ความคิดเห็นที่ 1 ช่วงที่เราลดความอ้วน ร่างกายก็จะปรับตัว ไปอยู่ใน เซฟโหมด (ประมาณนั้น) คือ อัตราการเผาผลาญพลังงานจะต่ำลง ทีนี้ พอเรากินเข้าไป (อาจจะไม่เยอะ) แต่เมื่ออัตราเผาผลาญมันต่ำ มันก็เหลือเก็บสะสม กลายเป็นไขมัน ต่อไป จากคุณ : anisole - [ 3 มี.ค. 49 23:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ แล้วถ้าไม่อยากให้มันไปเหลือเก็บสะสม ก็ต้องเร่งการเผาผลาญโดยการออกกำลังกายอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ ดังนั้น อดอาหารอย่างเดียว ไม่พอครับ จากคุณ : coombe lane's guy - [ 4 มี.ค. 49 06:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ประมาณว่าถ้าเราลดความอ้วน บางทีเราอดอาหารน้อยจนเกินความต้องการของร่างกายน่ะค่ะ แล่วร่างกายมันก็เลยสร้างความรู้สึกขึ้นมาว่าไม่ได้รับพลังงานพอ มันเลยไปลดเมตาบอลิซึ่มให้ทำงานลดลง เพื่อให้ร่างกายไม่ใช้พลังงานสำรองมากไป ในเวลาที่ได้รับอาหารน้อย ทีนี้พอเรากินอาหารเข้าไป ในระดับปกติ ร่างกายจะเปลี่ยนอาหารตรงนั้นเป็นไขมัน เพื่อทดแทนตอนที่เราไม่ได้รับอาหารเพียงพอ ก็เลยกลายเป็นว่าเราทานปกติ ควรจะได้พลังงานเท่านี้ แต่มันกลับกลายเป็นได้พลังงงานถึง 2 เท่าน่ะคะ เราอธิบายงงมั้ยเนี่ย จากคุณ : เยี่ยมพร - [ 4 มี.ค. 49 17:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : paenggy - [ 4 มี.ค. 49 23:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปล่าวเลยค่ะ คุณๆขา จากประสบการณ์ตรง ดิฉันบรรยายได้ว่า ขณะที่เราทานยาลดความอ้วนนั้น สมองเราถูกควบคุมความอยากอาหาร ทำให้ไม่หิว แต่ร่างกายนั้นยังมีความต้องการสารอาหาร (บางคนปวดหัวหรือหงุดหงิดเมื่อหิวข้าว) เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ร่างกายก็บอกว่าไม่ไหวแล้ววู้ย  (ร่างกายอยู่ในสภาพอดอยาก) ทีนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม กินแบบบ้าคลั่ง ออกแวตะกละ เพราะร่างกายทนหิวมานาน จากการที่เมตาโบลิซึ่มผิดปกติอยู่แล้วเพราะระบบร่างการแปรปรวน กินเข้าไปซะขนาดนั้น มันก็เลยบวมไงจ๊ะ เชื่อเถอะ เราไม่โกหกพวกตัวเองหรอก จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 4 มี.ค. 49 23:13:27 ]