ความคิดเห็นที่ 1 1.ฝ่ายชายกักเชื้อไว้หลายวัน อย่ายุ่งกัน 2.ฝ่ายชายทานสังกะสีมากมาก เช่น หอยนางรม 3.คำนวนวันไข่ตกให้แม่นๆ 4.ร่วมเพศวันไข่ตก 5.ร่วมเพศตอนเช้า เนื่องจากฝ่ายชายจะหลับพักผ่อนจนฮอร์โมนขึ้นสูงสุด 6.อย่าเครียด ทั้งสองคน ึึ7..ถึงจุดสุดยอดให้พร้อมกัน มดลูกจะลงมาต่ำ เชื้อตัวผู้แรงน้อยวิ่งเร็ว จะถึงไข่ไวกว่า 8.ก่อนร่วมเพศ ควรสวนล้างช่องคลอดด้วย้ำละลายโซดาไบคาร์บอเนต โดยใช้ผงโซดาไบคาร์บอเนต 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาด 1,000 ซีซี ผสมทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ให้เข้ากันดีจึงใช้ 9.พยายามให้อันทะมีอุณภูมิต่ำอยู่เสมอ 10.หญิงนอนหงายอย่าให้น้ำหกออกมาจากช่องคลอดสักครึ่งชั่วโมง 11.สอดอวัยวะเพศให้ลึกเข้าไว้ ถ้าไม่ได้ผลก็ไปคัดเชื้อ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 17:57:21 แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 17:56:59 จากคุณ : Mr.Vop - [ 9 ม.ค. 49 17:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หยุดอยาก จากคุณ : firstini chemistani - [ 9 ม.ค. 49 20:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้ลามกน่ะค่ะ แต่ว่าลึกๆยิ่งดี จากคุณ : fairy_tells - [ 9 ม.ค. 49 22:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากคห. 1 เพิ่ม  ข้อ ลดพัก ทานเนื้อสัตว์ให้มากขึ้นด้วย คล้ายๆว่ามีผลต่อกรดเบส.. จากคุณ : noomint - [ 9 ม.ค. 49 23:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มีคนเคยpost ไว้นานแล้ว...นะครับ เลือกเพศบุตร หากคู่สามีภรรยาสามารถที่จะกำหนดเพศบุตรได้แล้ว คงต้องการที่จะมีบุตรเพศชายเพียง 1 คนและมีบุตรเพศหญิงอีกเพียง 1 คนเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาการมีบุตรมากเกินความต้องการ ทำให้สามารถวางแผนครอบครัวหรือตัดสินใจทำหมันได้เร็วขึ้น และถ้าหากเป็นไปได้ก็คงต้องการที่จะให้บุตรคนโตเป็นเพศชายด้วย เนื่องจากความเชื่อที่ว่าบุตรชายจะเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูลสามารถดูแลปกป้องน้องๆที่ตามมา เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวในด้านการเลี้ยงชีพและสามารถสร้างความมั่นคงในสังคม แต่น้อยรายที่จะสามารถมีบุตรได้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้บางครอบครัวไม่กล้าที่จะตั้งครรภ์อีกแม้ว่าจะยังไม่ได้บุตรตามเพศที่ต้องการ แต่ก็มีคู่สามีภรรยาจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่พยายามแสวงหาวิธีการต่างๆเพื่อที่จะให้ได้เพศบุตรตามที่ต้องการ บ้างก็ฟัง“เขาเล่ามา” บ้างก็ตั้งสูตรของตัวเองขึ้นมาต่างๆนานา นอกจากนี้แล้วในด้านการแพทย์เองยังพบว่ามีโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมเช่น โรคฮีโมฟีเลีย ซึ่งเป็นโรคเลือดที่ขาดปัจจัยที่ทำให้เลือดแข็งตัวทำให้เลือดไหลไม่หยุด โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง(Duchenne muscular dystrophy)เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นถ้าเลือกได ้ครอบครัวนั้นๆ ก็คงอยากได้บุตรเป็นเพศหญิงเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นโรคนี้อีก แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะมีการให้บริการทางการแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่พบว่าค่าใช้จ่ายต่างๆค่อนข้างสูง ดังนั้นคู่สามีภรรยาและผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะได้รับรู้ข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับการเลือกเพศบุตรซึ่งจะได้กล่าวต่อไป วิธีที่ถือปฏิบัติกันมานานนับตั้งแต่สมัยกรีกโดยยึดถือจากความเชื่อและสังเกตจากประสบการณ์ต่าง ๆ ได้แก่ -สภาวะแวดล้อมขณะร่วมเพศ เช่น ข้างขึ้นข้างแรม และน้ำขึ้นน้ำลง -ท่านอนในขณะร่วมเพศ หากต้องการบุตรชายให้ภรรยานอนตะแคงขวาและหากต้องการบุตรสาวให้นอนตะแคงซ้าย หากหันศีรษะไปทางทิศเหนือจะได้บุตรชาย หากหันศีรษะไปทางทิศใต้ก็จะให้บุตรสาว -วันร่วมเพศ เชื่อว่าถ้าร่วมเพศในวันคู่ของประจำเดือนจะได้บุตรชาย แต่ถ้าเป็นเลขคี่จะได้บุตรสาวถ้าร่วมเพศในวันที่ไข่ตกมักได้บุตรชาย -ความเชื่อว่าเชื้ออสุจิจากอัณฑะข้างขวาจะผลิตเฉพาะเชื้ออสุจิเพศชายและอัณฑะข้างซ้ายจะผลิตเชื้ออสุจิเพศหญิงเท่านั้นดังนั้นหากต้องการบุตรเพศใดก็ให้ผูกหรือตัดอัณฑะข้างที่ผลิตเชื้ออสุจิเพศตรงข้ามทิ้งไป ในขณะเดียวกันความคิดเกี่ยวกับข้างของรังไข่เป็นตัวกำหนดเพศบุตรคล้ายๆ กัน -ความเชื่อเกี่ยวกับบทบาทของคู่สามีภรรยาขณะร่วมเพศ การถึงจุดสุดยอดเวลาร่วมเพศ ก่อนการร่วมเพศควรสวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำส้มสายชูเจือจางจะได้บุตรสาว ควรสวนล้างช่องคลอดด้วยโซดาปิ้งขนมปังจะได้บุตรชาย -หากสตรีใดต้องการบุตรชายให้รับประทานอาหารที่มีโปแตสเซียมและโซเดียมมากๆและหากต้องการบุตรสาวก็ให้รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีมากๆ จะเห็นว่าจากการรวบรวมข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อเหล่านี้พบว่าจำนวนคู่สมรสที่เข้าร่วมการศึกษาก็ยังมีจำนวนไม่มากพอและส่วนหนึ่ง(ที่ไม่ได้เพศบุตรตามที่ต้องการ) ก็ไม่ได้กลับมาพบแพทย์ ผู้ทำวิจัยอีกเลย นอกจากนี้เราไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่าคู่สมรสทุกคู่สามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำได้ทุกประการ นอกเหนือจากวิธีเลือกเพศบุตรโดยอาศัยความเชื่อดังกล่าวซึ่งเป็นวิธีเลือกก่อนที่จะมีการปฏิสนธิ ยังมีวิธีเลือกเพศบุตรหลังการปฏิสนธิซึ่งในปัจจุบันคู่สมรสส่วนใหญ่มักได้ยินจากสื่อสารมวลชนต่างๆมากมายเกี่ยวกับ “วิธีการคัดเลือกสเปิร์ม” ว่าจะช่วยให้ได้เพศบุตรตามที่ต้องการและหลงเชื่อไปทำการคัดเลือกสเปิร์มเพื่อฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกหรือทำกิ๊ฟท์หรือิ๊กซี่ แต่บังเอิญ(ส่วนใหญ่)จะโชคดีที่ท่านไม่ได้ตั้งครรภ์ เพราะหากท่านตั้งครรภ์ได้ท่านอาจโชคร้ายไม่ได้เพศบุตรตามที่ท่านต้องการก็ได้ เพราะจากการศึกษาถึงประสิทธิภาพของวิธีการคัดเลือกสเปิร์มซึ่งมีการให้บริการแพร่หลายในประเทศไทยในปัจจุบันนี้ พบว่าวิธีการดังกล่าวไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย นั่นคือวิธีการดังกล่าวไม่สามารถคัดแยกสเปิร์มเพศชายออกจากสเปิร์มเพศหญิงได้เลย ดังนั้นโอกาสที่ท่านจะได้ “ลูกชาย=ลูกสาว คือ 50:50” ขึ้นกับดวง ว่าสเปิร์มตัวนั้นบังเอิญเข้าผสมกับไข่แล้วเป็นเพศที่ท่านต้องการรือไม่ นอกจากนี้วิธีคัดสเปิร์มดังกล่าวยังทำให้ความสามารถของสเปิร์มที่จะเข้าผสมกับไข่ลดลงไปมากทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพจึงมีผลทำให้โอกาสมีลูกของท่านลดลงไปอย่างมาก(เหลือประมาณ10%เท่านั้น) กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการคัดสเปิร์มดังกล่าวจะเปลี่ยนสภาพของคู่สมรสที่มีลูกง่ายไปเป็นสภาพที่มีลูกยาก หรืออาจทำให้ท่านไม่สามารถมีลูกได้เลย หากวิธีการคัดเลือกสเปิร์มไม่ได้ผลแล้วมีวิธีการใดในการคัดเลือกเพศบุตรที่ได้ผลจริงๆบ้างล่ะ!!! คำตอบก็คือ วิธีการที่ได้ผลค่อนข้างแน่นอนในการเลือกเพศบุตรก็คือ “วิธีการคัดเลือกเพศตัวอ่อน” โดยอาศัยวิธีการของเด็กหลอดแก้ว โดยนำเซลล์ตัวอย่างของตัวอ่อนระยะ8เซลล์มาศึกษาทางโครโมโซมโดยการย้อมสีโครโมโซมเพศว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง ซึ่งก็จะให้คำตอบได้อย่างชัดเจนจากนั้นจึงทำการคัดย้ายตัวอ่อนเพศที่ต้องการเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูกต่อไป ในปัจจุบันวิธีการคัดเลือกเพศตัวอ่อนนี้เป็นวิธีการเดียวที่ได้ผลและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การเลือกเพศบุตร ในการวางแผนครอบครัว นอกจากจะวางแผนครอบครัวมีบุตรเหมาะสมกับสุขภาพร่างกายของมารดาและ เหมาะสมกับเศรษกิจแล้ว ก็ยังมีปัญหาอีกปัญหาหนึ่งที่เป็นความประสงค์ของบางครอบครัว หรือเกือบจะพูดได้ว่า ทุกครอบครัว ปัญหานั้นก็คือ “ทำอย่างไรจึงจะให้บุตรที่เกิดมามีเพศสมกับความต้องการของพ่อแม่” การเลือกเพศบุตรนั้นทำได้ แม้ผลที่ได้รับจะยังไม่ถึง 100% ก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าที่จะไม่พยายามหรือไม่ ทดลองหาวิธีใดเลย จากการศึกษาและวิจัยของนายแพทย์ พบว่า การปฏิบัติเพื่อการเลือกเพศบุตรนั้นมีโอกาส 80 - 85% ที่จะได้ ลูกชายหรือลูกสาวตามต้องการ ประโยชน์ของการเลือกมีบุตร นอกจากจะได้บุตรมีเพศตามที่ต้องการแล้ว ยังเป็นการช่วยให้ท่านมีบุตรในจำนวนที่ต้องการอีกด้วย เพราะ ไม่ต้องรอจนกว่าจะได้บุตรเพศใดเพศหนึ่ง ซึ่งบางทีจะต้องรอคอยถึงหลายท้อง วิธีเลือกเพศบุตรจึงเป็นแผนครอบครัว อีกทางหนึ่ง การเลือกเพศบุตรได้อย่างไร มีคู่สมรสมากคู่ยังถกเถียงกันว่า การได้เพศบุตรผิดไปจากที่หวังไว้ จะเป็นเพราะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีข้อบกพร่อง บางคนก็โทษฝ่ายหญิง บางคนก็โทษฝ่ายชาย นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ได้สนใจและศึกษาเรื่องนี้มานานแล้ว จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ผลสรุปออกมาว่า การที่คู่สมรสจะได้เพศบุตรเป็นหญิงหรือชายนั้นขึ้นอยู่กับฝ่ายชาย เราทราบแล้วว่า การที่คนเราจะมีบุตรได้จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง องค์ประกอบหนึ่ง ที่สำคัญมาก คือจะต้องมีตัวอสุจิของฝ่ายชายไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิง ตัวอสุจินี้แหละคือผู้กำหนดเพศของบุตร ตัวอสุจิมีรูปร่างอย่างไร ตัวอสุจิมีรูปร่างคล้ายลูกอ๊อด มี 2 ชนิดคือ 1. ชนิดหัวลูกอ๊อดรีและใหญ่ หางสั้น เคลื่อนไหวช้า ๆ เราเรียกว่า “โครโมโซม เอ็กซ์” จะเป็นตัวกำหนดเพศหญิง 2. ชนิดหัวลูกอ๊อดกลมเล็ก หางยาว เคลื่อนไหวรวดเร็ว เราเรียกว่า “โครโมโซม วาย” จะเป็นตัวกำหนดเพศชาย ถ้าตัวอสุจิเพศใดว่ายเข้าไปผสมกับไข่ได้ก่อนก็จะได้เพศบุตรตามนั้น เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการเพศบุตรเป็นเพศหญิง ก็พยายามทำให้ตัวอสุจิของเพศหญิงมีโอกาสเข้าไปผสมกับไข่ ถ้าต้องการเพศบุตรเป็นชายก็พยายามทำตัวอสุจิของเพศชายเข้าไปผสมกับไข่โดยเร็วที่สุด การที่จะทำให้ตัวอสุจิเพศหนึ่งเพศใดไปผสมกับไข่ตามที่ตั้งใจไว้ได้นั้น สภาพความเป็นกรดด่างของมดลูก ช่วยได้มาก สภาพความเป็นกรดด่างในมดลูกในช่วงต่าง ๆ ของรอบเดือน จะช่วยให้ตัวอสุจิตัวหนึ่งตัวใดไปถึงไข่ และผสมกับไข่ได้ก่อน จึงได้มีผู้นำเอาหลักการนี้มาดัดแปลงเพื่อใช้ในการเลือกเพศบุตร ถ้าต้องการได้บุตรชาย 1. ควรร่วมเพศในขณะที่ใกล้ไข่สุกซึ่งไข่จะสุกในระยะกึ่งกลางของรอบประจำเดือน หรือให้แพทย์ช่วย คำนวณเวลาไข่ตกได้ โดยอาศัยการวัดอุณหภูมิของร่างกาย และควรงดเว้นการ่วมเพศก่อนวันไข่ตก 3 - 5 วัน 2. ก่อนการร่วมเพศฝ่ายหญิงควรล้างช่องคลอดด้วยน้ำเป็นด่าง โดยใช้โซดาคาร์บอเนต (ซึ่งหาซื้อได้ตาม ร้านขายยาทั่วไป) 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด 1 ขวดเบียร์ใหญ่ 3. ควรให้ฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดในการร่วมเพศ 4. ในระยะที่ฝ่ายชายจะหลั่งน้ำอสุจิควรสอดอวัยวะเพศเข้าไปให้ลึกที่สุด ถ้าต้องการได้บุตรสาว 1. หลีกเลี่ยงการร่วมเพศในระยะใกล้วันไข่สุก ซึ่งไข่จะสุกในระยะกึ่งกลางของรอบประจำเดือน ให้ร่วม เพศก่อนหน้านั้น และไม่จำเป็นต้องงดเว้นการร่วมเพศ 2. ก่อนร่วมเพศควรสวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำที่มีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ โดยใช้น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด 1 ขวดเบียร์ใหญ่ 3. ควรรับหลั่งน้ำอสุจิก่อนที่ฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอด หรือพยายามหลีกเลี่ยงมิให้ฝ่ายหญิงมีความรู้สึก ถึงจุดสุดยอด หรือพยายามหลีกเลี่ยงมิให้ฝ่ายหญิงมีความรู้สึกถึงขีดดังกล่าว 4. ฝ่ายชายควรหลั่งน้ำอสุจิในขณะที่ปลายอวัยวะเพศอยู่ในช่องคลอดเพียงตื้น ๆ จากคุณ : อืม - [ 10 ม.ค. 49 01:45:49 A:58.9.132.134 X: TicketID:080634 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สบายๆครับ ร่วมเพศเมื่ออยากร่วมรัก ลูกชายหญิงจะเป็นไร ผมลูกหญิง-ชายอย่างละคน น้องชายก็เหมือนกัน ไม่ได้มีตำรา หรือราดน้ำส้ม (แฟนต้าได้ไหม?) อะไรเลย คนมีอารมณ์จะร่วมรัก ต้องมาท่อง มานึกขั้นตอน กลายเป็น "ทำเด็ก" มากกว่าร่วมรัก ถ้าทำได้ชัวร์ เมืองจีนคงไม่มีคนฆ่าทารกผู้หญิงแน่นอน จากคุณ : Double07 - [ 10 ม.ค. 49 15:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ...  ให้ผู้หญิงนอนคว่ำค่ะ จะสอดได้ลึกใกล้ๆปากมดลูกกว่า โอกาสผู้ชายเยอะกว่า   อีกอย่างคือ  ควรจะเสร้จด้วยอ่ะค่ะฝ่ายหญิงนะคะ ปล. ที่บ้าน ชาย2คนอ่ะค่ะ จากคุณ : doong - [ 12 ม.ค. 49 15:33:08 ]