ความคิดเห็นที่ 15
ส่วนงานวรรณกรรมต้นฉบับภาษาอังกฤษ เรื่อง Sleeping Murder ซึ่งปรากฏว่าโจทก์เพิ่งโฆษณางานวรรณกรรมเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2519 แม้จะไม่ปรากฏว่านายศิริพงษ์ผู้แปลงานวรรณกรรมเรื่องนี้ได้รับอนุญาตจากโจทก์ให้แปลเป็นภาษาไทยเรื่อง คดีเงียบ เมื่อปี 2523
แต่โจทก์ก็ไม่เคยร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่นายศิริพงษ์ในข้อหาความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ หรือฟ้องต่อศาลขอให้ลงโทษนายศิริพงษ์ในข้อหาความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 43 วรรคสอง ประกอบมาตรา 24 (1) และจนถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 อันเป็นวันฟ้องคดีนี้โจทก์ก็มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษนายศิริพงษ์ในข้อหาความผิดดังกล่าวแต่อย่างใด
ความผิดข้อหาดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมได้ ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ซึ่งความผิดตามมาตรา 43 วรรคสอง ประกอบมาตรา 24 (1) ดังกล่าวมีระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท
โจทก์ต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดฐานนี้ และรู้ตัวผู้ปกระทำความผิด มิฉะนั้นจะขาดอายุความในการดำเนินคดีอาญาในข้อหาความผิดดังกล่าว หรือในกรณีที่โจทก์ยังไม่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด โจทก์ก็ต้องฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายใน 5 ปี นับแต่วันที่กระทำความผิด มิฉะนั้น คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความ ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 และ 96
สำหรับกรณีนี้ โจทก์ต้องฟ้องนายศิริพงษ์อย่างช้าที่สุดภายในปี 2528 จึงจะไม่เกินกำหนดอายุความ 5 ปี นับแต่วันกระทำความผิด คดีของโจทก์สำหรับนายศิริพงษ์ขาดอายุความไปแล้ว
ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.1 ว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ในงานแปลเรื่อง คดีเงียบ กับนายศิริพงษ์ผู้อนุญาตเมื่อเดือนมิถุนายน 2534 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากคดีของโจทก์หากดำเนินคดีแก่นายศิริพงษ์ขาดอายุความไปแล้วประมาณ 6 ปี
ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงมีเหตุผลให้เชื่อว่า จำเลยที่ 1 เข้าใจว่างานแปลเรื่อง คดีเงียบดังกล่าว เป็นงานแปลอันมีลิขสิทธื และนายศิริพงษ์ผู้แปลเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานแปลนั้น
การจัดพิมพ์หนังสือแปลเรื่อง คดีเงียบ และนำออกจำหน่ายซึ่งหนังสือที่จัดพิมพ์ขึ้นของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำโดยสุริต มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์ในงานวรรณกรรมต้นฉบับภาษาอังกฤษ เรื่อง Sleeping Murder ของโจทก์แต่อย่างใด
การที่จำเลยที่ 1 ขาย และเสนอขายแก่บุคคลทั่วไป ซึ่งหนังสือแปลเรื่อง คดีเงียบที่จัดพิมพ์ขึ้นดังกล่าวจึงมิใช่การขาย และเสนอขายหนังสือแปลนั้นโดยรู้อยู่แล้ว หรือมีเหตุอันควรรู้ว่าหนังสือแปลที่พิมพ์ขึ้นนั้นเป็นงานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ในงานวรรณกรรมต้นฉบับภาษาอังกฤษ เรื่อง Sleeping Murder ของโจทก์
การกระทำของจำเลยที่ 1 ดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขาดองค์ประกอบของความผิด ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 70 วรรคสอง ประกอบมาตรา 31 (1) จึงไม่เป็นความผิดตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าว ตามที่โจทก์ฟ้องเช่นกัน
ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 1 ขายและเสนอขานแก่บุคคลทั่วไปซึ่งหนังสือที่มีการแปลในช่วงปี 2522 ถึง ปี 2525 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มีผลใช้บังคับแล้ว
แต่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนไขเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ พ.ศ. 2526 ออกมาใช้บังคับ โดยแปลจากหนังสือต้นฉบับภาษาอังกฤษซึ่งเป็นงานวรรณกรรมอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ จำนวน 15 เรื่องดังกล่าวเมื่อระหว่างเดือนกันยายน 2539 ถึงเดือนธันวาคม 2539 เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 69 วรรคสอง ประกอบมาตรา 27 (1) นั้น
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังขึ้น สรุปได้ว่า การกระทำทั้งหมดของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และปัญหาว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำหรือไม่ต่อไป เพราะแม้จะวินิจฉัยให้ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป
อนึ่ง แม้หนังสือแปลเรื่อง ฆ่าเพราะรัก และเรื่อง คดีเงียบ ที่เจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการสืบสวนคดีเศรษฐกิจได้ยึดไว้จะเป็นหนังสือพิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ก็ตาม
แต่การที่จะสั่งให้หนังสือดังกล่าวตกเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 75 ได้นั้น หนังสือดังกล่าวต้องยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กระทำความความผิดตามมาตรา 70
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้กระทำความผิดตามมาตรา 70 ดังกล่าว กรณีจึงไม่อาจสั่งให้แปลทั้งสองเรื่องนั้นตกเป็นของโจทก์ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 75 ได้
พิพากษาแก้ เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมด.
นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี นายกำพล ภู่สุดแสวง นายสุวัฒน์ วรรธนะหทัย
--------------------------------------------------------------------------------
ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2548 : อ่านเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2548 อ้างอิงคดีศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง : คดีหมายเลขดำที่ อ. 1911/2544
ที่มา : งานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ฝ่ายแผนงานและสารสนเทศ) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง <ฐานข้อมูลสืบค้นคำพิพากษาศาลฎีกาคดีทรัพย์สินทางปัญญา และคดีการค้าระหว่างประเทศ : www.cipitc.or.th/dekasearch/search.html>
จากคุณ :
เอวังด้วยประการฉะนี้
- [
2 พ.ย. 48 13:41:57
]
|
|
|