บางครั้งมีคนโต้แย้งว่า เรายกย่องหวงอี้มาเกินไปหรือเปล่า แต่ว่าในข้อเท็จจริงแล้ว ผมอยากให้เราไปดูตลาดต่างประเทศดูบ้าง ที่ต่างประเทศมีนวนิยายกำลังภายในออกมาเยอะแยะ แต่ว่าที่ได้รับการต้อนรับ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลย์ ขอเชิญทุกท่านไปพิสูจน์ได้เลยว่า มีแต่หวงอี้คนเดียว ถ้าเราไปร้านหนังสือ ถ้าเป็นช่วงที่ผลงานของหวงอี้ออก จะเห็นว่าวางทุกร้าน จะวางในที่ที่สะดุดตามาก หมายความว่ามีคนติดตามอย่างเหนียวแน่น เพราะฉะนั้นเราก็ภาวนาว่าหวงอี้คงไม่ละทิ้งแฟนๆ ไปง่ายๆ ถ้ามองจากสายตาผมซึ่งเป็นคนสมถะ ผมเห็นว่าหวงอี้เดี๋ยวนี้รวยมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะเขียนไปรวยขนาดไหนอีก"
ก่อศักดิ์ชี้ชวนให้เห็นว่า "เมื่อก่อนดูจากการแต่งกายเขาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย เขายังไม่มีรถเบนซ์ใช้ เพราะบ้านเขาเป็นเกาะ เขาจะมาฮ่องกงก็นั่งเรือมา แต่เดี๋ยวนี้มีแล้ว เพราะเกาะแห่งนี้กลายเป็นที่สร้างสนามบินแล้ว แต่หวงอี้ก็ยังเป็นคนสมถะ ไม่ได้แต่งสูท ผูกเนกไท แม้จะร่ำรวยจากการเขียนหนังสือ แต่ผมคิดว่า สิ่งที่เขารักและภูมิใจก็คือการเขียนหนังสือ เชื่อว่าถ้าเขาไปพักผ่อน ก็คงไม่เกิน 6 เดือน เขาก็คงกลับมา”
สอดพ้องกับ น.นพรัตน์ ที่บอกว่า "ผมเจอกับหวงอี้มาสองสามครั้งแล้ว ยอมรับว่าเป็นคนที่เรียบง่าย ไม่ค่อยถือตัว แล้วก็เป็นนักอ่านตัวจริง อ่านแบบแฟนพันธุ์แท้จริงๆ“
จากคุณ :
นู๋เองง่ะ
- [
28 มิ.ย. 48 05:12:44
]
|
|
|