CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ++ KAEW ไดอารี่ ++ ใจ ล้มลุกคลุกคลานวันสงกรานต์

    สวัสดีค่ะ

    ห่างหายไปนานอีกเช่นเคย   ช่วงนี้อากาศร้อนอ่ะคะ  เราเป็นคนที่ไม่ถูกกับความร้อน เพราะร้อนแล้วผื่นขึ้น  คัน เหนื่อย เพลีย หงุดหงิดด้วย

    ประกอบกับ  มีอาการ "ใจแกว่งๆ" เพราะมีเรื่องมากระทบเยอะ ก็เลยดูซึมๆไป  ลองเอาตัวเองออกมาจากเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น  แล้วมองย้อนกลับไป  ก็ขำๆนะคะ เพราะปรากฎว่า ที่รู้สึกทุกข์  รู้สึกแย่ๆ นี่มันเป็นเพราะ "ใจ"เราปรุงแต่งอย่างเดียวเลยนะ

    เริ่มจาก  ทุกข์ เพราะ หมาน้อยที่เลี้ยงมา 3 เดือน โดนเรียกค่าไถ่   เหตุเกิดเพราะมี ยามแถวๆบ้าน เอาลูกหมามาฝากเลี้ยง   ที่บ้านก็เลี้ยงให้อย่างดี พาไปหาหมอ กินด้วยกัน นอนด้วยกัน  เจ้าของก็ไม่เคยมาสนใจดู จนคิดไปเองว่า เค้าคงไม่เอาคืนแล้ว

    แต่อยู่ดีๆ ก่อนสงกรานต์เล็กน้อย เค้ามาเอาหมาคืน บอกว่า ขอเอาไปให้ลูกที่มาจากต่างจังหวัดเล่นสัก 2 อาทิตย์ พอเอาไปวันแรกๆ ที่บ้านซึมกันหมดเลย คิดถึงเจ้าปุ๊กปิ๊ก หมาๆที่เหลือก็ซึมไม่กินข้าว   ก็เลยให้แม่บ้านโทรไปบอกว่า ขอซื้อต่อ  เค้าก็เล่นตัวนะ  จริงๆรู้มาว่าเค้าซื้อลูกหมามา 500 เองมั้ง  แต่เค้าจะเอาตั้ง 1500 ก็ยอมนะ  สงสารหมา ต้องไปอยู่ลำบาก  แต่เค้าก็ไม่เอามาให้สักที    แล้วก็โทรมาบอกว่า จะเอา 2000 บาท.....  เสียความรู้สึกมากอ่ะ  เงิน 2 พันอ่ะมี แต่ไม่ยอมนิสัยแย่ๆอย่างนี้  ก็เลยปฎิเสธไป

    ที่บ้านแก้ปัญหาด้วยการไปซื้อลูกหมาตัวใหม่มา  ชื่อน้อง "กั๊ตจัง"  พันธุ๋ปอมเมอเรเนี่ยน ก็นับเป็นหมาตัวที่ 6 ของบ้าน

    ต่อจากเรื่องหมา  ก็เป็นเรื่อง "แมว"  แมวที่เลี้ยงไว้บนหลังคา  พลาดท่าเดินตกกำแพง หล่นไปบ้านข้างๆ แล้วโดนหมาบ้านข้างๆ รุมฉีก จนตายอ่ะ  เศร้ามากเลย

    ลองดูๆๆใจตัวเองแล้ว  ที่เศร้า เรื่อง หมาๆแมวๆ  นี่ก็เพราะ ยึดติดเกินไป ยึดมาเป็นของเรา เมื่อหายไป  ตายไปก็ต้องเศร้า  ถ้าปล่อยวางซะ มันก็ไม่ทุกข์

    หมดเรื่อง หมาๆแมวๆ ก็เข้าสู่ช่วงสงกรานต์   บังเอิญเป็นคนกรุงเทพ เลยไม่มีบ้านต่างจังหวัดให้กลับ ในขณะที่เพื่อนๆในเว็บแก้ว ส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด เลยกลับบ้านกันเกือบหมด  เข้าเว็บไปที  เงียบเหงาอ้างว้างมาก  "ใจ" ก็เลยปรุงแต่งความเศร้า ความเหงา โดดเดี่ยวเดียวดาย มาให้น้ำตาซึมเล่นๆ

    แต่ถ้าดึงตัวเองออกมาแล้วมองดู ก็จะรู้ว่า งี่เง่า  เอ็งจะเศร้าทำไม ในเมื่อโดยปกติก็อยู่คนเดียวอยู่แล้ว  และ เพื่อนๆเค้าก็กลับบ้านไปหาพ่อแม่ ไม่ได้ไปตายซะหน่อย  อีกเดี๋ยวเค้าก็กลับมา  พอทำใจได้  ทักทายกับนังน้องเหงาที่มาเยี่ยมเยียนได้แล้ว  ใจก็ดีขึ้น ออกไปขับรถเล่นคนเดียว  ถนนว่าง สบายดี  ไปเดินช๊อปปิ้ง คนก็ไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งอะไรกับใคร

    ใจกำลังเข้มแข็งสนุกสนานดี ก็เกิดการหกคะเมนตีลังกา กลับไปจ๋อยอีกครั้ง  ด้วยเหตุที่มีเบอร์นิรนามโทรเข้ามือถือ  ตอนแรกก็นึกว่า ใครโทรมาปรึกษาเรื่องเอดส์  แต่พอกดรับ  ดันกลายเป็นเพื่อนที่เรียนปริญญาโท ด้วยกัน  

    ไม่น่าพลาดเลย คือ ปกติถ้าเพื่อนเก่าโทรมา เรามักไม่ค่อยรับสายอ่ะ  ทีนี้เพื่อนเปลี่ยนเบอร์ มันเลยไม่โชว์ชื่อ  เข้าสูตรเดิม เพื่อนต้องถามว่า แต่งงานรึยัง  แฟนสบายดีรึเปล่า  ทำงานที่ไหน   จะตอบไปว่า แฟนเราไปเกิดใหม่หลายปีแล้ว  ก็จะดูไม่งาม ก็ต้องตอบไปว่า  เลิกกันแล้วหล่ะ

    เรื่องงานอีก จะตอบว่างัยเนี่ย ว่าไม่ได้ทำอะไรที่ได้เงินหรอก  ทำเว็บโรคเอดส์ ทำบ้านเด็กกำพร้าที่ติดเอดส์ ก็จะยังงัยๆๆอยู่  แต่ก็ไม่อยากโกหกมาก ก็ตอบไปว่า เราทำงานมูลนิธิเกี่ยวกับเด็กๆอ่ะ  เพื่อนดูงงๆ เลยฉวยโอกาส รีบเปลี่ยนเรื่อง ถามกลับว่าแล้วตัวเองหล่ะ เป็นงัยบ้าง

    ได้ผล เพื่อนเล่าเรื่องตัวเองมาใหญ่เลย   เค้าเพิ่งเปลี่ยนงาน ถึงได้เปลี่ยนเบอร์โทรด้วย เพราะบริษัทให้เป็นเบอร์ประจำตำแหน่ง เค้าเป็นผู้บริหารแล้ว เปลี่ยนรถใหม่ ซื้อบ้านหลังใหญ่ เงินเดือน 4-5 หมื่น

    ก็บอกยินดีด้วย กับเพื่อน แล้วรีบขอตัวไปธุระ   วางสายแล้ว  จิตตกไปเยอะ  ถามใจตัวเองว่า อิจฉาเพื่อนเหรอ   ........................ ก็ไม่นะ  ไม่ได้อิจฉา  แต่น้อยใจตัวเอง  ทำไมเราต้องเป็นเอดส์  ทำไมชีวิตเราต้องเปลี่ยนแปลงขนาดนี้

    คือ อารมณ์นี้ มันจะมาเป็นพักๆๆอ่ะ  มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป ปกติเราก็ทำใจได้ที่เป็นเอดส์  ทำใจได้กับชีวิตที่ทำงานอาสาสมัคร รับค่าขนมจากที่บ้าน  แต่เวลามีเพื่อนโทรมาแบบนี้ มันก็อดน้อยใจไม่ได้อ่ะนะ

    โชคดีที่  ขณะที่กำลังจ๋อยๆ เพื่อนๆในเว็บเริ่มกลับจากบ้านนอกแล้ว  เพื่อนมากินข้าวที่บ้าน  ก็เลยลืมเรื่องน้อยใจ  สนุกสนานเฮฮาได้ตามปกติ

    ตอนนี้สภาวะจิตใจปกติดีแล้ว  ลุยงานต่อได้ แต่ก็หันมาเครียดๆกับงานในเว็บแทน  เพราะเริ่มโครงการ "เพื่อนช่วยเพื่อน  ...........อบรมน้องเอช มือใหม่"  คือเป็นโครงการที่ให้เพื่อนที่ติดเชื้อ ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน  เพราะตอนนี้ รู้สึกว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆๆเพิ่มขึ้นมากเลยนะ แถม อายุน้อยลงเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้กลุ่มที่มักจะเข้ามาปรึกษาที่เป็นผู้ติดเชื้อในวันเรียนทั้งนั้นเลย

    โครงการนี้ยังไม่สำเร็จดีนักแต่ก็กำลังทำอยู่ ขั้นแรก ทดลองให้เบอร์เพื่อให้โทรมาพูดคุย  ปรากฎว่า เหนื่อยแทบตาย เพราะเรารับสายอยู่คนเดียว แต่คนโทรมาทั้งวัน  และ หลายคนก็พูดไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมเปิดใจรับฟัง   เราบอกว่าเป็นเอดส์อ่ะ ตายแน่ๆ เพียงแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ดูแลตัวเองดีๆ ก็อยู่ได้อีกนาน  ก็ไม่เชื่อ ถามอยู่นั้นแล้ว จะอยู่อีกกี่ปี จะต้องตายแล้วใช่มั้ย

    เราก็พยายามช่วยเท่าที่จะทำได้อ่ะนะ  แต่บางทีเหนื่อยจัด ก็ปิดมือถือหนีบ้างอ่ะ  ไม่ไหว มันเครียด    เครียดกับความเสื่อมโทรมของสังคมด้วย เพราะจากที่คุยๆนี่ แต่ละคน เปลี่ยนคู่กันมาเยอะ มี SEX ตั้งแต่อายุน้อยๆ มี SEX กันง่ายๆ  เราว่า สังคมมันแย่ลงเยอะนะ

    ช่วงนี้ ก็เลยเครียดเพราะงานเยอะแทน  นี่ก็จะครบกำหนด พักร้อน จากงานที่บ้านแกร์ด้าแล้วด้วย คือ เดือนเมษา เราบอกน้องที่นั่นว่า เราไม่เข้าไปนะ เพราะมันร้อนมาก  นี่ก็จะสิ้นเดือน  น้องรี ที่บ้านแกร์ด้าเริ่มคิดถึง โทรหาเราแล้ว   ปัญหาของที่นั่นคือ  อากาศร้อน น้ำมันแพง ไม่มีใครเข้าไปทำบุญ บริจาคของเลย   ของขาดแคลนเยอะ ในขณะที่เด็กๆโตขึ้น ค่าใช้จ่ายมากขึ้น แล้วก็มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่น

    นอกจากนี้ ก็มีปัญหาผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัส  ทำให้เด็กๆไขมันย้ายที่เพิ่มขึ้น ต้องเปลี่ยนยากันอีกแล้ว   เราว่าจะเข้าไปบ้านแกร์ด้า ตอนสิ้นเดือนอ่ะคะ แล้วก็เริ่มเปิดโครงการกิจกรรมอีกรอบ  หลังจากพักมาเดือนกว่าๆ (พัก แบบเหมือนไม่ได้พัก เลยแฮะ)

    อ้อ มีข่าวดีมาแจ้ง    เราได้งานทำอาทิตย์ละ 2 วันหล่ะ  ได้เงินเดือนเดือนละ 4,000 บาท  หาเงินเก็บไว้ซื้อยาต้านกิน เมื่อถึงเวลาที่เราอยากกินยาอ่ะจ้า

    จากคุณ : ++MooKaew++ - [ 24 เม.ย. 49 09:18:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป