PANTIP.COM : K3766751 อยากทราบเรื่องราวช่วงที่รัชกาลที่5 จะขึ้นครองราชย์ครับ [ประวัติศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 2

วิกฤตการณ์วังหน้า

เมื่อ ร 4 สวรรคตแล้วนั้นได้มีการประชุมใหญ่ในพระบรมมหาราชวัง ประกอบไปด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง ข้าราชการสามัญชนและ พระสงฆ์ราชาคณะ

เจ้าพระยาศรีสุริยะวงศ์ ที่สมุหกลาโหมสั่งให้หมู่องครักษ์และกรมอาสาตั้งกองล้อมวงทั้งชั้นนอกและชั้นในกวดขัน เมื่อทั้งหมดมาพร้อมกันแล้ว เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ก็เปิดประชุม ว่า "ร 4 ทรงโปรดอนุญาติให้มีการประชุมปรึกษาเพื่อเลือกพระราชวงศ์พระองค์ใดที่เพรียบพร้อมด้วยสติปัญญาวัยวุฒิรอบรู้สรรพสิ่ง ปกป้องสมณะชีพราหม์ อาณาประชาราษฎร์ได้ ก็ให้ยกพระองค์นั้นขึ้นเถิด....."

กรมหลวงเทเวศรวัชรินทร์ ผู้มีพระชนมายุสูงสุดได้เสนอ พระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานารถ ขึ้นครองแผ่นดิน

เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ก็ถามในที่ประชุมว่าเห็นชอบตามที่กรมหลวงเสนอหรือไม่ ที่ประชุมมิได้เห็นเป็นอื่น จึงมีมติอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ขึ้นสืบสันตติวงซ์ต่อไป

ครั้งแล้ว เจ้าพระยาก็ได้ขอใหที่ประชุมเสนอนามผู้ดำรงตำแหน่งอุปราช หรือ กรมพระราชวังบวร หรือ วังหน้า

กรมหลวงเทเวศรวัชรินทร์ได้เสนอพระนามกรมหมื่นบวรวิไชยชาญ (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือพระองค์เจ้ายอร์ช วอชิงตัน พระโอรสในสมเด็จพระปิ่นเกล้า กับเจ้าคุณจอมมารดา เอม) แต่กรมขุนวรจักรธรานุภาพ (พระองค์เจ้าปราโมช พระราชโอรสใน ร 2 ต้นราชสกุล ปราโมช) ได้รับสังขึ้นมาว่า ตำแหน่งกรมพระราชวังบวรนั้นตามราชประเพณี พระเจ้าแผ่นดินจะเป็นผู้แต่งตั้งไม่ใช่ที่ประชุมนี้

เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ก็ย้อนถามกลับไปว่า " อยากเป็นเองหรือ" ส่วนกรมขุนวรจักรก็รับสั่งว่า "ถ้าจะให้ยอมก็ต้องยอม" และกรมขุนวรจักรก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืดต่อ เมื่อออกจากที่ประชุมก็เสด็จกลับวัง และไม่เสด็จออกจากวังอีกเลยตลอดเวลาที่เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์มีอำนาจอยู่ (ภายหลังเจ้าพระยาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาสุริยวงศ์ ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน)

ถ้า ร 5 ทรงแต่งตั้งวังหน้าเอง อาจจะเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ หรือกรมขุนวรจักร หรือ กรมขุนบดินทร์พศาลโสภณก็ได้ ไม่ใช่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญที่เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์สนับสนุน

ระหว่างที่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญดำรงพระยศ วังหน้าก็มีเรื่องพิพาทกับทางวังหลังหลายครั้ง จนบางครั้งต้องให้ผู้สำเร็จราชการอังกฤษเข้ามาไกล่เกลี่ย วังหน้าจึงถูกลดบทบาทลงไม่ใช่พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่สองอีกแล้ว และมีทหารได้ไม่เกิน 200 คน

เมื่อปี 2428 อันเป็นปีที่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทิวงคต ร 5 ได้ทรงยกเลิกตำแหน่งวังหน้าโดยเด็ดขาด ปีต่อมาจึงได้สถาปนาตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมารขึ้นเป็นครั้งแรก นับได้ว่าเป็นการกำหนดการสืบต่ออย่างสำคัญและเสริมสร้างเสถียรภาพของพระองค์

แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 48 21:55:14
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 48 20:41:31
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 48 20:40:51

จากคุณ : น้องหอมแดง - [ 27 ก.ย. 48 20:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8

15 ตุลาคม 2411

โปรดเกล้าฯ ให้พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภไปเชิญเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ บุตรชายของเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์มาข้าเฝ้าฯยังพระที่ และได้ตรัสถามถึงพระอาการของสมเด็จเจ้าฟ้าชาย ซึ่งพระยาสุรวงศ์ฯ ได้กราบทูลว่า

“พระอาการค่อยคลายลงแล้ว”

หลังจากนั้นจึงได้พระราชทานดาบ ๑ เล่มเพื่อตอบแทนความดีความชอบของพระยาสุรวงศ์ฯ ที่รับราชการสนองพระเดชพระคุณมาช้านาน แล้วก็มีพระราชดำรัสถึงราชการแผ่นดิน พระยาสุรวงศ์ฯ จึงกราบทูลถึงเรื่องรัชทายาทความว่า

"...บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ และเสนาบดีผู้ใหญ่ทั้งปวงเห็นควรให้ยกสมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ขึ้นเสวยราชสมบัติ..."

พระเจ้าอยู่หัวจึงตรัสตอบความว่า

"...สมเด็จเจ้าฟ้าชายนั้นยังทรงพระเยาว์นักเกรงว่าจะมิอาจบังคับบัญชาราชการแผ่นไปได้ตลอด หากจะเลือกเจ้านายพระองค์อื่นก็ให้เลือกกันตามควร เพียงขอให้ระมัดระวังไม่ให้พระเจ้าลูกยาเธอฯ มิให้มีภยันตรายเท่านั้น..."

พระยาสุรวงศ์ฯจึงกราบทูลว่า

"...แม้แต่พระเจ้านโปเลียน ๓ แห่งฝรั่งเศสก็ยังทรงยกย่องสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าชายพระองค์ใหญ่ไว้ในฐานะรัชทายาท และในบรรดานานาประเทศต่างก็นิยมนับถือในเจ้าฟ้าชายเป็นอันมาก หากไม่ยกเจ้าฟ้าชายให้ขึ้นครองราชย์สมบัติ ก็อาจทำให้เกิดเหตุร้ายไม่เป็นที่เรียบร้อย..."

เมื่อได้ยินคำกราบทูลเช่นนั้นพระองค์ก็ทรงตรัสว่าตามใจ ถ้าเห็นพร้อมกันเช่นนั้น แล้วจึงมีรับสั่งว่า

“ ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มิได้มีรับสั่งให้หาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์เข้าไปทรงฝากสั่งเสียราชการแผ่นดิน ให้หาแต่เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ แต่ยังเป็นจางวางมหาดเล็กเข้าไปทรงสั่ง ครั้งนี้จะประพฤติตามอย่างพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมิได้มีรับสั่งให้หาเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์เข้ามาสั่งเสีย ให้พระยาสุรวงศ์ฯเป็นผู้รับรับสั่ง เมื่อจะขัดขวางอย่างใดก็จงปรึกษาเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ผู้เป็นบิดาเถิด ไหนๆสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอก็ได้เป็นเขย การที่ได้ปรึกษาเห็นพร้อมกันว่า จะให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ ครองราชสมบัติต่อไปนั้น ขอฝากฝังให้ช่วยกันทำนุบำรุงให้ดีอย่าให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ การเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ถ้าไม่ระวังอาจจะเกิดรบพุ่งฆ่าฟันกัน ถ้าเกิดเหตุเช่นนั้นขึ้นจะอายเขา ”

เมื่อทรงเห็นว่าเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์มิได้เสด็จมาเฝ้าหลายวันแล้ว ก็ทรงพระวิตกว่าพระราชโอรสยังมีพระชนชีพอยู่หรือไม่ จึงตรัสถามพระองค์เจ้าหญิงโสมวดีว่า

“พ่อใหญ่นั้นสิ้นพระชนม์เสียแล้ว หรือยังมีพระชนม์อยู่ ขอให้กราบทูลโดยสัตย์จริง”

พระองค์เจ้าหญิงโสมวดี จึงกราบทูลว่า

"เจ้าฟ้าชายพระองค์ใหญ่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ แม้จะทรงประชวรหนักแต่พระอาการก็ได้คลายลงแล้ว"

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงให้อัญเชิญพระกระแสรับสั่งไปกราบทูลสมเด็จเจ้าฟ้าชายว่า

“ ถ้าพระอากรประชวรค่อยคลายพอจะมาเฝ้าได้ ให้เสด็จเสียก่อนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ถ้ารอไปถึงวันแรม ๑ ค่ำ ก็จะได้แต่สรงพระบรมศพไม่ทันได้สั่งเสียอันใด”

พอตกเย็นวันนั้นจึงมีรับสั่งให้เจ้าพนักงาน นำพระบซึ่งทำด้วยงากรอบทองคำประดับเพชรทับทิมมรกต ราคา ๒๐๐ ชั่ง ใส่เงินลงไปอีก ๑๐๐๐ ชั่ง ไปพระราชทางแก่เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ พร้อมทั้งให้นำพระธำมรงค์กับพระประคำเครื่องทองซึ่งเป็นของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ไปมอบไว้ให้ด้วย โดยพระประคำเครื่องนี้ถือกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธ์ สืบทอดกันมาสำหรับพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น และด้วยความจงรักภักดีของเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ท่านจึงได้นำพระธำมรงค์กับพระประคำเครื่องนี้ไปถวายเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ ที่พระตำหนักสวนกุหลาบทันที เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์จะได้ขึ้นเสวยราชย์เป็นพระเจ้าแผ้นดินองค์ต่อไป ส่วนพระอาการของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น หลังจากพระอาการได้แปรไปทางอุจจาระธาตุ พระบังคนก็ตกเป็นลิ่มเหลว ไปพระบังคนครั้งใดก็มีพระโลหิตปนอยู่ อีกทั้งเสวยพระกระยาหารได้น้อย จึงทำให้พระอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ ....

จากคุณ : รอยใบลาน - [ 28 ก.ย. 48 07:49:25 ]