เราแต่งงานกันมาเกือบ 3 ปี
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าเราโชคดีเหลือเกิน
ที่มีสามีที่สุดประเสริฐ รักและดูแลเอาใจใส่เราเป็นอย่างดียิ่งเสมอมา เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ (ดูแลเราเป็นอย่างดีทุกอย่างจริงๆ ทั้งยามปกติ ยามเจ็บไข้ ฯลฯ)
คนที่รู้จักเราและสามีเรา ต่างมองว่าเราป็นคนที่น่าอิจฉา
เพราะเราได้แต่งงานกับสามีซึ่งเป็นคู่ชีวิตที่แสนดี
ตอนนี้เราตั้งครรภ์ 6 เดือนกว่าๆ เราเพิ่งรู้มาโดยบังเอิญ
ว่าสามีเราไปเที่ยวหญิงบริการมา มันเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ เสียใจอย่างบรรยายไม่ถูก
มันผิดหวังที่เคยรัก ชื่นชม และศรัทธา ในตัวสามีอย่างมาก
ถ้าเราไม่ตั้งครรภ์ เราจะหย่าทันที เพราะมันเหมือนเขาไม่ได้ให้เกียรติเรา ไม่ได้ซื่อสัตย์กับเราอย่างที่เราเคยเข้าใจมาตลอด ปัญหาคือเรากำลังตั้งครรภ์ เป็นห่วงลูกมากที่สุด ที่จะเกิดมาก็ต้องขาดพ่อซะแล้ว
เราคิดๆๆๆๆ จนหัวแทบแตก ในที่สุดตัดสินใจขอคุยกับสามี
เขายอมรับความผิดที่เกิดขึ้น บอกเราว่านี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ทำผิดต่อเรา สาเหตุเพราะเขาไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับเราตอนที่เราตั้งครรภ์ กลัวมีผลต่อลูก (ทั้งที่ทราบว่าการยุ่งเกี่ยวกับภรรยาในช่วงตั้งครรภ์สามารถทำได้ แต่เขาก็ไม่อยากเสียง)
เรารับไม่ได้ เพราะผิดหวังมากจริงๆ เอ่ยปากว่าขอหย่า
ทั้งที่จริงๆ แล้ว ใจหนึ่งอยากจะหย่า แต่อีกใจมันก็ห่วงลูก
และยังคิดถึงความดี ภาพดีๆ ต่างๆ ที่เคยมีร่วมกันมาตลอดชีวิตการแต่งงาน
สามีเราสำนึกผิด ขอโทษเราและขอโอกาสเรา
เราคิดอยู่ 1 วัน เต็มๆ แบบไม่มีปัญญาจะคิดเรื่องอื่นได้เลย
ทั้งที่ห่วงลูกเหลือเกิน กลัวว่าจะมีผลกระทบต่อลูกในท้อง
แล้วตัดสินใจให้โอกาสเขาโดยมีเงื่อนไขว่า
1. ให้บอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องไปเที่ยวดังกล่าว
2. ให้โทรไปบอกเลิกความสัมพันธ์กับเพื่อนในกลุ่มที่ไปเที่ยวด้วยกันแบบแตกหัก (เพื่อนที่พากันไปเที่ยวอย่างว่า ทั้งที่ทราบว่าสามีเรามีภรรยาอยู่แล้ว แต่กลับไม่ช่วยกันยับยั้ง กลับเห็นสนุกในการเที่ยวเตร่ครั้งนี้) โดยที่เรายกหูโทรศัพท์ฟังบทสนทนาอยู่ด้วย
3. ให้คำมั่นสัญญากับเราใหม่อีกครั้งต่อหน้าศาลหลักเมือง
หลังจากที่เคยให้สัญญาต่อเรา ตอนก่อนจะใช้ชีวิตร่วมกัน
และเราก็เคยเชื่อด้วยหัวใจ ไม่ได้หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด
4. ให้สามีไปตรวจเลือด
สามีเราตกลงและทำตามเงื่อนไขแล้วทุกข้อ ยกเว้นข้อ 4 ซึ่งต้องรออีก 3 เดือน แต่เรายังไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะเราเองก็รู้สึกแย่อยู่ดี ที่จะต้องให้เขาทำอะไรขนาดนี้
ต่อจากนี้เราต้องพยายามลืมเรื่องเหล่านี้ให้ได้ ใช่ไหมคะ
เราทำถูกต้องหรือเปล่า เราไม่แน่ใจตัวเองเลย จริงๆ นะ
มันสับสนไปหมด จะพูดปรึกษาใครก็อายและกลัวเขาจะพลอยเป็นทุกข์ไปกับเราด้วย
เราต้องใช้เวลาทำใจยอมรับอีกนานไหม คือเราก็คลายความโกรธไปมากแล้ว หลังจากที่เขาทำตามเงื่อนไข
แต่มันยังไม่หายเสียใจ ทำไงดีคะ
ท้ายที่สุดนี้ เราขอบคุณทุกความเห็นที่จะเข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ หรืออย่างน้อยก็ช่วยรับฟังนะคะ
จากคุณ :
เศร้า
- [
21 ก.พ. 49 12:58:21
A:58.136.130.192 X: TicketID:116469
]