ความคิดเห็นที่ 1 กรมหมื่น กรมขุน กรมหลวง กรมพระ กรมพระยา ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไปครับ จึงจะได้ทรงกรม จากคุณ : ทับศานต์ใจ - [ 15 ส.ค. 48 15:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมาก ๆ ครับสมกับที่นี่เป็นแหล่งความรู้และมีผู้ให้ข้อรู้เสมอ ๆ จากคุณ : ใคร่รู้ - [ 15 ส.ค. 48 16:23:36 A:61.90.9.99 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เสริมคุณ ทับศานต์ใจ นะคับ "เสด็จในกรม" เรียกเฉพาะ พระองค์เจ้าชั้นเอก(พระบรมวงศ์)ที่ได้ทรงกรม คือ พระราชโอรสในพระมหากษัตริย์ เช่น เสด็จในกรมราชบุรีฯ เสด็จในกรมนราธิป เป็นต้น "ในกรม" ใช้เรียกพระองค์เจ้าชั้นโท หรือชั้นตรี(พระอนุวงศ์) ที่ได้ทรงกรม เช่น ในกรมนราธิปฯ ในกรมพิทยาลาภฯ เป็นต้น ซึ่งเวลาเรียก ก็จะ รู้โดยอัติโนมัติว่าเรียกผู้ใดคือ เสด็จในกรมนราธิป หมายถึง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ แต่ ในกรมนราธิป หมายถึง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เสด็จในกรมพิทยาลาภ หมายถึง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา แต่ ในกรมพิทยลาภ หมายถึง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัติ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร ----------------------------------------------------------- จากคุณ : natthaset - [ 15 ส.ค. 48 17:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 (เสริมท่านทับศานต์ใจครับ) มีกฎอยู่ว่า ชั้นเจ้าฟ้าลูกหลวงชั้นเอก  ทรงกรมครั้งแรกเป็น กรมหลวง ชั้นเจ้าฟ้าลูกหลวงชั้นโท  ทรงกรมครั้งแรกเป็น  กรมขุน ชั้นพระองค์เจ้า  ทรงกรมครั้งแรกเป็น  กรมหมื่น ยกเว้น  พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี  กรมขุนสุพรรณภาควดี ที่ทรงกรมครั้งแรกชั้นเจ้าฟ้าลูกหลวงชั้นโท จากคุณ : กัมม์ - [ 15 ส.ค. 48 20:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ชั้นเจ้าฟ้าลูกหลวงชั้นเอก ทรงกรมครั้งแรกเป็น กรมขุน สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนศุโขไทยธรรมราชา ชั้นเจ้าฟ้าลูกหลวงชั้นโท ทรงกรมครั้งแรกเป็น กรมหมื่น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพรฯ กรมหมื่นลพบุราดิส จากคุณ : q - [ 15 ส.ค. 48 21:55:38 A:137.197.158.129 X: TicketID:095509 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณกัมม์เข้าใจผิดครับ เจ้าฟ้าชั้นเอกหรือเจ้าฟ้าแรกประสูติ จะทรงกรมครั้งแรกที่ กรมขุนครับ พระองค์เจ้า หรือ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้า(เจ้าฟ้าชั้นโท) จะทรงกรมครั้งแรกที่ กรมหมื่นครับ ผมคิดว่า คุณกัมม์ไปเห็นการตั้งกรม ครั้งแรกที่กรมหลวง คือ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร (ก็โปรดมากนี่ครับ) นั่นคือ เป็นเหตุให้ เมื่อรัชกาลที่ ๖ ตั้งกรม พระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ ที่ กรมขุนเพชรบุรีฯ(2454) ทูลกระหม่อมหญิงมิทรงยอมเพราะทรงเห็นว่า รัชกาลที่ ๕ ทรงตั้งกรมหลวงรัตนโกสินทร โดยมิได้เป็นกรมขุนก่อน จึงกราบบังคมทูลรัชกาลที่ ๖ ว่า หากทรงตั้งพระองค์เป็นกรมขุน จะมิทรงขอรับ รัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชดำริแล้วจึงพระราชทานกรมให้ดั่งพระประสงค์ เป็นสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าฯกรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธรฯ ส่วนเสด็จพระองค์ศรีวิไลยลักษณ์ ทรงกรมครั้งแรกที่ กรมขุน ถูกต้องแล้วครับ ด้วยทรงเป็นลูกคู่ทุกข์คู่ยากครับ จากคุณ : natthaset - [ 15 ส.ค. 48 21:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จริงด้วยครับ (แล้วมันเอามาจากที่ไหนเนี่ย) ขออภัยอย่างแรง เมื่อกี้นั่งกินข้าวก็นึกถึงเรื่องนี้(ตะหงิดๆว่าพลาดแล้ว) คิดไปคิดมา  มีอีกหลายพระองค์ที่แปลกออกไป  เช่น -เจ้าฟ้าฯ กรมขุนขัตติยกัลยา (จากพระองค์เจ้าเป็น เจ้าฟ้าฯ กรมขุน) -หม่อมมุก กรมหมื่นนรินทรพิทักษ์ -เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ -พระองค์เจ้ากุ กรมหลวงนรินทรเทวี -พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ (พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๓ ไม่มีเจ้าฟ้าใช่ไหมครับ) (ไปกันใหญ่แล้ว   ขอตั้งหลักก่อนครับ) จากคุณ : กัมม์ - [ 15 ส.ค. 48 23:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้านอกเหนือจากกฎเกณฑ์ข้างต้น ถือเป็นการตั้งพิเศษนะครับ แต่ถ้า พระองค์เจ้าเปนเจ้าฟ้ากรมขุน ก็ไม่ถือว่าพิเศษอย่างไรนะครับ จากคุณ : natthaset - [ 15 ส.ค. 48 23:44:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แล้ว "กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ" อะครับ จากคุณ : จงรัก (จงรักไม่ภักดี) - [ 16 ส.ค. 48 00:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ต้องบอกก่อนนะคับว่า การตั้งกรมต่างๆมาชัดเจนและมีกฎ ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพราะจากเฉลิมพระยศเจ้านายพบว่า เจ้าฟ้าชั้นเอก ก็ทรงกรมที่กรมหมื่นเหมือนกันคือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหมื่นปราบปรปักษ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๒ และสมเด็จเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี ตอบคำถามคุณกัมม์ก่อน แต่แรกเดิม เจ้าฟ้ากรรณิกาแก้ว ทรงเป็น พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ากรรณิกาแก้ว ต่อมาผลัดรัชกาล จึงเป็นพระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้ากรรณิกาแก้ว ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้า"เป็นพิเศษ" เป็น พระเจ้าน้องนางเธอ กรมขุนขัตติยกัลยา - เจ้าฟ้าฯกรมนริศก็เช่นกัน ทรงพระกรุณาให้เป็น พระเจ้าน้องยาเธอ (พระองค์เจ้า)กรมขุนนริศรานุวัตติวงศ์ เป็นพิเศษ ต่อมาทรงเลื่อนเป็น เจ้าฟ้าทั้งสองพระองค์ ----------------------------------------------------------- คุณจงรัก โดยทรงตั้งจาก พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ ทำนองเดียวกับ รัชกาลที่ ๕ ทรงตั้ง - พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี เป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯกรมหมื่นจักรพรรดิพงษ์ - พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าณกรมหมื่นภาณุพันธุ์วรเดช - พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ายุคลทิฆัมพร เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯกรมหมื่นลพบุรีราเมศวร์ เป็นต้น ครับ จากคุณ : natthaset - [ 16 ส.ค. 48 01:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ว่าจะเข้าโพสเหมือนอย่างคุณ จงรัก (เพิ่งนึกออก) ค้นต่อขึ้นไปอีก เจอ สมเด็จพระนารายณ์ ทรงสถาปนา เจ้าฟ้ากรมหลวงโยธาทิพย์(พระขนิษฐาสมเด็จพระนารายณ์)   เจ้าฟ้ากรมหลวงโยธาเทพ(พระราชบุตรีสมเด็จพระนารายณ์) หรือว่าชั้นเจ้าฟ้าขึ้นไป  แต่ก่อนทรงกรม กรมหลวง อย่างที่โปรดเกล้าฯตั้งกรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ กับ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินทร น่ะถูกแล้ว แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 48 02:55:48 จากคุณ : กัมม์ - [ 16 ส.ค. 48 02:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทูลกระหม่อมวไลยฯ ท่านแน่จริงๆท่านคงคำนึงว่า องค์เองไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเจ้าฟ้าสุทธาทิพฯ ดูจะทรงเหนือกว่าด้วยซ้ำ เป็นถึงพระราชธิดา ในสมเด็จพระบรมราชเทวี มิใช่พระราชเทวี ทั้งยังเป็นพระราชธิดาเลี้ยงในสมเด็จพระพันปีอีก ความสนิทสนมในรัชกาลที่ หกก็มีมาก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในหมายก็ออกว่าเสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอทุกครั้ง เป็นเช่นนี้ใครจะยอม จากคุณ : จำปูน - [ 16 ส.ค. 48 09:49:46 A:203.144.198.246 X: TicketID:033075 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เจ้าของกระทู้ต้องขอขอบคุณทุก ๆ ความเห็นนะครับทั้งที่ผ่านมาแล้วและจะมีอีกในวันข้างหน้าขอถามอีกนิดนะครับว่า เจ้านายทรงกรมในปัจจุบัน (ทุกวันนี้) มีกี่พระองค์ แล้วสมเด็จพระพี่นางฯ (ในกรมหลวงฯ) นี่ ทรงกรมมากี่ชั้นแล้วครับ. จากคุณ : ใคร่รู้ - [ 16 ส.ค. 48 10:16:21 A:61.90.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 พวกคุณเก่งกันจังเลย  ไปเอาข้อมูลมาจากไหนกันน่ะครับ เยอะดีจัง จากคุณ : miloman - [ 16 ส.ค. 48 10:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ในปัจจุบันมีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงกรมอยู่เพียงพระองค์เดียวครับ (ที่ยังทรงพระชนม์ชีพ) และทรงเริ่มต้นที่ชั้น "กรมหลวง" ทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นทรงกรม เมื่อปี พ.ศ.2538 ในวาระมงคลสมัย พระชนมายุครบ 72 ชันษา ครับ จากคุณ : ทับศานต์ใจ - [ 16 ส.ค. 48 11:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สงสัยนิดนึงครับว่า เจ้าฟ้า หรือ เจ้าฟ้าฯ   คือ เจ้าฟ้าฯ มีคำเต็มจากอะไร ครับ ขอCopy+pasteมาจากความคิดเห็น-------> ความคิดเห็นที่ 7   มีอีกหลายพระองค์ที่แปลกออกไป  เช่น-เจ้าฟ้าฯ กรมขุนขัตติยกัลยา (จากพระองค์เจ้าเป็น เจ้าฟ้าฯ กรมขุน)จากคุณ : กัมม์  - [ 15 ส.ค. 48 23:28:15 ] ความคิดเห็นที่ 10  รัชกาลที่ ๕ ทรงตั้ง - พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี เป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯกรมหมื่นจักรพรรดิพงษ์ - พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าณกรมหมื่นภาณุพันธุ์วรเดช - พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ายุคลทิฆัมพร เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯกรมหมื่นลพบุรีราเมศวร์ เป็นต้น ครับ จากคุณ : natthaset  - [ 16 ส.ค. 48 01:33:06 ] คือสงสัยว่า ควรจะเขียนอย่างไร จึงจะถูก และสื่อความหมายที่ แท้จริง ครับ จากคุณ : karoon_t - [ 16 ส.ค. 48 12:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เจ้าฟ้าฯ ก็เขาย่อพระนามของพระองค์นั้น ๆ นะซิค่ะ ไม่เขียนเต็มไง เจ้าฟ้า เฉย ๆ นั้นก็คือพระยศค่ะ... จากคุณ : หญิงพิรุณราษฎร์ - [ 16 ส.ค. 48 13:38:08 A:61.90.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากความเห็นที่ ๑ นั้น เรียงตามกรมสูงมาต่ำ หรือต่ำมาสูงค่ะ... จากคุณ : ขอรู้ด้วยคน - [ 16 ส.ค. 48 13:51:14 A:61.90.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณทับศาสนต์ใจลืมสมเด็จพระเทพไปนะครับ สมเด็จพระเทพฯ ท่านก็เป็นกรมสมเด็จพระ หรือถ้าพูดทำนองเดิมๆคือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าฯกรมพระยาเทพรัตนราชสุดาฯ หรือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าฯกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เสมอ สมเด็จพระบรมราชชนนีครับ สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ท่านว่าไว้ว่า "หากเจ้าฟ้าได้รับการเฉลิมพระนามเป็นเจ้าฟ้า ก็ให้เขียนไปยาลน้อยไว้หลังเจ้าฟ้าตามด้วยกรม แต่หากมิได้เฉลิมพระนามเป็นเจ้าฟ้า ก็มิต้อง"ครับ โดยท่านพูดเช่นนี้ หมายถึง ตัวท่าน และน้องท่าน ครับ คือท่านมิได้เฉลิมพระนามเป็น"เจ้าฟ้าจิตรเจริญ" และ"เจ้าฟ้ากรรณิกาแก้ว"แต่ท่านเป็น "พระองค์เจ้าจิตรเจริญ" และ "พระองค์เจ้าหญิงกรรณิกาแก้ว"แต่เฉลิมพระยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุน และ พระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมขุน ต่างจากสมเด็จยุคล ท่านเป็น พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ายุคลทิฆัมพร ก่อน แล้วเฉลิมพระยศเป็น พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร ต่อมาเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯกรมหมื่นลพบุรีราเมศวร์ครับ เช่นนี้ ท่านเหมือนกับ ท่านมิอยากเป็นเจ้าฟ้าสักเท่าไร เพราะท่านโปรดให้พระโอรสธิดาของพระองค์เรียก เสด็จพ่อ แทนสมเด็จพ่อ นอกจากนั้นต่างออกพระนามท่านว่า สมเด็จทั้งสิ้น ฉะนั้น เวลาเขียนพระนามกรมพระยานริศฯและกรมขุนขัตติยกัลยา หากตามหลักที่ถูกต้องนั้น ต้องเขียนว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนขัตติยกัลยา แต่ เวลาจะเขียนพระนามกรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ หรือเจ้าฟ้าอื่นๆ ต้องเขียนว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯกรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ หรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯกรมหลวงสงขลานครินทร์ เป็นอาทิ จากคุณ : natthaset - [ 16 ส.ค. 48 14:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สมเด็จพระเทพฯ ที่คุณ natthaset พูดถึงคือสมเด็จพระบรมราชกุมารี (ทูลกระหม่อมน้อย) ของเราชาวไทยนี้เองหรือค่ะเพิ่งรุ้เดี่ยวนี่เองว่าพระองค์ทรงกรมด้วยขอความกรุณาอรรถาธิบายให้กระจ่างเป็นวิทยาทานด้วยค่ะแล้วทรงกรมเมื่อไหร่ค่ะ หรือเป็นเพียงเสด็จในกรมเทียบค่ะ... จากคุณ : ขาจร - [ 16 ส.ค. 48 15:51:58 A:61.90.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ natthaset ครับ ผมว่า กรมสมเด็จพระ ก็คือสมเด็จกรมพระยา อิศริยยศ เทียบไม่ได้กับสมเด็จพระเทพรัตนฯ นะครับ ยกเว้นแต่กรมสมเด็จที่เป็นพระราชชนนีในพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น ถ้าจะทรงสถาปนาทูลกระหม่อมน้อยให้เป็นสมเด็จกรมพระยา ก็ยังไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่า ที่จะทรงเป็นสยามบรมราชกุมารี นะครับ แม้แต่กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ที่ถือว่ายิ่งใหญ่ ยังมิได้ทรงรับสัปตปฎลเศวตรฉัตร ต่อเมื่อสิ้นพระชนม์ ร.5 ถึงได้พระราชทานเพื่อเพิ่มพระเกียรติยศ ในขณะที่สมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้รับสถาปนาไว้ว่า ให้ทรงรับพระราชบัญชา และ สัปตปฎลเศวตรฉัตร ถ้าสมเด็จกรมพระยาโดยทั่วไปคงใช้ได้เพียงพระบัญชาเท่านั้น จากคุณ : จำปูน - [ 16 ส.ค. 48 16:01:35 A:203.144.198.246 X: TicketID:033075 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แล้ว เจ้าต่างกรม หมายความว่าอย่างไรครับ เคยได้ยินบ่อยๆ ประมาณว่าได้รับพระราชทานเครื่องยศอะไรสักอย่างหนึ่ง จึงมีฐานะเทียบเท่า เจ้าต่างกรม  ขอความรู้ด้วยนะครับ จากคุณ : คนน่าน - [ 16 ส.ค. 48 16:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คิดว่าตำแหน่ง สมเด็จฯ สยามบรมราชกุมารี นี้น่าจะเพิ่งมีเป็นครั้งแรกนะครับ ไม่คิดว่าเป็นตำแหน่งทรงกรมด้วย ราชาศัพท์ที่ใช้ก็สูงกว่ากรมพระราชวังบวรสถานพิมุข เดี๋ยวรอให้คนมีความรู้มากกว่ามาตอบดีกว่าแฮะเรา จากคุณ : โอ้มายก็อดเนส (ohmygodness) - [ 16 ส.ค. 48 16:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กระทูนี้ยอดเยี่ยมเลยครับ  ช่วนกันโหวตดีไหมครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 16 ส.ค. 48 17:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีประกาศในรัชกาลที่ ๗ ให้เลื่อนสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ ขึ้นเป็นกรมหลวง และ ให้ตั้ง พระองค์เจ้านภาพรประภา  ขึ้นเป็น  พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลลินี   เป็นพระองค์เจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวัง เห็นทีเรื่องนี้จะใช่เป็นหลักเป็นเกณฑ์ไม่ได้  จบข่าว ขอเปิดประเด็นใหม่ครับ ในสายพระราชสกุลในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  ใช้ว่า "มหิดล" ที่จริงทรงตั้งราชสกุลใหม่ได้หรือไม่ครับ  และเพราะเหตุอะไรครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 16 ส.ค. 48 20:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ครับๆ สมเด็จพระพันปี เคยรับสั่งว่ากับรัชกาลที่ 6ว่า พระองค์เป็นสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ  หากจะเปลี่ยนให้พระองค์เป็นกรมสมเด็จพระ พระบรมราชชนนี ก็มิทรงยอม รัชกาลที่ 6 จึงเลี่ยงที่จะสถาปนาเป็นกรมสมเด็จพระ คือเฉลิมพระนามให้เป็นสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี แทนที่จะเป็น กรมสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี ถ้าผมพูดว่า กรมสมเด็จพระ แบบใหม่ คือ สมเด็จพระ+พระนามาภิไธยที่เฉลิมใหม่ ตกลงหรือไม่ครับ คุณจำปูน แล้วผมก็แปลกใจ ทำไมรัชกาลที่ 5 สถาปนา กรมพระสุดารัตนราชประยูร เป็น กรมสมเด็จพระ...แต่ทำไม ต้อง add เศวตฉัตร 7 ชั้น และให้เรียกสวรรคต เพิ่มด้วย ทั้งๆที่ ที่ตั้ง กรมสมเด็จพระ เนี่ยท่านก็บอกเองว่า ""เสมอพระบรมราชชนนี" เป็นว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเป็นเจ้านายที่เฉลิมพระยศเสมอสมเด็จพระบรมราชชนนี ซึ่งแต่ก่อนคือ กรมสมเด็จพระ...มาตย์ อย่าลืมว่าเครื่องประกอบพระอิสริยศักดิ์ สมเด็จพระเทพฯ เสมอสมเด็จพระศรีนครินทราฯนะครับ คุณกัมม์ ครับ  เป็นกรณีพิเศษ คิดว่าคุณกัมม์เป็นนักประวัติศาสตร์ น่าจะอ่านเฉลิมพระยศ หรือ ธรรมเนียมราชตระกูลมาหมดแล้วนะครับ (ผมละไม่เข้าใจว่า ทำไมคนในที่นี้ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเป็นกรณีพิเศษ) จากคุณ : natthaset - [ 16 ส.ค. 48 20:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เรียนคุณกัมม์อีกที ลองคิดว่านะคับว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร มิใช่เจ้าฟ้าสามัญ แต่เป็นผู้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมมติไว้เพื่อเป็นพระรัชทายาทสนองพระองค์หากหาพระองค์ไม่แล้ว ฉะนั้นสมควรหรือครับที่จะให้องค์รัชทายาท ซึ่งพระราชทานยุพราชาภิเษกตั้งแต่พระชนม์มายุ 20 พรรษา จะตั้งนามพระราชสกุลใหม่ พูดง่ายง่ายนะครับ คุณกัมม์ สมเด็จพระบรมฯ มิทรงมีพระราชประสงค์ตั้งนามพระราชสกุลใหม่ เว้นแต่ วิวัชรวงศ์ที่พระราชทานให้เป็น"นามสกุล" แก่ อดีตหม่อม และ พระโอรสใช้ที่ต่างประเทศ เท่านั้น ถ้าอยากรู้เรื่องข้างบนว่าทำไมไม่ใช้มหิดล ผมก็ไม่ตอบ แต่ขอให้ทราบไว้ว่า ทรงอยากให้ทราบอย่างนี้ ก็ขอให้รับทราบตามพระราชประสงค์ จากคุณ : natthaset - [ 16 ส.ค. 48 20:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จากความเห็นที่ ๑ นั้น เรียงตามกรมสูงมาต่ำ หรือต่ำมาสูงค่ะ... จากคุณ : ขอรู้ด้วยคน (อีก) - [ 16 ส.ค. 48 21:08:56 A:61.90.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นี้ทรงมีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะมีโอกาสได้ครองราชย์หรือเปล่าครับเนื่องจากเคยได้ยินว่าเขาแก้ไขให้ผุ้หญิงเป็นพระมหากษัตริย์ได้แล้ววอนผุ้รู้ชี้แนะด้วยแล้วพระองค์ทรงนับเข้าในตำแหน่งองค์รัชทายาทหรือไม ? จากคุณ : จรมาจรไป - [ 16 ส.ค. 48 21:17:48 A:61.90.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถึงความเห็นที่ 23 ประเทศไทยมี สยามบรมราชกุมารี มาแล้วถึง 3 พระองค์เท่าที่จำได้จะมีในสมัยในรัชกาลที่ 5 หนึ่งพระองค์อีกพระองค์ไม่ทราบครับต้องรอผู้รู้มาตอบแล้วละครับ จากคุณ : m - [ 16 ส.ค. 48 21:48:53 A:61.91.163.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่จริงหรอกครับ สมเด็จพระสยามบรมราชกุมารี พระองค์นี้เป็นพระองค์แรกทรงสถาปนาให้มีพระอิสริยศักดิ์ฐานันดรศักดิ์เสมอ สมเด็จพระสยามกุฎราชกุมาร ส่วนสมเด็จพระสยามมกุฎราชกุมารต่างหากที่มี ๓ พระองค์แล้วพระองค์นี้เป็นองค์ที่ ๓ จากคุณ : ไพร่ฟ้า - [ 16 ส.ค. 48 21:57:20 A:61.90.14.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 เพิ่งทราบนะคะว่าสมเด็จพระฯบรมราชกุมารี  จนถึงปัจจุบันมีทั้งสิ้นสามพระองค์  เเละมีพระยศเทียบเท่าสยามกุฏราชกุมาร จากคุณ : ธารกำนัล - [ 16 ส.ค. 48 22:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมว่ากรมสมเด็จน่าจะแบ่งเป็น 2 ตำแหน่ง 1.กรมสมเด็จพระเทพามาตย์ หรือ กรมสมเด็จพระ .มาตย์ คือตำแหน่งพระบรมราชชนนี อย่างไรตำแหน่งนี้ก็ยิ่งใหญ่กว่าพระราชวงศ์ทั้งปวง เป็นรองเพียงพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น ภายหลังเฉลิมพระนามตามตำแหน่งไป ถ้ายิ่งเคยเป็นอัครมเหสี ก็เป็นสมเด็จพระ บรมราชินี ถ้าไม่ ก็เป็นสมเด็จพระ บรมราชชนนี กรมสมเด็จพระสุดารัตนฯ ทรงสถาปนาให้เทียบเท่าพระบรมราชชนนี แต่ก็ยังไม่เทียบเคียงทีเดียวยังลักลั่นกันอยู่ คงยังทรงนึกไม่ถึงกระมังว่าคงจะต้องมีอย่างอื่นประกอบพระเกียรติยศ และพระอิศริยยศ สมัยนั้นก็ยังไม่หลากหลายเหมือนในรัชกาลต่อๆมา เมื่อสวรรคตแล้วถึงได้ทรงเพิ่ม ฉัตร 7 ชั้น และใช้คำว่าสวรรคต ถวายเพิ่มพระเกียรติไป สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงรับฉัตร 7 ชั้น มาตั้งแต่แรกสถาปนา 2. กรมสมเด็จพระ ที่ทรงใช้เลื่อนกรม จากกรมพระ ภายหลัง ออกพระนามเป็นสมเด็จกรมพระยา ถ้าทรงกำเนิดเป็นเจ้าฟ้า อย่างไรก็เป็นเจ้าฟ้า กำเนิดเป็นพระองค์เจ้า อย่างไรก็เป็นพระองค์เจ้า (ยกเว้น เจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ) จะมีเพิ่มก็คงเป็นศักดินา เพิ่มจากกรมพระ ถึงอย่างไรก็ไม่เทียบกับ กรมสมเด็จในข้อ 1. สำหรับสมเด็จพระเทพรัตนฯ คงเทียบได้กับกรมสมเด็จในข้อ 1.อย่างที่คุณณัฐว่ามา แต่มิใช่สมเด็จกรมพระยา ดังข้อ 2. ตั้งแต่ทรงได้รับสถาปนา มา 28 ปี ยังไม่เคยเห็นข้อเขียนของท่านผู้ใดที่ไปเทียบตำแหน่งท่านเท่ากับสมเด็จกรมพระยา หรือว่าผมมีความรู้คับแคบเกินไป เคยมีข้อเขียนถึง สมเด็จพระ ในรัตนโกสินทร์ แต่เท่าที่อ่านก็เขียนยกย่องราชนารีที่ได้สถาปนาเป็นพิเศษ รวมๆกันไป แม้แต่พระวิมาดาเธอ ฯก็ยังทรงอยู่ในนั้น เพราะท่านเป็นพระอัครชายาที่ทรงกรมพระพระองค์แรก อนึ่ง ถ้าจะตั้งท่านเป็นสมเด็จกรมพระยา ก็ไม่น่าแปลก เพราะในรัชกาลปัจจุบันก็มีการตั้งกรมเจ้านายอยู่ แต่คงไม่ทรงตั้งเป็นกรมพระยาเทพรัตนราชสุดา เพราะตั้งแต่รัชกาลที่ 5 มา พระนามกรมจะใช้ชื่อเมือง ชื่อจังหวัด จากอดีต จนถึงปัจจุบัน มาตั้งกรม เช่น ทวาราวดี อู่ทอง ราชบุรี ราชสีมา สงขลา ยังมีจังหวัดอีกหลายอยู่ที่ชื่อเพราะพอจะตั้งได้ และถ้าเป็นกรมพระยาอย่างไรก็ไม่สูงเท่าสยามบรมราชกุมารีอยู่ดี อีกทั้งพระนามาภิไธย ของท่านก็เลียนมาจากองค์มกุฎราชกุมารทั้ง 3 พระองค์คือ มหาวชิรุณหิศ มหาวชิราวุธ มหาวชิราลงกรณ์ ท่านมิใช่รัชทายาท จะใช้มหาสิรินธรคงไม่เหมาะ ก็เลยเป็นเจ้าฟ้ามหาจักรีสิริธร ช่างเป็นความอัจฉริยะของผู้ตั้งเป็นอย่างมาก เครื่องประกอบพระอิศริยยศนั้น เมื่อทอดวางครั้งสถาปนา จะไม่เหมือน สมเด็จพระศรีฯนะครับ น้อยกว่าหลายชิ้น เมื่อก่อนไม่ทราบ จะเห็นก็ตอนที่ท่านสวรรคต นั่นแหละ อัญเชิญมาทอดหน้าพระโกศ พระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเทียบชั้นสมเด็จพระบรมราชินีเลยทีเดียว เท่ากับที่ทอดถวายสมเด็จพระนางเจ้ารำไพฯ ในครั้งปี 2527 สมเด็จพระเทพรัตนฯ ท่านไม่มีราวพาดซับพระพักตร์ ไม่มีคันฉ่อง นะครับ จากคุณ : จำปูน - [ 16 ส.ค. 48 22:44:10 A:202.133.166.221 X: TicketID:033075 ]

ความคิดเห็นที่ 34 - สมเด็จพระเทพรัตนฯ สรุปว่า ท่านเป็นเจ้านายฝ่ายในที่ทรงเป็นสมเด็จพระ... รับพระสัปตปฎลเศวตฉัตรและพระราชบัญชา และประเทศไทยไม่เคยมีสยามมกุฎราชกุมารี หรืออย่างไรครับ และสมเด็จพระเทพฯท่านศักดิท่านเท่าสมเด็จพระบรม แต่ยศท่านมิใช่สยามมกุฎราชกุมารี - คุณจำปูนกรุณาแยกนะครับ กรมสมเด็จฝ่ายหน้า ฝ่ายใน กรมสมเด็จฝ่ายสงฆ์ เพราะพระยศต่างกัน เพราะดูแล้ว คุณค่อนข้างงงกับ"พระยศเจ้านาย"พอควร กรมสมเด็จพระ ฝ่ายใน (ถ้าไม่นับกรมสมเด็จพระสุดารัตนฯ) คือ สมเด็จพระ....... ครับ ขอยืนยัน ด้วยความเคารพ   เพราะว่า รัชกาลที่ ๖ ท่านมีพระราชประสงค์ให้เป็นอย่างนั้น ฉะนั้น คุณจำปูนโปรดเข้าใจพระราชประสงค์รัชกาลที่ ๖ ด้วยเถิด จากคุณ : natthaset - [ 16 ส.ค. 48 23:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หากสงสัยเรื่องเครื่องยศพระเทพ ก็ดูเอกสารนี้เถิด ส่วนเรื่องเครื่องยศที่มีมากกว่านั้น ในหลวงพระราชทานพิเศษ เหมือนสมเด็จพระเทพได้เครื่องยศ หรือดารานพรัตนในสมเด็จพระศรีพัชรินทรฯเป็นพิเศษทำนองเดียวกัน แต่เครื่องประกอบพระยศหลัก เป็นเครื่องประกอบชุดเดียวเดียวกันครับ จากคุณ : natthaset - [ 16 ส.ค. 48 23:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ครับด้วยความเคารพ ผมเพียงอยากจะเสนอว่า สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงเป็นเจ้านายชั้นพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนในกรุงรัตนโกสินทร์ และคงจะไม่มีอีกในอนาคต และก็ไม่เคยที่จะบังอาจเทียบพระยศท่านเป็นมกุฎราชกุมารี เพราะไทยเรายังไม่เคยมีรัชทายาทที่เป็นสตรี และก็ไม่เห็นด้วยที่จะไปเทียบท่านกับสมเด็จกรมพระยา นอกจากกรมสมเด็จพระชั้นบรมราชชนนี ซึ่งก็คงไม่ใช่กรมสมเด็จฝ่ายหน้า หรือกรมสมเด็จพระมหาสมณจ้า เป็นอันขาด อนึ่งเครื่องยศนั้น เพียงแต่ผมถือพระเกียรติยศ ในที่สุดแห่งพระชนม์ชีพครับ เพราะในขณะนี้สมเด็จพระเทพรัตนฯ ยังคงไม่ได้รับพระราชทานเพิ่มเติมเท่ากับที่ทอดถวายสมเด็จพระศรีฯ ส่วนดารานพรัตน์ที่ติดพระองค์เวลาทรงเต็มยศ ไม่น่าจะถือเป็นเครื่องยศ ควรจะเรียกว่าเข็มกลัดมากกว่า ไม่เหมือนฝ่ายหน้าที่จะต้องมีสังวาลย์ หรือธำมรงค์ น่าจะเป็นเครื่องอาภรณ์เพชรพลอยที่ทำเป็นพิเศษเฉพาะบุคคล เมื่อเคยประดับบนองค์สมเด็จพระราชินี จะพระราชทานให้พระบรมราชกุมารี ก็เป็นการอันควร เพราะในโอกาสพิเศษต่างๆ เจ้านายฝ่ายในมักจะทรงได้รับเครื่องเพชรพลอย เป็นพิเศษเสมอ จากคุณ : จำปูน - [ 17 ส.ค. 48 09:04:39 A:203.144.198.246 X: TicketID:033075 ]

ความคิดเห็นที่ 37 - ในความคิดผม สมเด็จพระ....นั้น มีมาหลายพระองค์แล้ว แต่ทว่า สมเด็จพระ.....นั้นๆเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนี(กรมสมเด็จพระ...มาตย์ หรือสมเด็จพระศรีพัชรินทรา) สมเด็จพระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า(สมเด็จพระศรีสวรินทรา) เท่านั้น แต่สมเด็จพระเทพรัตนทรงพิเศษ คือ เป็นพระราชธิดา มิใช่สมเด็จพระบรมราชชนนีหรือสมเด็จพระมาตุจฉาเช่นก่อนๆ - ผมไม่ได้พูดถึงคุณจำปูนนะคับ ในเรื่องมกุฎราชกุมารี ผมพูดถึงคุณข้างบนโน้น *ส่วนดารานพรัตนที่ใช้ประดับที่บริเวณพระอุระด้านบนใกล้าพระอังสะนั้น เป็นหนึ่งในเครื่องราชอิสริยาภรณนพรัตน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพิเศษ ฉะนั้น ดารานพรัตนดวงนั้น มิใช่เครื่องประดับ แต่หากเป็นดาราประกอบพระอิสริยยศพิเศษ ซึ่งใช้ประดับกับเครื่องราชนพรัตน์หรือมหาจักรีเท่านั้น *ว่าแต่เดี๋ยวนี้ทรงนพรัตนน้อยลง ส่วนใหญ่ทรงมหาจักรี จึงไม่ค่อยเห็นสมเด็จพระเทพฯทรง เพราะดารานี้ผมคิดว่า สะดุดตาและดู หรู มากเกินไปถ้าไม่เต็มยศจริงๆ* จากคุณ : natthaset - [ 17 ส.ค. 48 09:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คคห.ที่ 1 เรียงจากต่ำมาสูงครับ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 13:33:42 จากคุณ : ทับศานต์ใจ - [ 17 ส.ค. 48 10:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นนะครับ ตรานพรัตน์ดวงนั้นทรงประดับอยู่บ่อยครั้ง เวลาทรงสายสะพายจักรี ก็ประดับบนพระอังสา ยิ่งตอนออกรับเสด็จเจ้านายต่างประเทศ ก็ทรงประดับเสมอ ล่าสุด ทรงประดับ รับควีนเบียทริกซ์ในงาน state banquet และถ้าทรงสายสะพายนพรัตน์แล้ว ติดดาราบนพระอังสา แล้วอีกดวงบนพระอุระ ผมว่าจะดูเฝือไป ไม่งาม ตำแหน่งราชนารีพิเศษนี้ มักจะได้รับพระราชทานสิ่งของ เป็นพิเศษเสมอแม้ในต่างประเทศ นัยว่า เมื่อเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ทรงได้เป็น Princess royal ก็ได้รับพระราชทานเข็มกลัดพิเศษด้วย จากคุณ : จำปูน - [ 17 ส.ค. 48 11:07:01 A:203.144.198.246 X: TicketID:033075 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณจำปูนครับ ดารานพรัตนที่ประดับที่พระอุระ ดูเฝือเหรอครับ (ทั้งๆที่ประดับได้ถูกต้องตามธรรมเนียมและก็สง่างามมาก)เหอๆ แปลกดี.... จากคุณ : natthaset - [ 17 ส.ค. 48 12:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมหมายถึงว่าถ้าทรงสายสะพายนพรัตน์ จะต้องติดดารานพรัตน์ที่พระอุระอยู่แล้ว จะไปติดอีกดวงบนพระอังสา ซึ่งค่อนข้างใหญ่คงจะไม่งาม ธรรมดาเจ้านายฝ่ายในจะไม่ทรงอิสริยาภรณ์มากมายอยู่แล้ว ทั้งสายสะพาย ดารา ดวงตราที่ห้อยกับสายสะพาย ก็แสดงความเป็นนพรัตน์อยู่แล้วครับ จึงมักทรงประดับพระอังสาคู่กับอิสริยาภรณ์อื่นๆเช่น จักรี จุลจอมเกล้า ท่านไม่ติดอะไรมากมายเหมือนคุณหญิงหลากหลายในปัจจุบันนี้หรอกครับ เจ้านายเราจะทรงแต่งพระองค์ งดงาม พอดี เหมาะแก่กาละเทศะเสมอ จากคุณ : จำปูน - [ 17 ส.ค. 48 12:46:25 A:203.144.198.246 X: TicketID:033075 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แหะ แหะ ขอเหล่าเกจิ ผู้รู้ สรุป  ให้หน่อยครับ น้องๆ เด็กๆ (ในห้องประวัติศาสตร์)หลายคนกำลัง น้อมรับดู รับชม เพื่อจะได้เข้าใจ อย่างถูกต้อง แม่นยำ ครับ (รวมทั้ง มือใหม่อย่างผมด้วยครับ :) จากคุณ : karoon_t - [ 17 ส.ค. 48 12:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เข้าใจที่คุณจำปูนบอกนะครับ แต่ว่า ตอนที่สมเด็จพระเทพรัตนฯท่านทรงเครื่องเต็มยศ ในการพระราชพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงชุดไทยสีเขียวมั้งครับ จำไม่ได้ แล้วทรงสายสะพายนพรัตน์ คาดขวาไปซ้าย ทับบนทรงสะพักมหาจักรี(หรือนพรัตน์จำไม่ได้ต้องกลับไปดู อีกที) ประดับดารานพรัตนที่เบื้องล่างพระอุระ เบื้องซ้าย ประดับดารามหานพรัตนที่กล่าวมาบนทรงสะพักด้านขวา และประดับรัตนาภรณ ภ.ป.ร.1 เป็นที่กล่าวขานว่า ทรงได้งามมากครับ ขอบอกคุณจำปูนว่า สมเด็จพระเทพฯท่านโปรดดวงตรานพรัตนนี้มากครับ จากคุณ : natthaset - [ 17 ส.ค. 48 17:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 พอคุณจำปูนพูดผมแอบนึกถึง ท่านผู้หญิงสุภรเพ็ญ หลวงเทพ ท่านแต่งครึ่งยศมางาน สมโภชเดือน ถ้าจำไม่พลาด ท่านติดเหรียญมา 6 ดวงมั้งครับ อิอิ จากคุณ : natthaset - [ 17 ส.ค. 48 17:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 45 .. จากคุณ : natthaset - [ 17 ส.ค. 48 18:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเข้าใจว่าแต่เดิม กรมสมเด็จพระ  เป็นพระอิสสริยยศเฉพาะสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่  2 กรมพระ  เป็นพระอิสริยยศสูงสุดที่เจ้านายทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายในพึงได้รับ  (ในสมัยอยุธยาเป็นพระอิสริยยศสำหรับสมเด็จพระราชชนนี)  เช่น  สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ  กรมพระเทพสุดาวดี  (ฝ่ายใน)  สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ  กรมพระราชวังบวรสถานภิมุขในรัชกาลที่  1  (ฝ่ายหน้า) ต่อมาในสมัยรัชกาลที่  4  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้  กรมสมเด็จพระ  เป็นพระอิสริยยศสำหรับสมเด็จพระสังฆราชเจ้า  และเจ้านายทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน  เช่น  พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมสมเด็จพระเดชาดิศร  ซึ่งในรัชกาลนี้ไม่ว่าเจ้าฟ้าหรือพระองค์เจ้ามีสิทธิ์เป็นต่างกรมไดทุกชั้น  เพียงแต่เจ้าฟ้าชั้นเอกแรกรับเป็นกรมขุน  ส่วนเจ้าฟ้าชั้นโท  และพระองค์เจ้าแรกรับเป็นกรมหมื่น ในรัชกาลที่  5  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้พระองค์เจ้าหญิงละม่อม  เป็นพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ  กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร  มีพระอิสสริยยศเสมอด้วยพระองค์เจ้าต่างกรมผู้ใหญ่ในพระบรมมหาราชวัง  ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำพระอิสริยยศ  "กรมสมเด็จพระ"  ของสมเด็จพระบรมราชชนนีมาพระราชทานให้กับเจ้านายฝ่ายใน  แต่ก็ได้ทรงเว้นพระเกียรติยศบางอย่างสำหรับพระบรมราชชนนีไว้มิได้พระราชทานให้  จนเมื่อสวรรคตแล้วจึงได้พระราชทานตามพระเกียรติยศเสมอสมเด็จพระบรมราชชนนี ในสมัยรัชกาลที่  6  ตำแหน่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถในรัชกาลก่อน  มีฐานะเทียบเท่าองค์พระมหากษัตริย์  เมื่อถึงคราวที่จะสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระพันปีหลวง  สมเด็จฯ  กรมพระยาวชิรญาณวโรรส  ได้กราบทูลให้สถาปนาขึ้นเป็น  "สมเด็จกรมพระยาศรีพัชรินทรามาตย์"  แต่ไม่โปรดตามที่คุณณัฐเล่าไว้แล้ว  จึงได้ออกพระนามเป็นสมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ เหตุที่ตอนแรกมีการเสนอเป็น  "สมเด้จกรมพระยา"  นั้น  ได้ใช้เจ้ากราขอเฝ้าเป็นเกณฑ์  ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ  ก็จะมีพระอิสสริยยศเป็น  "สมเด็จพระมาตุจฉาเจ้า  กรมพระบรมนรินทรามาตย์" ดังนั้นเมื่อมีการออกพระนามสมเด็จพระบรมราชชนนีใหม่เป็น  "สมเด็จพระ"  จึงโปรดเกล้าฯ  ให้เปลี่ยนพระนามพระบรมราชชนนีในรัชกาลก่อนๆ  เป็น  "สมเด็จพระ"  เช่นเดียวกัน ส่วนกรมพระราชวังบวรสถานมงคล  ก็ออกพระนามใหม่ว่า  "สมเด็จพระบวรราชเจ้า" และเจ้านายทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน  ที่เป็น  "กรมสมเด็จพระ"  ก็ให้ออกพระนามใหม่ว่า  "สมเด็จฯ  กรมพระยา" ดังนั้นสมเด็จพระพันปีหลวง  สมเด็จพระพันวัสสา  มีพระอิสสริยยศที่  "สมเด็จพระ" เจ้านายทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน  มีพระพระยศสูงสุดที่  "สมเด็จฯ  กรมพระยา"  ส่วนเจ้าฟ้านั้นหากจะทรงเฉลิมพระยศพิเศษก็แล้วแต่กรณีไปตามพระราชวินิจฉัย ต่อมารัชกาลที่  9  ได้ทรงสถาปนาให้พระราชบิดามีพระยศเสมอกรมพระราชวังบวรฯ  จึงได้เฉลิมพระอิสสริยยศเป็นที่  "สมเด็จพระ"  ซึ่งเป็นเจ้านายฝ่ายหน้าพระองค์แรกที่เป็น  "สมเด็จพระ"  นับตั้งแต่มีการใช้พระอิสสริยยศนี้ ส่วนสมเด็จพระเทพฯ  ผมเห็นด้วยกับคุณณัฐครับว่า  ทรงเทียบได้กับพระยศ  "กรมสมเด็จพระ"  และ  "กรมพระยา"  เพราะผมเข้าใจว่าทรงเป็นเจ้าฟ้าที่ได้รับการเฉลิมพระอิสสริยยศขึ้นเป็นพิเศษ  ซึ่งตามธรรมเนียมนั้นจะทรงมีพระยศสูงสุดได้เพียง  "กรมพระยา"  แต่ที่ได้เป็น  "สมเด็จพระ"  เพราะอนุโลมตามอย่างการสถาปนาสมเด็จพระราชปิตุลาฯ  แต่แน่นอนครับว่าสมเด็จพระเทพฯ  ทรงมีพระอิสสริยยศสูงกว่า  และทรงเป็นถึง  "สยามบรมราชกุมารี"  ซึ่งทรงรับพระราชบัญชา  และสัตปฎลเศวตรฉัตร  ซึ่งพระยศอันพิเศษนี้เพิ่งเกิดขึ้นเฉพาะพระองค์  และไม่ได้มุ่งหมายในการสืบราชสันตติวงศ์  เพราะทรงสถาปนา  "...เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไปตามโบราณขัตติยราชประเพณี..." และในความเข้าใจของผม สมเด็จพระศรีนครินทราฯ  ทรงมีพระอิสสริยยศักดิ์ตำกว่าตำแหน่งสมเด็จพระพันปีหลวง  และสมเด็จพระพันวัสสา(วษา)  ซึ่งพระอิสสริยยศของสมเด็จพระเทพฯ  แม้จะเทียบเท่ากับสมเด็จพระบรมราชนนีในรัชกาลปัจจุบัน  หรือสมเด็จย่าของพระองค์ แต่ถ้าสมมติว่า  "สมเด็จพระพันปีหลวง"  หรือ  "สมเด็จพระพันวัสสา"  ทรงมีฐานะเป็น  "ย่า"  พระอิสสริยยศของพระเทพฯ ก็จะต้องต่ำกว่าทั้ง  2  พระองค์อยู่ดี อันนี้เป็นความเข้าใจสรุปของผมครับ  ผิดถูกอย่างไรก็ช้วยชี้แนะด้วย แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 18:38:27 จากคุณ : รอยใบลาน - [ 17 ส.ค. 48 18:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมเห็นด้วยกับคุณรอยใบลานครับว่า พระอิสริยยศของสมเด็จพระพันปีหลวง และสมเด็จพระพันวัสสา จะต้องสูงกว่า เพราะทั้งสองพระองค์เป็นถึงพระมเหษสีเทวี ในรัชกาลของพระพุทธเจ้าหลวง จากคุณ : อรรถา - [ 17 ส.ค. 48 19:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ใช่แล้วครับผม คุณรอยใบลานคิดเหมือนผมเรย กรมสมเด็จพระ ถึงแม้จะเสมอสมเด็จพระบรมราชชนนี แต่พระยศก็น้อยกว่าสมเด็จพระอัครมเหสีอยู่ดี อย่างรัชกาลปัจจุบันคือ 1.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2.สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ 3.สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ 4.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร(จะว่าไปคือ "กรมพระราชวังบวร") 5.สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(กรมสมเด็จพระศรีนครินทรา) 6.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี(จะว่าไป คือ"กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข"แต่เป็นฝ่ายในเลยเป็นกรมสมเด็จพระฯ ฝ่ายใน) แถมให้ ระบบสืบราชสันตติวงศ์ เป็นไปตามหลัก Priminature (พ่อไปลูก สะกดถูกหรือเป่าไม่รุ้) คือ เช่นรัชกาลที่ 6 เป็นต้น ดูนะครับ - สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ ฯ (รัชทายาทอันดับ 1) - พระโอรสในรัชทายาทอันดับ 1(พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์) เป็นรัชทายาทอันดับ 2 - สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธฯ เป็นรัชทายาทอันดับ 3 - สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกฯ เป็นรัชทายาทอันดับ 4 - หม่อมเจ้าวรานนท์ธวัช จุฑาธุช(พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า) - สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชฯ ต่อมาเป็นสายมหิดล - สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชฯ - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ต่อมาสายบริพัตร - สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฎพงษบริพัตร - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุขุมาภินันท์ ต่อมาสายยุคล . . . ครับ ส่วนจะเว้นใคร ก็เป็นไปตามพระบรมราชวินิจฉัย ฉะนั้นแล้ว ตำแหน่งรัชทายาท รัฐธรรมนูญฉบับนี้+กฎมณเทียรบาลแล้ว จะบอกไว้ว่า "หากไม่มีพระราชโอรส หรือพระโอรส" ครับ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 48 09:37:34 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 21:17:48 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 19:31:07 จากคุณ : natthaset - [ 17 ส.ค. 48 19:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณณัฐคร๊าบ ร.๖ ทรงเป็นพระเชรษฐาของสมเด็จพระราชบิดาฯ นะครับ (รับสั่งเรียกว่า น้องชายแดง) ฉะนั้นพระยศในรัชกาลที่ ๖ สมเด็จพระราชบิดาทรงเป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชฯ ไม่ใช่ สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอฯ นะคับ สายบริพัตร ข้าม สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ ไปนะคับ หม่อมเจ้าวรานนท์ธวัช นี่สุดท้ายเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหรือไม่ครับ? จากคุณ : โอ้มายก็อดเนส (ohmygodness) - [ 17 ส.ค. 48 20:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เครื่องราชอิสริยยศราชูปโภค ของสมเด็จพระเทพรัตนฯ และสมเด็จพระศรีนครินทราฯ ต่างกันครับ กรณีสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนี จะใช้เครื่องราชอิสริยยศราชูปโภค ชุดเดียวกับสมเด็จพระบรมราชินี โดยเทียบเคียงกับเครื่องราชอิสริยยศราชูโปค ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ในคราวงานพระบรมศพ แต่กรณีสมเด็จพระเทพรัตนฯ จะได้รับพระราชทานน้อยกว่าครับ และเป็นคนละชุดกัน อาทิ ราวซับพระพักตร์ พระคันฉ่อง ชุดเครื่องพระสำอาง เป็นต้น หรือ ขันน้ำเสวยและจอกลอย ก็จะเป็นชุดที่ลงยาราชาวดี ไม่เหมือนกับชุดพระบรมราชินี ตามรูปครับ จากคุณ : พระนายไวย - [ 17 ส.ค. 48 20:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ราวซับพระพักตร์ พระคันฉ่อง ชุดเครื่องพระสำอาง  อยู่ในเครื่องราชูปโภคหรือคะ  ดิฉันเข้าใจว่าตั้งถวายพิเศษหรือเป็นของส่วนพระองค์เสียอีก   เเต่สมเด็จพระศรีฯเมื่อตั้งเครื่องราชูปโภคฉายพระฉายาลักษณ์ก็ไม่มีของเหล่านี้นี่คะ เครื่องราชูปโภคของสมเด็จพระราชินี  เป็นของที่สร้างตั้งเเต่รัชกาลที่ ๕  พระราชทานต่อกันมาที่ลงยาเป็นลายบัวทั้งชุดน่ะหรือคะ  อันนี้ดิฉันก็สงสัยอยู่ค่ะอยากถามว่าในรัชกาลที่ ๗ พระราชทานให้สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ  ถึงรัชกาลปัจจุบันพระราชทานเเก่สมเด็จฯ  ดิฉันจึงอยากทราบว่าเเล้วช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพฯยังไม่สวรรคตท่านทรงใช้ชุดไหนคะ  เเล้วที่ตั้งในงานพระบรมศพสมเด็จฯท่านก็เป็นชุดเดียวกับที่พระราชทานสมเด็จฯในรัชกาลที่ ๙ ไปเเล้วน่ะหรือคะ จากคุณ : ธารกำนัล - [ 17 ส.ค. 48 21:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วยกับพี่ณํฐฯ นะครับ ผมว่าไม่เฝือนะ เคยเห็นท่านทรงสายสะพายนพรัตน์ แล้วยังทรงดารานพรัตน์ที่ได้รับพระราชทานมาอีก งามมากนะครับ คือจะทรงเลือกทรงเวลาที่ ทรงชุดไทย แล้วมีผ้าทรงสะพัก แล้วถึงจะทรงดารานพรัตน์อีกชั้นหนึ่ง รูปนั้น ได้หายไปจากเครื่องผมแล้ว แต่ยังจำได้ถึงความงามครับ จากคุณ : A ARM (A ARM) - [ 17 ส.ค. 48 22:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รายพระนามของเจ้านายที่ถูกจัดไว้ในลำดับการสืบสันตติวงศ์  และได้ส่งให้รัฐสภาในปี  พ.ศ.  2477  พิจารณา  ไม่ได้ข้ามสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ  เจ้าฟ้าบริพัตรฯ  นะครับ  ทรงมีพระนามเป็นลำดับที่  3  ต่อจากพระวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช  ส่วนะพระองค์จุลฯ  และท่านพระองค์วรานนท์ฯ  ไม่มีพระนามอยู่ในลำดับ  เพราะได้ทรงถูกข้ามมาแล้ว จากคุณ : รอยใบลาน - [ 18 ส.ค. 48 07:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เครื่องราชอิสริยยศราชูปโภคในสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชนนี และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เป็นชุดเดียวกันครับ คือ 1.พานพระศรีทองคำลงยาพร้อมเครื่องพร้อม 2.หีบพระศรีทองคำลงยา 3.คนโทน้ำทองคำสลักลายลงยา 4.พระสุรรณศรีทองคำลงยา 5.ขันสรงพระพักร์ทองคำลงยาพร้อมพานทอง 6.ที่ชาทองคำพร้อมเครื่องพร้อม 7.พานเครื่องพระสำอาง* 8.พระคันฉ่อง 9.ราวผ้าซับพระพักตร์ โดยลำดับ 1- 6 เป็นเครื่องราชอิสริยยศพระราชทาน ลำดับ 7 - 9 เป็นเครื่องราชภัณฑ์ "ส่วนพระองค์" *จากหนังสืองานถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2539* จากคุณ : natthaset - [ 18 ส.ค. 48 09:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ต้องขออภัย คุณ natthaset อย่างมากเรื่องดวงนพรัตน์ที่ติดบนพระอังสา คือคิดว่าไม่น่าจะทรงติดเมื่อทรงสายสะพายนพรัตน์ เลยไปค้นๆดูก็เจอจริงๆแหละ ล่าสุด ก็คืองานพยุหยาตราทางชลมารค ถวายผ้าพระกฐิน คราวกาญจนาภิเษกปี 2539 สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงดวงตรานี้ ติดทรงสะพัก ที่พาดพระอังสาขวา ทับสายสะพายนพรัตน์ พระอุระด้านซ้ายประดับแพรแถบปฐมจุลจอมเกล้า และรัตนาภรณ์ สรุปแล้วผมก็ยังมีความรู้คับแคบเช่นเดิม แต่เอ เครื่องราชอิสริยยศราชูปโภคในรายการข้างต้นนี้เนี่ย เป็นสำรับของสมเด็จพระบรมราชินีมิใช่หรือครับ ครั้งสถาปนา เมื่อ 2520 จนถึงฉายพระรูป เมื่อ 2534 ดังที่คุณพระนายอัญเชิญมาให้ชม ก็ยังคงเหมือนเดิม แล้วถ้าเป็น เครื่องราชอิสริยยศราชูปโภคเดิม ทำไมเมื่อสมเด็จพระศรีฯสวรรคต จึงใช้คำว่าพระราชทานเพิ่มเป็นพิเศษ เทียบสมเด็จพระบรมราชินี อนึ่ง ทองคำลงยา นี่น่ะ มีหลายแบบหรือครับ ส่วนมากก็จะบอกว่า ทองคำลงยาเฉยๆ หรือ ไม่ก็ต้องบอกว่าทองคำเกลี้ยง เช่น ของทูลกระหม่อม เป็น ขันสรงพระพักตร์ทองคำลงยาพร้อมจอกลอยทองคำลงยา ของพระนางเจ้าสุวัทนาฯเป็น ขันสรงพระพักตร์ทองคำลงยาพร้อมจอกลอยทองคำเกลี้ยง เป็นต้น จากคุณ : จำปูน - [ 18 ส.ค. 48 14:09:56 A:203.144.198.246 X: TicketID:033075 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอความกรุณาท่านผุ้รู้ในข้อความดังต่อไปนี้คือ พระนามเจ้านายทรงกรม ในสมัยรัชกาลที่ 5 ลำดับตรง นเรศวรฤทธิ์, พิชิตปรีชากร, อดิศรอุดมเดช, ภูธเรศธำรงศักดิ์, ประจักษ์ศิลปาคม, พรหมวรานุรักษ์, ราชศักดิ์สโมสร, ทิวากรวงศ์ประวัติ, สิริธัชสังกาศ, สรรพสาตรศุภกิจ, สรรพสิทธิประสงค์, เทวะวงศ์วโรปการ, วชิรญาณวโรรส, สมมตอมรพันธุ์, วิวิธวรรณ์ปรีชา, พงศาติศรมหิป, นราธิปประพันธ์พงศ์, ดำรงราชานุภาพ, พิทยลาภพฤฒิธาดา, นริศรานุวัดติวงศ์, มรุพงศ์สิริพัฒน์, สวัสดิฒนวิศิษฏ์, มหิศรราชหฤทัย ทั้ง ๒๓ พระนามกรมนี้หากนับไม่ผิด คือพระองค์ใดบ้างครับแล้วทรงเป็นต้นตระกูลอะไรบ้าง ? จากคุณ : อาคันตุกะ - [ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 14:11:18 A:61.90.9.95 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 ครับคุณจำปูน ดารานพรัตน์นี้ ใช้ทรงเสมอ(ทุกครั้ง) เวลาสวมสายสะพายนพรัตน์ และทรงบางครั้งเมือสวมสะพายจักรี แต่หากทรงก็จะเป็นงานเต็มยศใหญ่ทั้งสิ้น ทองคำลงยา มีหลายแบบครับ ครับ ที่เห็นบ่อยคือลงยาในลักษณะเบญจรงค์ หรือ หากเป็นของในหลวงจะเป็นเครื่องทองคำลงยาราชาวดี คือ เนื้อทองออกสีชมพู สวยงาม อย่างเครื่องยศสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี(นาถ) ก็เป็นเครื่องทองคำลงยา แต่ลงยาเป็นสีชมพูที่เรียกว่า ราชาวดี เพราะเป็นเครื่องเดิมที่ รัชกาลที่ 5 ทรงทำพระราชทานสมเด็จพระพันปีหลวง เครื่องทองคำลงยานี้ พระราชทานเฉพาะสมเด็จฯกรมพระยาขึ้นไป และสามัญชนพระราชทานแด่สมเด็จเจ้าพระยาเท่านั้น หากเป็นพระองค์อื่น จะพระราชทานเครื่องข้างในพานพระศรีเป็นทองคำลงยา แต่พานเป็นทองคำสลักลาย ครับ เครื่องทองคำที่เป็นอิสริยยศนั้นมีอยู่ราว 4  แบบคือ 1.เครื่องทองคำลงยาราชาวดี 2.เครื่องทองคำลงยา 3.เครื่องทองคำสลักลาย 4.เครื่องทองเกลี้ยง เป็นต้นครับ ลองดูในรูปนะครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K3550430/K3550430.html ส่วนเรื่องราชสกุล เท่าที่ผมจำได้นะครับ นเรศวรฤทธิ์=กฤดากร พิชิตปรีชากร = คัคณางค์ อดิศรอุดมเดช = ศุขสวัสดิ์ ภูธเรศธำรงศักดิ์= ทวีวงศ์(ทวีวงศืถวัลยลาภ) ประจักษ์ศิลปาคม=ทองใหญ่ พรหมวรานุรักษ์ =เกษมสันต์, ราชศักดิ์สโมสร=กมลาศน์(กมลาศน์เลอสรรค์) ทิวากรวงศ์ประวัติ=เกษมศรี สิริธัชสังกาศ= สรรพสาตรศุภกิจ=ทองแถม สรรพสิทธิประสงค์= ชุมพล เทวะวงศ์วโรปการ=เทวกุล วชิรญาณวโรรส, สมมตอมรพันธุ์ วิวิธวรรณ์ปรีชา= พงศาติศรมหิป=ชยางกูร นราธิปประพันธ์พงศ์=วรวรรณ ดำรงราชานุภาพ=ดิศกุล พิทยลาภพฤฒิธาดา=โสณกุล นริศรานุวัดติวงศ์=จิตรพงษ์ มรุพงศ์สิริพัฒน์= สวัสดิฒนวิศิษฏ์=สวัสดิวัดติ์ มหิศรราชหฤทัย =ไชยันต์ แถม ราชหฤทัยมหิศร์/วิศิษฏ์สวัสดิวัตน์/สิริพัฒน์มรุพงศ์/นุวัดติวงศ์นริศรา/พฤฒิธาดาพิทยลาภ/ราชานุภาพดำรง/ประพันธ์พงศ์นราธิป/ดิศรมหิปพงศา/ปรีชาวิวิธวรรณ/อมรพันธุ์สมมต/วโรรสวชิรญาณ/วโรปการเทวะวงศ์/ประสงค์สรรพสิทธิ์/ศุภกิจสรรพสาตร/สังกาศสิริธัช/ประวัติวงศ์ทิวากร/สโมสรราชศักดิ์/วรานุรักษพรหม/ศิลปาคมประจักษ์/ธำรงศักดิ์ภูธเรศ/อุดมเดชอดิศร/ปรีชากรพิชิต/วรฤทธิ์นเรศ จากคุณ : natthaset - [ 18 ส.ค. 48 20:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โอ้โห นี่อ่านย้อนกลับหรือครับเป็นไปได้...มหัศจรรย์ไทยแลด์ที่สุด. จากคุณ : อะคันตุกา (เป็นไปได้) - [ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 21:22:12 A:61.90.9.95 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 เออแล้วคุณ natthaset พอจะรู้พระนามจริงของเจ้าของกรมนั้น ๆ ไหมครับ ที่พอรู้บ้างก็ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพนี่แหละครับเด่น ๆ จากคุณ : อีกครั้ง - [ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 21:29:52 A:61.90.9.95 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผมกลับมาบ้านแล้ว เดี๋ยวจะเติมจนครบนะครับ พระนามเดิม ก็คือ นามพระราชสกุลนะคับ คือในวงเล็บคือ พระนามเดิมนะคับ นเรศวรฤทธิ์=กฤดากร(กฤดาภินิหาร) พิชิตปรีชากร = คัคณางค์ (คัคณางคยุคล) อดิศรอุดมเดช = ศุขสวัสดิ์(ศุขสวัสดิ์) ภูธเรศธำรงศักดิ์= ทวีวงศ์(ทวีถวัลยลาภ) ประจักษ์ศิลปาคม=ทองใหญ่(ทองกองก้อนใหญ่) พรหมวรานุรักษ์ =เกษมสันต์(เกษมสันตโสภาคย) ราชศักดิ์สโมสร=กมลาศน์(กมลาศน์เลอสรรค์) ทิวากรวงศ์ประวัติ=เกษมศรี(เกษมศรีศุภโยค) สิริธัชสังกาศ=ศรีธวัช(ศรีสิทธิธงชัย) สรรพสาตรศุภกิจ=ทองแถม(ทองแถมถวัลยวงศ์) สรรพสิทธิประสงค์= ชุมพล(ชุมพลสมโภช) เทวะวงศ์วโรปการ=เทวกุล (เทวัญอุไทยวงศ์) วชิรญาณวโรรส=พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ สมมตอมรพันธุ์=สวัสดิกุล(สวัสดิประวัติ) วิวิธวรรณ์ปรีชา=จันทรทัต(จันทรทัตจุฑาธาร) พงศาติศรมหิป=ชยางกูร(ไชยานุชิต) นราธิปประพันธ์พงศ์=วรวรรณ(วรวรรณากร) ดำรงราชานุภาพ=ดิศกุล(ดิศวรกุมาร) พิทยลาภพฤฒิธาดา=โสณกุล (โสณบัณฑิต) นริศรานุวัดติวงศ์=จิตรพงษ์(จิตรเจริญ) มรุพงศ์สิริพัฒน์=วัฒนวงศ์(วัฒนานุวงศ์) สวัสดิวัตนวิศิษฏ์=สวัสดิวัดติ์(สวัสดิโสภณ) มหิศรราชหฤทัย =ไชยันต์(ไชยันตรมงคล) จากคุณ : natthaset - [ 18 ส.ค. 48 23:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คคห.ที่ 53 คุณรอยใบลานครับ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ และ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช ไม่ได้ถูกข้ามครับ แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ของผู้อยู่ในลำดับการสืบสันตติวงศ์ ตามกฎมณเฑียรบาลครับ เนื่องจาก พระองค์จุลฯ ทรงมีหม่อมมารดาเป็นนางต่างด้าว แม้ว่าต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯเป็นสะใภ้หลวงก็ตาม ส่วนพระองค์วรานนท์ฯ หม่อมมารดามิใช่สะใภ้หลวงครับ จากคุณ : ทับศานต์ใจ - [ 19 ส.ค. 48 10:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เคยอ่านเจอว่าพระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช นั้นถูกข้ามไม่ใช่เหรอครับ  ด้วย ร.6 ทรงเห็นว่ามีหม่อมมารดาเป็นสามัญชน เกรงว่าถ้าขึ้นเป็นกษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ จะไม่นับถือ จากคุณ : อรรถา - [ 19 ส.ค. 48 11:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณ คุณณัฐอีกครั้งกับความเมตตาอุตส่าห์นำข้อความดี ๆ มาฝาก. จากคุณ : อาคันตุกะ - [ 19 ส.ค. 48 12:10:27 A:61.90.9.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 คคห.62 คุณอรรถา ครับ พระบรมราชวินิจฉัยของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ระบุไว้อย่างนั้นครับ แต่ถ้ามองตามความเป็นจริงแล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลปัจจุบัน ก็มีหม่อมมารดา (ยศในขณะนั้น) เป็นสามัญชนเช่นกันครับ แต่เพราะหม่อมสังวาลย์ ในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์  รัชกาลที่ 6 พระราชทานน้ำสังข์อภิเษกสมรสและรับเป็นสะใภ้หลวง  พระโอรสทั้งสองพระองค์ในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ จึงทรงอยู่ในลำดับผู้สืบสันตติวงศ์ ครับ หม่อมในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชฯ ทั้งสองท่าน คือ หม่อมละออ  ศิริสัมพันธ์ (หม่อมมารดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธิสิริโสภา) และหม่อมระวี ไกยานนท์ (หม่อมมารดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช)  ไม่มีท่านใดเป็นสะใภ้หลวงครับ จากคุณ : ทับศานต์ใจ - [ 19 ส.ค. 48 15:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ที่ผมว่าทั้ง  2  พรองค์นั้นถูกข้ามมาแล้วผมมีเหตุผลดังนี้ครับ 1.  ถ้าลำดับการสืบสันตติวงศืมาถึงสมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกฯ  แล้ว  ก้แสดงว่าทั้งพระองค์จุลฯ  และท่านพระองค์วรานนท์ฯ  ทรงถูกข้ามไปแล้ว 2.  เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ  ทรงรับเป็นรัชทายาทนั้น  รัชกาลที่  6  ได้ทรงให้ทำหนังสือปฏิญาณไว้ว่าจะไม่ทรงยกพระโอรสที่เกิดจากหม่อมคัทรินขึ้นเป็นรัชทายาท 3.  เมื่อมีการพิจารณาผู้สืบสันตติวงศ์ในปี  2477  มี ส.ส. ทานหนึ่งถามถึง  2  พระองค์นี้  และก็ได้รับคำตอบว่าทรงถูกผ่านไปแล้วครับ จากคุณ : รอยใบลาน - [ 19 ส.ค. 48 18:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขออนุญาตความเรื่องพระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ นั้น ดังที่คุณริยใบลานไอธิบายไว้แล้ว และเมื่อสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทิวงคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดสมมติสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครราชสีมา เป็นพระรัชทายาท จึงเป็นเครื่องยืนยันว่า มีพระราชประสงค์ให้ข้ามพระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ไปแล้ว และในพระราชพินัยกรรมฉบับสุดท้ายได้มีพระบรมราชโองการไว้ว่า หากพระนางเจ้าสุวัทนา ประสูติพระราชโอรสให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชาทรงสำเร็จราชการแทนพระองค์จนกว่าพระราชกุมารจะทรงบรรลุนิติภาวะ แต่หากประสูติพระราชธิดาให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ พระองค์นั้นทรงรับรัชทายาทเป็นพระมหากษัตริย์ต่อไป จึงเป็นการข้ามพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัชไปโดยพระบรมราชโองการ จากคุณ : V_Mee - [ 19 ส.ค. 48 18:58:12 A:61.90.72.248 X: TicketID:073766 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะจริง ๆ สุดยอด... จากคุณ : ใคร่รู้ (และได้รู้อีกด้วย) - [ 19 ส.ค. 48 20:35:05 A:61.90.9.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 การที่พระองค์จุลถูกข้ามนั้น ไม่ได้มีพระชายาเป็นนางต่างด้าวแต่ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ท่านมีพระชายาเป็นนางต่างด้าวครับ มาตรา 11  เจ้านายผู้เป็นเชื้อพระบรมราชวงศ์ ถ้าแม้ว่าเป็นผู้มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งกล่าวไว้ข้างล่างนี้ไซร้ ท่านว่าให้ยกเว้นเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์         ลักษณะที่กล่าวนี้ คือ         (1) มีพระสัญญาวิปลาศ         (2) ต้องราชทัณฑ์เพราะประพฤติผิดพระราชกำหนดกฎหมายในคดีมหันตโทษ         (3) ไม่สามารถทรงเป็น อัครพุทธศาสนูปถัมภก         (4) มีพระชายาเป็นนางต่างด้าว กล่าวคือ นางที่มีสัญชาติเดิมเป็นชาวประเทศอื่น นอกจากชาวไทยโดยแท้*         (5) เป็นผู้ที่ได้ถูกถอนออกแล้วจากตำแหน่งพระรัชทายาท ไม่ว่าการถูกถอนนี้จะได้เป็นไปในรัชกาลใด ๆ         (6) เป็นผู้ที่ได้ถูกประกาศยกเว้นออกเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์ มาตรา 12  ท่านพระองค์ใดตกอยู่ในเกณฑ์มีลักษณะบกพร่องดังกล่าวมาแล้วในมาตรา 11 แห่งกฎมณเฑียรบาลนี้ไซร้ ท่านว่าพระโอรสอีกทั้งบรรดาเชื้อสาย โดยตรงของท่านพระองค์นั้น ก็ให้ยกเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์ด้วยทั้งสิ้น นั่นคือ ที่คนที่ถูกถอดคือ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ครับ "แต่" ตอนหลังสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ทรงหย่า พระองค์ท่านย่อมมีสิทธิในราชสมบัติ เมื่อสิ้นพระชนม์สิทธินั้นย่อมตกลงมายังพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ (มิได้มีกฎบอกว่า มีพระมารดาเป็นชาวต่างด้าว แล้วจะถูกปลดจากลำดับ) แต่ด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ ลำดับจึงตกไปที่ รัชกาลที่ 7(ซึ่งคิดว่ารัชกาลที่ 6 ท่านคงลืมพระราชดำริข้อนี้ ว่าลืมคำว่า มีพระมารดาเป็นชาวต่างด้าว มิเช่นนั้นก็จะเข้าทำนองอย่างที่คุณทัศานต์ใจบอก) ส่วนองค์วรานนท์ ท่านมีพระบรมราชโองการให้ปลด ตามมาตรานี้ มาตรา 7  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสงวนไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพและพระราชสิทธิที่จะทรงถอนพระรัชทายาทออกจากตำแหน่งได้  ท่านพระองค์ใดที่ได้ถูกถอนจากตำแหน่งพระรัชทายาทแล้ว ท่านว่าให้นับว่าขาดจากทางที่จะได้สืบราชสันตติวงศ์ และให้ถอนพระนามออกเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์ อีกทั้งพระโอรสและบันดาเชื้อสายโดยตรงของท่านพระองค์นั้น ก็ให้ถอนเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์ด้วยทั้งสิ้น         อนึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพและพระราชสิทธิที่จะทรงประกาศยกเว้นเจ้านายเชื้อพระบรมราชวงศ์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งออกเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์ได้ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 48 00:35:10 จากคุณ : natthaset - [ 19 ส.ค. 48 21:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คืออยากจะทราบว่ากฎมณเทียรบาลนี่จะหาอ่านได้จากเว็บไหนบ้างครับพอจะมีหรือเปล่า ? จากคุณ : ผู้น้อย - [ 20 ส.ค. 48 08:06:28 A:61.90.10.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 google ไงชัวร์ป้าด. จากคุณ : ddt - [ 22 ส.ค. 48 09:35:17 A:61.90.10.125 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถูกต้องแล้วคร๊าบ.... จากคุณ : ผู้น้อย - [ 22 ส.ค. 48 10:57:16 A:61.90.10.125 X: ]