จากการที่ผมได้ฟังในหลวงทรงมีพระราชดำรัสในปีนี้ ผมมีอีกมุมมองหนึ่งอยากจะมาร่วมแสดงความคิดกับพวกเราทุกคนจริงๆ
สิ่งที่ท่านทรงตรัสทำให้ผมตระหนักจริงๆ เลยว่า ท่านทรงเป็นนักปฏิบัติ และเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ สำหรับคนไทยทุกคน
ท่านทรงมีโครงการในพระราชดำริต่างๆ มากมาย มีพระปรีชาสามารถและองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์มากมาย แต่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้มิได้มีการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Utilization) เพราะจะทำให้ประเทศพัฒนาตามแนวทางนี้ได้
ผมจึงเกิดความคิดว่าประเทศเราน่าจะมีการเก็บรวมรวมสิ่งดีๆ เหล่านี้จากในหลวงของพวกเราไว้อย่างเป็นระบบ ระเบียบและง่ายต่อการเข้าถึง (หรืออาจะมีแล้ว แต่ผมไม่รู้?? ช่วยบอกด้วยนะครับ จะได้ศึกษาได้) เพื่อจะได้ให้เกิดการเผยแพร่ความรู้ได้ในทุกระดับ เพื่อให้คนไทยโดยส่วนรวมได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ และสามารถนำมาช่วยพัฒนาชาติได้
อย่างเช่นเรื่องของพลังงานทดแทน ที่ท่านทรงตรัส เรื่องนี้โดนใจผมมาก ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า พระองค์ท่านทรงใช้ความเพียรในการหาวิธีการใช้น้ำมันจากพืชมาทดแทนพลังงานน้ำมันในปัจจุบันซึ่งมีแต่จะหมดไป ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ และผมก็คิดว่าความรู้นี้สามารถนำไปต่อยอดได้อีกมากมาย นี่คือองค์ความรู้ที่มีค่ามากๆ
แต่น่าเสียดาย... เท่าที่ดูในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ผมยังไม่เห็นเรื่องนี้ได้รับการผลักดันเท่าใดนัก ท่านยังตรัสเลยว่า โครงการในพระราชดำริต่างๆ ที่ท่านได้ทำขึ้นและก่อให้เกิดความรู้ต่างๆ มากมายนั้น คนไทยสามารถเรียนรู้และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ หรือจะต้องรออีก 40 ปี ???
ความคิดที่ผมได้จากการฟังพระองค์ท่านก็คือ...
ทำไม ? เราถึงมีการเรียนปริญญาเรื่องปรัชญาของใครต่อใครมากมาย ซึ่งบางครั้งก็ยากเหลือเกินที่จะเข้าถึง อีกทั้งยังศึกษา ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม แนวความคิด ทฤษฎี และ วิชาการความรู้ ความคิด ที่นำมาจากต่างประเทศได้ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว และเรียนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทำไมจึงไม่มีวิชาหรือปริญญาใดที่จะให้กับผู้ที่เรียนรู้และศึกษาถึงปรัชญา พระปรีชาสามารถ แนวพระราชดำริ ความเป็นกษัตริย์อันทรงบารมี มีพระจริยวัตรที่งดงาม รวมไปถึง องค์ความรู้ต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงใช้ความเพียรในการศึกษา ทดลอง และปฏิบัติจนเกิดผลด้วยพระองค์เอง อย่าเป็นจริงเป็นจังบ้าง เพราะผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก และสามารถนำไปปฏิบัติหรือประยุกต์ใช้ในวงกว้างเพื่อความเจริญของตังเองและส่วนรวม ในระดับประเทศชาติอย่างยั่งยืน พอเพียง ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
วันนี้ขอแค่แสดงความเห็นในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และจะทำอย่างดีที่สุดตามโอกาส แต่ก็หวังลึกๆ ว่าอาจจะมีใครสักคนนึงที่มีอำนาจและสามารถทำฝันของผมให้เป็นจริงได้มาอ่านและนำไปทำโดยเร็ว ผมว่าประเทศเราคงจะมีความสุขขึ้นอีกมาก ไม่ต้องดิ้นรนจนสุดตัวเพื่อหาความสำเร็จ เพื่อแข่งขันกันให้ชนะ แต่สุดท้ายก็หาความสุขและแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ไม่ได้
สุดท้ายนี้ อยากขอฝากข้อคิดไว้อันหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อคิดที่ผมแปะไว้ที่โต๊ะทำงานของผมเอง และพยายามทำตามนี้เสมอก็คือ...
Spend less time thinking who's right... Spend more time thinking what's right
ตื่นกันซะทีนะครับ...ลงมือทำได้แล้ว!!!
แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 48 02:01:31
จากคุณ :
marchmello
- [
วันพ่อแห่งชาติ 01:55:25
]