ความคิดเห็นที่ 1 ได้ยินมาว่า พระอัฐิของพระองค์เก็บอยู่ในปรางค์องค์หนึ่งในวัดไชยฯ จริงเท็จประการใด ถ้าจริง อยากทราบเหมือนกันว่าปรางค์องค์ไหนครับ จากคุณ : ชัวร์หรือมั่วนิ่ม - [ 12 ต.ค. 48 22:43:03 A:59.113.61.53 X: TicketID:055330 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นี่คงจะเป็นปรางค์หรือเจดีย์ที่บรรจุอัฐิตามที่อ้างอิงจากหนังสือแบบเรียนประวัติวรรณคดีกระมั้งค่ะ ถ่ายที่วัดไชยวัฒนารามค่ะ ลองดูกันเองจะมีสิ่งใดอยู่ในนั้นรึป่าว เหอะๆ อิอิ จากคุณ : Mickymilk - [ 12 ต.ค. 48 23:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่แน่ใจน่ะค่ะแต่คิดว่าใช่ ถ้าใครมรข้อมูลเพิ่มเติมช่วยด้วยน่ะค่ะ ^^/ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Mickymilk - [ 12 ต.ค. 48 23:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในหนังสือพระประวัติเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ(กรม ศิลปากร)ช่วงนี้ กล่าวว่ากรมหมื่นสุนทรเทพ ซึ่งเป็นพระราชโอรส ในสมเด็จพระเจ้าบรม โกศ และเป็นพระอนุชาต่างพระชนนีกับกรม พระราชวังบวร(เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ)ซึ่งทรงผูก อาฆาต ได้นำเรื่องราวขึ้นกราบบังคมทูลสม เด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการลับว่ากรมพระราช วังบวร ฯ ลอบเสด็จเข้าไปเป็นชู้กับเจ้าฟ้าสัง วาลย์ถึงในพระราชวัง เป็นหลายครั้ง เจ้าฟ้า สังวาลย์ เป็นพระมเหสีองค์หนึ่ง ของสมเด็จ พระเจ้าบรมโกศ...ฯลฯ จึงมีพระราชโองการ ให้ชำระ-เจ้าฟ้าสังวาลย์ ก็รับเป็นสัตย์แล้วมี พระราชโองการให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้า ฟ้าหญิงธิดา และเจ้าฟ้าหญิงสุริยวงศ์ ให้ไป เชิญเสด็จกรมพระราชวังบวร- ลงมาเฝ้า เจ้า ฟ้าทั้งสอง-กราบทูลว่า เป็นอริกันอยู่ จะไป เชิญเสด็จมิได้ จึงดำรัสใช้เจ้าจอมจันทน์ให้ ขึ้นไปทูลเชิญเสด็จกรมพระราชวังบวร ฯ ... ครั้นเสด็จมาถึง จึงมีพระราชดำรัสสั่งให้มหา เทพลงพระราชอาชญา ๕ ประการ และให้มี กระทู้-ซักถาม ตามคำฟ้องฯ กรมพระราชวัง บวร ฯ ก็ทรงรับเป็นสัตย์ ตลอดข้อหา ..ครั้น ถึง วันแรมค่ำหนึ่ง เดือนเก้า( พ.ศ.๒๒๙๘ ) มีพระราชดำรัส-ให้ผูกกรมพระราชวังบวร ฯ แล้วลงพระราชอาชญาเฆี่ยน ได้ ๒๐ ที เกิด ลมจุก กรมหมื่นสุนทรเทพ-ขึ้นไปกราบว่า .. จุกหนัก จะขอพระราชทาน-ให้แก้เสีย จึงมี พระราชโองการสั่งให้ริบ ถึง ณ วันแรม สอง ค่ำให้ลงพระราชอาชญาเฆี่ยนซ้ำอีกสองยก เป็น ๖๐ ที และ ให้"นาบพระบาท"ด้วย แล้ว ดำรัสให้เฆี่ยนยกสามสิบที ไปจนกว่าจะครบ ๒๓๐ ที โปรดให้เสนาบดี และลูกขุน พิพาก ษาโทษว่าจะเป็นประการใดเสนาบดีและลูก ขุนปรึกษากันว่าด้องด้วยพระราชกำหนดกฏ มณเฑียรบาล จึงกราบทูลว่า..โทษกรมพระ ราชวังบวร ฯ เป็นมหันตโทษถึงประหารชีวิต เป็นหลายข้อ ขอพระราชทานให้สำเร็จโทษ ด้วยท่อนจันทน์ ตามขัตติยประเพณี จึงทรง พระกรุณาตรัสขอชีวิตไว้ ให้นาบ-พระนลาต ถอดเสียจากเจ้าเป็นไพร่ กรมพระราชวังบวร ต้องรับพระราชอาชญาเฆี่ยน อีก ๔ ยก เป็น ๑๘๐ ที..ก็ดับสูญสิ้นพระชนม์ ส่วนเจ้าฟ้าสัง วาลย์นั้น ให้ลงพระราชอาชญา เฆี่ยน ๑ ยก ๓๐ ที ให้ถอดเป็นไพร่-จำไว้..จนกว่าจะตาย เจ้าฟ้าสังวาลย์ อยู่ได้ ๓ วัน ก็สิ้นพระชนม์.. สมด้วยพระนิพนธ์ กาพย์เห่ ของเจ้าฟ้าธรรม ธิเบศเอง ตอน กากีตอบเป็นเชิงเตือนพระยา ครุฑว่า ... ตอบรสพจน์วาที ตัวเจ้านี้อหังการ ไม่เกรงพระภูบาล ทั้งภัยพาลในอบาย ถึงเป็นชายชาญสกา ไม่เจตนาอย่าพักหมาย ฝ่ายเจ้าก็เลิศชาย สายสุริยวงศ์พงศ์เทวัญ เสวยทิพย์พิมานทอง ฝูงนางน้องล้วนสาวสวรรค์ ไม่ควรมาผูกพัน จะพากันตกนรกานต์ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 48 10:40:44 จากคุณ : พุ่มสกี้ - [ 13 ต.ค. 48 01:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จึงโปรดให้ เอาพระศพกรมพระราชวังบวร  กับเจ้าฟ้า สังวาลย์ ไปฝั่งไว้ด้วยกัน ณ วัดชัยวัฒนา ราม..เข้าใจว่าทั้งสองพระองค์นี้ คงจะสิ้น พระชนม์ในเวลาใกล้เคียงกัน- ระหว่างวัน แรม ๒ ค่ำถึงวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีกุน สัปตศก พ.ศ. ๒๒๙๘ หรือ..ราว ๒๕๐ ปี มาแล้ว เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ-กรมพระราชวัง บวรมหาเสนาพิทักษ์ คงจะมีพระชนม์สืบ มาจนถึงวันทิวงคตไม่เกิน ๔๐ ปี กล่าวว่า ถ้าทรงสามารถ เสด็จดำรงพระราชอิสริย ยศ และทรงพระชนมชีพ อยู่ตลอดมาอีก ประมาณสัก ๓ ปี ก็จะได้เสวยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ ครองกรุงศรีอยุธยา สืบสนองพระองค์ สมเด็จพระราชบิดาซึ่ง เสด็จสวรรคต ด้วยพระโรคชรา เมื่อ พ.ศ. ๒๓๐๑ และถ้าเหตุการณ์ เป็นไปดังกล่าว คาดหมายนี้ วรรณคดีไทยในรัชสมัยของ พระองค์ คงจะรุ่งเรืองขึ้นอีกหาน้อยไม่ ฯ *ลำดับปี พระชนมายุในเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ พ.ศ.๒๒๗๖ ดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้ากรม . . . . . . . . ขุนเสนาพิทักษ์ พ.ศ.๒๒๗๘ เสด็จหนี-พระราชอาชญา . . . . . . . . ออกทรงผนวช พ.ศ.๒๒๗๙ ทรงนิพนธ์นันโทปนันทสูตร . . . . . . . . คำหลวง พ.ศ.๒๒๘๐ ทรงพระนิพนธ์พระมาลัยสูตร .  . . . . . . .คำหลวง พ.ศ.๒๒๘๔ ดำรงพระยศเป็นกรมพระราช . . . . . . . . วังบวรสถานมงคล พ.ศ.๒๒๙๘ ต้องพระราชอาชญาเฆี่ยนถึง . . . . . . . . ทิวงคต *งานวรรณคดีของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ มีดังนี้ (๑) บทเห่เรือ ๔ บท (๒) บทเห่เรื่องกากี ๓ ตอน (๓) บทสังวาสและเห่ครวญ อย่างละบท (๔) กาพย์ห่อโคลง นิราศธารโศก (๕) กาพย์ห่อโคลง นิราศธารทองแดง (๖) ลิลิตนันโทปนันทสูตรคำหลวง (๗) ลิลิตพระมาลัยคำหลวง นอกจากนี้ยังมีเพลงยาว ซึ่งกล่าวกันว่าเป็น บทของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ เหลือมาบางบทฯ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 48 10:44:57 จากคุณ : พุ่มสกี้ - [ 13 ต.ค. 48 02:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อักษรเรียบร้อยถ้อย . . . คำเพราะ ผู้รู้อ่านเสนาะ . . . . . . . .เรื่อยหรี้ บรู้อ่านไม่เหมะ . . . . . .  ตรงเทิ่ง ไปนา ทำให้โคลงทั้งนี้ . . . . . . ชั่วช้าเสียไป ฯ อักษรสรรค์สร้างช่าง . . .ชุบจาน โคลงก็เพราะเสนาะสาร . แต่งไว้ ผู้รู้อ่านกลอนการ . . . . . พาชื่น ใจนา ผู้บรู้อ่านให้ . . . . . . . .  ขัดข้องเสียโคลง ฯ *( นิราศธารทองแดง-เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ ) จากคุณ : พุ่มสกี้ - [ 13 ต.ค. 48 02:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้ายืนหันหลังให้แม่น้ำเจ้าพระยาด้านหน้าวัด เจดีย์ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศและเจ้าฟ้าสังวาลย์นั้นจะอยู่ทางด้านขวามือของปรางค์ประธาน แต่อยู่นอกระเบียงคต เป็นเจดีย์ทรงระฆังค่ำด้านหน้าเจดีย์มีต้นไม้ใหญ่ต้ังอยู่ต้นอะไรก็ไม่ทราบได้  แต่ในรูปที่คุณMickymilkนั้นเป็นแค่ปรางค์บริวารที่ประจำอยู่ทิศทั้ง4ของปรางค์ประธาน ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นมีรูเล็กๆตามผื้นผิวของตัวอาคารนั้นสมัยก่อนนักล่าเครื่องรางของขลังตามกรุวัดต่างๆได้มาถึงวัดไชยวัฒนารามนี้มาตามแกะเอาตะปูที่เรียกว่าตะปูสังฆวานรเชื่อว่าตะปูนี้เป็นตะปูที่มีความขลังเป็นเครื่องรางป้องกันภัยได้ ตะปูเหล่านี้ครั้งหนึ่งเคยทำหน้าที่ยึดเกาะแผ่นจังโกซึ่งเชื่อว่าเป็นโลหะชนิดทองแดงที่หุ้มตัวศาสนสถานองค์ปรางค์ไว้ จากคุณ : Louvorian - [ 13 ต.ค. 48 05:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยนั่งเรือจ้างของชาวบ้านจากหน้าวังจันทร์ฯ ไปรอบตัวเกาะเมืองเก่าไปขึ้นวัดพุทไธสวรรค์ (ศิลปะอยุธยาตอนต้น) ขึ้นท่าน้ำ โบสถ์คาธอ ลิก นักบุญโยเซฟ เอาเรือเทียบ-ลอยลำใต้ร่ม เงาสวนผลไม้ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามวัดชัยวัฒนา ราม(คือบริเวณพระตำหนัก-สิริยาลัย ปัจจุบัน) เมื่อราว ๓๐ ปี ที่แล้ว แถวนั้นมีเรือครัวมอญที่ จอดพักเรียงรายทางผูกโยงกัน ยามเย็นตะวัน ตกดินหลังหมู่ปรางค์วัดชัยวัฒนาราม-พลบค่ำ เงียบทั้งคุ้งน้ำยินเสียงจั๊กจั่นเรไรระงมพงหญ้า ริมตลิ่ง ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าฝั่งตรงข้าม สะท้อนเงาท้องน้ำสวยงามราวกับภาพที่มีชีวิต สมัยนั้นยังเป็นวัดร้าง มีแต่สุมทุม-เถาวัลย์ไม้ ขึ้นปกคลุมจนรกร้างทึบทมึนมองเห็นแต่ยอด ปรางค์ประธาน ปรางค์ทิศ โผล่พ้นแนวพุ่มไม้ ดำตะคุ่มจนดูน่ากลัว..กลายเป็นที่หลบซ่อน- ของพวกมิจฉาชีพ-ลักขโมยคนร้าย ชิงทรัพย์ ผู้คนทั่วไปก็ยิ่งไม่อยากเดินทางมาท่องเที่ยว ถนนลาดยางด้านหลังวัด ก็ไม่เป็นทางเหมือน สมัยนี้ ต้องใช้เส้นทางลำน้ำเท่านั้น-ที่สะดวก เคยปีนบันไดขึ้นไปบนช่องซุ้มประตู ด้านหน้า องค์ปรางค์ประธาน นั่งพักใจอยู่บนนั้นสูงมอง เห็นแนวโค้ง-คุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาสวยงามมาก มีพระพุทธรูปปูนปั้น"ทรงเครื่อง" ตามคตินิยม ตั้งเรียงราย ตามแนวระเบียงทิศ เชื่อมปรางค์ ทิศทั้งสี่ ตามคตินิยม- ของการเป็นศูนย์กลาง จักรวาล ยุครุ่งเรืองของราชอาณาจักรอยุธยา แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 14:51:50 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 48 12:23:04 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 48 12:13:11 จากคุณ : พุ่มสกี้ - [ 13 ต.ค. 48 12:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณ Louvorian และคุณ พุ้มสกี้ มากค่ะที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ทราบว่าใช่รูปนี้รึป่าวที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ค่ะ จากคุณ : Mickymilk - [ 13 ต.ค. 48 13:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยากไปอีกจัง ถ้าใครได้ล่องเรือมาทางหน้าวัดจะเป็นภาพที่สวยงดงามที่สูดเลยยยยยย อิอิ จากคุณ : Mickymilk - [ 13 ต.ค. 48 13:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พิศพรรณปลาว่ายเคล้า  คลึงกัน ถวิลสุดาดวงจันทร์       แจ่มหน้า มัตสยาย่อมพัวพัน       พิศวาส ควรฤพรากน้องช้า       ชวดเคล้าคลึงชม ฯ ช้าลวะเห่      พิศพรรณปลาว่ายเคล้า                  คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์                 มัตสยายังรู้ชม                                   สมสาใจไม่พามา                 นวลจันทร์เปนนวลจริง                 เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา                 คางเบือนเบือนหน้ามา                            ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย                      เพียนทองงามดั่งทอง                      ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย                กระแหแหห่างชาย                     ดั่งสายสวาทคลาศจากสม               แก้มช้ำช้ำใครต้อง                          อันแก้มน้องช้ำเพราะชม               ปลาทุกทุกข์อกตรม                   เหมือนทุกข์พี่ที่จากน้อง ................................................ หวานจับจิตจริงๆค่ะ จากคุณ : เป๋าเป่าจากินซาละเปา - [ 13 ต.ค. 48 16:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกท่าน สำหรับคำตอบครับ จากคุณ : ชัวร์หรือมั่วนิ่ม - [ 13 ต.ค. 48 21:22:41 A:59.113.115.122 X: TicketID:055330 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใช่แล้วครับเจดีย์องค์นั้นแหละครับคุณMickymilk ถ้าเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศมิทรงสิ้นพระชนม์ไปประวัติศาสตร์ กรุงศรีอยุธยาคงมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเป็นแน่ครับ พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่ทรงมีความสามารถและความรอบรู้ วิทยาการต่างๆและงานศิลป์อย่างมากเสียดายที่คนดีๆต้องมาสิ้นไป โดยคนไม่ดี ไปถึงที่วัดไชยฯก็ไปยืนระลึกถึงท่านด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 05:10:54 แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 05:08:43 จากคุณ : Louvorian - [ 14 ต.ค. 48 02:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 1.คุณ Louvorian เป็นคนอยุธยารึป่าวค่ะ 2.แล้วเจ้าฟ้านิ่มท่านไปไหนเสียค่ะ เพราะตามประวัติท่านก็ได้ชื่อว่าเป็นชู้กับเจ้าฟ้ากุ้ง 3.น่าเสียดายมากค่ะ แต่ทุกอย่างก็ไม่สามารถย้อนได้ ก็ทำได้แต่เพียงระลึกและเชิดชูเท่านั้น -_- จากคุณ : Mickymilk - [ 14 ต.ค. 48 12:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 "เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ ไชยเชษสุริยวงศ์" มีพระนาม-เรียกสามัญว่า "เจ้าฟ้ากุ้ง" เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ในสมเด็จ พระเจ้าบรมโกศ และ สมเด็จพระพัน วัสสาใหญ่ ซึ่งโปรดให้สถาปนา เป็น กรมหลวงอภัยนุชิต เป็นพระมารดา- เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ ทรงมีพระภคินีร่วม พระชนนีอีก ๖ พระองค์ รวมเป็น ๗ พระองค์ด้วยกัน ...ฯลฯ กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์(เจ้าฟ้า ธรรมธิเบศ) ทรงมีพระชายา และเจ้าจอม- หม่อมห้ามหลายองค์ และหลายคน..เท่าที่ สอบค้นได้ดังนี้ (ข้อมูลจาก-กรมศิลปากร) (๑) พระอัครชายา- ในพระราชพงศาวดาร ว่าเจ้าฟ้าหญิงอินทสุดาวดี พระกนิษฐภคินี ร่วมพระชนนีเดียวกันซึ่งได้รับสถาปนาขึ้น เป็น-กรมขุนยิสารเสนี(แต่บางแห่งก็ว่าเจ้า ฟ้าหญิงนุ่ม(ภายหลังสถาปนาเป็นเจ้าหญิง อินทสุดาวดี)- เป็นพระกนิษฐภคินี ซึ่งต่าง มารดากัน- เป็นพระธิดาในกรมหลวงพิพิธ มนตรี-พระพันวสาน้อย ไม่ปรากฏว่ามีพระ โอรสธิดา (๒) เจ้าฟ้าหญิงเส-มีพระธิดาทรงพระนาม เจ้าฟ้าศรี (๓) หม่อมพัน-มีพระโอรสพระนามว่าพระ องค์เจ้าอาทิตย์- ภายหลังได้เป็นกรมหมื่น พิทักษ์ภูเบศ (๔) หม่อมเหม- หรือ- เหญก มีพระโอรส หรือพระธิดาพระนามว่า- พระองค์เจ้าฉาย หรือ-ฉัตร หรือ-เกิด ( คงจะเป็นองค์ ที่ถูก ลงพระราชอาชญาสิ้นชีวิต ในคราวไปลวง นิมนต์-เจ้าฟ้าพระกรมขุนสุเรนทรพิทักษ์) (๕) หม่อมเจ้าหญิงสวยมีพระธิดา ๓ องค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงมิตร *(เมื่อเสียกรุง ศรีอยุธยา.. สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรง ชุบเลี้ยงเป็น "ห้าม" โปรดให้พระราชทาน นามใหม่ว่าเจ้าปทุม) พระองค์เจ้าหญิงทับ และ พระองค์เจ้าหญิงชื่น (ถูกลงพระราช อาชญาสิ้นชีวิต-ในคราวไปลวงเจ้าฟ้าพระ กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์) (๖) หม่อมจัน-มีพระโอรส คือพระองค์เจ้า ศรีสังข์ (๗) หม่อมทองแดง-มีพระโอรส คือ พระ องค์เจ้าชายแม้น (๘) หม่อมเจ้าหญิงสร้อย- มีพระธิดา คือ พระองค์เจ้าหญิงดารา (๙) หม่อมสุ่น-มีพระธิดา คือพระองค์เจ้า หญิงชี และพระองค์เจ้าหญิงชาติ (๑๐) หม่อมต่วน-มีพระโอรส คือพระองค์ เจ้าชายมิ่ง กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์-นอก จากจะมีพระชายาและเจ้าจอมหม่อมห้าม ดังปรากฏพระนามข้างต้นแล้วคงจะทรงมี "นางรักนักสนม" อีกหลายคน-ดังปรากฏ ใน"กาพย์ห่อโคลง"..ซึ่งพระองค์ทรงพระ นิพนธ์ไว้ว่า เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ ไชยเชษฐสุริยวงศ์ นางรักนักสนมองค์ อ่าห้อมล้อมพร้อมบริบูรณ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศเชื้อ    รพิพงศ์ ไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ทรง  เลิศหล้า นางรักนักสนมองค์       อภิชาติ คับคั่งนั่งเรียงหน้า        เฟ่าพร้อมบริบูรณ์ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 15:13:07 แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 14:56:50 จากคุณ : พุ่มสกี้ - [ 14 ต.ค. 48 14:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ในสมัยนั้นไม่มีปรากฎภาพเขียนท่านบ้างเลยหรือค่ะ อยากเห็นมากค่ะ จากคุณ : Mickymilk - [ 14 ต.ค. 48 17:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อืม ไม่อยากเห็นรูปถ่ายของขุนลอราช (พระลอตามไก่) ขุนแผน,พระอภัยมณี บ้างมะคะ(พระรูปของ ร.๑ ยังไม่ทัน :) เพราะสมัยอยุธยาผู้คนไม่นิยมเขียนรูป ถ่ายรูปคน หรือถือคติว่าเป็นการแช่งตัว ไม่แน่วันหนึ่งอาจค้นพบภาพเก่าๆ สมัย กรุงศรีอยุธยาโดยฝีมือฝรั่งชาวต่างชาติ โปรตุเกส,ฮอลันดา,ฝรั่งเศส..ฯลฯ ร่วม ยุคสมัยนั้น..ที่เคยเดินทางมาถึงอยุธยา แล้วได้วาดภาพ หรือ ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เพียงแต่ยังไม่ค้นพบหรือนำมาเผยแพร่ ดังภาพ"การเข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์น ของราชฑูตในสมัยพระนารายมหาราช และพระเจ้าหลุย ๑๖ ราชสำนักฝรังเศส จากคุณ : พุ่มสกี้ - [ 14 ต.ค. 48 18:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แช่งตัวเองเรยแฮะ แล้วภาพเขียนของพระเจ้าเอกทัศน์นั้นใครเป็นคนวาดค่ะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากค่ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 19:26:33 จากคุณ : Mickymilk - [ 14 ต.ค. 48 19:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ว่าแล้ว อั้น-อมภูมิไว้ได้..ไม่นาน ขอบคุณที่ให้ความรู้เราเช่นกัน :) จากคุณ : พุ่มสกี้ - [ 14 ต.ค. 48 19:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แก้ไขเพิ่มเติมคห.17 พระเจ้าหลุยส์ ที่14 จากราชวงศ์บูบง แห่งฝรั่งเศส ไม่ใช่ พระเจ้าหลุยส์ที่16 นะครับที่ทรงเจริญพระราชไมตรี กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ว่า"ว่าแล้ว อั้น-อมภูมิไว้ได้..ไม่นาน"กล่าวถึงใครหรอครับ? สงสัยในข้อความของคุณพุ่มสกี้ น่ะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 48 06:19:17 แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 48 06:15:30 จากคุณ : Louvorian (Louvorian) - [ 15 ต.ค. 48 16:00:30 ]