PANTIP.COM : L4331249 ไปรักษามาแล้ว ริดสีดวง หายแล้วแต่ไม่ขาด [สุขภาพกาย]

ความคิดเห็นที่ 2

เดือนต่อมา

ต้องมานอนที่โรงพยาบาลก่อนวันผ่าตัด 1 คืน มาถึงไม่มีเตียง “แล้วที่จองไปล่ะ พิเศษอ่ะ” แต่เจ้าหน้าที่เค้าก็ตามให้นะ สุดท้ายได้เตียงธรรมดา พัดลม แล้วก็ไปฝ่ายสังคมฯ ไปนั่งให้เค้ากรอกประวัติ แล้วกลับมาที่ห้อง 35 จะมีเจ้าหน้าที่พาไปที่ตึกคนไข ต่อเราต่อให้พยาบาล

ตึกที่ได้คือ จงกลนี พยาบาลจะจะมานั่งกรอกประวัติเราอีกที นั่งตอบอย่างเดียว แล้วเค้าก็จะอธิบายขั้นตอนการเตรียมตัว การผ่าตัด หลังผ่า พูดครบหมด ไม่รู้จะถามอะไรอีกแล้วจบ แล้วเค้าก็ถามเรื่องอาหารด้วยนะ เราว่าอะไรก็ได้ เขาก็บอกว่า งั้นเอาอาหารอ่อนๆนะ เราก็ตกลง ถึงได้เข้าห้อง ดีใจมาก เตียงธรรมดาที่นี่มี 2 เตียง ห้องน้ำในตัว พัดลม นี่แหละที่ต้องการ ถึงเป็นพัดลมก็ช่างมัน นึกว่าห้องหนึ่ง 20 เตียง อยู่ไม่ไม่ได้แน่แบบนั้นเดี๋ยวมีคนแบบดูก้น แล้วก็ต้องเดินไปที่การเงินเพื่อฝากเงิน 4000 บาท แบบว่าเขาคงกลัวรักษาแล้วหนีมั้ง อิอิ

หลังจากเข้าห้อง เปลี่ยนชุด คุยกะคนข้างเตียง ข้าวเย็นมา ข้าวแข็ง ต้มจืดกะน้ำพริกพร้อมพักเคียง (เอ่อ..อาหารนี่อ่านตรงไหนค่ะ น้ำพริก กินไปแสบตูดตาย) เลยเดินไปเพิ่งอาหาร เซเว่น ไส้กรอก นม (เอ่อ..ซื้อนม ขนมปังเก็บไว้เลยนะค่ะ) กลับมาพี่ข้างเตียงว่าเมื่อกี่หมอมา และเดี๋ยวจะมาอีกรอบเพื่อดูเราแล้วบอกอีกว่า “มากันเพียบเลยเด็กทั้งนั้น” ซีดเลย พักเดียวหลังจากกินขนมหมด 7-8คน ญ 2 คน นักศึกษาแพศย์ มาถึงเดินมารอบปลายเตียงเรานั่งบนเตียงคุยเลย คนที่ถามเราคงเป็นคนที่เรียนเก่งที่สุดนำเพื่อนๆหมดเลยถามอะไรถามไปแล้วมันก็มา “นอนลงหน่อยครับ” เอาแล้ว ม่านรูดปิด น่ากลัวมาก ก็ต้องนอนทำแบบเดิม แต่คราวนี้มันสอดเข้าไป กรี๊ดๆ เย็นๆ “อย่าเกร็งครับ” โหรองมาดูสิจะเกร็งไหม จิ้นไม่ออกเลยตอนนั้น คว้านด้วนนะ ถามอีกนะ “เจ็บไหม” T___T แล้วมีการโต้เถียงกันเองด้วยนะ “มันต้องเป็นแบบนี้นะ อาจารย์หมอเขียนนี่ไม่ใช่ แซวอาจารย์ตัวเอง (หมายถึงหมอที่ตรวจเราครั้งแรก แหงแหละหมอนะไม่ได้เอานิ้วสอดไง เข้าเห็นเรามีติ่งเนื้อก็ให้ผ่าแล้ว ซึ่งยังไงก็ต้องผ่าเพราะมันใหญ่เกินยุบตัวลงเองประมาณเม็ดถั่วเหลือง 1 แล้วอีกเม็ดถัวเขียว) ขณะที่เขากำลังเถียงเพื่อสรุปอยู่นั้น มือคนที่เอานิ้วสอดนั้นก็เอามือวางไว้ที่สะโพกเราที่นอนอยู่ที่เดิม ก้นเปิดเย็นเจี๊ยบ ไม่ได้ตรวจอีกนะ ยืนถกกันไม่สนใจก้นนู๋เลย แล้วเขาก็สรุปได้ 2-3 นาทีถึงจะปิดก้น หลังจากพวกเขาไป พี่ข้างๆแซว หน้าแดง (แหงสิ ไม่ใช่เรื่องปกติเลย แล้วพวกนั้นอายุพอกะนู๋เลยรับรองห่างกันไม่เกิน 2 แน่) แบบว่าไม่อย่าเจอพวกนี้อีกเลย

ตกหัวค่ำ พยาบาลเข้ามาพร้อมขวดน้ำแปลกๆ “มา สวนก้นหน่อยค่ะ” นั้นหน่อยเหรอ ขวดเท่ากำมือผู้ชาย แล้วก็ได้แค่บ่นในใจแล้วก็ นอนท่าเดิม เพื่อให้เขาจัดการ ครั้งนี้ไม่เหมือนนิ้ว มันรู้ซสึกถึงน้ำเย็นๆเข้าไปอยู่ข้างใน ปริมาณเยอะ พอหมด เพียง 30 วิ ท้องร้องครืด คราก เลยได้ผลไวจัง

เที่ยงคืน เค้าให้อดอาหารและน้ำ เด็จขาด แบบว่าเข้ามาเก็บเหยือกน้ำไปเลย ใจดีด้วยให้1 กินแก้วก่อนยึด คืนนั้นพยาบาลก็เข้ามาตรวจไขวัดไขบ่อย แต่พี่ข้างๆเค้าผ่าตัดบ่ายโมง เลยต้องให้น้ำเกลือเพราะต้องอดอาหารเหมือนกัน (นี่แหละน้า นัดคิวแรกเข้าไว้)

จากคุณ : เอลานอร์ - [ วันแรงงาน 17:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3

วันผ่าตัด

พยาบาลเข้ามาวัดไข้ วัดความดัน แล้วไล่ไปอาบน้ำ ของมีค่าฝากพยาบาลไว้ เค้าจะให้ลงชื่อ แล้ว น.ศ.พ. คนหนึ่งจากกลุ่มเมื่อวานเข้ามาบอกว่า เรานะคนแรกนะ 7 โมงเช้าโดนพาออกไป นอนสบายไปได้ แค่ 2 ห้องโดนยาแก้ปวด 1 เข็มใหญ่ เจ็บมาก แล้วก็ไปนอนรอห้องผ่าตัด 7.30 ห้องผ่าตัดที่นี่ดีมีนาฬิกา พี่ผู้หญิงคนหนึ่งคุยดี แอนร์เย็นเปิดวิทยุให้ฟัง แปลกดี 8.00 หมอไม่มา แต่ น.ศ.พ. มาแล้ว 2 T__T ไม่เห็นหน้าเพราะปิดปากไปแล้วเห็นแต่ตา หมอไม่มา มาทีโน้น 9 โมง ขอบอกว่า หิวมากๆ หมอมา 9 โมง แล้วก็ลงมือ

ฉีดยาชาที่ก้น (หูรูด) เจ็บมาก เจ็บจนทนไม่ได้ สาเหตุ จากที่หมอคุยกับน.ศ.พ.คือ “คุณดึงเข็มเร็วไป” อันนี้เห็นด้วยอย่างมากตอนจิ้มนะรู้สึกแหละเจ็บแบบทนได้แต่อีกแปบเจ็บแบบทนไม่ได้ แทบจะเป็นลมพี่เค้าก็หาแอมโมเนียร์มาให้ หลังจากนั้นก็ไม่เจ็บอีก เราก็กระดิกนิ้วเท้าเป็นช่วงๆดูว่าขาชาไหม อิอิ ตอนนั้นก็เหมือนมีน้ำเย็นๆ มีเครื่องดูด ลมดูๆเย็นๆ แปบเดียวอาจารย์หมอก็เดินออกไป เหลือ 2 หน่อจัดการ อยากบอกว่าไม่ไว้ใจเลย เออ..ลืมบอกค่ะที่แสบนะ มีการคุยด้วยนะว่า “เคสนี้น่าสนใจนะ ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย” มันๆ - -* แต่พี่คนเดิมที่เปิดวิทยุจับมือเราตลอดตอนที่เราร้องเจ็บ เราก็บีบแน่นเลยเจ็บอ่ะ สุดท้านเขาเอาผ้าก๊อตผับแล้วยัดไปที่หูรูด นิดหนึ่ง แล้วแปบเดียวก็ถูกพาออกมาจากห้องผ่าตัด มารอหน้าห้องผ่าตัด เกือบจะ 10 เองไวจังน้า ตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บเลย พอกลับถึงห้องพัก ก็เดินไปขึ้นเตียงเองได้ แล้วพยาบาลก็เข้ามาดูแผล คราวนี้ไม่อายแล้วเพราะไปหลังจากเปิดนะ พยาบาล(ชุดฟ้า) แง้มดูหลังจากนั้นนะเจ็บมากๆ พยาบาลอีกคนที่ใจดี(ชุดขาว) เพิ่งมารู้ที่หลังว่าต้องพึ่งชุดขาวไว้ ถ้าเป็นงานเล็กๆน้อยๆเทฉี่ล้างห้องน้ำ ชุดฟ้าจัดการ แล้วช่วยชุดขาวนิดๆหน่อยๆ ชุดขาวที่ตึกนี้ใจดีหมดรับรองเขาก็ถามปวดมากไหม เขาเอายาแก้ปวดมาฉีด เราก็พยายามหลับนะ แต่มันเจ็บมาก พยาบาลก็เข้ามาถามเรื่อยๆ ให้ยาแก้ปวดกินเพิ่มด้วย ผ้าก๊อตที่ยัดไว้เค้าว่าเอาไปไม่ให้เลือดออก แล้วก็เอาออกเมื่อไรก็ได้ เราเนี่ยอยากเอาออกใจจะขาด พยาบาลไม่เอาออกให้ ข้าวเที่ยงมา รอนานๆ หิวๆ ตอนนั้นไม่ได้ซื้ออะไรเตรียมไว้ ข้าวที่ส่งมาทนกิน ต้องนอนกินเพราะลุกขึ้นมาหัวพ้นระดับน้ำทะเลเพียงเล็กน้อยท่านจะมึนหัว เวียนหัว อยากอ้วก แต่หิว และถ้าไม่กินจะแย่กว่านี้ ยังไงก็กินได้แค่ครึ่ง แล้วนอน ของยาพยาบาลกินอีก พยาบาลคราวนี้จะเข้ามาวัดไข้บ่อยมาก พร้อมถามเรื่องฉี่ยัง ตลอด

ตอนเย็น ยังเจ็บแผลมากๆ พร้อมได้รับคำขู่จากพยาบาลว่า ถ้ายังไม่ฉี่ต้องสอน แค่นั้นแหละพยายามนอนกินน้ำๆ ยังเวียนหัวอยู่ถ้าลุกขึ้น สุดท้าย ฉี่ออก ดีใจ แล้วก็คราวนี้ร้องขอให้พยาบาลดึงผ้าก๊อตออก คราวนี้ถึงให้ เชื่อไหมหลังจากดึงออกนะ ความเจ็บหายไป 70 % เลย พอเริ่มเดินหายเวียนหัวก็นั่งเดินได้สบายๆ เจ็บนิดหน่อย แบบว่าเด็กๆเลยถ้าเทียบกับก่อนหน้าที่ผ้าก๊อตยังอยู่ เดินอาบน้ำเองได้ แล้วก็มาสำรวจแผล แบบว่าเรียบไม่มีสิ่งแปลกปลอม อกจากไหม ดีใจๆกินข้าวเย็นแล้วหลับไปด้วยความเพลียที่ทนเจ็บตั้งนานเพราะผ้าก็อต ใหญ่เกินที่ดิฉันจะรับได้ถึงเจ็บทั้งวัน เจ็บนอนไม่ได้เลย หลังอาหาร เธอและเขาชุดเดิมมาอีกแล้วคราวนี้มาคุยอย่างเดียว ตอนนั้นถึงจะเปิดอีกก็ไม่อายแล้ว ด้านเลยชั้น วันนั้นก็จบลง แต่ก็ต้องมาทรมารอีกตอนกลางคืน หิวค่ะ อีกแล้ว เพราะตอนเย็นได้อาหารที่บอกว่าอ่อนแต่มันไม่อ่อนเผ็ด กินไม่ได้ เลยหิวๆ คืนนั้นอยู่ได้ด้วยลูกอมกะน้ำเลยนะนั้น แล้วก็ผ่านไปด้วยความราบรื่น

จากคุณ : เอลานอร์ - [ วันแรงงาน 17:17:23 ]