CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ด้ า น มื ด ข อ ง น ม วั ว : ค ว า ม น่ า ก ลั ว ที่ ม อ ง ไ ม่ เ ห็ น

    ด้ า น มื ด ข อ ง น ม วั ว  :  ค ว า ม น่ า ก ลั ว ที่ ม อ ง ไ ม่ เ ห็ น



               ปัจจุบันหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ มาเลเซียสิงคโปร์ รณรงค์ให้คนเลิกดื่มนมวัวอย่างจริงจัง  


    การวิจัยพบว่านมวัวทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน กระดูกผุ สมาธิสั้น เด็กปวดท้อง เด็กหูอักเสบ หอบหืด ฉี่รดที่นอน เลือดกำเดา ปวดหัว ไซนัสอักเสบ ฯลฯ

                  นมวัว ทำให้ร่างกายสูงใหญ่จริง แต่ไม่ได้เป็นเพราะ แคลเซียม

    สิ่งที่ทำให้ร่างกายสูงใหญ่คือ Growth Hormone ของสัตว์หรือฮอร์โมนที่เกิดจากการกระตุ้นการเจริญเติบโตของสัตว์          



    ลูกคนจะะมีน้ำหนักเพิ่ม 3 กิโลกรัมโดยเฉลี่ย ในเวลา 3 เดือนหลังคลอด  แต่ลูกวัวน้ำหนักจะเพิ่ม 30 กิโลกรัม ในเวลา (3เดือน) เท่ากัน  



    เพราะฉะนั้นสรีระโครงสร้างทั้งหมด และความต้องการอาหารนั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง  วัวเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักรวม 500 กิโลกรัมขึ้นไป ในขณะที่คนจะมีน้ำหนักประมาณ 50-60 กิโลกรัม  

               การให้เด็กดื่มนมวัว ก็คือการให้สารอาหารที่มีไว้กระตุ้นสัตว์ที่มีการเจริญเติบโตมากมายแก่เด็ก  ผลคือเด็กมีโครงสร้างที่ผิดปกติไปจากที่เด็กควรจะเป็น


    และโดยปกติแล้ว ลูกวัวรับประทานนมแค่ 1 ปี แต่ลูกคนรับประทานนมวัวต่อเนื่องเป็นสิบปี       ฉะนั้น Growth Hormone จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเด็กอย่างต่อเนื่องทำให้ร่างกายสูงใหญ่ผิดไปจากเผ่าพันธุ์เดิมของตน


    และในที่สุดโรคต่างๆที่กล่าวในย่อหน้าแรกๆ ก็จะเกิดขึ้น แต่อันตรายนี้เห็นได้ช้า ฉะนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่ตระหนักและคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี

               อันตรายจากนมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ออทิสติก หรือโรคสมาธิสั้น  เด็กจะไม่อยู่เฉย  เพราะถูกกระตุ้นให้ตื่นตัวเสมอจากสารกระตุ้นที่มีอยู่ในนมวัว เพราะลูกวัวนั้นโดยธรรมชาติแล้ว


    คลอดออกมามันจะต้องวิ่งได้ เพื่อที่จะวิ่งหนีศัตรู เช่น หมาป่า เสือ สิงโต     ฉะนั้นในนมวัวจึงมีสารที่จะทำให้ลูกวัวตื่นตัวตลอดเวลา เด็กที่ดื่มนมวัวจึงมีอาการตื่นตัว อยู่เฉยไม่ได้ เหมือนอยู่ในป่า                


    การถูกกระตุ้นเกินกว่าเหตุเป็นอันตรายต่อสมองและพัฒนาการของเด็ก  ประโยชน์ที่คนส่วนใหญ่คาดว่าจะได้จากนมวัว คือโปรตีนและแคลเซียม ความจริงที่ควรทราบก็คือโปรตีนจากสัตว์เป็นอันตรายต่อร่างกายมาก


    และแคลเซียมในนมก็ไม่ได้มีมากอย่างที่หลายคนเชื่อ นมวัว 3 แก้ว ให้ปริมาณแคลเซียมเท่ากับหัวปลาทูเพียง 1 หัวเท่านั้น


               นมวัวมีไว้ให้วัวกิน นมคนมีไว้ให้คนกิน คนเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่กินนมข้ามสายพันธุ์ และกินอย่างต่อเนื่อง จึงก่อให้เกิดโรคต่างๆมากมาย


    ปัจจุบันพบว่าสาเหตุของโรคภูมิแพ้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่คือนมวัว สาเหตุของโรคกระดูกผุ เวียนศีรษะในผู้สูงอายุ คือนมวัว แพทย์พบว่าคนไข้ที่มีอาการดังกล่าว


    ถ้ามีประวัติดื่มนมอย่างต่อเนื่อง หลังจากให้หยุดดื่มนมแล้ว อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

               สำหรับผู้หญิงนั้น นมถั่วเหลือง เหมาะที่สุด เพราะในนมถั่วเหลืองนอกจากจะได้โปรตีนจากพืชซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกต้องแล้ว ในนมถั่วเหลืองก็มีแคลเซียม


    และที่สำคัญมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ผู้หญิงมีผิวพรรณดี โดยเฉพาะผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน


    ซึ่งปริมาณเอสโตรเจนในร่างกายจะลดลงนั้น การดื่มนมถั่วเหลืองจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้โอกาสที่จะเกิดอาการผิดปกติต่างๆ


    ในวัยใกล้หมดประจำเดือนลดน้อยลง ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการดื่มนมถั่วเหลืองคือวันละหนึ่งแก้ว และหากจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรดื่มในเวลาที่ท้องว่าง

    คือก่อนหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง เพราะในนมถั่วเหลือจะมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่แข็งแรงมาก ฉะนั้นถ้ากินพร้อมมื้ออาหาร จะทำให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารในมื้อนั้นๆตกลง อย่างไรก็ตามนมถั่วเหลืองอาจไม่เหมาะที่จะให้ผู้ชายดื่มทุก ๆ วัน


    เนื่องจะเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงให้กับผู้ชายในปริมาณมากเกินไป

    จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายทำให้ผลิต สเปิร์มน้อยลงและมีลูกยาก

         

              (บทความส่งมาจาก จากปราโมทย์   โสภา   http://www.geocities.com/pramotesopa)


    ข้อความนี้จริงอ่ะป่าว  วอนผู้รู้ช่วยแจ้งแถลงไขด้วยเจ้า

    จากคุณ : bubblebaba - [ 5 มี.ค. 49 10:01:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป