ความคิดเห็นที่ 17
ความคิดเห็นที่ 13 นั้นน่าสนใจดีครับ
(เราเล่นอินเตอร์เน็ตเพื่อผ่อนคลายในยามว่าง เพื่อแบ่งปัน เพื่อประเทืองปัญญา ไม่ใช่เพื่อสอน เพื่อตัดสินใครๆ หรือพาลพาโลผู้อื่นเพียงเพื่อกลบเกลื่อนความผิดหวังในตัวเองครับน้องคคหที่ 12 และ 15 ...ด้วยมิตรภาพและความปรารถนาดีนะครับ)
ที่อยากจะตอบคุณ Less or Nothing นั้นก็เพราะมีความรู้สึกว่าบางทีผู้หญิงก็เข้าใจผู้ชายผิดไม่น้อยไปที่ผู้ชายเข้าใจผู้หญิงผิดเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะความแตกต่างทั้งทางชีววิทยา ทัศนคติ หรือการหล่อหลอมทางสังคมก็ตามแต่ แต่จริงๆสองเพศนี่มีความเหมือนกันมากกว่าที่เราคิดนะครับ โครโมโซมเหมือนกันตั้ง 47 ตัว ต่างกันแค่ตัวเดียว แต่ก็เอาความต่างกันไอ้แค่ตัวเดียวนี่ล่ะมาเป็นปัญหาโดยละเลยไปว่าอีก 47 ตัวมันก็เหมือนกัน
ผู้ชายแต่ละคนย่อมมีวุฒิภาวะมากน้อยต่างกันไปตามแต่สติปัญญา,พื้นฐานทางจิตใจและประสบการณ์ชีวิต ก็เช่นเดียวกับผู้หญิงนั่นแหละครับ ผู้หญิงที่มีอายุแล้วทำใจยอมรับอายุของตนเองไม่ได้ เกลียดชังความมีอายุของตัวเองจนต้องพยายามฝืนสังขารให้มันผิดธรรมชาติก็มี เช่นเดียวกับผู้ชายแหละครับ
ผู้ชายที่มีอายุแล้วแต่ไม่เข้าใจชีวิต ไม่เคยพิจารณาอะไรที่มันลึกซึ้งเกินไปกว่าเปลือกนอกไปได้ก็มี บ้างก็ขาดความมั่นใจในสมรรถนะของตัวเองจนเอามาหมกมุ่น พวกเฒ่าหัวงูบางคนก็อยู่ในกลุ่มนี้ จะโทษเขาเสียทั้งหมดก็ไม่ได้ สังคมมันก็มีกลไกบางอย่างของมัน แม้จะไม่เข้าท่าก็เถอะครับ
พวกนี้มีปมด้อยกับความแก่ของตัวเอง คิดว่าเด็กสาวๆจะช่วยได้ เชื่อว่าเด็กสาวๆที่ไม่ประสีประสาคงรู้ไม่เท่าทันความ"ไม่ได้เรื่อง"ของตัวเอง พูดง่ายๆคือคิดเอาเองว่ามีอะไรกับเด็กสาวๆนั้นไม่จำเป็นต้องทำเก่งมากๆเหมือนสมัยหนุ่มๆ เด็กมันยังอ่อนหัด ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็จริงบางส่วน
ทีนี้มันก็อยู่ที่ฝ่ายหญิงแล้วล่ะครับว่าจะตอบสนองต่อทัศนคติแย่ๆแบบนี้ในผู้ชายบางคนอย่างไร ของอย่างนี้มันปรบมือข้างเดียวไม่ดังครับ
ถ้าผู้หญิงมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง ไม่หวั่นไหวไปกับค่านิยมไร้สาระว่า"อายุมาก"แล้วจะตกรถไฟ ก็ผู้ชายคนไหนที่ไม่มีวุฒิภาวะพอจะเห็นความงามของเรา เขาก็ไม่ดีพอจะมาเป็นพ่อของลูกของเราเช่นกัน ผู้หญิงมีความเข้มแข็งต่อการเป็นโสดมากกว่าผู้ชายเยอะครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ธรรมชาติมันจะทำการคัดเลือกของมันไปโดยปริยาย ผู้หญิงฉลาดเลือกก็จะได้ยีนส์ฉลาดมาให้ลูก คนที่อดทน คนที่เข้มแข็งก็จะได้ของดี คนที่หวั่นไหว คนที่อ่อนแอ คนโง่ ก็จะได้ของคุณภาพลดหลั่นกันไปตามความสามารถ ไม่ใช่ปล่อยให้วัฒนธรรมอำนาจนิยมที่ผู้ชายเป็นใหญ่มาบิดเบือนกลไกนี้อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ผมมีลูกสาวครับ ก็หวังว่าเขาจะได้ใช้ชีวิตในโลกที่มันยุติธรรมกับเพศเขามากกว่านี้เหมือนกัน หวังว่าเขาจะมีเสรีภาพในการเลือกทางเดินที่เหมาะสมกับตนเองโดยไม่ต้องมาถูกพันธนาการด้วยสิ่งพะรุงพะรังที่หลงเหลือโดยไม่จำเป็นมาแต่โบราณกาล หวังว่าเขาจะได้คนที่เหมาะสมกับเขามาเป็นสามี ไม่ใช่ต้องไปรีบเลือกเอาไอ้งั่งที่ไหนสักคนมาเพียงเพราะเวลาจวนจะหมดแล้ว หรือต้องไขว่คว้าหาคนที่เขาไม่ได้รักเพียงเพราะมันรวยดีเท่ห์ดี ถ้ามันจะไม่มีใครเหมาะสมกับเขาเลยเพราะโลกมันพิกลพิการถึงขนาด ผมก็ยังหวังว่าเขาจะอยู่กับชีวิตโสดได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องมานั่งตำหนิตัวเองทุกวันว่าทำไมถึงต้องมาอยู่บนคาน
คุณ Less or Nothing อยู่แถวไหนเหรอครับนั่น... ผู้ชายที่มีความคิดอย่างผมมีเยอะแยะไปครับ ไม่งั้นโลกนี้มันวายป่วงไปตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองโน่นแล้วล่ะ แล้วก็เป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ไม่ใช่หรือครับที่แก้กฎหมาย ที่พยายามทำหลายๆทางให้โลกนี้มันดีขึ้นสำหรับผู้หญิง แม้มันจะยังดีไม่เท่าที่ควร แต่มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆไม่ใช่หรือครับ
แต่ธรรมชาติผู้ชายนั้นเขาไม่แสดงความเห็นถ้าคุณไม่ถาม (ถามก็ต้องถูกวิธีด้วยนะ) ฉะนั้นอย่าเพิ่งอคติกับผู้ชายกันเกินเลยไปเลยครับ ถ้ามีใครมาชอบก็มีไมตรีกับเขาบ้าง ให้โอกาสทั้งกับเขาและกับตัวเองมากขึ้นอีกนิด อดทนเขาอีกหน่อย ...นะครับ
ไม่งั้นอีกหน่อยเราได้เจอปัญหาเดียวกับสิงค์โปร์,ญี่ปุ่นหรือยุโรปแน่นอน ชนชั้นกลางและคนมีการศึกษาไม่นิยมแต่งงาน ไม่ยอมมีลูก ...ยุ่งตายห่... 555...
จากคุณ :
แท็กซี่นิรนาม  
- [
22 ก.พ. 49 02:07:39
]
|
|
|
)