ความคิดเห็นที่ 1 ก็ถามผู้หญิง เลยดิ บอกว่าเอาผู้หญิงมาเครียดิ๊ แล้วก็เครียกับแฟนว่า ตอนไปไม่เห็นบอกว่ามีผู้หญิงไปด้วย จากคุณ : อยากน่ารักน้อยลง - [ 11 ม.ค. 49 09:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถามไถ่ ให้ได้ความ ก่อนดีไม๊ค่ะ... ดูว่า เค้า จะตอบว่า อย่างไร...อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ อย่าเพิ่งคิดมาก...แล้วก็ อย่าคิดไปเองฝ่ายเดียว ... จะดีกว่าไม๊คะ..เสียสุขภาพจิต ตัวเอง เปล่า ๆ น๊า.... จากคุณ : ไพรแพรวา - [ 11 ม.ค. 49 09:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Break up,girl but if you married;divorce.That's it. จากคุณ : dr.pat (pavit) - [ 11 ม.ค. 49 09:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราไม่อยากให้ความรักของเรา ต้องจบลง ถ้าเพียงเพราะความเข้าใจผิด   เรารักเค้ามาก และเราก็ไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น   เราไว้ใจมากไปไหม เราจึงเจ็บมากอย่างนี้ จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 09:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คิดว่าน่าจะเป็นแบบแฟนคุณว่านะคะ เพราะถ้าเขามีอะไรกันจริงๆ ผู้หญิง จะไม่รับโทรศัพท์แทนเด็ดขาด เพราะเขาทั้งคู่ต้องระวังตัวนะเราว่า อันนี้คิดแบบแง่ดีนะ จากคุณ : ิจริ - [ 11 ม.ค. 49 09:21:54 A:221.128.107.107 X: TicketID:107656 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเชื่อใจแฟนคุณก็จบ แฟนคุณไปทำอะไรถึงต้องอยู่ในโรงแรมหล่ะ ?? ถ้าสัมมนาก็โอเค คุณโทรไปตอนกี่โมง ตีสองตีสามอยู่กันสองต่อสอง จะดีหรือ ?? ความน่าจะเป็นได้ เอามาวิเคราะห์ด้วย แล้วคิดเอา จากคุณ : NICE130 - [ 11 ม.ค. 49 09:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เหตุเกิดที่โรงแรมในเมืองไทยหรือคะ??ถ้าตามโฮเท็ลโพลิซีแล้วยากที่จะมีจอยเนอร์ขึ้นไปถึงห้องพักแขกได้ ถ้าไม่ได้อินน์สองชื่อ พูดอย่างเป็นกลางนะคะ ถ้าเป็นเพื่อนก็ไม่ควรขึ้นห้องพักกับเพื่อนชายที่มีครอบครัวแล้ว สามารถนั่งคุยกันที่เลาน์ได้ มีอาหารให้ส่งรับประทานมีห้องน้ำห้องท่าพร้อม อีกทั้งมันเป็นมารยาทที่ไม่สมควรรับโทรศัพท์ของคนอื่นนอกจากต้องการจะบอกให้รู้ว่าเธออยู่ที่นั่นด้วย จากคุณ : ภรรยาสวีดิช - [ 11 ม.ค. 49 09:27:09 A:148.160.184.174 X: TicketID:089524 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องมันเริ่มจาก เราโทรไปเค้าก็ไม่รับ  โทรเข้าห้องที่โรงแรมเค้าไม่ได้ยินเสียงเราสักครั้ง   รอบที่สี่ ปรากฏว่า ผู้หญิงรับ บอกว่า เค้าลงไปว่ายน้ำ เราก็ถามผู้หญิงคนนี้ว่าเค้าเป็นใคร  เค้าบอกว่า เป็นเพื่อนเฉยๆ นะคะ ไม่ได้ขายบริการ ไม่ได้มีอะไรกัน อย่าเข้าใจผิด  แต่ความรู้สึกเราคือเราอึ้ง  ตกใจ เสียใจ  งง มึน   แฟนเราบอกเราว่า เค้าเสียใจนะที่เกิดเรื่องแบบนี้  แต่เค้าไม่ได้มีอะไรจริงๆ   แต่สิ่งที่ทำให้เราคิดมากคือ  กับการที่เราโทรไป แค่รับสักนิดแล้วบอกว่า  ไม่ว่างนะ ทานข้าวนะ อะไรก็ว่าไป  นี่ไม่รับโทรศัพท์เราทั้งๆที่เค้าก็อยู่ในห้องอ่ะ  แต่เราไม่ได้คิดว่า เค้าอะไรกันนะ แต่มันเจ็บว่ะ จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 09:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อยู่ที่ไหน นั่งรถไปหาเลย ถ้าเป็นเรา จากคุณ : มดง่ามบ้าน่ารัก (มดง่ามบ้าน่ารัก) - [ 11 ม.ค. 49 09:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วทำไมอยู่กับเพื่อนสาวสองคนในโรงแรม ???? ไปด้วยกันหรอ จากคุณ : NICE130 - [ 11 ม.ค. 49 09:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผู้หญิงยืนยันแล้ว ว่าไม่ได้มีอะไรกัน ก็อย่าคิดมากเลยค่ะ เจ็บหัวใจเปล่า ๆ คุยกับแฟนดี ๆ นะคะ ว่าอย่าทำให้คุณใจเสีย เสียใจแบบนี้อีก เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ผ่านมาแล้ว ขืนไปยื้อมันไว้ ไม่ยอมให้มันจบ เราเองนั่นแหละที่จะทุกข์ทรมารนะคะ จากคุณ : i'm not superman - [ 11 ม.ค. 49 09:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ร้องไห้ ให้สาแกใจ แล้วก็เลิกกับเขาซะ จากคุณ : Iko Iko - [ 11 ม.ค. 49 09:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โทรไปตอนทุ่มนึง  ไม่รับ ก็คิดว่า อาจจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป     สองทุ่มโทรอีก  เอ...  สงสัยอาบน้ำ   สามทุ่มครึ่งโทร  เอ...ยังงัย ขี่มอไซด์ล้ม อยู่รพ.รึเปล่าหว๋า  รึว่าเกิดอุบัตเหตุรึเปล่า   เออ ลองโทรเบอร์โรงแรมดีกว่า   โทรรอบหนึ่ง  อ้าว อยู่ห้องนี่นา  แต่ไม่ได้ยินเสียงเรา   รอบสองไม่ได้ยิน  รอบสามไม่ได้ยิน  เราเลยโทรเข้ามือถือ  อ้าว ไม่รับวะ เอาล่ะสิ   รอสักพักอ่ะ เลยโทรเข้าห้องอีกรอบ  เลยเจอแจ็คพ็อตเลย จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 09:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบในฐานะผู้ชายนะ ต้องดูว่า นิสัยเขาเป็นอย่างไร สันดารเจ้าชูหรือไม่ เวลาที่คุณโทรไป กี่โมง แล้วเขาไปโรงแรมนั้น ไปทำอะไร โรงแรมที่ว่าอยู่เมืองไทยหรือเมืองนอก เช่น ถ้าอยู่เมืองนอก แฟนคุณไปสัมมนา ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรทำไมต้องไปด้วย มีเหตุผลหรือเปล่า เช่น อยู่บริษัทเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน หรือ อาศัยอยู่ที่เมืองนั้น การไปหากันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าสนิทมากๆ ต่อให้นโยบายโรงแรมอย่างไร ก็ขึ้นห้องได้ครับ แล้วการรับโทรศัพท์แทน ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน แฟนคุณอาจจะไม่คิดอะไรก็ได้ เพราะถ้าคิด คงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงรับ ส่วนถ้าโรงแรมอยู่ในเมืองไทย นี้ยิ่งง่ายใหญ่ที่จะมีเพื่อนๆ ไปพบเจอ สรุปว่า ดูที่เหตุผลก่อนดีกว่าครับ ผู้หญิงชอบตีโพยตีพายไปก่อน บอกในฐานะผู้ชาย ถ้าคุณตีโพยตีพายไปก่อน โดยไม่ฟังเหตุผล ผู้ชายเขาเบื่อนะ (ถ้าเขามีเหตุผลและไม่เคยคิดนอกใจ) และนี้เป็นที่มาของการแตกแยกในหลายๆ คู่เลยทีเดียว ถ้าเหตุผลเขาดี ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องโกรธ คุณคิดว่า คุณเป็นแฟนเขาแล้ว เขาจะไปอยู่กับผู้หญิงอื่น สองต่อสองไม่ได้เลยหรือไง ผมเองเป็นคนมีเพื่อนผู้หญิงเยอะ สนิทแบบนอนเตียงเดียวกันก็เยอะ แต่ผมไม่เคยคิดอะไรกับเพื่อนเลยนะ คำว่าเพื่อน คือ เพื่อน ผมแต่งงานมาปีกว่า ยังไม่เคยมีปัญหาอะไร ขออย่างเดียวคือ คุณเป็นผู้หญิง โปรดฟังเหตุผลก่อนที่โวยวาย แต่ถ้าเหตุผลเขา อุบาทว์ มาก คือ ไร้สาระ อันนี้ค่อย ทำตามความคิดเห็นข้างบนบอกๆ จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 09:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แค่พิมพ์นิดเดียว มีตอบกระทู้มาตั้งเยอะ อ่านแล้ว ถ้ามองในแง่ดีก็เป็นไปได้หลายทาง มองในแง่ร้ายก็ชัวร์ว่า นอกใจ อะ แต่งงานกันหรือยังครับ จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 09:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มองแง่ดี ไปสัมมนา โทรศัพท์ลืม ปิดเสียงไว้ แล้วลืมตั้งกลับมาเหมือนเดิม คุณโทรไปให้ตายก็ไม่รู้เรื่อง ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ส่วนที่โรงแรม เป็นไปได้ยากที่จะไม่ได้ยินเสียง แต่จากการกระทำ ผมว่า ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรที่จะรับโดยบอกว่าไม่ได้ยินเสียง คนที่กำลังปกปิดอะไรอยู่ ถ้าไม่อยากให้มีเรื่อง คือ ไม่อยากให้คุณรู้ เขาไม่รับแล้วบอกว่าไม่ได้ยินหรอก ทำอย่างนี้ยิ่งน่าสงสัย ถูกไหม ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า มือถือคุณกับเครือข่ายไม่ดี ทำให้โทรเข้าห้องแล้วไม่ได้ยินจริงๆ ก็ได้ ส่วนที่ว่าผู้หญิงอื่น รับ ก็อาจเป็นได้ว่า เขาลงไปว่ายน้ำจริงๆ แล้วเพื่อนผู้หญิงมาเจอ อาจจะลืมเอกสาร ลืมผ้าเช็ดตัว เลยบอกให้ผู้หญิงเข้าไปเอาให้หน่อยที่ห้อง ความสนิทแบบเพื่อนจริงๆ การไหว้วานอย่างนี้เกิดขึ้นได้แน่ๆ ส่วนผู้หญิงก็ดันขึ้นห้องมารับโทรศัพท์ อาจคิดว่า ผู้ชายโทรขึ้นมา เพื่อบอกให้หยิบอะไรเพิ่มเติมก็ได้ ใครจะรู้ ถ้ามองแบบนี้เห็นไหมว่า ไม่มีอะไรเลย มีเหตุมีผลเสียด้วยซ้ำไป เพียงแต่คุณจะเชื่อหรือเปล่าละ แต่ถ้ามองในแง่ร้าย ไม่ต้องอธิบายเลย ก็นอกใจ ง่ายๆ แค่นั้นเอง จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 09:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อือ เป็นเรา ก็กลุ้มเหมือนกัน ไม่รู้จะแนะนำยังไง ถึงเวลานั้น ถ้าโดนเอง ก็คงทำอะไรไม่ถูก เอาใจช่วยแล้วกันนะ...เคลียร์ให้จบด้วยดีค่ะ จากคุณ : ใช้หนีราชการเท่านั้น - [ 11 ม.ค. 49 09:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มัวแต่พิมพ์    เลยลืมบอก  ขอบคุณเลย   ขอบคุณเพื่อนๆ มากนะคะ  ทุกๆความเห็นค่ะ  โดยเฉพาะ 14  ในมุมของผู้ชาย  ทำให้เราคิดอะไรได้หลายอย่างเหมือนกัน โรงแรมอยู่สมุยค่ะ เราโทรไปประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง แฟนไม่เจ้าชู้  ( เราเลยรู้สึกช็อคไปเลย ตอนผู้หญิงรับสาย) แฟนไปเที่ยวค่ะ เราไม่ได้ไปด้วยเพราะเราต้องทำงาน เค้าเลยไปคนเดียว   ผู้หญิงคนนี้บอกเราว่า เค้าเป็นคนจองที่นี่ให้แฟนเรา เลยแวะมาดูว่า อยู่เป็นงัย สบายดีไหม มีอยู่คำนึง แฟนเราบอกเราว่า ถ้าเค้าจะเอาผู้หญิงมานอนด้วย ทำไมเค้าต้องบอกว่าเค้าพักโรงแรมอะไร เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าเราต้องโทรมาแน่ๆ เรากำลังจะแต่งงานกันปีนี้ค่ะ  เลื่อนจาก 14 มค เป็นเดือนสค. เพราะเราเองนี่แหละที่เลื่อน แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 49 09:58:03 จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 09:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 16 คะ    ที่บอกว่าไม่ได้ยินคือ  เราอ่ะโทรเข้าห้อง เค้ารับแต่เค้าไม่ได้ยินเสียงเราค่ะ  เราก็โทรใหม่อีกสองรอบเค้าก็ยังไม่ได้ยินเสียงเรา  เราเลยโทรเข้ามือถือเค้าไม่รับ พอโทรเข้าห้องอีกรอบก็เป็นผู้หญิงคนนั้นรับค่ะ จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 09:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มุขไม่ได้ยินเสียงนี่คุ้นๆแฮะ ฮ่าๆ ก่อนเลิกกับแฟนเก่าก็โทรไปหาสี่ห้าครั้งแบบนี้แหละค่ะ เค้าก็ไม่ได้ยินเสียง (เค้าอยู่ที่ทำงาน) เราก็อะไรฟะ โทรไปอีก ตอนหลังที่เขาบอกเลิก เอาอะไรๆมาปะติดปะต่อกัน อ้อ เป็นงี้เอง แหม หลงกินฟางไปหลายเกวียนเลยชั้น ไม่รู้ว่าเค้าพยายามจะเลี่ยงเรา จากคุณ : yinnerella - [ 11 ม.ค. 49 10:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นเราจะหาเวลาคุยให้รู้เรื่องไปเลย... มานั่งกลุ้มคนเดียวตายแน่ๆ ก็คือ ให้ผู้ชายของเราโทรหาผู้หญิงคนนั้นเลย แล้วก็ดูอาการที่ออกจะบอกได้ว่าสองคนนั้นเค้ายังไงกัน แน่ ใจเย็นๆนะค่ะ ทุกอย่างมีทางออกที่ดีๆนะ เป็นกำลังใจ ให้ค่ะ จากคุณ : kaaekai (kaaekai) - [ 11 ม.ค. 49 10:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กำลังจะแต่งกัน สิงหานี้ อย่างน้อยๆ ช่วงนี้คงเริ่ม หาสตูถ่ายภาพ ทำการ์ดแต่งงานแล้วซิ มั่นใจ และหนักแน่นไว้ครับ บางทีเป็นได้อีกหลายกรณี 555 ใจเย็นๆ ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงจะเชื่อไหม แต่สำหรับผมเป็นผู้ชาย ผมบอกได้คำเดียวว่า ถ้าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้โดยสันดาน อาจจะมีแฟนมาหลายคน แต่ไม่เคยคบใครแบบเจ้าชู้ คือ คบพร้อมๆ กันหลายคน แล้วเขาตกลงเลือกคุณ ตกลงแต่งงาน กับคุณแล้ว ผู้ใหญ่สองฝ่ายเจอกันแล้ว สำหรับผม ผมว่า คุณอยู่เฉยๆ ทำตัวนิ่งๆ ให้ความรักชนะความสับสนในใจจะดีกว่าครับ คนไม่เจ้าชู้ บางทีอาจจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง การให้อภัยกัน จะกลายเป็นเชือกเส้นใหญ่ที่ผูกมัด ผูกพัน ทั้งคุณและเขาให้ครองรักกันมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 49 11:00:28 จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 10:22:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอเวลาแป๊บ นะ เจ้าของกระทู้ เดี๋ยวมาเล่าอะไรดีๆ ให้ฟัง หาก่อนเคยเขียนไว้ในอีเมล์ให้เพื่อน จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 10:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ...ปลง จากคุณ : Mr.Vop - [ 11 ม.ค. 49 10:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณค่ะ   เราคิดแล้วว่า มาที่นี่ต้องมีเพื่อนๆ มาช่วยเราได้แน่  เราอาจจะห่วงเค้ามากไป  การโทรไปแบบนั้น เค้าคิดว่า เรา control ชีวิตเค้า  " i want to share my life with you" คำๆ นี้ เราจะจำไว้ค่ะ ว่า เค้าเลือกเรา ว่าแต่ว่าอมยิ้มจะหายไหมคะคุณ avatayos จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 10:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Insist. Break up or you're gonna be crying every single night after you get married. จากคุณ : dr.pat (pavit) - [ 11 ม.ค. 49 10:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อันนี้ความคิดผมนะครับ..ยิ่งถ้าคุณ จขกท บอกว่ากำลังจะแต่งงานกันแล้วหละก็ เค้ายิ่งต้องระวังตัวเข้าไปใหญ่ ฉะนั้นผมมองว่าการที่เค้าพาผู้หญิงเข้าไปอยู่ในห้อง 2 ต่อ 2 เนี่ยมันไม่เหมาะสมเลย ต่อให้ไม่มีอะไรกันจริง (ถ้าเป็นเกย์กับเพื่อนผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ไม่ใช่) เป็นผมๆ จะเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น เพราะอีกฝ่ายนึงถ้าเค้ามีอะไรจริงเป็นใครๆ จะยอมรับครับ เค้าก็ต้องหาข้อแก้ตัวไปเรื่อย อยู่ที่ตัวคุณมากกว่าถ้าคุณยอมรับได้ว่าเกิดเค้ามีอะไรจริงๆ คุณรับได้หรือเปล่า ถ้ารับได้ก็ ok ครับ ยังไงก็ตัดสินใจดีๆ นะครับ จากคุณ : UBT - [ 11 ม.ค. 49 10:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ... ถ้าเป็นเรานะคะ ... เราจะไม่พูดอะไรเลย ให้เค้าอธิบาย ซึ่งถ้าคนไม่มีอะไรในกอไผ่.. เค้าจะต้องเคลียร์ตัวเค้าเองค่ะ... แต่ว่าแฟนคุณอ่ะ..ก็น่าจะโทรหาคุณมั่งน้า... จากคุณ : 8uDtos@i - [ 11 ม.ค. 49 10:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทำใจ แฟนคนไม่น่า พลาดให้ผู้หญิงรับโทรเลยนะครับ ทำอะไรไม่เนียน ก็แบบนี้แหละครับท่าน จากคุณ : จูล่ง - สุภาพบุรุษจากเสียงสาน - [ 11 ม.ค. 49 10:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ดีแล้วค่ะ ที่เลื่อนการแต่งงาน เฮ้อ เจอแบบนี้ก็อึ้งเหมือนกัน ไอ้การที่ผู้หญิงออกตัวก่อน (ตามที่คุณบอก) นี่มันส่อหลายๆ อย่างเลย ไม่ใช่แล้วจะบอกทำไม ถ้าเป็นเราเข้าไปห้องเพื่อนผู้ชาย แล้วรับโทรฯให้ ก็น่าจะบอกแค่ว่า อ๋อ เขาไปนั่น ไปนี่ แล้วก็บอกแค่เหตุผล ว่าทำไมถึงเป็นคนมารับโทรฯ ไม่เห็นต้องออกตัวไปในทางที่น่าสงสัยเลย เขาบอกว่าแวะเข้ามาดูเพราะเป็นคนที่จองที่นี่ให้แฟนคุณ เอ่อ?? คือเป็นห่วงเป็นใยในฐานะนี้ ตลกอ่ะ..เขาเป็นใครเหรอ พนักงานโรงแรมนั้น? มีเหตุผลต้องดูแลขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือเป็นเพื่อนแล้วเป็นพนักงานที่นั่นด้วย? ก็พอจะฟังได้ (นิดเดียว) หรือเป็นเพื่อนที่อยู่ที่นั่นแค่นั้น? หรือเป็นเพื่อนที่อยู่กรุงเทพ แต่ตามไปดูแลห่วงใยถึงที่นู้น...โอ้ย ยิ่งคิดยิ่งน่าสงสัย ถ้าห่วงใยอะไร อยากดูแลในฐานะเพื่อนจริงๆ รอถามเอาที่ล็อบบี้ก็ได้ ว่าเป็นยังไง ห้องพักดีไหม สะดวกหรือเปล่า ถูกมะ? ต้องถ่อขึ้นไปบนห้องเลย? ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะ คคห.เราอาจทำให้ยิ่งคิดมาก เพราะคุณเองก็เล่าไม่เคลียร์ด้วย... ประเภทไม่เจ้าชู้ๆ เนี้ย ถ้ามีแค่เงามืดเข้ามานิดหน่อยละก็ บางทีคนๆ นี้ทำอะไรได้อย่างที่เราไม่คาดคิดนะคะ เท่าที่รู้จักมีพี่คนนึงไม่เจ้าชู้ ดูรักเมียมากกกกกกกกกกกกก แต่ก็แอบไปมีอะไรกับคนอื่น โดยที่ไม่มีใครสงสัยและเมียเขาก็ไม่รู้ เพราะคิดว่าเขาไม่เจ้าชู้ไง แต่พอดีเราสนิท เขาเลยเล่าให้ฟัง เหอ เหอ เอ่อ..อยากให้ใจเย็นๆ ล่ะกันนะ ถือว่าเรามองในแง่ร้ายล่ะกัน ถ้าแฟนคุณดีจริง ก็ใช้ระยะเวลาก่อนแต่งงานนี่แหละ พิสูจน์ตัวเขาอีกที โชคดีนะคะ ปล.ไม่ชอบการโฆษณาแอบแฝงอ่ะ แย่ๆๆๆ จากคุณ : ke@ - [ 11 ม.ค. 49 10:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ในสถานะการณ์อย่างนี้ แล้วมีผู้หญิงมารับ เป็นใครก็คิด ทั้งนั้นค่ะคิดในแง่ร้ายด้วย แต่ก็ต้องฟังเหตุผลของ แฟนด้วยเหมือนกัน ฟังแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะ เคลียร์นะคะ...คงต้องดูกันต่อไป จากคุณ : coffee or tea or me ? (jariya ka.) - [ 11 ม.ค. 49 10:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เจ้าของกระทู้ครับ ลืมไปว่ามีหลังไมค์ ของคุณเหมือนกัน ส่งลิงก์ไปให้แล้วครับ เผื่อสนใจ ส่วนความคิดเห็นนั้น ผมแก้ไขแล้วลบออกแล้ว เดี๋ยวจะหาว่า มาตอบเพื่อโฆษณา จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 11:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นเราคงไม่อยู่เฉยๆแน่ จากคุณ : babyhoney - [ 11 ม.ค. 49 11:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กลับมาต่อครับ อันดับแรก อยากจะบอกเจ้าของกระทู้ และคนอื่นๆ ว่า ให้คำแนะนำได้ แต่อย่าพยายามครอบงำความคิดครับ เจ้าของกระทู้เป็นคนเดียวที่ประสบเหตุการณ์ เป็นคนที่รู้รายละเอียดดีทุกอย่าง รายละเอียดบางอย่างบอกเราได้ บางอย่างบอกเราไม่ได้ การให้ความคิดเห็นของเราจึงตั้งอยู่บนบรรทัดฐานของรายละเอียดเพียงน้อยนิดที่เจ้าของกระทู้เล่ามา สำหรับผม คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ หนักแน่นไว้ครับ เจ้าของกระทู้ อย่าคิดว่า คนอื่นๆ ในเน็ตแนะนำอย่างไร และจะทำอย่างนั้น เคยมีงานวิจัยว่า คนเขียนและตอบในอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่ เป็นพวกพบเจอปัญหาและทางแก้ของปัญหาไม่ตรงกับที่ใจต้องการ นอกจากนี้รายงานยังบอกอีกว่า คนอ่านหรือคนที่สนใจกระทู้ส่วนใหญ่ มีแนวโน้มที่จะพบเจอปัญหาเดียวกัน หรือสนใจหัวเรื่องเดียวกัน ถึงคลิกเข้ามาอ่าน (คงยกเว้นแต่ Mr. Fusion ที่เข้ามาดูอย่างเดียว) ตัวอย่างเช่น รถมีปัญหา แล้วทางศูนย์แก้ไขได้ไม่ตรงกับใจต้องการ ก็มาเขียนเตือน เขียนด่าศูนย์รถยนต์ เป็นต้น คนที่เข้ามาอ่าน ก็คือ คนใช้รถยี่ห้อเดียวกัน อาจจะรุ่นเดียวกัน หรือใกล้เคียง เข้ามาอ่านเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนเราไหม เราจะระวังตัวอย่างไร เป็นต้น ดังนั้นในกรณีของคุณ ที่หลายคนตอบว่าควรจะหยุดความสัมพันธ์ หรือเลิกกันไปเลย นั้นเป็นเพราะแนวโน้มดังกล่าวตามงานวิจัย (ขออภัยจำไม่ได้ละเอียดว่าใครวิจัยไว้) ผมเชื่อว่ายังมีผู้ชายอีกมาก ที่อาจทำตัวแบบเดียวกับเจ้าของกระทู้เจอ แล้วเขาก็แต่งงานแต่งการอย่างมีความสุขกับภรรยาที่เขารัก โดยไม่มีปัญหาอะไร จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 11:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมเองที่สนใจกระทู้เจ้าของกระทู้ ก็เพราะอย่างที่บอกตอนแรกไว้ ผมมีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทมากๆ แบบนอนเตียงเดียวกันได้เยอะ ผมเคยมีปัญหาอย่างนี้ บางคนดูภายนอกบอกว่าผมเจ้าชู้ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆ 3 คน ที่เหลือ อีกเกือบสิบ มีทั้งที่เขาไม่เอา และเราไม่เอาเขา (ไม่งงนะ) แต่ตลอดเวลาผมคบใคร ผมคบจริงจังตลอด ไม่เคยเลยที่จะมีคนอื่นหรือเจ้าชู้ แต่ก่อนช่วงจะตัดสินใจแต่งงาน ประมาณ 1 ปี ครึ่ง ผมทะเลาะกับแฟน บ่อยมากๆ จนผมคิดว่า ผมคงไม่เหมาะกับเขาในทุกกรณี อยากจะเลิก แต่ความผูกพันมันมีมากเกินไป ผมเคยคิดว่า ลองเลือกใช้วิธีนี้ดูก็คงดี คือ การลองคบผู้หญิงอื่น (บางทีเรียกได้ว่าเจ้าชู้) ซึ่งผมก็ทำได้อยู่ 2 -3 เดือน แฟนก็รู้ เพราะผมบอกให้รู้ ให้รู้เพื่อรู้ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปคงคบกันต่อไม่ได้ แต่สุดท้าย เหมือนเห็นธรรมะ ผมกลับคิดว่าได้ ใจเย็นๆ ยิ่งเราสร้างเรื่อง ยิ่งเราผูก ก็ยิ่งแก้ยาก จากนั้นผมค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนตัวเอง เคลียร์ปัญหาเหล่านี้ออกไป ผมเฉยๆ ลง ในขณะเดียวกัน ทางฝ่ายหญิง แฟนผม ก็ใจเย็นมากขึ้น และหนักแน่นมากขึ้น (ทะเลาะกัน ก็ปัญหาเพื่อนผู้หญิงสนิทๆ เยอะนั้นละครับ) สุดท้ายหลังจากเริ่มกลับมาดีกัน 1 ปีผ่านไป ผมก็ตัดสินใจว่า ผมพอแล้ว ผมเลือกแล้ว แล้วก็นำมาสู่การแต่งงานที่ใครๆ ในวันนั้นต่างต้องอิจฉา และซิ้งไปกับความรักที่ทั้งสองคน ส่งต่อให้ผู้มาร่วมงาน ---------------------------------------------------- ส่วนอันนี้ คือ ข้อความที่ผมตอบเพื่อนๆ ทางอีเมล์ ไม่ได้ตัดนะครับ เอาไปเต็มๆ --------------------------------------------------- คำตอบสำหรับหลายคำถามที่หลายคนอยากรู้ (มากๆ ) แต่คำตอบนี้ไม่ติดเรท อ่านได้ทั้งครอบครัวนะ ไม่มีลงลึกใต้สะดือ ดังนั้นขอบอกว่าเสียใจสำหรับใครบางคนไว้ก่อนได้เลย (ฮ่า ฮ่า) การแต่งงานใครหลายคนอาจบอกว่าทำไมต้องแต่ง อยู่กันไปก่อนก็ได้ แก่ๆ ใกล้ 30 แล้วค่อยแต่งก็ได้ หรือใครอีกหลายคนอาจบอกว่า ยังหาใครไม่ได้ อันนี้ก็ต้องควานหากันต่อไปนะ แต่ข้อความต่อไปนี้ เป็นความรู้สึกจริงของเราที่อยากจะบอกเพื่อนๆ ว่าการแต่งงานนั้น ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสถานะจาก “แฟน” มาเป็น “ภรรยา” หรือ “สามี” เท่านั้น แต่มันเปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนชีวิตของคุณไปอีกแบบหนึ่ง มักมีคำพูดเสมอๆ ว่า การแต่งงานทำให้คนเราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งเราขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ชีวิตก่อนแต่งงาน ใครบางคนอาจอยู่กินก่อนแต่ง ใครบางคนอาจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ทั้งทำงาน ทานข้าว (อย่างเช่นคู่ของเรา) หลายคนอาจคิดว่านี้ก็เหมือนการแต่งงานแล้ว เพียงแต่ไม่มีเรื่องใต้สะดือเท่านั้นเอง ซึ่งเราเองก็เคยคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเราได้แต่งงาน ได้พบเจอ ได้รับมงคลสูงสุด 1 ใน 5 อย่างที่มนุษย์ทุกคนควรจะได้ มันทำให้เราเปลี่ยนไปอีกความคิดหนึ่ง ความคิดที่ว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป ความคิดที่ว่าครอบครัวคือสถาบันอันยิ่งใหญ่ ความคิดที่ว่าเราต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ และครอบครัว ดังนั้นหากเพื่อนๆ อีกหลายคนที่อาจกำลังคิดแต่งงาน หรือมีแฟน แต่ยังไม่คิดแต่งงาน หรือคิดว่าแต่งไม่แต่งก็เหมือนกัน เราอยากให้เพื่อนคิดเสียใหม่ และเข้าใจเสียใหม่ว่า การแต่งงานถือเป็นความรักอันยิ่งใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของคนสองคน แต่ความรักอันยิ่งใหญ่เกิดจากครอบครัวทั้งสองครอบครัว มีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะสร้างครอบครัวใหม่ที่ดีพร้อมทุกอย่าง ซึ่งอย่างน้อยๆ หากเพื่อนๆ ยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ วันแต่งงาน การแต่งงาน ก็ถือว่าเป็นอีกวันหนึ่งที่จะทำให้พ่อแม่มีความสุขที่สุดในชีวิต การแต่งงานของเรา...ทำให้เรารู้สึกว่า ตั้งแต่เกิดมา...หรือนับไปอีกสิบๆ ปี ก็คงทดแทนบุญคุณพ่อแม่ไม่มีหมด แต่เป็นหน้าที่ที่เราต้องสร้างบุญสร้างคุณ ถ่ายทอดสู่ลูกของเราต่อไป เป็นคำสัญญาที่บอกว่า อีกยี่สิบกว่าปีข้างหน้า ในวันที่เราเป็นพ่อแม่คน เราต้องทำเพื่อลูกให้ได้มากเท่ากับหรือมากกว่านี้ -------------------------------------------------------- ในวันนี้ ความรักที่คุณคิดว่า เป็นเรื่องของคนสองคน เมื่อแต่งงาน คุณจะรู้ว่าความรัก เกิดจากครอบครัวที่อบอุ่นช่วยการสร้างให้เกิดความรักที่อบอุ่น และถ่ายทอดต่อไปอย่างไม่รู้จบ -------------------------------------------------------- เอามาให้อ่าน อาจจะไม่เกี่ยวกับปัญหาที่เจ้าของกระทู้เจอ แต่มันเป็นความรู้สึกของคนที่พึ่งจะผ่านพิธีแต่งงาน (ในช่วงเวลาที่เขียนข้อความนั้น) อำนาจอันมหัศจรรย์ของพิธีแต่งงาน อาจสร้างปฏิหารย์ ให้คุณก็ได้ ขอให้คิดให้ดี ไตร่ตรองให้ดี หนักแน่น แล้วคุณจะพบว่า บางทีอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือบางทีเมื่อคุณสงบพอแล้ว คุณอาจจะพบว่า ไม่ควรแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เลยก็เป็นได้ คำแนะนำมาจากผมและคนอื่นๆ แต่คนที่จะเลือกทางเดิน คือ คุณคนเดียว เท่านั้นครับ ขอให้ปัญหาหมดไปไวๆ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 49 11:25:24 จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 11:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 การที่เค้ารับโทรศัพท์คุณแล้วบอกว่า "ไม่ได้ยินเสียง" นี่ผมว่าน่าจะเป็นการแสดงว่าเค้าไม่ได้ปิดบังอะไรคุณไว้นะครับ เค้ารับไม่ใช่ "ไม่รับ" โทรศัพท์คุณนี่นา จากคุณ : Top27 - [ 11 ม.ค. 49 11:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โหย อย่าคิดมากเลยนะคะ มีคนบอกว่า ฝาละมีเนี่ยก้าวขาออกจากบ้านก็ไม่ใช่ของเราแล้วล่ะค่ะ แต่ก็เนอะ แต่เรานะ ถ้าเป็นผู้หญิงคนนั้นน่ะ ยังงัยเราก็จะไม่รับโทรศัพท์ของคนอื่นเด็ดขาด ยิ่งอยู่ในห้องของเค้าซะด้วย เราว่าไม่มีมารยาทอะ นอกจากเจ้าของเค้าจะบอกว่ารับให้หน่อย แฟนเรายังไงเราก็ต้องคิดอยู่แล้วอะเนอะ จากคุณ : นู๋น้อยซะดะโกะ - [ 11 ม.ค. 49 11:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เชื่อใจแฟนคุณนะคะ จากคุณ : คนปัจจุบัน - [ 11 ม.ค. 49 12:09:03 A:221.128.101.16 X: TicketID:108147 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 ม.ค. 49 12:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นเราคงอดคิดแง่ร้ายไม่ได้เหมือนกันค่ะแต่พอได้อ่านคคห.คุณ avatayos แล้ว อืม....น่าคิดและเห็นด้วยเลย ยังไงก็ขอขอบคุณนะคะสำหรับความคิดเห็นดีๆ ที่แบ่งปันให้ จากคุณ : angkaloong - [ 11 ม.ค. 49 12:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านความเห็นบางส่วนค่ะ ของคุณ avatayos อ่านบ้างแต่ไม่หมด ถ้าแล่ดเป็นคุณ ตอบแบบตรงๆเลยนะ ถ้าเป็นคุณ ตอนนี้ สถานภาพ เป็นแฟน คงนั่งเครื่องบินไปหาเค้าที่สมุยเลยค่ะ แหะ แหะ แต่ถ้าเป็นแล่ด ปัจจุบัน คงเฉยๆอ่ะ ถ้าผู้หญิงบอกแค่นั้น ก็คือแค่นั้น อีกอย่าง ดูการกระทำของฝ่ายชายด้วยว่า มีผิดปกติหรือเปล่า ผู้ชายก็คือผู้ชาย อย่าคิดมาก คิดแค่ว่า เค้าตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กับเรา นั่นแหละ สำคัญที่สุด ที่ผ่านๆมา  ก็แค่คนที่ผ่านมา แต่เราคือคนที่เค้าอยู่ด้วยตลอดชีวิต จากคุณ : ไอ้แล่ด - [ 11 ม.ค. 49 12:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ว่าแล้ว  Mr. Fusion ต้องเข้ามาดู 555 จากคุณ : avatayos - [ 11 ม.ค. 49 12:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ใจเย็นๆ นะคะ ตอนที่กำลังฟุ้งซ่านสุดๆ ให้โทรหาเพื่อนก่อนเลยคะ อย่าเพิ่งโทรหาเขา แต่ต้องเป็นเพื่อนที่เข้าใจเรา และมอง เป็นกลางนะคะ เพื่อให้เราสงบลง ลดความฟูมฟาย เรามีสิทธิ์ที่จะถามเขาได้ เพื่อความกระจ่าง แต่ตอนนั้น ต้องควบคุมอารมณ์ให้อยู่ ถามไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเคลียร์ แต่ไม่ใช่ซักไซ้นะคะ ต้องเว้นจังหวะให้เขาอธิบาย แล้วเราก็ต้อง อ้อ โอเคๆ ทำให้เขารู้สึกดีที่จะบอกให้หมด ถ้าเขารักเราจริงนะคะ ผู้ชายเขาจะบอกหมดแหละคะ เพราะเขากลัวเราเข้าใจผิดงัยคะ เพียงแต่เราต้องควบคุม สติให้ดี พูดด้วยน้ำเสียงปานกลาง แต่ถ้าเราพูดดีๆ แล้ว แต่เขากลับทำให้เรื่องมีปัญหามากขึ้น อันนั้นค่อยมาคิด คะ แต่ถ้าเขาพยายามเคลียร์กับเรา อันนี้ขอให้เชื่อใจแฟน นะคะ เรื่องแบบนี้บางทีมันก็เกิดขึ้นได้คะ เราเองแหละคะ ที่เป็ฯ ผู้หญิงในแบบที่ไม่ชอบให้แฟนเพื่อนเข้าใจผิด เพราะเราเข้าใจหัวอกด้วยกันไงคะ อย่างเราเคยออกไป คุยงานกับเพื่อนสนิทผุ้ชาย แล้วไปดูคอมด้วยกันต่อ ปรากฏหลงกันในห้าง เราเลยโทรไปหามัน แต่เครื่องมัน แบตหมดแล้ว divert ไปเครื่องแฟน พอแฟนมันรับ เราก็รีบบอกว่า เออ นี่เราเอง นะเรามาคุยงาน แต่ดันผลัดหลง คือ อธิบายเยอะอ่ะคะ ไม่อยากให้แฟนเพื่อนรู้สึกแย่ ถ้ามองจากมุมมองของเรา ที่อดีตตอนโสดๆ สาวๆ ก็เคยไปเดทกับคนที่เจ้าชู้ เราจะไม่ยุ่งกับโทรศัพท์ ของ ผู้ชายคนนั้นเลย ไม่รับหรอกคะ รับทำไมให้มีเรื่องคะ แต่ถ้ามองจากมุมที่มีเพื่อนผู้ชายที่สนิทอยู่บ้าง ถ้าสมมุติ ไปกินข้าวกัน แล้วมันเดินไปห้องน้ำ ถ้าดังหลายๆ ที เราก็อาจจะรับให้ แต่เราก้จะรีบบอกว่าเราเป็นใคร แล้ว อธิบายว่าเพื่อนเดินไปห้องน้ำ พอเพื่อนกลับมาเราก็จะ คะยั้นคะยอให้มันรีบโทรกลับหาแฟน บอกหลายๆ มุม เพื่อ จขกท จะใจเย็นขึ้นนะคะ แต่ถ้ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเหนือจากนี้ ก้อลุยเละ ให้ตายเลยคะ จากคุณ : นู๋ปิ๋มมี่ - [ 11 ม.ค. 49 12:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกับคุณ avatayos  แต่ของคุณเพิ่งแต่ง เราแต่งมา 14 ปี มันมีอะไรที่มากกว่าที่คุณบอกอีกเยอะ มีคุณค่าของคำว่าครอบครัวอีกมากมายในความหมายของมัน family = f = father a = and m = mother i = I l = love y = you จากคุณ : maxmukmark - [ 11 ม.ค. 49 13:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขณะที่กำลังอ่าน ความเห็นของเพื่อนๆ เมื่อเช้านี้   เจ้านายเดินมาบอกว่า  เมื่อกี้แฟนเธอโทรมานะ แต่เธอไม่อยู่อ่ะ  ทำไมเค้าไม่โทรเข้ามือถือล่ะ  ปรากฏว่า ไม่มีสัญญาณ   เล่าให้ฟังเฉยๆ อ่ะค่ะ  แค่เรารู้ว่าเค้าโทรมาเราก็ดีใจแล้ว   เพราะเค้าชอบแอบโทรมาที่ออฟฟิศ  แล้วมันก็ทำให้เรายิ้มได้เสมอเมื่อได้ยินเสียงเค้า จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 13:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 3 ครั้ง ไม่ได้ยิน พอผู้หญิงรับ ได้ยินทันที อันนี้ตั้งข้อสังเกตุ การมองโลกในแง่ดี ก็มีส่วนดี แต่ทุกอย่างในโลกมันไม่ได้ดีอย่างที่คิดเสียหมด และไม่ได้ร้ายอย่างที่คิดเสียหมด จากคุณ : ~amily~ - [ 11 ม.ค. 49 13:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ทำไมต้องรับสายแทนคนอื่น ถ้าไม่สนิทกันจริง ถือวิสาสะจัง จากคุณ : Kleine junge Hexe ! - [ 11 ม.ค. 49 13:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอโทษนะคะ  เล่าไม่หมดอีกแล้ว     เราถามว่า  เราโทรมาสามครั้งแต่แฟนเราไม่ได้ยิน   แต่ทำไมผู้หญิงได้ยิน   เค้าก็บอกว่า  ก็ลองขยับๆสายดู แล้วก็โทรไปข้างล่างว่า เมื่อกี้มีโทรศัพท์มาใช่ไหม เพราะโทรมันดังแต่ไม่ได้ยิน   ตอนนี้เราพยายามไม่คิดอะไร  ไม่อยากเครียดไปเอง  รอว่าเค้าจะโทรมาไหม ถ้าโทรมาแล้วเค้าจะพูดอะไรกับเรา จากคุณ : Gigolina - [ 11 ม.ค. 49 13:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่ต้องคิดอะไรแล้วค่ะ เชื่อใจ แค่นั้นพอ จะแต่งงานกันอยู่แล้ว อย่าเอามาคิดเล็กคิดน้อย แล้วไม่ต้องเก็บมาคิด ไม่ต้องเอามาถาม มาซักกันอีก คุณคบเค้ามา คุณรู้จักเค้าดีที่สุด ถ้าลองคนเราตกลงจะแต่งงานแล้วละก็ ต้องรัก+ผูกพันมากทีเดียว ช่วงนี้เอาเวลาไปเตรียมงานแต่งเถอะค่ะ ไม่ต้องเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใครแล้ว (ยกเว้นคุยกับคุณแม่คุณเท่านั้น) คนเราคุยๆน่ะ ไม่รู้หรอก เค้าให้คำปรึกษาหรือยุให้เลิก คนขี้อิจฉามาเยอะ เราเคยเจอเหมือนกันแบบนี้ แต่เป็นญาติเค้า (ลูกพี่ลูกน้องน่ะ) แต่ญาติห่างๆเลยนะ เราอาละวาดแทบตายเหมือนกัน รายละเอียดมันเยอะ เล่าแล้วเดี๋ยวของขึ้นน่ะ แต่เราไม่เก็บมาคิดละ วันอาทิตย์นี้ก็จะครบรอบแต่งงาน 1 ปี ของแล้ว ไม่เสียใจเลย ที่พยายามผ่านเรื่อง แล้วประคองความรักกันมาได้ คุณก็จะรู้สึกเหมือนกัน แล้วจะรู้ว่า เรื่องนี้มันเล็กน้อยนัก อย่าฟังคนอื่นมาก ถามใจตัวเองเถอะ ถ้าคนนี้ ใช่ แล้ว อย่าให้มีเรื่องอะไรมากีดกันเลย จากคุณ : เราผ่านมาแล้ว - [ 11 ม.ค. 49 14:06:42 A:203.146.83.161 X: TicketID:112941 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ยิงทิ้งซะ.......ดีม๊ะ จากคุณ : rkoo - [ 11 ม.ค. 49 14:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 51 "โทรไปตอนทุ่มนึง  ไม่รับ ก็คิดว่า อาจจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป     สองทุ่มโทรอีก  เอ...  สงสัยอาบน้ำ   สามทุ่มครึ่งโทร  เอ...ยังงัย ขี่มอไซด์ล้ม อยู่รพ.รึเปล่าหว๋า  รึว่าเกิดอุบัตเหตุรึเปล่า   เออ ลองโทรเบอร์โรงแรมดีกว่า" ผู้หญิงเป็นอย่างนี้จริงๆค่ะ  ยังไงคุณผู้ชายอ่านแล้วก็พยายามเข้าใจด้วย  ว่าไม่ใช่ตามจิกแต่เป็นห่วงจริงๆ จากคุณ : bumbeaubet - [ 11 ม.ค. 49 14:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ถ้าแฟนเราให้ผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ ผู้ร่วมสายโลหิตเข้าห้อง.... มีเรื่องแน่!! จากคุณ : rodia - [ 11 ม.ค. 49 15:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่น่าใจในชีวิตคู่ก็อย่าพึ่งแต่งดีกว่าคะ เราเตือนเฉยๆนะไม่ได้ยุ จากคุณ : ann - [ 11 ม.ค. 49 20:39:07 A:61.47.117.52 X: TicketID:033412 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผู้ชายไปว่ายน้ำ แล้วผู้หญิงไปอยู่ทำอะไรในห้อง ผู้หญิงบอกว่าเป็นคนจองให้ เลยมาดูว่าเรียบร้อยไหม มากไปหรือเปล่า ผู้หญิงสนิทกันมากขนาด กล้ารับโทรศัพท์ให้กันเลยเหรอ คุณก็รู้ว่ามันแหม่งๆ ไม่มีเหตุผล จากคุณ : mrs.night owl - [ 11 ม.ค. 49 20:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่คิดว่า กระทู้นี้ เป็นของเธอ Gigolina จากกว่า 54 คห... มันก็เหมือนการ คาดเหตุวิสัย ในฐานะที่ รับรู้ร่วม มาตั้งแต่ ฟักไข่ จน ใกล้ตุนาหงัน คนที่ใกล้จะแต่งงาน มักมีความไม่แน่ใจ แปรเปลี่ยน ทางอารมณ์ บางคนทะเลาะกันก่อนวันแต่งงานบ่อยขึ้น บางคนเจ้าสาว ถึงกับหนีงานแต่งงาน ก็มี พวกฝรั่ง ... ที่มีใจคอ หนักแน่น มักจะไม่ใช่คนหยิบได้ ใกล้มือ ยิ่งพวกที่ผ่านการมีครอบครัวมาก่อน แต่เหตุที่ ทำให้ผู้ชาย พลาดพลั้ง เป็นการระบายความเครียดมีหลาย แบบ บางคนสูบบุหรี่จัดขึ้น บางคนใช้ระบายออกด้วยSEX การหาผู้หญิงมากำจัดความพลุ่งพล่าน ฝรั่งไม่คิดว่าเป็นการ นอกใจ กรณียังไม่แต่งงาน(รวมถึง จะอีกวันสองวันเป็นวันแต่งงาน...พวกนี้ ก็ยังทำตัว SIngle) เพราะเขาถือว่าวันที่ต้องเป็น Family Man คือหลังวันที่เข้าโบสถ์ บอกว่าจะรักและซื่อสัตย์ กับเจ้าสาวไปตลอด .... เรามองเห็นอะไรต่างจากคนอื่น ....ตอนนี้ ....ไม่สำคัญว่า เขาจะ"มี" หรือ "ไม่มี" ผู้หญิง ...จากวันนี้ จนถึง วันที่จะแต่งงาน ....ตรวจเลือด หรือ ยัง? ... ไม่ได้พูดให้กังวลแต่ไม่มีใครรู้ การติดต่อHIV จะแสดงภาวะแฝงได้ถึง 1 ปี... เวลา ผู้ชายไม่สบอารมณ์ ผิดหวังรุนแรง บางคนก็ดื่มหนัก บางคนสูบหนัก บางคนประชดครอบครัวด้วยการหาผู้หญิงอื่นมี SEX ...แต่จากที่ " เขา " ลงไปว่ายน้ำ แสดงว่าไม่ใช่คนไปหาเหามาใส่หัว เพราะคนที่เอาทางออกกำลังกาย ยิ่งกดดัน เบื่อ ก็จะไปออกกำลังให้หัวมันโล่งๆ จังหวะ ความเข้าใจ ของ คนสองคน มัก ไม่พอดีกัน เสมอ จากที่ เราผ่านอะไร ที่สูงสุดสู่สามัญ มาหนหนึ่งเมื่อกันยา สิงหา 48....(เธอก็รู้แล้ว)...สิ่งที่เกิดตอนนี้ ของเธอ มันคงเป็น "ก้อนหินเล็กๆ ที่มาทดสอบชีวิตคู่ " ที่จะเริ่มต้นในวันหน้า .... ฝรั่งมัก "อิงกับปัจจุบัน" ไม่แน่ใจว่าการทิ้งห่าง กว่าครึ่งปี สิ่งที่จะ "เหมือนเดิม" หรือ "เปลี่ยนไป" จากนี้มันอยู่ที่ตัวเขา ...ผู้ชายแต่ละคน มีลักษณะต่างกัน บางคนเสมอต้นเสมอปลาย บางคนถ้าเลยจุด ช่วงเวลาไปแล้ว ก็เหมือนตื่นจากฝัน ไม่มองย้อนกลับ แต่ทั้งหมดนี้ มันอยู่ ที่ ช่วงที่ มีความ shocked มันบาด ความสัมพันธ์ของคนคู่นั้น มากน้อยแค่ไหน ถ้าเขาเห็นด้วยในเหตุผลของการเลื่อนการแต่งงาน แบบยอมรับจริงๆ อาการอื่นๆที่ หาเหาใส่หัว มันคงไม่มี ยกเว้น หลุดสติควบคุม และสำนึกรู้ในคู่ของตัวเอง สรุป ...เชื่อในสัญชาตญาณผู้หญิง ไหม ?? ความรู้สึกครั้งแรกเกี่ยวกับคนที่เป็นคู่รัก ที่พระเจ้าให้มาในผู้หญิง "แรง" และ "เชื่อได้" ความผิดหวัง บางครั้งก็ไม่ได้ เลวร้าย อาจจะเป็นการ break บางสิ่งในชีวิต เพราะสิ่งที่จะพบเจอวันข้างหน้า อาจเหมาะสมกับเรามากกว่าก็ได้ ...กรณีถ้าแง่ -.... อย่างไร ก็เอาสติ กลับมา มองอะไรออกห่างจากสิ่งที่ครุ่นคิดกังวล อยู่ แค่ตอนนี้ แล้วจะ เห็นอะไร มากขึ้น ความรัก ไม่ได้สิ้นสุดแค่วันแต่งงาน แต่ ต้องการการ โต้ คลื่น แล่น ใบเรือ ไปตลอดจนกว่า จะถึงฝั่ง หรือ เรือแตกสลายไปใน ท้องมหาสมุทร อันกว้างใหญ่ ความรักของบางคู่ จบที่การตายจาก บางคู่ จบที่การหย่าร้าง บางคู่จบที่การเงียบหาย ไร้การอธิบาย บางคู่อาจจบที่ความอยู่ตัวในระยะที่พอใจ โดยที่ยังอยู่ร่วมกันแบบหน้าที่ ต่อลูกๆ เราเอง ตั้งแต่ การจากนั้น ทำให้รู้ว่า รักใครอย่ารักจนหมดใจ แต่จงรักเพียงครึ่งใจ เพื่อที่ว่าวันหนึ่งที่เขาตายจากไป เธอจะได้มีชีวิตต่อไปได้ ยิ่งถ้าเธอต้องทำหน้าที่แม่ของลูก เธอควรจะเป็นเหมือนตัวตายตัวแทน ของเขา จากคุณ : kuddle - [ 12 ม.ค. 49 03:11:29 ]

ความคิดเห็นที่ 56 Insist again. Break up!! จากคุณ : dr.pat (pavit) - [ 12 ม.ค. 49 11:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เพื่อนผู้หญิงคนนั้นก็มีแฟนแล้ว คุณลองถามแฟนเค้าสิว่ารู้สึกอย่างไรกับการที่แฟนของเค้าเข้าไปอยู่ในห้องพักของผู้ชาย อย่าหาว่าเราอคติเลย เวลาเราพยายามมองโลกในแง่ดีทีไร เราก็มักจะผิดหวังทุกที จากคุณ : บักนัท - [ 16 ม.ค. 49 23:35:55 ]