CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ผมตกหลุมอย่างใหญ่ ที่ร้าน 70's bar หลังสวน(ลุม)

    ขออนุญาตเอาเรื่องราวของเมื่อคืนวานมาบอกเล่าผ่านกระทู้แห่งนี้แล้วกัน ผมไม่ใช่นักเขียนหรืออะไรทั้งสิ้น ก็แค่อยากเขียนในสิ่งที่ไม่รู้จะพูดบอกใครเท่านั้นเอง หวังว่าเอามาลงตรงนี้ได้ เพราะว่าเมื่อคืนผมไปหลังสวนลุมมา น่าจะวางไว้ที่ บอร์ดลุมพินีแห่งนี้ได้

    เป็นครั้งแรกที่ผมจะเขียนอะไรแบบนี้ เพราะผมไม่อาจจะเก็บมันไว้คนเดียวได้…

    ค่ำคืนของวันที่ 10 ก.พ. 2549 เป็นคืนที่ผมสัญญารับนัดกับเพื่อนใน msn ที่รู้จักกันมานานกว่า 1 ปี เค้าชื่อ ‘เอก’ และนี่ก็ไม่ใช่เป็นการนัดเพื่อดูหน้าตา เพราะว่าเราข้ามตรงจุดนั้นไปแล้ว ผมแค่นัดเจอกับเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง ผมตัดสินใจจะเจอเค้าที่ร้าน 70’s bar ที่หลังสวน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมไปเยือนสถานที่แห่งนี้หรือบริเวณนี้ ปกติผมมักจะสาละวนอยู่กับแถวย่านทองหล่อและรัชดากับเพื่อนชายและเพื่อนหญิงปกติๆ มากกว่า แต่ด้วยที่ผมไม่ปกติ ผมจึงไม่ลังเลที่จะลองไปดูให้เห็นว่าร้านรวงแถวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

    ผมออกจากบ้านตอนสองทุ่มครึ่ง จากบ้านผมไปหลังสวนค่าแท็กซี่น่าจะราว 200 กว่าบาท ผมโบกแท็กซี่สีแดงๆส้มๆ คันหนึ่งได้ที่หน้าบ้าน และบอกกับคนขับว่า “ไปหลังสวนครับ” คนขับทำหน้างงนิดหน่อยแล้วถามว่าสวนไหน “สวนลุมครับผม” ผมไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมคนขับรถถึงถามแบบนั้น เพราะบ้านผมมันอยู่ใกล้ด้านหน้าสวนหลวง ร.๙ เอามากๆ ถ้าจะไปหลังสวน(หลวง ร.๙) ก็ไม่ไกลมากนัก

    รถวิ่งออกไปตามซอยสุขุมวิท 103 ที่ๆ ผมใช้ชีวิตอยู่มานานเกือบ 20 ปี ก่อนจะไปๆ กลับๆ ต่างจังหวัดเนื่องจากผมเอนทรานซ์ติดและตัดสินใจเรียนต่อให้จบปริญญาเอก ทำให้ผมขึ้นๆ ลงๆ กรุงเทพเป็นว่าเล่นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รถแล่นออกมาตามถนนสุขุมวิทและเมื่อใกล้ถึง BTS อ่อนนุช ผมเกิดเปลี่ยนใจให้คุณลุง ที่นั่งสั่งน้ำมูกมาตลอดทาง จอดรถส่งผมที่ BTS ก็พอ ไม่ใช่เพราะว่าผมไม่ชอบที่แกสั่งน้ำมูกตลอดหรอก โถ่ๆๆ ผมก็เป็นหวัดเล็กๆ เหมือนกัน แต่ที่ผมต้องลงก่อนเพราะว่ารถมันติดมากๆ (แต่ป้ายอัจฉริยะมันเขียวสุดขีด) และอีกอย่างถ้าจะอยู่บนถนนที่รถติดแบบนี้ ผมขอไปอยู่บนรถไฟฟ้ามองดูผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาดีกว่า ผมไม่ชอบอะไรที่มันนิ่งๆ หรือแคบๆ มันจะทำให้ผมอึดอัด และลงเอยด้วยการปวดหัวหรือเวียนหัว ในท้ายที่สุด

    ผมไปลงรถไฟฟ้าที่สถานีราชดำริ พระเจ้า! ทำไมมันเหมือนสถานีร้างเลย แต่พอผมมองรายชื่อสถานีต่อไป ‘ศาลาแดง’ ผมเลยไม่แปลกใจเท่าไร ผมจับรถแท็กซี่ได้อีกคันที่ด้านล่างของถนน “ไปร้าน 70’s bar ครับ’ คนขับพาผมไปส่งหน้าร้านภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ถึงแล้วเหรอ!

    ผมโทรหาเพื่อนคนนั้นทันที เค้าไม่รับสาย (ผมคิดว่าเค้ากำลังเดินออกมารับผมที่หน้าร้าน) ผมโทรอีกที มีเด็กหนุ่มคนนึงใส่เสื้อโปโลสีดำเดินออกมา หน้าตาน่ารักกว่าในรูปนิดหน่อย น่ารักสำหรับผมหมายถึงเค้าดูธรรรมดาดีมากๆ ไม่เซ็ททรงผม ไม่โบ๊ะแป้ง (ก็แน่ล่ะ เค้าเรียนวิศวะเหมือนผมนี่นา ต้องแมนหน่อยสิ) เหมือนคนอื่นๆ แถวนั้น “หวัดดี” ผมทักเค้าสั้นๆ เค้าก็ทักผมเหมือนกันแล้วถามว่า “มาคนเดียวเหรอ” ผมตอบว่าใช่แล้วเดินตามเค้าเข้าไปในร้าน (ตรวจบัตรเรียบร้อย) พอดีเพื่อนผมที่นัดไว้มันเกิดอาการเบี้ยวขึ้นมา ผมเลยต้องมาคนเดียว ผมไม่กลัวอะไรหรอกถ้าจะมาคนเดียว อาจจะเพราะผมคุยกับเค้ามาตั้งนาน เลยทำให้ความไว้ใจมากขึ้น และอีกอย่างผมก็ไม่อยากเสียมารยาทด้วยที่นัดแล้วไม่ยอมมา โต๊ะของพวกเขาอยู่ที่บริเวณราวบันไดชั้นสองของร้าน จะเรียกว่าโต๊ะก็ไม่ถูกหรอก เพราะมันก็เป็นแค่ที่วางขวดเหล้า โซดา โค้กและน้ำแข็งเล็กๆ เท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้ผมคุยกับ ‘เอก’ เค้าบอกว่าจะมีเพื่อนเค้าไปด้วยอีก 5 คนนะ เป็นหญิง(แท้) 2 คน และเป็นหนุ่มเกย์อีก 3 คน (ถ้ารวมเค้าก็เป็น 4 และถ้ารวมผมในกลุ่มนี้ก็จะเป็น 7 คนพอดีๆ)

    ‘นี่เพื่อนเรา’ เค้าแนะนำหญิงสาวที่เกือบสวย 2 คน คนนี้รัตน์ คนนี้ปัท (พลางชี้มือไปที่หญิงสาว 2 นาง[สาว] ที่ต่อมาผมรู้ว่าเธอนิสัยน่ารักมากๆ) และคนนี้ เพื่อนเราเหมือนกัน “วิน” ผมหันหลังกลับไปดูคนที่ผมเพิ่งเดินผ่านมา ไม่ใช่ว่าผมไม่สังเกตเห็นเค้าตอนแรกหรอกนะ  แต่เพราะผมไม่คิดว่าเค้าจะเป็นเพื่อนกลุ่มนี้หรอก เพราะเค้าสูงหล่อหน้าตาเหมือนเทพบุตรเลย ผมใจเต้นเป็นกลองรัวทันที ไม่ใช่เพราะเพลง Music lover ของมาช่าเปิดอยู่หรอกนะ แต่เพราะว่า วิน หล่อและน่ารักมาก ทรงผมเซอร์ๆ คิ้วหนาได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน ปากบางเรียวแดงอมชมพู มีเคราและหนวดขึ้นอย่างเป็นระเบียบที่เหนือริมฝีปากและคางเรื่อยมาจนถึงลำคอด้านบน หน้ายาวเรียวและเล็กกำลังดี ทำให้ผมนึกถึงเรื่องของคุณเกย่าที่เจอนายมูรัต นายวินคนนี้น่าจะเป็นมูรัตในเวอร์ชั่นไทยได้สบายๆ

    ความสูงราวๆ เกือบ 190 ทำให้ผมดูตัวเล็กไปเลย ผมสูง 172 เอง วินมีหนวดและเคราที่สวยงามมาก ตัดกับผิวขาวๆ ของเค้า ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้ชายที่มีเคราและหนวดบนผิวขาวๆ มันช่างมีเสน่ห์มากๆ เค้าใส่เสื้อสีดำ ลายเสื้อเป็นรูปลายเส้นเด็กหิวกระป๋องน้ำ (ผมไม่ได้เห็นตอนแรกหรอก ผมเห็นทีหลังตอนที่เค้าหันหน้ามาเต้นติดกับผม) ที่เสื้อมีข้อความเขียนว่า Nobody Knows เขาใส่สร้อยเงินเล็กๆ หนึ่งเส้น (บ่อยครั้งเค้ามักจะหยิบสร้อยที่ห้อยอยู่มาคาบไว้เวลาเต้น) กางเกงยีนส์ของเขาขาดที่หัวเข่าข้างขวาด้วย เผยให้เห็นหัวเข่าของเขาพร้อมขนที่ขารำไรๆ และอีกครั้ง ประโยคภาษาอังกฤษและรูปเด็กที่อยู่บนเสื้อของเค้าทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่องหนึ่งขึ้นมาทันที อ๋อ หนังเรื่องนั้นเอง (ผมนึกในใจ) เรื่องราวของเด็กกำพร้าชาวญี่ปุ่นที่โดนแม่ใจร้ายทิ้งให้ต้องรับผิดชอบอะไรต่างๆ ราวกับว่าเค้าอายุ สัก 25 ปี ผมชอบเรื่องนี้มาก และตอนนี้วินก็กำลังใส่เสื้อที่มีเรื่องราวที่ผมชอบอยู่บนเสื้อของเขา ช่างบังเอิญจริงๆ

    ผมว่าผมตกหลุมอะไรสักอย่างแล้วล่ะตอนนี้ ผมพยายามเก็บอาการสำรวมๆ ไม่ใช่ว่าผมกลัวไก่ตื่นหรอกนะ แต่เพราะจริงๆ แล้วผมเป็นคนเงียบๆ อายๆ กับคนแปลกหน้ามากกว่า และอีกอย่าง เอกชวนผมมา ไม่ใช่วิน ดังนั้นผมจึงพยายามรักษาน้ำใจของเอกด้วย เพราะดูเหมือนว่าเอกก็จะมองผมด้วยแววตาแปลกๆ (ผมคิดว่าเค้าคงจะเมา) ผมไม่ใช่คนหน้าตาดีขนาดที่เดินผ่านใครแล้วเค้าต้องเหลียวหลังเหมือนวินหรือเด็กเกย์อีกหลายๆ คน แต่ผมก็มักจะมีคนมองพอสมควรไม่น้อยหน้าใครเท่าไร พอไปวัดไปวาได้ตอนสายๆ ฮ่าๆ

    ตำแหน่งที่ผมอยู่ตอนแรกอยู่ห่างจากวินประมาณ 2 คนขั้น ผมเลยต้องอ้อยอิ่งอยู่กับเพื่อนหญิงสองคนแทน ในขณะที่พื้นที่การเต้นก็จำกัดมากๆ (ผมเต้นกับราวบันได) ในขณะที่เพลงก็ยังเป็นลักษณะกึ่งเร็วกึ่งช้า ทำให้ผมยังไม่รู้สึกสนุกเท่าไร ผมแอบเห็นวินกับเอกส่งสายตากันแบบอะไรก็ไม่รู้ แต่รู้ว่ามันเกี่ยวกับผม (หรือผมจะคิดไปเอง) ผมพยายามบอกตัวเองว่ามันคงไม่เกี่ยวกับผมหรอก แล้วประมาณสี่ทุ่มนิดๆ จังหวะเพลงก็เริ่มเร้วขึ้นด้วยเพลงในยุคสมัยที่ผมเป็นเด็กเกย์ ไม่ใช่ หนุ่มเกย์อย่างทุกวันนี้ ทั้ง พี่ติ๊นา พี่เบิร์ด พี่เจ ทำให้เครื่องผมเริ่มที่จะร้อนแล้ว นี่ผมดื่มเหล้าไปแค่ 2-3 แก้วเอง และตอนนั้นเอง เอกขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ทันใดนั้นที่ว่างระหว่างผมกับวินก็เกิดขึ้น ในใจตอนนั้นผมนับ 1-3 คิดว่าถ้านับเสร็จจะกระโดดไปแทนที่เอก แต่ระหว่างที่ผมกำลังจะเริ่มนับ ‘ปัท’ เพื่อนหญิงก็ดึงแขนผมไปแทนตำแหน่งเดิมที่เอกเคยอยู่ เพื่อเต้นใกล้ๆ กับเธอ แต่... ผมอยู่ใกล้วินในบัดดล

    ผมยืนอยู่ตรงนั้นแล้วและเริ่มที่จะสนุกสนานไปกับเพื่อนๆ (ใหม่) บางเวลาก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหวเพราะว่าสาวๆ และเกย์หนุ่มทั้งหลาย ต้องเดินผ่านผมกับวินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังพวกเรา (ผมยืนตรงทางเข้าห้องน้ำหญิงใกล้ๆ บาร์เหล้า) ผมกับวินมองหน้ากันอย่างเซ็งๆ  เพราะว่าจังหวะของเรามันเสียไป บ่อยครั้งที่ผมจะหันไปมองตาและยิ้มให้เค้า และเค้าจะยิ้มตอบกลับให้ผมทุกครั้ง ผมยืนอยู่ตรงนั้นนานแสนนาน ผมอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นจริงๆ เชียว เพื่อนอีกคนนึงมาถึงแล้ว เค้าชื่ออะไรผมจำไม่ได้ แต่รู้ว่าเค้าใส่เสื้อสีดำเหมือนผม เอก และวิน เค้าเดินไปเต้นและคุยอยู่กับรัตน์ ผมมารู้ที่หลังที่รถว่ารัตน์แอบกิ๊กๆ คนนี้อยู่ ผมไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นยังไง แต่รู้ว่าเกย์ดาร์ผมกระดิกมากๆ มีคนบอกผมว่าเค้าเป็นไบ แต่ไม่เหมือนกับวิน ที่ผมต้องถามเอกให้แน่ใจว่า เค้าเป็นหรือเปล่า เพราะบ่อยครั้งไปที่ผมจะพาเพื่อนชายแท้ไปแฝงตัวที่ผับแถว อตก เป็นเพื่อนผม ผมรักพวกมันจัง มันเป็นผู้ชายที่ใจกว้างสุดในโลก มันบอกว่าเพื่อนก็คือเพื่อน ส่วนรสนิยมมันเป็น Lifestyle ของแต่ละคน ดังนั้นผมจึงจำเป็นต้องถามเอกเพื่อจะได้รู้ว่าควรทำตัวกับวินแบบไหนถึงจะดี

    ในขณะที่ผมยืนเต้นหันหลังให้วิน วินหันหน้ามาทางด้านหลังผม (อย่าคิดไปไกลครับ) สนุกไปกับเพลงยุค 90 ที่เราแทบจะร้องได้ทุกเพลง ยกเว้นบางครั้ง Don’t cha จะแทรกขึ้นมา แต่เราก็สนุกไปกับเสียงเพลง "Dance like nobody’s watching, and love like it’s never gonna hurt" เราเบียดกันอยู่แบบนั้นสักครู่ จนเพื่อนอีกคนนึงมาถึง เค้าชื่อแก่น และไม่ได้ใส่เสื้อสีดำ ผมแอบได้ยินวินบอกแก่นตอนที่แก่นเดินผ่าน (เอามือจับไหล่ผมสองข้างและเต้นไปด้วย) ว่าคนนี้แฟนเรา และผมยังได้ยินวินถามย้ำกับเอกด้วยว่า 'ใช่มั้ยเอก?' ผมอึ้งไปนิดนึง ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินทำเป็นเต้นไปกับจังหวะเสียงเพลง แต่ในหัวผมคิดว่า ผมควรที่จะทำอะไรสักอย่างสักที ก่อนที่อกจะระเบิดตาย…

    ไว้จะมาต่อนะครับ เรื่องเพิ่งดำเนินไปได้ครึ่งเดียวเอง...

    แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 49 13:42:30

    แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 49 17:27:34

    แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 49 17:15:35

    จากคุณ : Attjoe - [ 11 ก.พ. 49 17:10:08 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป