ภูมิใจค่ะ ....แว๊กก ไม่ใช่ค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เข้าห้อง War Room ไปแสดงความคิดเห็นแบบของเรานี่แหละค่ะ
ที่ดิบ ๆ เถื่อน ๆ ไม่ค่อยกลั่นกรองจากสมองเท่าไหร่ (ก็มันไม่มีอ่ะ)
คิดมากทำไมคุยในห้องนั้นต้องแข็งแกร่ง แล้วก็เกิดมีการประทะคารมกันขึ้น
แต่เราคิดว่าเค้าต้องแอบชอบเราค่ะ เพราะโดยปกติแล้วเป็นคนหน้าตาดี (อ้วกกก ขากตุ๊ย)
ล้อเล่นจ้ะ ^ ^ แต่ว่าด้วยคุณธรรมและจริยธรรมอันเปี่ยมล้น ทำให้คนหันมาเข้าข้างเราเพียบค่ะ
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะว่าคนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ หรือว่า นรกไม่เอาก็ไม่รู้
ทำให้ผู้ที่มาแสดงความคิดเห็นท่านอื่น ๆ เห็นใจสาวน้อยน่ารักผู้พิทักษ์ความรักและความยุติธรรม
คนนี้กันอย่างท่วมท้น โอ้ววว...ไม่ต้องบอกนะคะ ว่าคนที่มาต่อกรกะคนดีและน่ารักนั้น
ผลจะลงเอยเป็นอย่างไร โฮ๊ะ ๆๆๆ (มือซ้ายป้องปาก มือขวาเท้าสะเอว)
ใช่แล้วค่ะ โดนอ่วมค่ะ อิอิ สะใจสมน้ำหน้า เล่นกะคนสวย มันก็ต้องโดนหนักแบบนี้แหละ
ก๊ากกก... แต่หลัง ๆ เห็นโดนหนักไปหน่อย อย่างว่าล่ะค่ะ สาวน้อยน่ารักผู้พิทักษ์ความรักและความยุติธรรม
จึงได้ส่งหลังไมค์ไปหาในทำนองว่าปลอบใจ คนดีก็งี้แหละค่ะ ข้อความประมาณว่า ปากจัดดีจัง
แบบว่าสงสารง่ะ โดนด่าเยอะ ไม่นานหนุ่มผู้โชคร้ายก็หลังไมค์กลับมา หลังจากนั้นก็แอด
MSN เราค่ะ อย่าค่ะ หนุ่ม ๆ ไม่ต้องมาขอแอดให้ยาก เราไม่บอกอีเมล์เราหรอก
ไม่มีทางบอกเป็นอันขาดว่า อีเมล์เราอยู่ในบล็อก ไม่มีทาง (ทำหน้าเชิด จมูกบานเอากำปั้นยัดได้)
หลังจากนั้นก็คุย MSN ค่ะ ถูกคอดี หนุกหนาน แต่เฉย ๆ ค่ะ บอกตามตรง
คนสวยมักมีหนุ่มแวะเวียนมาตอดอยู่เรื่อย ๆ เหมือนปลาตอดอี้ เลยอ่ะค่ะ เลยชิน
แต่ก็ทำให้อยากรู้จักมากขึ้นค่ะ คุยกัน 3-4 วัน หนุ่มก็นัดไปเที่ยวซะแร้น
บอกว่ารู้สึกหรือป่าว ว่าเราปิ๊งกัน ป้าดด ว่าไปนู่น ชวนเราไปเสม็ดค่ะ ไปค้างคืนด้วย
จะบ้าเหรอรู้จักกันแค่ 4 วัน ยังไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำ จะมาชวนไปเสม็ด
(ที่เค้าบอกว่าเสร็จทุกราย )แถมค้างคืนอีก (ปกติแค่ชั่วคราว แว๊กก) ใครจะไปฟระ
แต่เค้าก็ขอเบอร์ค่ะ อิดออดนิดหน่อย เพราะคุณแม่ขอร้อง เลยให้ไปค่ะ 34-24-35
ให้ปุ๊บโทรปั๊บค่ะ เค้าชมเสียงเราด้วยค่ะ ว่าเหมือนกะเทย ภูมิใจ๊ ภูมิใจ
(ไอ้บ้ากะเทยบ้านแกสิเสียงยังกะสโรชา Next station Na Na (s)
Please mind the gap between train and platform)
คืนนั้นเค้าก็โทรหาค่ะ คุยกันตั้งแต่เที่ยงคืนยันตี 3 และพยายามที่จะชักจูงเราให้ไปเสม็ดกะเค้าให้ได้ค่ะ
แต่ว่าวันรุ่งขึ้นเราต้องไปรับเช็คให้ที่ออฟฟิสตอนบ่าย 2 เราเลยปฏิเสธค่ะ มีข้ออ้างพอดี
ถึงไม่ไปรับเช็คก็ไม่คิดจะไปค่ะ ไม่ชอบเอาหน้าสวย ๆ ไปพบปะผู้คนซักเท่าไหร่
กลัวมีคนหลงรักค่ะ (เอ้าเชิญอ้วกตามสะดวก) แต่เค้าก็อ้อนอยู่นั่นจนรำคาญค่ะ
รำคาญจริง ๆ จึงตกปากรับคำไป แต่ใจไม่ได้คิดจะไปหรอกค่ะ ไปให้เค้าเห็นหน้าให้รู้ซึ้งถึงสัจธรรม
จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเราสวยขนาดไหน ไม่ควรมายุ่งกะคนสวย ๆ แบบนี้
ก็นัดกันประมาณบ่าย 2 นิด ค่ะ ตอนนั้นเราก็ไปทำธุระของเรา เค้าก็โทรมาค่ะ
ว่าคงไปไม่ได้แล้วล่ะเสม็ด เพราะติดงานด่วน ไปบางปูละกันนะ แต่ว่าเสร็จงานคงซัก 4 โมงเย็น
เราก็ไม่ได้ว่าไร เพราะเราไม่ได้อยากไปและไม่คิดจะไปตั้งแต่ต้น ก็โอเค ๆ งั้นเดี๋ยวเราดูหนังรอละกัน
ซึ่งปกติเราก็แรด ๆๆ ไปเรื่อย ๆ ของเราแบบนี้ทุกเสาร์-อาทิตย์อยู่แล้ว ไม่ได้ Worry about that
ซักกะนิด เค้าบอกว่าไม่ได้ ๆ จะหาเรื่องปิดมือถือหนีเค้าเหรอ โอ้ยยย อีนี่ ชั้นน่ะนะ มาเป็นตัว ๆ
ยังไม่กลัวเลย แค่เสียงชั้นไม่หนีหรอก (นึกในใจน่ะ ) เราบอกว่า ตั้งสั่นไว้ก็ได้นิ
เค้าก็ว่าเดี๋ยวเค้าไปก่อนหนังจบไรงี้ เดี๋ยวเจอกันช้า อ้าว บงการชีวิตตูอีก แต่เรานิสัยง่าย ๆ ยอมคน
ก็เลย อือ ๆ ก็ได้ เดี๋ยวเดินซื้อของก่อนละกัน ก็ตกลงกันตามนั้น
พอมาห้างที่นัด ก็บอกว่าหาที่จอดรถไม่ได้ให้ออกมาเลย จอดรถที่หน้าห้าง เอ้อ ตานี่
แทนที่จะไปปูพรมแดงรอรับคนสวยขึ้นรถ ก็ดันมาทำแบบนี้ เอ๊าะ ไม่เป็นไรมันไม่มีที่จอดรถนี่
ก็ไปขึ้นรถเจอหน้า แกล้งเขินนิดหน่อยพอเป็นพีธี (แบบตาย ๆ ที่ตูยกหางตัวเองว่าตูสวยและน่ารัก
มันรู้ฟามจริงแล้ว) ก็นั่งรถไป เค้าบอกว่า หิว ๆๆ คงไปไม่ถึงบางปูแล้ว หาไรกินกันใกล้ ๆ นี่ ดีกว่า
เออ อีนี่ เดทสาว(สวยด้วย)แรก ๆ เอ็งเปลี่ยนมากี่รอบแล้ววะ แต่ก็เออ ๆๆๆ ไปก็ไป
สรุปได้ไปกินข้าวคุยกัน ก็คุยกันหนุกหนานดี ไม่เป๊กเราเลย หน้าตา การพูดการจา
กิริยาท่าทาง สูบบุหรี่อีกต่างหาก อี๋ ๆๆ รังเกียจ เค้าก็คงไม่เป๊กเราเหมือนกัน คงคิดว่าสวยเกินไป
เค้าคงไม่คู่ควร ก๊ากกกกกกกกกกก
ทานข้าวกันเสร็จแล้วเค้าบอกว่าจะส่งเราขึ้นรถไฟฟ้า เพราะเค้ามีธุระกะเพื่อนต่อ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด แก๊ หล่อกว่าแกยังขอไปส่งชั้นที่บ้าน ทำไมแบบแกเนี่ยถึงกล้าทำกะชั้นแบบนี้
อย่างน้อยก็แกล้งบอกว่าเดี๋ยวไปส่งก็ได้ เพราะไงชั้นก็ไม่ไปอยู่แล้ว แทบเต้นแร้งเต้นกา
(แต่คิดในใจเท่านั้น) เฟิร์ส อิมเพรสชั่นที่เค้าพูดกันเนี่ย ไม่เจอในตัวเลย ในขณะที่เรา เชิดเริ่ด ๆ ยิ้ม ๆ
หน้าตาน่ารัก บ๊องแบ๊ว กริยา วาจา งาม เอนี่เวย์ค่ะ ก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน
และรู้สึกเสียดายเวลาเป็นอย่างมาก ไม่น่าแรดเลยตรู
คืนนั้นประมาณ เที่ยงคืนหรือตีหนึ่งไม่แน่ใจค่ะ โทรมาค่ะท่านผู้อ่าน บอกว่าเมาขับรถต่อไม่ไหว
ขอนอนด้วย เราก็ตกใจสิ เฮ้ย!! จะบ้าเรอะ ชั้นเป็นสาวเป็นนาง เค้าก็หาว่าเราใจร้ายเค้าจะนอนไหน
อ้าวว บ้านเพื่อนเอ็งเดะ เค้าบอกว่าเพื่อนเค้ามีลูกมีเมีย ไปนอนได้ไง ไอ้บ้า แล้วตูไม่มีลูกไม่มีปั๋ว
ยิ่งนอนไม่ได้ใหญ่ แสดดดดดดดด เค้าก็บอกว่านะนะ นอนเฉย ๆ ไม่ทำไรหรอก
(กรี๊ดด แบบนี้มันดูถูกกันชัด ๆ จ๊าก ไม่ใช่ ๆ ) ขอซอกเพียงเล็ก ๆ ที่จะพอซุกนอน ขับรถไม่ไหว
เราก็บอกว่าเฮ้ย นอนบ้านเพื่อนเดะ นอนโซฟาก็ได้นี่หว่า เค้าบอกได้ไง ๆ (นี่ตูยังทนคุยอยู่ทำไมเนี่ย)
ไม่ได้หรอก ใจร้าย ๆ ผู้หญิงคนนี้ใจร้าย ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดีแต่ใจร้าย (ว้ายให้อภัยนิดนึงตรงประโยคนี้)
แค่นี้นะ เออ วางไปได้ซะที
คงนึกอะไรได้ โทรมาอีกค่ะ บอกว่า ตัวเองเค้าขอโทษนะ เค้าไม่ได้ตั้งใจ เค้าจอดนอนข้างทางก็ได้
เราก็บอกเออ น่าจะทำแบบนั้นตั้งนาน มาพิรี้พิไรไรอีก (กรูจะนอน) เค้าบอกป่าวพิรี้พิไร
หลังจากนั้นเค้าพูดอะไรเราไม่รู้แล้วเพราะกดทิ้งไปแล้ว เชอะ อย่ามาทำให้คนสวยโกรธ จะเจอดี
ที่มานึกก็คือ เอ๊ะ ทำไมเราคิดมากไปหรือป่าว เค้าอาจจะเมาจริง ๆ แล้วขับรถไม่ไหว
แล้วเพื่อนเค้าที่บอกว่ามีลูกมีเมียอ่ะอยู่กันเป็นอพาร์ทเม้นท์ห้องเดียว นอนรวมกันทั้งลูกทั้งเมีย
แล้วถ้าเค้าไปค้างด้วยมันน่าเกลียด หรือ ตังค์เค้าเที่ยวหมดแล้วไม่มีเหลือเช่าโรงแรม บลา ๆๆ
นี่เราใจร้ายป่าวคะ งงค่ะ เราคิดถูกแล้วใช่ไหมคะ ที่ไม่ให้เค้ามาค้างอ้างแรมด้วย
คือไม่อยากเข้าตำรา คนสวยใจดำน่ะค่ะ ขอความเห็นหน่อย ขอบพระคุณค่ะ
จากคุณ :
i-am-oui
- [
วันจักรี 12:53:33
]